บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ เรื่อง Ratatouille

บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ เรื่อง Ratatouille

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากทีมงานพรสวรรค์ของพิกซาร์ อนิเมชัน สตูดิโอ สดๆ ร้อนๆ หลังจากความสำเร็จของ Cars เมื่อปีที่แล้ว คือ Ratatouille เรื่องราวเหลือเชื่อของหนูชื่อเรมี่ ผู้ใฝ่ฝันอยากจะเป็นเชฟมือหนึ่งในภัตตาคารระดับห้าดาวของปารีส แน่นอนว่าการเป็นหนูในธุรกิจร้านอาหารก็มีปัญหาของมันเองอยู่แล้ว แต่เรมี่ก็จะไม่ยอมให้อคติและการปราบปรามหนูและแมลงรบกวนมาขวางกั้นความมุ่งมั่นของเขา และเมื่อเขาได้ผูกมิตรกับผู้ช่วยพ่อครัวผู้ต่ำต้อยที่ชื่อแลงกวินี เขาก็ได้พลิกโลกแห่งการทำอาหารจากหน้ามือเป็นหลังมือในชั่วพริบตา เรื่องราวหนูพ้นน้ำ Ratatouille ที่สุดแสนฮาและสร้างสรรค์เรื่องนี้กำกับโดยแบรด เบิร์ด ผู้เคยเขียนและกำกับภาพยนตร์ฮิตอีกเรื่องหนึ่งของพิกซาร์ การผจญภัยของเหล่าซูเปอร์ฮีโรในนาม The Incredibles เบิร์ดเริ่มต้นทำงานในภาพยนตร์อนิเมชันเรื่องแรกของเขาตั้งแต่ตอนเขาอายุ 11 ปีและผลงานเรื่องอื่นๆ ของเขายังรวมถึง The Iron Giant ที่ได้รับรางวัลด้วย ในการให้สัมภาษณ์ที่พิกซาร์ สตูดิโอ ซึ่งอยู่นอกเมืองซานฟรานซิสโก เบิร์ดได้เล่าถึงสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากฮัน โซโลและวิธีของเขาทำให้หนูดูน่ารักน่าเอ็นดู Q: ทีมงาน Finding Nemo ต้องไปสคูบา ไดวิ่ง อนิเมเตอร์ใน Cars ต้องไปสนามแข่ง แล้วคุณต้องไปค้นคว้าสำหรับ Ratatouille ในท่อระบายน้ำรึเปล่า A: ผมอยากจะบอกคุณว่าผมไปเตร่อยู่ในท่อระบายน้ำมาเป็นสัปดาห์ๆ ก็จริง (หัวเราะ) แต่ความจริงก็คือผมอาศัยสารคดีบางชิ้น โดยเฉพาะสารคดีตลกๆ เรื่องหนึ่งที่เพื่อนผมชื่อมาร์ค ลูอิสทำขึ้นมา ในสตูดิโอเรานี่ก็มีหนูด้วย เราไม่มีหนูบ้านเพราะพวกมันน่าขนลุกและดูเหมือนมันจะสามารถลากคุณออกไปซ้อมด้านนอกได้ แต่เรามีหนูทดลองที่น่ารัก ขนฟู และเราก็เฝ้าสังเกตมันอยู่บ่อยๆ ผมชอบวิธีที่มันสูดกลิ่นดมทุกอย่างรอบตัวมันและรับรู้ถึงสิ่งแวดล้อมผ่านทางจมูกของมัน มันก็เลยเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล อย่างน้อยที่สุดก็ไม่พ้นจินตนาการเกินไปนักที่จะคิดว่า สัตว์ที่สัมผัสถึงโลกผ่านทางจมูกจะอยากเป็นเชฟน่ะครับ Q: ตอนสร้างหนูเนี่ย คุณทำงานแบบเดียวกับตอนที่สร้างซูเปอร์ฮีโรรึเปล่า A: ซูเปอร์ฮีโรที่ซ่อนตัวเองหรือหนูที่อยากทำอาหาร คุณก็แค่เล่นบทบาทสมมติเท่านั้นเองครับ การทำหนังก็เป็นเพียงการเป็นเด็กเล็กๆ แล้วจินตนาการทุกอย่างตามที่คุณต้องการเวอร์ชันไฮเทคเท่านั้นเองครับ ไม่ว่ามันจะวิเศษแค่ไหนก็ตาม มีคนผิวสีคนหนึ่งมาหาผมหลังได้ดู The Incredibles เขาถามผมว่า ใครเป็นคนเขียน โฟรโซน ผมก็บอกเขาว่า ผมเองและบอกด้วยว่าผมเป็นคนเขียนหนังทั้งเรื่อง แต่เขาก็ ก็ใช่ แต่ใครเป็นคนเขียนโฟรโซนล่ะครับ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะสามารถเขียนซูเปอร์ฮีโรผิวสีได้น่าเชื่อขนาดนี้ แต่ผมก็ไม่ใช่ผู้หญิงลูกครึ่งเยอรมัน/ญี่ปุ่นร่างเล็กเหมือนกันนี่ครับ (หัวเราะ) แล้วผมก็เป็นคนเขียนตัวละคร อี กูรูแฟชั่นใน The Incredibles ด้วย สิ่งที่คุณทำในตอนสร้างหนังคือการสมมติตัวเองแล้วนึกว่า เด็กสาวจะรู้สึกยังไงตอนนี้ เด็กหนุ่มจะรู้สึกยังไงตอนนี้ หรือหนูจะรู้สึกยังไงตอนนี้ อนิเมชันเป็นสื่อที่วิเศษสุดเพราะคุณจะคิดไอเดียแผลงๆ ได้มากเท่าที่คุณต้องการ และคุณก็สามารถถ่ายทอดมันขึ้นบนหน้าจอได้ทั้งหมดด้วย Q: เรมี่ ตัวเอกของuille เป็นหนู และแน่นอนว่าตามปกติแล้ว ไม่ค่อยมีคนนึกถึงหนูว่าเป็นสัตว์นุ่มนิ่มน่ากอดซักเท่าไหร่ จริงๆ แล้วคุณชอบหนูรึเปล่า A: อนิเมชันมีประวัติศาสตร์อันยาวนานของการสร้างความเห็นอกเห็นใจต่อสัตว์ทุกขนาด ทุกประเภทและในโลกแฟนตาซีของผม ผมก็ชอบหนูครับเพราะพวกมันแค่อยากจะเข้ากับพวกเรามนุษย์เท่านั้น ส่วนผมชอบหนูในโลกแห่งความเป็นจริงรึเปล่าน่ะเหรอ สัตว์ทุกตัวต่างก็มีหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้าทั้งนั้น และหนูก็เป็นสัตว์ที่ทนต่อสภาพแวดล้อมมากๆ ผมก็เลยคิดว่าพวกมันน่านับถือตรงนั้นครับ Q: ตอนคุณเริ่มต้นสร้างหนังเรื่องนี้ คุณกังวลบ้างมั้ยว่าผู้ชมจะรู้สึก อี๋! หนู! A: คนเรามีความรู้สึกขยะแขยงหนู ผมคิดว่า คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ด้วยการไม่ให้หนูแสดงพฤติกรรมแบบหนูหรอกนะครับ แต่เราน่าจะทำทั้งหลายทั้งปวงที่คนจดจำและรู้จักเกี่ยวกับหนู แล้วทำให้ผู้ชมมองผ่านเรื่องพวกนั้นไป มีอยู่ช่วงหนึ่งตอนเริ่มเรื่องที่เราจะได้เห็นเรมี่ถือหนังสือทำอาหารอยู่ในมือ แล้วมันก็จะมีฟรีซเฟรม ซึ่งเขาจะบอกว่า เขาเสียใจนิดหน่อยกับการเป็นหนู มันก็เหมือนกับเขายอมรับว่า ช่าย ผมเป็นหนู แล้วผมก็รู้ด้วยว่าคุณอาจมีปัญหากับมัน Q: การทำให้หนูเป็นสัตว์ที่น่ารักก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ใช่มั้ยล่ะ A: ครับ แต่การยอมรับข้อเสียเปรียบตรงนั้นก็เป็นก้าวแรก ถ้าคุณเคยดูตลกรูปร่างอ้วนหรือคนที่เตี้ยมากๆ หรือสูงมากๆ นักแสดงตลกเก่งๆ จะพูดเรื่องนั้นขึ้นมาก่อนเลย เหมือนอย่างนักแสดงตลกที่อ้วน เวลาเขาออกมา เขาก็จะใช้ช่วงหนึ่งหรือสองนาทีแรกพูดถึงเรื่องที่ว่าเขาอ้วน คุณจะเห็นผู้ชมผ่อนคลายแล้วคิดว่า โอเค เขารู้ตัวแล้วว่าตัวเองอ้วน ทีนี้ฉันก็จะสนุกไปกับโชว์ของเขาได้แล้ว แทนที่จะ พระเจ้า เขาอ้วน ฉันคิดถึงเรื่องอื่นไม่ได้แล้ว มันเป็นเรื่องของการยอมรับช้างใต้ใบบัว หรือในกรณีของเราคือหนูครับ เราก็เลยต้องมีช็อตที่บอกว่า ช่าย ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ ซึ่งก็คือฝันร้ายเกี่ยวกับหนู สัตว์สุดสยองตัวนี้ที่มีดวงตาลุกวาว มีเขี้ยวโค้งงอเหมือนตัวร้ายในหนังเงียบ แล้วก็มีช็อตที่หนูกลุ่มหนึ่งวิ่งไปมา ซึ่งพวกมันไม่ได้น่าขนลุก เพียงแต่มีจำนวนเยอะ คุณก็เลยยังไม่มั่นใจ แต่พอคุณตามพวกมันไป แล้วจู่ๆ พวกมันก็ออกไปเริงร่าในแสงตะวัน มีเศษขนมปังน่าอร่อยชิ้นเล็กๆ หล่นอยู่ หนูตัวหนึ่งบรรจงหยิบมันขึ้นมาดม ซึ่งมันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยซักนิด ก็หวังว่าถ้าเราทำงานของเราสำเร็จจริงๆ ล่ะก็ เราจะทำให้คุณเลิกคิดว่า อี๋! หนู! ไปเป็นบางที หนูพวกนี้อาจไม่เลวร้ายซักเท่าไหร่หรอก บางทีเราอาจจะเห็นอกเห็นใจมันก็ได้ Q: ใน Finding Nemo มีปลาฉลามน่ารัก เพราะงั้นทำไมเราจะมีหนูน่ารักไม่ได้ล่ะ ใช่มั้ย A: ถูกต้องแล้วครับ! และผมคิดว่าความสนุกอย่างหนึ่งในหนังแฟนตาซีเรื่องไหนๆ ก็ตามคือการที่ทำให้คุณเชื่อในสิ่งที่เหลือเชื่อด้วยการหาวิธีฉลาดๆ อะไรซักอย่างมาทำให้คุณเชื่อมัน ผมชอบตอนหนึ่งใน The Empire Strikes Back ที่ฮัน โซโลเข้าไปในมิลเลนเนียม ฟัลคอน เขาเปิดเครื่องแล้วชนกับกำแพง ดังนั้น แม้ว่ามันจะเป็นยานอวกาศ ที่บินเร็วกว่าความเร็วแสง ซึ่งเร็วกว่ายานพาหนะทุกอย่างที่เรารู้จัก มันก็ยังมีแง่มุมบางอย่างเหมือนรถกระป๋องของคุณหรือของผม เราต่างก็เคยเตะข้าวของเพื่อทำให้มันใช้งานได้ ทันใดนั้นเอง สิ่งที่เหลือเชื่อก็กลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคย มันมีช่วงเวลาแบบเดียวกันนี้ใน Cinderella ตอนที่นางฟ้าแม่ทูนหัวเริ่มโบกไม้คทา แต่ไม่มีผงพิกซีออกมา เธอก็เลยเขย่าและตบมันหลายรอบกว่าผงพิกซีจะเริ่มร่วงลงมา ซึ่งมันก็ทำให้ไม้คทากลายเป็นของที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันของเราครับ Q: เช่นเดียวกับหนังอนิเมชันส่วนใหญ่ Ratatouille ใช้เวลาในการสร้างนานมาก มันเปลี่ยนแปลงไปมากมั้ยในระหว่างนั้น A: ผมเข้ามาช่วงหลังของกระบวนการสร้าง แต่เนื้อเรื่องมันยอดเยี่ยมอยู่แล้วครับ ลุคของมันก็เยี่ยม ตัวละครก็เยี่ยม และเรื่องนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย ความท้าทายก็คือการดึงเอาองค์ประกอบทุกอย่างนี้มารวมกันเป็นเรื่องราวเยี่ยมๆ แต่นั่นเป็นความท้าทายที่เกิดขึ้นกับภาพยนตร์ทุกเรื่องครับ การไม่ปล่อยให้บางสิ่งเข้ามาขวางการเล่าเรื่อง เรื่องราวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอครับ Q: เรมี่เป็นตัวละครที่ยอดเยี่ยมและคลาสสิก เขาเป็นฮีโรคนกล้าผู้มุ่งมั่นที่จะทำตามความฝันของเขา คุณมีตัวละครตัวโปรดอื่นๆ ในหนังเรื่องนี้บ้างมั้ย A: ผมชอบออกัสต์ กัสโต ที่เป็นเชฟในดวงใจของเรมี่ และเป็นมนุษย์คนเดียวในเรื่องที่สามารถคุยกับหนูได้ กัสโตเป็นเหมือนฮิมินี คริกเก็ตของเรมี่ เป็นโอบีวัน เคโนบีของเขา และผมคิดว่าเขาเป็นตัวละครที่ตลกจริงๆ ครับ ผมยังชอบสกินเนอร์ที่เป็นผู้ร้ายตลกๆ ด้วย เขาเป็นเหมือนซาเลียรีใน Amadeus หรือหัวหน้าผู้ตรวจสอบดรายฟัสจาก Pink Panther เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่เขาคิดว่าเป็นคนไร้ความสามารถถึงเหนือกว่าเขาทุกครั้ง Q: สุดท้ายนี้ คุณคิดว่าคนฝรั่งเศสจะรู้สึกยังไงเกี่ยวกับหนังที่มีหนูอยู่ในภัตตาคารอาหารฝรั่งเศส A: ผมคิดว่าคนฝรั่งเศสมีอารมณ์ขันเหมือนคนอื่นๆ และพวกเขาก็ชื่นชมคอเมดีดีๆ เหมือนกัน ผมหมายถึง Ratatouille ไม่ใช่สารคดีนะครับ มันเป็นหนังสนุกๆ ที่ยาวประมาณชั่วโมงครึ่ง แค่ซื้อป๊อปคอร์นไปสนุกกับมัน! หนังเรื่องนี้เหมาะที่จะกินกับป๊อปคอร์นจริงๆ นะครับ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ เรื่อง Ratatouille

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook