คุยกับโดม พระเอกหมาดๆ สวมบท แวมไพร์ต้องคำสาป

คุยกับโดม พระเอกหมาดๆ สวมบท แวมไพร์ต้องคำสาป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพราะความรักคือพลังอันยิ่งใหญ่ ทำให้ชีวิตคนเรามีคุณค่าและก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง ตอนนี้ละคร "รักไม่มีวันตาย" ฉายแล้วค่ะ เราก็เลยต้องจับพระเอกหมาดๆ "โดม ปกรณ์ ลัม" ซึ่งรับบท "ไตรภูมิ" พระเอกผู้น่าสงสาร หลังจากถูกสาปให้ต้องเป็นแวมไพร์ ดื่มเลือดเพื่อเลี้ยงชีวิตมานานกว่า 400 ปี มานั่งเม้าท์กันสักหน่อย ถึงความยากง่ายของการแสดงละคร ศาสตร์ที่ถูกมองว่าเหมือนจะง่าย แต่ถ้าลองได้ทำแล้วจะรู้ว่า ไม่ง่ายเลย เปิดอก "ไตรภูมิ" "ก็คงต้องบอกว่าดีใจครับ ผมตั้งใจกับเรื่องนี้ เพราะเป็นละครเรื่องแรก จริงๆ เคยเล่นละครมาก่อนตอนเด็กๆ นะ แต่คนคงจำไม่ได้แล้ว ตอนนี้ละครก็ออนแอร์แล้วมันตื่นเต้นดีใจครับ เป็นอีกผลงานหนึ่งที่คนจะได้รู้จักผมในอีกมุมนึง เพราะมีความยากในการทำงานเหมือนกัน มันเปลี่ยนทั้งเวลาทำงาน ทีมงาน ผมเองเป็นนักร้อง ส่วนมากทำงานกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ เรื่องของทีมงานก็ต้องมาเจอใหม่หมด วิธีการทำงานก็เหมือนกัน คือการแสดงกับการร้องเพลงต่างกัน ผมทำงานศิลปะแต่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่ยากครับ" โดมได้เรียนรู้ก่อนแสดงยังไงบ้างคะ "เรียนกับ หม่อมน้อย มาร่วมครึ่งปีครับ เรียนนานมาก เรียนยิ่งทำให้เราตื่นเต้นเราได้รู้จักทฤษฎีแต่ยังไม่ได้ลงสนามจริงๆ แต่พอมาลงสนามแล้ว คำสอนของหม่อมท่านช่วยอะไรได้มากมายเลย คือท่านจะบอกเสมอว่าต้องเตรียมจิตใจกับร่างกายให้พร้อมก่อนจะใส่ตัวคาแรกเตอร์อะไร วิธีการของหม่อมคือสอนวิธีการคิด ฟังง่ายแต่ทำยากครับ คือการแสดงต้องอยู่กับปัจจุบัน หม่อมจะเอาหลักของศาสนาพุทธมาปนครับ คือการไปเรียนกับหม่อม ต้องเตรียมกายกับใจให้พร้อม เหมือนเป็นช่างภาพกล้องต้องพร้อม เป็นนักแสดงก็ต้องเตรียมร่างกายและจิตใจ เพราะนั่นคืออุปกรณ์ของเรา ไม่ใช่ว่าจะมาสอนร้องไห้ยังไง โกรธแบบไหน ไม่มีอะไรแบบนั้น ส่วนการตีบทอันนั้นก็จะสอนให้เราทำความเข้าใจมากกว่า วิเคราะห์บทผมมองว่าไม่ยากนะ อยู่ที่ว่าเราคิดแบบตัวละครได้ไหม คือเรารู้ว่าเขาต้องการอะไรแต่เราจะคิดได้อย่างนั้นไหม อันนี้คือสิ่งที่ยาก"

การตีความของคาแรกเตอร์ละคร โดมตีความอย่างไร "ผมจะตีความมาก่อนทำการบ้านมาก่อน มาถึงกองฯ ก็จูนกับ พี่ปลา ผู้กำกับฯ ว่าพี่ปลามองไว้แบบไหน ผมตีความมายังไง มาตีความหาจุดที่เหมาะ บางครั้งสิ่งที่พี่ปลาต้องการเราต้องเอามาตีความต่อ ว่า ไตรภูมิ ในแบบที่เราคิดคืออะไรกันแน่ เป็นการทำงานร่วมกัน แบบทูเวย์ พี่ปลาพูดมาผมส่งกลับจนได้คาแรกเตอร์ที่ต้องการ คือไตรภูมิที่คนอาจจะมองว่าเป็นแวมไพร์ มากัดคอคน บู๊กันสนั่น ไม่ใช่เลยครับ คือละครเรื่องนี้มีอะไรที่มากกว่านั้น ตัวไตรภูมิจริงแล้วมีความแข็งกร้าวอยู่ข้างนอก แต่เป็นบุคคลที่อมทุกข์นะ ทรมานกับการมีชีวิตอยู่ อยู่มา 400 กว่าปีต้องเห็นคนที่รัก พ่อ แม่ ทุกคนตายหมด เขาคือคนแก่ในร่างคนหนุ่ม เย็นชา มองทุกคนเหมือนทุกคนเป็นเด็ก อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ เพราะเขาผ่านและรู้ไปหมดแล้ว ถึงเขาจะมีพลังมากมาย แต่เขาก็ไม่เคยใช้ สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือปลดปล่อยตัวเองให้เขาได้ตายไปจากความทุกข์ในใจเขา" "ไตรภูมิ" เป็นผู้ชายน่าสงสาร "ผมมองว่าตัวละครตัวนี้น่าสงสารนะครับ รวยมาก แล้วก็อยู่มานาน จนเก็บสะสมเงินทองไว้มากมาย ภายนอกเหมือนดูสมาร์ตขับรถราคาแพง ดูเท่ แต่จริงๆ แล้วน่าสงสาร" "โดม" กับ "ไตรภูมิ" คือความเหมือนที่แตกต่าง "ผมว่ามีความแตกต่างที่เหมือนกันอยู่มากนะครับ คือผมเองมีสังคมและบุคลิกที่แตกต่างกันเหมือนกัน คนจะมองว่าผมเป็นหนุ่มเมโทรเซ็กชวล แต่งตัวจัด ดูฉาบฉวยหวือหวา แต่อีกมุมนึงผมก็มีความเรียบง่าย มีมุมส่วนตัวเหมือนกัน คือต้องการอะไรที่เป็นธรรมดาและจริงจัง แต่ภาพลักษณ์อาจจะทำให้คนมองผมออกไปแบบนั้น และที่แน่นอนที่สุด คือผมไม่กินเลือดครับ (หัวเราะ)" ต้องใส่เขี้ยว มีปัญหาบ้างไหมคะ "เขี้ยวมีปัญหากับการพูดนิดหน่อยครับ คือ เป็นแค่ฟันเดียว เอามาสวมทับไปกับเขี้ยวเราเอง ง่ายมาก ไม่ใช่บล็อกแบบทั้งปากเหมือนเมื่อก่อน ก็เลยไม่มีปัญหามาก จะติดแค่ตรงต้องพูดให้ชัดขึ้น พอใส่ไปคุ้นแล้วก็ไม่เป็นปัญหาครับ" ร่วมงานกับ "พลอย" เป็นอย่างไรบ้าง "ร่วมงานกับพลอยสนุกสนานดีครับ เพราะเราคุ้นกันดี ช่วยกันแนะนำ ช่วยกันต่อบท คือเขาจะไม่ได้แบบมาสอนนะ พลอยเขาจะร่าเริงไปเรื่อยๆ ในกองก็ซ่าเป็นเจ้าคุมซอย (หัวเราะ) แต่ในการทำงานพลอยจะจริงจังจะมาแบบ มาคุยกันหน่อยไหม มาตีความบทร่วมกันไหม อย่างฉากบอกรักครั้งแรกเนี่ย พลอยเขาก็จะมาประมาณว่า มาตีบทกันถ้าเป็นพลอย จะเขินประมาณนี้นะ พี่โดมว่าไง คือเป็นการแชร์ความคิดกัน แต่ในเรื่องการสอนแบบพี่โดมต้องแบบนั้นแบบนี้ไม่มีครับ" คนลุ้นฉากสวีต "สวีตกุ๊กกิ๊ก ก็จริงจังเหมือนกันนะ คือกุ๊กกิ๊กจะเป็นแบบตลกมากกว่า สวีตแบบเลิฟซีนมานัวกันไม่มีเลยครับ ตามบทก็ไม่มีด้วย เพราะผู้ใหญ่ คุณนิด ไม่อยากให้ออกมาแบบนั้น เป็นแบบโหมดของรักโรแมนติก แบบเพลง 'รักเธอตลอดกาล' ครับ"

เนื้อเรื่องดำเนินเรื่องด้วยความรัก...โดมมองว่าความรักเป็นอย่างไร "ผมมองว่าชีวิตของผมให้ความสำคัญทุกอย่างเท่าๆ กันนะ ถ้าให้ความสำคัญอะไรมากเกินไปก็คงไม่ดี เมื่อก่อนก็ให้ความสำคัญเรื่องความรักมากนะ แต่ว่า ณ ตอนนี้ผมมองว่า ถ้ามีแค่ความรักอย่างเดียวคงไม่ได้ เรียกว่าทุกอย่างต้องเท่ากัน คือความรักจะแค่ผู้หญิงผู้ชายอย่างเดียวไม่ได้ ถ้าแบบว่ารักครอบครัว รักงาน รักแฟน คือความรักคงเป็นแก่นล่ะ ที่จะทำให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้ แต่ถ้าแค่ความรักชายหญิงอย่างเดียวคงไม่ใช่" รักไม่มีวันตายสำหรับโดม "ความรักในเรื่องเป็นรักไม่ฉาบฉวยพ่อแง่แม่งอนไม่ใช่ รักลึกซึ้งเกิดจากความจริงใจ ความเสียสละ และเข้าใจ แบบนี้รักจะไม่มีวันตายนะ" งั้นรักของ "โดม" และ "น้องเพ้นท์" วันนี้ เข้าสู่โหมด รักไม่มีวันตายได้หรือยัง "ผมกับน้องเพ้นท์ เราคบกันมา 2 ปีมีเรื่องความรู้สึกดีๆ มาตลอด น้องเขาน่ารักจริงใจกับผมมาตลอด เป็นกำลังใจให้ผมมาตลอด ดีครับ แต่ผมกับน้องคบกันที่ปัจจุบัน ไม่อยากจะพูดอะไรมาก อยากเป็นเรื่องส่วนตัวไม่อยากป่าวประกาศมากมาย อยากย้อนไปอย่างคนธรรมดา ไม่ต้องฟู่ฟ่า ไม่ต้องออกงาน ทุกอย่างผมมองว่าเป็นแค่เปลือกนอก ผมผ่านตรงนั้นมาหมดแล้ว อย่างสมัยก่อน ผมกับพลอยคงเป็นคู่แรกๆ ที่เราเปิดตัวเต็มที่จริงจัง สมัยนั้นยังไม่มีใครทำแบบนั้น ผมผ่านตรงนั้นมาหมดแล้ว แล้วชีวิตฟู่ฟ่าก็มีให้เลือก แต่ผมไม่เลือกที่จะทำแบบนั้นอีก" "โดม" กำหนดรักได้ "ผมมองว่าง่ายจะตาย อยู่ที่ตัวเราว่าเราจะกำหนดความรักของเราไปในรูปแบบไหน บางคนอาจจะเลือกที่จะกำหนดความรักแบบ ฟู่ฟ่า ออกงานกัน ดูเฟี้ยวจังเลย ผมมองว่าตรงนั้นเป็นเรื่องของเปลือกที่ผมผ่านมาหมดแล้ว บางคนอาจจะมองว่าผมนิ่งๆ ไปจากตรงนี้ ไม่ใช่หรอก แค่ผมต้องการดำเนินชีวิตไปอย่างที่เป็นแก่นของมันมากกว่า อย่างที่คนมองคือผมจะทำชีวิตให้ฟู่ฟ่าแบบนั้นก็ได้เลยล่ะ แต่ผมเลือกจะไม่ทำ" คนมักบอกว่าละครจะสอนคนดู แล้วละครเรื่องนี้สอนอะไรคนเล่นบ้าง "ละครให้ความบันเทิงครับ คือความบันเทิงที่ไม่ได้มีพิษ มีมะเร็งอยู่ในนั้น ใครจะมาดูตบตี สาดน้ำกรด ริษยาไม่มีแน่ๆ แต่สอนเรื่องคุณธรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว สอนเรื่องความรักที่จริงใจ ที่มีการเสียสละ แล้วก็มีฉากสวยๆ ไปถ่ายกันที่ญี่ปุ่น ปิดถนนถ่ายกันเลยนะ ที่โน่นเหนื่อย อากาศเย็นแต่สนุก เรามี 100 กว่าฉากที่ต้องถ่ายกัน สุดๆ ไปเลย ตื่นตี 4 ทำงานถึง 4 ทุ่มเพิ่งได้กินข้าวเย็น แต่ภาพสวยมาก แล้วยังได้การท่องเที่ยวญี่ปุ่นพาไปถ่ายสถานที่ที่ปกติเขาไม่ให้คนเข้าไป อย่างพระราชวังอะไรแบบนี้ คือทุกอย่างสวยงามมาก ตัวผมเองก็ได้ในเรื่องการปรับตัว การทำงานที่ต้องเปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้ตื่นเช้าขึ้นเยอะครับ" ฝากละครเรื่องนี้หน่อยค่ะ "ละครเรื่องแรกในชีวิตของผมเป็นการโคจร ไม่อยากใช้คำนี้เลย (หัวเราะ) เอาว่าเป็นการกลับมาเจอกับพลอยอีกครั้งหนึ่ง ในอีกบทบาทที่ต่างกันไป ละครเรื่องนี้เป็นละครแนวใหม่ เป็นละครทางเลือก ถ้าได้รับความนิยมผมว่าคุณภาพละครไทยจะดีขึ้นนะครับ เพราะเนื้อหาของละครมีที่มาที่ไป มีเหตุผล ดูแล้วเป็นละครไทยที่ดีมีคุณภาพต้องดูครับ"

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ คุยกับโดม พระเอกหมาดๆ สวมบท แวมไพร์ต้องคำสาป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook