วิจารณ์หนัง อรหันซัมเมอร์

วิจารณ์หนัง อรหันซัมเมอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วิจารณ์หนัง อรหันต์ซัมเมอร์ อะแฮ่มๆ สวัสดีครับ ผมนาย Tendama หนังจากหยุดยาวหลายวันกับวันฝนตกพร่ำๆ ในช่วงนี้ ผมก็ได้มีวันนึงได้ลุกมาทำบุญในตอนเช้า โดยใส่บาตรให้เณร รูปนึงเลยทำให้นึกถึงหนังเรื่อง อรหันต์ซัมเมอร์ขึ้นมา หลังจากช่วงที่ผ่านมาหนังหลายๆเรื่อง พยายามใช้เด็กหลอกล่อในการแสดงจนทำให้คนดูหลงไหลคลั่งไคล้กับความน่ารักของเหล่าเด็กๆมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนังดรีมทีม หรือ ล่าสุดก็จะมี Nims Island ในช่วงนี้เหมือนว่าช่วงปิดเทอมรับซัมเมอร์แบบนี้แหละครับ ทำให้หนังเด็กที่หลายครอบครัว จะพาหนูๆน้องๆไปดูเพื่อความเพลิดเพลินกันไป แต่ยังไงยังมีหนังเรื่องนี้ อรหันต์ซัมเมอร์ที่ ใช้เด็กเล่นเช่นกันแต่ต่างกันตรงที่ใช้พระพุทธศาสนาเข้าสอดแทรกให้เกิดความจรรโลงใจ อิ่มหนำสำราญกับใต้ร่มเงาของพุทธศาสนา อรหันต์ซัมเมอร์ กำกับโดย ภวัต พนังศิริ โดยที่ผู้กำกับนั้นได้สร้างบรรยากาศให้ในหนังนั้นเป็นปี พ.ศ.2526 ในสมัยนั้นโดยการแต่งกาย ทิวทัศน์ ถือว่าทำออกมาได้สมส่วนกันดี แต่จะสมจริงเหมือนสมัยนั้นหรือป่าว อันนี้ผมก็มิทราบได้เช่นกัน เพราะตัวผมเองในปีนั้น ก็ยังไม่ได้แง้มตาดูแสงสว่างบนโลกเลย แอบเม้าท์ตัวเองกันไป แต่พอดูแล้วนั้นก็นึกย้อนไปถึงช่วงเวลาแบบอดีตนั้นได้พอดูเลย อรหันต์ซัมเมอร์ ได้นักแสดงหน้าใหม่อย่าง ตูน AF3 กับ แอม ฉายนันท์ หรือเราอาจจะรู้จักกันในนางเอก Me My Self ที่ได้เข้าชิงรางวัลของ ชมรมณ์คนวิจารณ์บันเทิงอีกด้วย ได้นางเอกที่แสดงได้เยี่ยมส่วนตัวแล้วผมชอบ แอม ฉายนันท์แสดงนะครับ เพราะจากรับบหนักจากหนังเรื่องที่แล้วมาบทนี้ สบายๆเบาๆ แต่เธอ็ทำได้น่ารัก ดูแล้วอดยิ้มทุกทีไม่ได้เลย แค่นั้นยังไม่พอยังได้ เหล่าเด็กๆที่ ทั้งแสบ ทั้งกวน ทั้ง เรียบร้อย ต้องยอมรับว่าคัดหานักแสดงมาได้ดีจริงๆ เพราะถ้าใครดูตอนจบแล้ว เณรข้าวปั้นตอนเด็กนั้นกับตอนโตเป็นพระแล้ว หน้านักแสดงเหมือนถอดมาเป๊ะ รายละเอียดตรงนี้ผมว่าการคัดสรรค์ให้เด็กกับคนเวลาโตนั้นเป็นการหาได้ยากเหมือนกันแต่ผู้กำกับ ภวัต พนังศิริ นั้นก็แสดงถึงการตั้งใจในการเฟ้นหานักแสดงทำได้ไม่เลวจริงๆ เท่านั้นยังไม่พอยังได้เ นรมิตฉากสร้างให้เป็นหนังจีนกำลังภายในและใช้ทีมพากษ์เสียงจาก พันธมิตร ซึ่งเป็นเหล่านักพากษ์เสียงที่สุดยอดของคนไทยในตอนนี้เลยกว่าได้ที่พากษ์ได้ฮากระจุย จุดเปลี่ยนของความฮาหนังเรื่องนี้ผมว่าการใช้เทคนิคการพากษ์ เป็นการเรียกเสียงหัวเราได้ไม่มากก็น้อยของคนที่เป็นแฟนๆของพันธมิตรเขาล่ะ อรหันต์ซัมเมอร์ นั้นการเดินบท ผมว่าทุกอย่างกำลังดีจนหมดจดอยู่แล้วแต่ต้องมาสะอึก กับความเป็นคอมแมนดี้ของคนไทยทุกครั้ง คือการใส่บท ผีบ้านป่ากลางโรงนาเกลือ มายังกับเพลง หนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือ อะไรอย่างนั้นกันเชียว การหักมุข ตรงนี้กับการที่หนัง คือ อรหันต์ซัมเมอร์ พระพุทธองค์สอนไม่ให้งมงาย กับ รูปลักษณ์ กลิ่น เสียง แต่ ผู้กำกับใส่บทผีเข้าไปทำให้รู้สึกตะขัดตะขวงว่า การเป็นพระเป็นเณร ต้องเจอสิ่งแบบนี้ทุกครั้งเลยหรือเปล่า แต่ถ้าตัดบทผีแต่ตำรวจมาจับผู้ร้ายตอนจบ แล้วได้เณรช่วยสอนพระธรรมตรงนั้น ไปผมว่าจะโอเคอย่างมาก ซึ่งคนที่เล่นเป็นคนร้ายก็ทำให้หัวเราะได้อยู่แล้ว ไม่ต้องใช้บทผีก็ได้ ( ผมไม่ได้ไม่เชื่อว่าผีมีจริงไหมแต่ผมไม่หลบหลู่ดี่า เสียวสันหลังแว๊บ..!! ) สรุป หนังอรหันต์ซัมเมอร์ นั้นครั้นที่ออกมาจะมีคู่แข่งของหนังเด็กหลายเรื่องกันอยู่ แต่เรื่องนี้ก็สร้างความขำขันได้เหมือนกันแถมมีการแทรกหลักธรรมการดำเนินชีวิตของชาวพุทธที่ดูแล้วอิ่มใจ การใส่ใจความรักของครอบครัว และที่สำคัญเราสังเกตได้ว่าวัดคือศูนย์กลางของชุมชนนั้นๆในสมัยก่อนซึ่งสมัยนี้คนหลายคนอาจจะเข้าวัดน้อยลงมากจากสมัยก่อนอย่างมากหันเข้า พารากอนวารราม ซะมากกว่าเสียอีก ดูหนังเอาความเพลิดเพลินก็จริงแต่เพลิดเพลินแล้วได้แง่คิดได้วัฒนธรรมแบบหนังอรหันต์ซัมเมอร์ที่แสดงให้เห็นวิถีชีวิตคนไทยในอดีต ใครว่าผมโบราณแมนก็ไม่สนแต่ผมว่า หนังไทยใช้ความเป็นไทยเสนอ ออกไปยังไง ก็ยังนึกถึงคำว่า เราเป็นคนไทยรักขนบธรรมเนียมไทย 3 ดาวกับหนังสบายๆแบบ อรหันต์ซัมเมอร์ หนังฟอร์มไม่เวอร์แต่ได้ใจ " บทวิจารณ์ภาพยนตร์เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล กรุณาตัดสินจากการชมภาพยนตร์ด้วยตัวเอง " วิจารณ์ภาพยนตร์ โดย Tendama

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง อรหันซัมเมอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook