มาริโอ้ เมาเร่อ ขมวดปมรักหลอน ส่งท้ายความเฮี้ยน

มาริโอ้ เมาเร่อ ขมวดปมรักหลอน ส่งท้ายความเฮี้ยน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เผยหน้าหล่อๆ ออกมาให้ผู้ชมได้กรี๊ดกันไปแล้วใน บุปผาราตรี 3.1 ที่เป็นการเปิดซิงหนังสยองขวัญของเขาเป็นครั้งแรก หนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” ยังคงติดใจในอาการเฮี้ยนรักของตนกับผีสาวบุปผา กลับมาอีกทีอย่างนี้ หนุ่มโอ้ขอสะสางทุกเรื่องราวรักหลอนที่มิอาจถอนตัวได้ให้เสร็จสิ้นใน บุปผาราตรี 3.2 เตรียมฮาสยองในโรงภาพยนตร์ 20 ส.ค. นี้...แน่นอน ย้อนความสยองของ บุปผาราตรี 3.1 กันก่อนเลย มาริโอ้ : ครับ ในเรื่อง “บุปผาราตรี” ทั้ง 3.1 และ 3.2 โอ้ก็รับบทเป็น “หรั่ง” นะครับ หรั่งก็เป็นวัยรุ่นที่มีอาชีพเป็นคนวาดการ์ตูนผี แล้วก็ดันมองเห็นผีได้เองอีกด้วย เรื่องวุ่นๆ หลอนๆ มันก็เลยเกิดตามมาเมื่อหรั่งต้องมาอยู่ที่ออสการ์อพารต์เม้นต์ครับ แล้วก็มาเจอกับพี่บุปผาที่ตัวเองแอบหลงรักมาตั้งแต่เด็กๆ แต่หรั่งไม่รู้ว่าบุปผาเป็นผีไปแล้ว เพราะบุปผาจะมาให้เห็นในร่างปกติไงครับ ถ้ามาแบบเละๆ อย่างงี้เราก็จะรู้ว่าไอ้นี่เป็นผีแน่ๆ แต่กับผีบุปผามันเป็นตรงกันข้าม ฟีดแบ็คจากตอน 3.1 เป็นยังไงบ้าง มาริโอ้ :เท่าที่โอ้ได้ยินมา ก็ชอบกันเยอะนะครับเพราะทั้งสนุก ตลก และก็สยองด้วย แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบ หลายคนก็อาจจะมีงงๆ บ้างนิดหน่อย บางคนก็ลุ้นว่าเมื่อไหร่โอ้จะเจอพี่พลอยที่เล่นเป็นผีบุปผาซะที แต่พอเจอกันแล้ว อ้าว หนังตอน 3.1 จบซะแล้ว ก็เลยงงๆ กันอย่างที่บอก แต่โอ้ต้องบอกเลยว่า จะหายงงและเข้าใจทุกอย่างแน่ๆ ถ้าเข้ามาดูบุปผา 3.2 ที่เป็นตอนสรุปส่งท้ายของภาคสามทั้งหมด มันจะปะติดปะต่อขยายเรื่องมาจากตอน 3.1 แล้วมาสรุปในตอน 3.2 ซึ่งก็จะรู้เรื่องราวความรักของหรั่งกับบุปผาว่า หลังจากเจอกันแล้วจะเดินเรื่องไปทางไหนต่อ ในตอนนี้ก็จะเห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ชัดเจนมากขึ้นกว่าตอนที่แล้วครับ พัฒนาการของตัวละครตัวนี้ มาริโอ้ :ถ้าเป็นด้านคาแร็คเตอร์ก็ยังคงเป็นหนุ่มนุ่มลึกนิ่งๆ หน่อย แต่ถ้าเป็นพัฒนาการด้านเรื่องราวของหรั่งเลยเนี่ย ก็จะแบบว่าบอกในสิ่งที่ทุกคนคงไม่คาดคิดเลยน่ะครับ ต้องเข้าไปดูครับ อย่างภาคที่แล้วเนี่ย หรั่งยังไม่รู้ว่าจริงๆ บุปผาน่ะตายไปแล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่สามารถมองเห็นวิญญาณหรือมองเห็นผีอะไรอย่างงี้ได้ อาจจะเป็นเพราะความรักบังตาก็ได้ครับ เพราะเขาแอบหลงรักพี่บุปผามาตั้งแต่เด็กไงครับ ก็เลยทำให้เขามองบุปผาว่าเป็นคนๆ หนึ่ง จนกระทั่งมาในตอน 3.2 นี่แหละครับที่หรั่งเขาเริ่มเห็นเริ่มรู้แล้วว่า พี่บุปผาของเขาเป็นผีบุปผาไปแล้วครับ แล้วหรั่งก็ยังต้องมาเจอกับบางสิ่งที่ตัวเขาเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันด้วยครับ น่ากลัวและสยองมากขึ้นด้วยครับ รู้ตัวช้าไม่พอ ยังเจอวิบากกรรมที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอีกใช่มั้ย มาริโอ้ :อ๋อ ใช่ครับ ในตอนท้ายของบุปผา 3.1 มีบอกใบ้ตอน 3.2 ไว้นิดหน่อยว่าตัวหรั่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีที่เด็กหญิงปลาถูกฆ่าตาย ตัวหรั่งเองก็คงงงๆ แหละครับ เพราะหนีผีอยู่ดีๆ ดันโดนตำรวจจับตัวซะได้ (หัวเราะ) แถมเรื่องความรักกับบุปผาก็ยังไม่คืบหน้าไปไหนด้วย ก็ต้องมาตามดูกันว่าหรั่งจะรอดหรือไม่รอดนะครับ ก็คือตอน 3.2 จะมีเรื่องราวที่น่าติดตามมากขึ้น มาริโอ้ :ใช่ครับ เป็นเรื่องก็น่าติดตามมากขึ้น เข้มข้นมากขึ้น และก็ยังครบทุกรสอยู่เหมือนเคยด้วยครับ น่าติดตามมากขึ้นเป็นพิเศษยังไงบ้าง มาริโอ้ :ก็นอกจากเรื่องราวที่โอ้บอกไปแล้วนะครับ ตอน 3.2 นอกจากตัวหรั่งของโอ้กับบุปผาของพี่พลอยจะเพิ่มมากขึ้นเพราะเป็นแกนเรื่องแล้ว ก็จะมีตัวละครเข้ามาสร้างสีสันของเรื่องให้มันสนุกเพิ่มขึ้นด้วย อย่างตัวผีเด็กปลา ที่ส่วนใหญ่คนดูแล้วก็จะชอบและก็กลัวกันมากด้วย หรืออย่างน้าค่อมกับพ่อดมที่ปล่อยมุขตลกไม่ยั้ง ทั้ง 3 คนก็ยังกลับมาแน่นอน แล้วก็จะมีคู่หูตำรวจหมวดกับจ่าที่มีแต่คนถามถึงว่าหายไปไหน ไม่ได้หายไปไหนครับ เพราะจะกลับมาใน 3.2 นี้แล้ว ยังมีอีกหลายตัวเลยครับทั้งเซียนพนัน, ผีเด็กในบ่อน, พระ, ตำรวจ มากันเยอะครับ มาทิ้งทวนกันเลย ความโรแมนติกของโอ้กับพลอยน่าจะมากขึ้นด้วย มาริโอ้ :มากขึ้นด้วยครับ โอ้กับพี่พลอยจะเจอกันมากขึ้น โรแมนติกซึ้งกันมากขึ้น แต่ก็สยองกันมากขึ้นด้วย จะมาเจอกันแบบไหนบ้างก็ต้องเข้าไปดูกันครับว่าหลายๆ อารมณ์ในหนังมันมาอยู่ใน บุปผาราตรี 3.2 เรื่องเดียวกันได้ยังไง รับรองสนุกแน่ๆ ครับ ทำงานกับน้องพูกันที่เล่นเป็นผีปลา เป็นยังไงบ้าง มาริโอ้ :ครับ ถ้าพูดถึงน้องพูกันแล้ว การแสดงของน้องพู่กัน โอ้รู้สึกว่ามีพลังครับ แล้วก็ทำให้แบบฉากง่ายๆ อย่างถ้าได้ดูใน 3.1 ครับ ก็จะมีฉากที่บนโต๊ะกินข้าวน่ะครับที่การแสดงของน้องเล่นเอาเราอินตามไปด้วยเลยนะครับ รู้สึกสงสารน้องไปเลย ซึ่งในเด็กอายุอย่างนั้นโอ้คิดว่าหาได้ยากครับ แบบน้องพูกันซึ่งเล่นได้มีพลังมากๆ ครับ เป็นเด็กที่มีความสามารถทางการแสดงเกินตัวเลยครับ ทำให้เรารู้สึกอินไปกับหนังด้วยครับ รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง แล้วก็น่าจะมีจริงอยู่ในสังคม ดูแล้วก็สะเทือนใจกันไปเลยครับ บรรยากาศในการทำงานก็ยังสนุกอยู่เหมือนเดิม มาริโอ้ :ยังสนุกเหมือนเดิมครับ ไม่ต่างจากตอน 3.1 เลย เพราะโอ้ก็สนิทกับทีมงานพี่ๆ เขามากขึ้นแล้ว พี่ๆ เขาเป็นกันเองมาก และก็ทำงานกันอย่างมืออาชีพจริงๆ ครับ ส่วนพี่ต้อมเค้าก็ยังทำงานอย่างมีสไตล์ของพี่ต้อมเองอยู่เหมือนเดิม ทำงานเร็วแต่มีคุณภาพ ไม่ยื้อ เลิกกองเร็ว อันนี้ดีเลยครับ (หัวเราะ) อย่างที่โอ้เคยบอก พี่ต้อมเค้ารู้ว่าเค้าจะมาถ่ายอะไรแค่ไหน พี่เค้าทำการบ้านมาดี ทุกอย่างเลยลื่นไหล ทำให้เราไม่เหนื่อยเกินไปด้วยครับ บุปผาราตรี 3.2 ยังเป็นหนังภาคต่อที่น่าสนใจอยู่ มาริโอ้ :ใช่ครับ อย่างตอน 3.1 บางคนอาจจะรู้สึกว่าอารมณ์มันยังกั๊กๆ ยังไม่สุดอยู่ แต่ในตอน 3.2 นี้ พี่ต้อมใส่ไม่ยั้งเลยครับ เต็มที่กันทุกอย่าง ทั้งความสยอง ความตลก ความซึ้ง มากันครบทุกอารมณ์แต่ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ “บุปผาราตรี” อยู่ด้วยครับ ทั้งพวกดารารับเชิญใหม่ๆ อะไรอย่างงี้มากันเพียบเลยครับ คนที่ไม่คิดว่าจะมาก็ยังมาเลยครับ ต้องลองมาดูกันนะครับ โอ้ก็ขอฝาก บุปผาราตรี 3.2 ไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยครับ มาดูกันเยอะๆ นะครับ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ มาริโอ้ เมาเร่อ ขมวดปมรักหลอน ส่งท้ายความเฮี้ยน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook