บทสัมภาษณ์ที่จะทำให้คุณรู้จักกับ ตุ๊กกี้ชิงร้อยชิงล้าน สุดารัตน์ บุตรพรม

บทสัมภาษณ์ที่จะทำให้คุณรู้จักกับ ตุ๊กกี้ชิงร้อยชิงล้าน สุดารัตน์ บุตรพรม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
Q.ก่อนอื่นทักทายแนะนำตัวกันก่อน ตุ๊กกี้ : สวัสดีค่ะตุ๊กกี้ชิงร้อยชิงล้านคะ คงจำกันได้นะค่ะว่าเป็นใครผลงานที่เด่นชัดแล้วก็ทุกคนจำได้ก็คือรายการชิงร้อยชิงล้านนะค่ะ ส่วนรายการที่อยู่ในเวิร์คพอยท์ ก็พอจะเห็นกันบ้างช่วงแผงลอยคอยเก้อนะค่ะของระเบิดเถิดเทิงและเรื่องสั้นตลาดสดของรายการชิงช้าสวรรค์แล้วก็ซูซูกิกับรายการหม่ำโชว์ค่ะภาพยนตร์ในตอนนี้ที่กำลังจะเข้าฉายก็มีเรื่องวงษ์คำเหลานะค่ะส่วนผลงานที่ผ่านมาทางด้านภาพยนตร์ก็เท่งโหน่งคนมาหาเฮีย, โหน่งแท่งนักเลงภูเขาทองแล้วก็แหยมยโสธรค่ะแล้วก็บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2 ค่ะแล้วก็ผลงานที่เด่นชัดมากๆที่ผู้ชมจำได้เลยก็คือว้อหมาบ้ามหาสนุกค่ะ... Q.ถือได้ว่าตอนนี้เข้ามาทำงานในส่วนเบื้องหน้าแบบเต็มตัวเรียบร้อย ตุ๊กกี้ : ก็ถือว่าในส่วนของการแสดงก็เพิ่งเข้ามาเต็มตัวนะค่ะในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา แต่ว่าอยู่ในด้านวงการบันเทิงมา 6 ปี แล้วค่ะ แต่อยู่เบื้องหลังนะค่ะเพิ่งผุดออกมาอยู่เบื้องหน้า เบื้องหลังก็คือเป็นฝ่ายคอสตูมท์ของบริษัทเวิร์คพอยท์นะค่ะ ก็ถ้ามีเวลาว่างก็ขายเสื้อผ้าที่ถนนข้าวสารนะค่ะ ไปอุดหนุนกันได้ค่ะ

Q.ทราบมาว่าหลายสิ่งหลายอย่างในความเป็นตุ๊กกี้ชิงร้อยที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆในทุกวันนี้มีที่มา ตั้งแต่สมัยเรียนโน่นเลย ตุ๊กกี้ : ในส่วนการแสดงทุกวันนี้นะค่ะ ส่วนหนึ่งที่เซอร์ไพรส์ แล้วก็คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าจะมีวันนี้ได้สำหรับตุ๊กกี้ถือว่าเป็นก้าวสั้นๆแต่ก้าวยาวเหมือนก้าวไปที่ละสั้นๆแต่ว่าระยะไกลๆนะค่ะ ก็คือว่าเรียนทางด้านนี้มา บางคนถามว่าตุ๊กกี้เรียนจบอะไรด้านไหนมา ทำไมแววของการแสดงถึงได้มี ตุ๊กกี้จบนาฎศิลป์ไทยนะค่ะ แล้วก็เด็กนาฎศิลป์ทุกคนไม่กลัวกล้องพูดง่ายๆเลย ถ้านับ5 43ปุ๊บไม่มีใครกลัวกล้อง เลือดของความเป็นศิลปินมันมีอยู่ในตัวของแต่ละคนอยู่แล้ว แต่พอได้มีโอกาสที่หยิบยื่นมา ทั้งทางทีมงานของเวิร์คพอยท์และพี่หม่ำ ทำให้เลือดที่เรามีอยู่แล้ว ความเป็นศิลปินที่เรามีอยู่แล้วได้ผุดออกมาและประกายแสงแวววาวออกมาทำให้คนได้เห็นว่าฉันมีความสามารถด้านนี้ ถ้าถามว่าในส่วนการเรียนนาฎศิลป์มีบทบาทมากไหมในการดำรงชีวิตในด้านการแสดง มีมากเหมือนกันค่ะ เพราะจริงๆแล้ว มีความชอบจะดีมากกว่าอย่างอื่นเพราะถ้าเรามีความชอบแล้วเราจะมีความตั้งใจ อย่างตุ๊กกี้นี้ชอบการแสดงอันดับท้ายๆเลยนะค่ะ แต่ชอบเต้นชอบรำชอบพูดชอบแสดงออกทุกสิ่งทุกอย่างแต่ว่าไม่ได้ชอบการแสดงด้านละคร มีบทบาทนี้ไม่ชอบเลยแต่ถ้าแสดงออกเดี่ยวๆเต้นๆโชว์หน่อยรำพูดโชว์หน่อยพูด ทอล์กโชว์ทั้งห้องก็เคยทอล์กมาแล้ว เป็นคนที่ชอบมากทำให้สิ่งที่เราชอบมันเป็นผลพวงในทุกวันนี้ด้านการแสดงสั่งให้ทำอะไรทำได้หมดเพราะครูพักลักจำแล้วก็ชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วค่ะ Q.แต่ใครจะคิดว่าเส้นทางชีวิตในความเป็นตุ๊กกี้ทุกวันนี้สืบเนื่องมาจากความชื่นชอบในตัวผู้ชายที่ชื่อว่า หม่ำ จ๊กม๊กจนเป็นที่มาของคำว่า เด็กสร้างหม่ำ ตุ๊กกี้ : รู้จักพี่หม่ำ จ๊กม๊ก มาตั้งแต่ที่เราชอบดูตลก จริงๆแล้วตุ๊กกี้เป็นคนพูดเก่งแต่ไม่ใช่คนตลก พูดเก่งแล้วก็เหมือนกับว่าเป็นคนชอบขี้ยุ คือถ้าใครยุจะทำได้หมดเลย ลองยุเลยจะทำได้หมดเลย ไม่อาย ถ้ามีคนมาสนับสนุนด้านหลัง แต่ว่าไม่ใช่คนตลกมากมาย แต่พูดเก่งนี้มาอันดับหนึ่งเลย ชอบพี่หม่ำมาก ตั้งแต่ดูตลกเป็นมาเรื่อยๆๆ แต่มารู้จักพี่หม่ำมากๆคือจากเวทีทองค่ะ ชิงร้อยก็ยังไม่เท่าไหร่มันก็ยังมีพี่หนูเชิญยิ้ม มีพี่เอ็ดดี้อะไรอยู่ค่ะ สำหรับเส้นทางชีวิตของตุ๊กกี้ ถือว่าเป็นคนที่เดินตามดวง เพราะว่าหลังจากที่เรียนจบก็ไปทำงานภูเก็ตแฟนตาซี 2 ปีนะค่ะทำงานด้านนี้เพราะ เราเรียนมาด้านนี้ ไปทำงาน 2 ปีไม่เคยกลับบ้านเลย เสร็จปุ๊บช่วงพักร้อน ก็แวะมากรุงเทพมาหาเพื่อนซึ่งเรียนอยู่วิทยาลัยนาฎศิลป์ แถวสนามหลวง หอพักเพื่อนก็จะอยู่แถวนั้นกัน ก็บอกว่าให้เรามารอที่ข้าวสาร เดี๋ยวมารับที่ถนนข้าวสาร ช่วงที่รอก็เลยไปเล่นเน็ต อยู่ก็มีแรงบันดาลใจให้พิมพ์คำว่าหม่ำ จ๊กม๊ก เพราะว่าชอบเขาอยู่แล้วพอพิมพ์เสร็จปุ๊บ คำว่าหม่ำ จ๊กม๊ก ก็ขึ้นมาในอินเตอร์เนต แต่คำว่าเวิร์คพอยท์มันขึ้นต้นก่อน ในเว็บมันจะไล่ๆๆขึ้นก่อน ก็เลยคลิกไปที่เวิร์คพอยท์ปรากฎว่ารับสมัครพนักงาน แต่ไม่คิดที่จะลาออกจากภูเก็ตแฟนตาซี พอเวิร์คพอยท์รับสมัครปุ๊ม มันมีวงเล็บว่าพนักงานฝ่ายเสื้อผ้ามีหมายเหตุว่าต้องจบด้านนาฎศิลป์ไทยแต่งชุดโขนละครฟ้อนรำได้และตอบคำถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การแสดงได้ คิดดูซิว่ามันตรงไหมค่ะ มันตรง เพราะตุ๊กกี้เรียนจบปริญญาตรีเอกนาฎศิลป์ไทย แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ เพื่อจะมาประจำรายการใหม่คือรายการคุณพระช่วย เสร็จปุ๊บก็สมัครทางเน็ตสมัครหลายรอบมากแต่ไม่คิดนะค่ะว่าจะได้ เพราะก่อนหน้าที่ตุ๊กกี้จะไปทำงานที่ภูเก็ตก็เคยสมัครที่เวิร์คพอยท์ สมัครด้านสเตทมาหรือกำกับเวทีมา 4 ครั้ง เขาก็ไม่รับก็เลยไปทำงานที่ภูเก็ตแฟนตาซีก่อน แต่ไม่ได้รอนะค่ะ สมัครไปเรื่อยๆนั่นแหละ แต่ถ้าเราจะสมัคร เราจะไม่สมัครตำแหน่งเดิมเพราะสมัครตำแหน่งเดิมมา 4 รอบแล้วเขาไม่เรียกเลยก็เลยเปลี่ยนเป็นฝ่ายเสื้อผ้ามันตรง แต่ถามว่าทำได้ไหมก็ลองดู ปรากฎว่าพอสมัครไป 9 โมงครึ่ง บ่ายโมงเขาโทรกลับมาบอกว่าพร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ไหม ตุ๊กกี้มาเที่ยวเพื่อที่จะกลับบ้านนอกเส้นทางผ่านอุดรธานีก็คือแวะกรุงเทพฯก่อน แต่จะมีอัลบั้มรูปติดตัว อัลบั้มนี้ก็คือการแสดงทั้งหมดที่อยู่ภูเก็ตแฟนตาซีเพื่อที่จะเอาไปให้แม่ หนูมาอยู่ 2 ปีหนูได้อะไรบ้างอยากให้แม่เห็น ก็หิ้วอัลบั้มสองอันนี้กลับบ้าน แต่ปรากฎว่าในการสัมภาษณ์นี้เขาเรียกพอร์ทฟอริโอ้ใช่ไหมค่ะ ผลงานในการทำงานหลังจากจบมานั้น มีอะไรบ้าง ประจวบเหมาะบ่ายโมงทันไหม นั่งรถแท็กซี่จากสนามหลวงไปพหลโยธินสะพานใหม่ค่ะ นี่คือความเหมาะเจาะของมัน แล้วอัลบั้นรูปที่ติดมือไป คนที่สัมภาษณ์เขาเปิดดูปรากฎว่าหนึ่งในรูปนั้นมีรูปคุณปัญญามีรูปคุณประภาสมีรูปผู้บริหารทั้ง 9 คนของเวิร์คพอยท์ ก็คือเขาไปเที่ยวภูเก็ตแฟนตาซีกัน แล้ววันนั้น ตุ๊กกี้ต้องเป็นคนมายืนให้แขกถ่ายรูปข้างหน้ามีคุณปัญญาคุณประภาส คุณโน้นนี้นั่น ปรากฎว่าในการสัมภาษณ์เขาไม่พูดถึงประวัติการทำงานเลย เขาพูดเล่นเป็นตัวไหนอยู่ตรงไหนถูกใจเขา ตุ๊กกี้ก็เลยเป็นหนึ่งใน 21 คนที่โดน เลือกค่ะให้ทำงานเป็นพนักงานฝ่ายคอสตูมท์ประจำรายการคุณพระช่วย พอทำรายการคุณพระช่วยได้ประมาณ2 อาทิตย์ คือพนักงานใหม่ที่เทิร์นโปร์ 4 เดือนใหม่ของเวิร์คพอยท์ต้องทำให้ครบทุกรายการแต่ตัวเองจะมีรายการประจำอยู่หนึ่งรายการนั่นคือคุณพระช่วย แต่ละคนจะมีรายการประจำหนึ่งรายการถึงตาตุ๊กกี้ที่ต้องวนมาถึงชิงร้อยวันแรกก็มาเจอหม่ำเจอเท่งเจอโหน่งเจอพี่ส้ม ก็ตื่นเต้นกับความเป็นชิงร้อยรายการเขาดังก็ทำงานตามปกติ รีดผ้าทำทุกสิ่งทุกอย่างตามปกติเอ็กซ์ต้าร์ที่จะมาเล่นเป็นหมอนวดในฉากเล่นไม่ได้พี่หม่ำทุกคนก็อยู่หน้าเวทีหมด ก็คือก่อนหน้านี้ก็เคยพูดคุยกับพี่หม่ำ เขารู้ว่าเราเป็นคนอีสานแน่ๆเขาก็พูดอีสานปรากฎว่าการตอบโต้ไม่เหมือนเด็กทั่วไปก็คือไม่กลัวไม่อายถามคำตอบได้หมดถามไรตอบได้หมด คือเหมือนยอกย้อนพี่หม่ำเหมือนคือถูกตาต้องใจความกล้าของปากเรา ปรากฎว่าเอ็กซ์ต้าร์เล่นไม่ได้ พี่หม่ำก็เลยบอกทีมงานว่าลองเอาไอ้ตัวเล็กเล่น ทีมงานก็เลยมาถามว่าเล่นได้ไหม ถ้าเล่นไม่ได้คือไม่รู้ยังไง ถ้าเล่นได้นี้ดังมากเลยนะ ด้วยความที่ว่าไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่ามันจะดังได้ไงหนูเล่นแค่นี้เอง พี่หม่ำก็เล่นบอกว่าถ้าคนฮาทั้งสตูคุณปัญญาเขาจับเซ็นต์แน่ลองดู คำว่าลองดูของพี่หม่ำเหมือนเขามีแววตาที่แบบว่าเออน๊า..เหอะๆก็เลยลองเล่นดูครั้งแรกที่อยู่ตรงวงกลมหมุนของชิงร้อย ไม่ได้พูดไรเลยค่ะไปยืนนิ่งๆเลยคนกรี๊ดทั้งสตูเขากรี๊ดหน้าเราค่ะ หน้านิ่งๆแบบหน้างี้ละเขากรี๊ดทั้งสตู พี่หม่ำบอกหน้านี้แหล่ะๆแสดงว่ามันต้องมีที่มาที่ไปของหน้านี้หลังจากนั้นมาก็เล่นบ้างไม่เล่นบ้างจนได้เป็นตัวประจำของชิงร้อยชิงล้านค่ะ แต่ในการเล่นแต่ละครั้งมันจะมีเทคนิค เพราะถ้าต้องเล่นกับแต่ละคนจะมีเทคนิคไม่เหมือนกัน ตรงที่ว่าถ้าเล่นคู่พี่ส้มตัวใครตัวมันเพราะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ฆ่ากันเองเลยตัวใครตัวมัน วัดกันเลย แต่ถ้าเล่นคู่พี่เท่งก็จะไม่ให้ตอบโต้ยืนให้เขาด่าอย่างเดียว ถ้าเล่นกับพี่โหน่งส่วนใหญ่จะได้เล่นเป็นผู้หญิง เล่นเป็นเพื่อนสาวก็จะตอบโต้กันกัดกันไปกัดกันมาแต่...มีข้อแม้ถ้าเล่นกับพี่หม่ำตามพี่หม่ำให้ทัน รับลองฮาทั้งสตู พี่หม่ำก็จะบอกก่อน จะซ้อมหนึ่งรอบ พี่หม่ำก็จะบอกว่าพี่จะเล่นไปในทางงี้ตุ๊กกี้ตอบพี่อย่างงี้นี่คือการจำนะค่ะ ซ้อมหนึ่งรอบก่อนออก ก็จะนั่งเรียงกัน 5 คนพี่หม่ำก็จะบอกอีก แล้วพี่หม่ำก็จะบอกออกอย่างงี้ๆๆจะไม่เหมือนกันนะค่ะ มันไม่เหมือนกันกับอันแรกที่พี่หม่ำบอก แต่เราจะไม่รู้ว่าพี่หม่ำจะเล่นอันไหน แต่ตุ๊กกี้จำทั้งสองอัน ปรากฎว่าไปเล่นในฉากไปเล่นตอนอัดจริงๆพี่หม่ำก็เอาทั้งสองอันนั้นแหละมาเล่น ทำให้พี่หม่ำมีความภูมิใจในตัวตุ๊กกี้ว่ามันจำได้ทั้งหมดเลยไม่มีมุขที่แบบว่าจำไม่ได้ ก็เลยจะได้เล่นกับพี่หม่ำมาตลอด ทุกคนเลยบอกว่าเป็นเด็กปั้นพี่หม่ำเนี้ยะค่ะ มีที่มาที่ไปของคำว่าเด็กสร้างพี่หม่ำ

Q.จนมีโอกาสเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศกับฉากเล็กๆเพียงฉากเดียวในหนังร้อยล้านอย่างแหยมยโสธร ตุ๊กกี้ : ความรู้สึกตอนแรกก็รู้จักพี่หม่ำในชิงร้อย เจอกันพี่หม่ำสวัสดี เจอกันเฉพาะวันพุธพฤหัสที่อัดชิงร้อย นอกนั่นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ถามว่าสนิทไหม ไม่สนิทเท่ากับเด็กในบ้านค่ะ แต่สนิทที่ว่ามีอะไรนิดๆหน่อยๆจะชอบปรึกษาพี่หม่ำ เพราะมีความรู้สึกว่าในบรรดาพี่แก๊งสามช่า พี่หม่ำเป็นคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากที่สุด ก็เลยต้องปรึกษาพี่ใหญ่และเชื่อในคำปรึกษาที่เขาให้เราค่ะ ก็เลยจะสนิทกับพี่หม่ำ พอได้มาเล่นชิงร้อยก็รู้เลยว่าพี่หม่ำจะทำหนัง เรื่องแหยมยโสธร แต่ก่อนหน้านี้ก็บอดี้การ์ดหนึ่ง เราก็ไม่ได้อะไรมากมาย ก็ไปดูพี่หม่ำก็ชวนไปดู ก็ไม่ได้ไรไม่มีบท เด่นของผู้หญิงทั่วไป แต่พอมาเจอหนังเรื่องแหยมก็จะมีตัวพี่เจเน็ต เขียว ก็มีพี่แวว ก็มาเคยคิดในใจว่าเออ..เป็น เป็นภาษาอีสานด้วย ถ้าได้เล่นคงฮาน่าดูเลยเพราะว่าเราพูดอีสาน แต่ก็พูดในใจตัวเอง ปรากฎว่าหนังมันจะปิดกล้องอยู่แล้ว พี่หม่ำก็เลยมาถามว่าเอาสักดอกไหม หมายถึงว่าเอาสักฮาไหม สักมุขไหม ก็เลยพูดกับพี่หม่ำว่าหนูจะฮาไม่ฮาอยู่ที่พี่นะ แต่พี่สั่งให้หนูทำอะไร หนูทำได้หมดพี่ก็รู้ รับเชิญสักฉากก็ได้นะ พี่หม่ำก็เลยมะมาเจอกันจริงๆ แล้วฉากสาวน้อยตกน้ำในแหยมยโสธรไม่มีในบท แต่ด้วยความที่พี่หม่ำอยากให้น้องได้แสดงความสามารถ อยากให้น้องได้ไปเจอ นอกจากเจอในรายการ เจอว่าพวกหนังเขาทำกันยังไง อยากให้ประสบการณ์น้องไม่มากก็น้อย ก็ลองไปเล่นดูพี่หม่ำนัดที่กอง 6 ทุ่มเที่ยงคืนตี 1 เราไปถึงก่อนประมาณ 5 ทุ่ม พี่หม่ำก็บอกว่าเล่นเป็นฉากสาวน้อยตกน้ำไม่ต้องซ้อมอะไรมากเอาจริง ก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าฉากตอนตี 3 ช่วงนั่นเป็นช่วงหน้าหนาวพอดี พี่หม่ำก็ถ่ายตุ๊กกี้ก่อน ใครก็ได้โยนไปเลยแต่ว่ากดให้ตุ๊กกี้ลงเองๆตกน้ำประมาณ 5 รอบแล้วแบบให้ทำหน้าหนาวโกรธหนาวแค้นก็ทำให้พี่หม่ำดูโกรธหนาวแค้นแต่ปากที่ทำ ไม่ได้ทำเองค่ะ มันสั่นเพราะมันหนาว เพราะตกตั้งแต่ตี 3-4 แล้วพอพี่หม่ำจับโยนร่วมแล้วก็ตี 5 ครึ่ง ไม่ได้คิดคาดฝันว่าฉากนี้จะติดตาต้องใจท่านผู้ชมทุกคน ปรากฎว่าสาวน้อยตกน้ำที่พี่หม่ำรับเชิญเป็นฉากเล็กๆ คนจำตุ๊กกี้ได้พอจำตุ๊กกี้ได้ปุ๊บก็มาดูชิงร้อย อ๋อ......ไอ้คนที่มันตกน้ำในแหยมยโสธรพ่วงความดัง ก็เลยทำให้คนรู้จักมากยิ่งขึ้นและยิ่งทำให้คนเพิ่มคำว่าเด็กปั้นพี่หม่ำนี้ละค่ะ Q.เป็นหนึ่งในเด็กปั้น รู้สึกอย่างไรกับบทบาทในการเป็นผู้กำกับของหม่ำ จ๊กม๊ก ตุ๊กกี้ : พี่หม่ำกับคำว่าผู้กำกับ สัมผัสกับคำว่าผู้กำกับตอนเล่นในชิงร้อยค่ะ เพราะพี่หม่ำจะเป็นคนชอบพูดสอดแทรกมุขสอดแทรกบทต่างๆนาๆ ช่วยผู้กำกับชิงร้อย ช่วยครีเอทีฟ พี่หม่ำก็จะบอกตุ๊กกี้อย่างงั้น เท่งอย่างงี้โหน่งอย่างงี้....คือความเป็นผู้กำกับเขาเหมือนกับ เขากลมกลืนมาจากบอดี้การ์ดบ้างแหยมบ้าง เขาก็มาใช้ในรายการ ทำให้ได้เห็นในความเป็นผู้กำกับของเขา แต่พอมาเล่นในแหยมอันนี้ไม่ได้คลุกคลีมากอันนี้ ไม่มีบทพูด แต่รู้แค่พี่เขา...ส่วนใหญ่แล้ว เขาให้เล่นเป็นตัวเองง่ายๆหน่อย พอได้มาเจอพี่หม่ำในบอดี้การ์ด 2 ก็ไปรับเชิญซีนหนึ่งไปร้องเพลง ก็มารับความรู้ของพี่หม่ำในอีกแบบหนึ่ง ว่าการเลียนแบบ แต่ไม่ใช่ว่าเลียนแบบ เป็นตัวเขาเลย เอาแค่บุคลิกนิดๆบวกกับตัวจริงของเราทำให้รู้ว่าพี่หม่ำให้ความรู้เราเรื่องหนึ่งละ ผู้กำกับไม่ได้ปล่อยเลยตามเลย คือบอกแล้วจบ บอกแล้วก็จำแล้วให้ทำตาม พอมาสัมผัสในเรื่องว้อพี่หม่ำเป็นโปร์ดิวเซอร์ ในเรื่องพี่หม่ำบอกพี่จง(ผกก.)ตลอดเวลาพี่จงนี่คือผู้กำกับ พี่หม่ำจะบอกพี่จงว่าให้ตุ๊กกี้เล่นไปก่อนชอบไม่ชอบเทคแล้วให้ทำใหม่แล้วก็เพิ่มแต่ปรากฎว่าเล่นในเรื่องว้อตั้งแต่ต้นจนจบเล่นเองหมดเลยแล้วก็มีพี่หม่ำมาแก้บางอันตรงที่ว่าให้ทำโอเวอร์ขึ้น คือตัวเราทำได้แค่เวอร์อย่างเดียว แต่พี่หม่ำเขาอยากได้โอเวอร์ดับเบิ๊ลค่ะก็เลยอ้าวความเป็นผู้กำกับเขาเริ่มมาอีกแล้ว แต่เรื่องวงษ์คำเหลา สัมผัสได้ว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นนักแสดง มีความเป็นศิลปินด้วย Q.สิ่งที่ตุ๊กกี้ได้จากผู้ชายคนนี้ ตุ๊กกี้ : กฎข้อ 1 ที่ทุกคนต้องมีไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่รุ่นเก๋ารุ่นกึ้กส์ ก็คือตรงต่อเวลา พี่หม่ำเขาเป็นคนมาช้าไม่เป็นเพราะ เขามาเร็วมากมาก่อนทุกคนมาก่อนเสื้อผ้า ฝ่ายคอสตูมท์นี้จะมาก่อนตามอันดับ แต่พี่หม่ำเขาจะมาถึงก่อน มาเสร็จปุ๊บจะมานอนรอหรืออะไรก็ช่าง แต่เขาจะมาถึงก่อน พอถึงเวลาเข้าฉากปุ๊บ มันจะมีเบรคดาวน์บอ กเขาจะรู้ได้เลยว่าตัวเขาจะมาแต่งตัวตอนไหนจะมาทำผมตอนไหน ถ้าไม่ถึงซีนเขาจะไปอยู่หน้ากองไปอยู่หน้าเซ็ทจะบอกนักแสดงที่ อยู่ในซีนแต่ละคนไล่เป็นคนๆไป แล้วที่สำคัญคือตุ๊กกี้ชอบพี่หม่ำตรงที่เขาจะบอกตุ๊กกี้ หรือไม่ว่าจะเป็นพี่ฮาย ไม่ว่าจะเป็นแม่แดง ไม่ว่าจะเป็นพี่แววไม่ว่าจะเป็นอรชร เขาจะให้ทุกคนเล่นเป็นตัวเอง แต่คำพูดขอนิดหน่อยด้วย ความเป็นผู้กำกับของเขาๆจะบอกไดอาล็อคแล้วก็เล่นให้ดูหนึ่งรอบ พอเล่นหนึ่งรอบปุ๊บ ให้เล่นเป็นตัวเอง แต่ตามไดอาล็อคของพี่หม่ำ พูดง่ายๆคือมีตัวอย่างให้เห็นทำให้ทุกคนไม่มีพลาด เพราะมีตัวอย่างให้ดูแล้ว เขาเล่นเป็นตัวใคร เขาจะเหมือนคนนั้นไปเลย นี่คือความเป็นพี่หม่ำในบทบาทของผู้กำกับ ก็คือว่าอธิบายอย่างเดียวทำให้ทุกคนไม่เห็นภาพ บ้งคนก็จะมีการแสดงที่แตกต่างกันไป แต่พี่หม่ำเขาจะเล่นเป็นตัวอย่างให้ดู ทำให้เราจะเล่นได้ไม่เพี้ยนเลย คือผู้กำกับเล่นให้ดูก็คือแสดงว่าเขาอย่างได้แบบนี้ค่ะ นี่หล่ะค่ะก็คือพี่หม่ำทำให้สบายในการแสดงในเรื่องนี้สบาย ที่ได้เล่นกับผู้กำกับเรื่องนี้ สบาย แล้วก็ไม่เกร็งที่จะได้แสดงในภาพยนตร์ที่พี่หม่ำกำกับในทุกๆเรื่องเลยค่ะ Q.มีอะไรอยากจะบอกกับผู้ชายที่ชื่อหม่ำ จ๊กม๊กคนนี้ไหม ตุ๊กกี้ : อยากฝากบอกพี่หม่ำ จริงๆแล้วพี่หม่ำเขารู้สึกได้ด้วยตัวเขาเองนะค่ะว่าตุ๊กกี้เป็นคนยังไง เพราะไม่ว่าเวลาที่พี่หม่ำจะทำหนังเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เรื่องอลังการเรื่องอะไร พี่หม่ำจะคิดถึงตุ๊กกี้ ฉะนั้นแล้ว ตุ๊กกี้เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในสายตาพี่หม่ำๆไม่เคยทอดทิ้งน้อง พี่หม่ำเป็นคนที่คอยหยิบยื่นโอกาสไม่ว่าจะเป็นโอกาสเล็กๆโอกาสใหญ่ๆ โอกาสใหญ่มาก พี่หม่ำจะถามตุ๊กกี้ตลอดเวลาว่าสนใจไหมไปเล่นไหมจะถามตลอดแต่ถ้าตุ๊กกี้บอกว่าไปปุ๊บ ถึงแม้ว่าพี่หม่ำจะชวนเล่นๆแต่ว่าการชวนเล่นๆของพี่หม่ำได้เล่นจริงๆ โดยเฉพาะหนังเรื่องนี้จริงๆแล้วตุ๊กกี้ไม่ได้เล่นหนังเรื่องนี้ ตุ๊กกี้ไม่ได้เล่นเลย เพราะว่าไม่รู้ว่าบทนี้เป็นใคร คือพี่หม่ำไม่ได้คิดถึงตุ๊กกี้ เพราะพี่หม่ำให้ตุ๊กกี้เล่นแหยม เรื่องนี้ก็คือเบรคไป แต่พอตุ๊กกี้ถามพี่หม่ำว่าพี่หม่ำๆทำหนังเหรอ เออ ทำหนังเรื่องวงษ์คำเหลาหนังเป็นยังไงพี่ พาพี่หม่ำคุย พี่หม่ำก็เลยเล่าให้ฟังว่าเรื่องมันเป็นอย่างงั้นอย่างงี้ก็เลยบอกพี่หม่ำว่าหนูอยากเล่นจังเลยค่ะพี่ เอางี้ไปขอเวิร์คพอยท์ถ้าเวิร์คพอยท์อนุญาติพี่ก็จะให้เล่น เลยไปขอเวิร์คพอยท์ถ้าเป็นพี่หม่ำเวิร์คพอยท์ก็อนุญาติอยู่แล้วค่ะ ก็เลยได้ มาบอกพี่หม่ำเวิร์คพอยท์เขาอนุญาติหนูแล้วนะ ก็เลยทำให้มีความรู้สึกว่าพี่หม่ำเอ็นดูหนู รักพี่หม่ำนับถือพี่หม่ำๆเป็นทั้งคุณครู เป็นพี่ชายเป็นคนๆหนึ่งที่นับถือรองจากพ่อแม่ค่ะ พี่หม่ำเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วอบอุ่นปรึกษาได้ทุกเรื่องทำให้ตุ๊กกี้รักพี่หม่ำแบบเกรงใจรักแบบนับถือจริงๆค่ะ Q. ถ้างั้นต้องแนะนำกันหน่อยแล้วละว่ารับบทเป็นใครอย่างไรในวงษ์คำเหลา ตุ๊กกี้ : สำหรับภาพยนตร์เรื่องวงษ์คำเหลารับบทเป็นหญิงนุชค่ะ หญิงนุชคือใครหญิงนุชคือน้องสาวของท่านเป้ารับบทโดยน้องแจ้ง(ยอดชายอะเฮ้ยจากแหยมยโสธร)แล้วก็หญิงนุชเป็นแฟนของพี่หม่ำเป็นแฟนของพี่ชายเพชรนะค่ะ หญิงนุชมาคลุกคลีกับครอบครัวพี่หม่ำได้ยังไง เพราะว่าชอบเขาและเข้าทางน้องสาวเขา น้องสาวคือพี่ฮายอาภาพร หญิงนุชเป็นผู้หญิงที่เพิ่งเรียนจบจากเมืองนอก แต่งตัวหรูหราไฮโซ ขนเฟอร์ ทุกอย่างรูปลักษณ์ภายนอกแต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศยิ่งกว่าลิเกอีกค่ะเพราะว่าหญิงนุชเป็นคนโอเวอร์ แม้แต่คำพูดเอาตั้งแต่คำพูดเลยนะค่ะหญิงนุชจะเป็นคนพูดสำเนียงไม่ชัดจะเป็นคนพูดสำเนียงตัวอาร์ เพราะจบนอกค่ะ จะพูดไทยไม่ชัด จะเวอร์ตั้งแต่การแต่งตัว เวอร์ทั้งคำพูดกิริยามารยาท ทำให้คุณชายเพชรนี้ถามว่าพอใจกับพฤติกรรมหญิงนุชไหม ไม่พอใจ แต่เขาเป็นเพื่อนน้องสาวก็เลยต้องคุยๆๆกันกับหญิงนุชบ้าง Q.หรือเรียกสั้นก็คือ ตัวอิจฉา ตุ๊กกี้ : หญิงนุชในบทวงษ์คำเหลาพูดสั้นๆเลยเอาแบบบ้านๆเลยเป็นนางอิจฉาเป็นตัวอิจฉาๆนางเอก ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้พระเอกถึงแม้เขาจะเล่นด้วยไม่เล่นด้วยก็ตามจะโมเมตีโพยตีพายแกล้งทุกอย่างกับนางเอกเป็นตัวอิจฉานั่นหล่ะค่ะ Q.บทนี้เต็มไปด้วยสีสันจนถึงขั้นขโมยซีน สำหรับตุ๊กกี้แล้วมีการเตรียมตัวหรือมีเทคนิคอย่างไรเป็นพิเศษ ตุ๊กกี้ : สำหรับบทการแสดงของหญิงนุชนะค่ะ มีเทคนิคการเล่นการแสดงของหญิงนุช มีอย่างเดียวคือแรดๆๆแบบน่าหมั่นไส้แต่ว่าเกลียดไม่ลงเพราะมันมีความฮาอยู่ในตัวเอง หญิงนุชเป็นคนพูดไม่ชัดตัวอารู้ได้เลยว่าต้องเป็นสำเนียงของหญิงนุช เพราะว่าเสียงแหลมเสียงกรี๊ดนี้ของพี่ฮายชัดถ้อยชัดคำ ส่วนหญิงพลอยพี่แวววาว (จ๊กม๊ก)จะเป็นคนที่ละเมียดละไมเรียบร้อยอึมคึม เป็นหญิงแก่ ส่วนแม่แดงก็จะเป็นไฮโซเรียบร้อย อรชรก็จะตลกโปกฮา ในการรับบทหญิงนุช เนี้ยะรับเล่นแล้วไม่กลัวทางบ้านไม่พอใจ ไม่พอใจละค่ะ หญิงนุชดูเป็นคนที่น่าหมั่นไส้แต่เป็นตัวอิจฉาที่ฮาค่ะ ตัวอิจฉาที่ตลกแต่ว่าพี่หม่ำเขาทำหนังเรื่องนี้เพราะเขารู้ว่าตุ๊กกี้เล่นเพราะอะไรเพราะถึงจะเอามาเล่นร้ายแค่ไหน คนก็ไม่เกลียดค่ะ ก็จะเน้นฮาเนี่ยะค่ะ Q.วงษ์คำเหลาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ตุ๊กกี้ : ในหนังเรื่องวงษ์คำเหลาเนี่ยะนะค่ะ จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องราวของตระกูล2 ตระกูล ตระกูลของตุ๊กกี้ ก็จะเป็นตระกูลไฮโซ ก็จะมีพี่เป้าเป็นพี่ชายคือแจ้ง มาคลุกคลีกับ คุณแม่นี่คืออยากให้ชายเพชรแต่งงานกับหญิงนุชๆก็คือตุ๊กกี้เองอยากให้พี่หม่ำแต่งงานกับตุ๊กกี้หมายมั่นปั้นมือไว้เพื่อสินสอดจะได้ไม่รั่วไหลไปไหนจะได้อยู่ในบ้านของเรา แต่ปรากฎว่าชายเพชรเขาก็มีคนของเขาอยู่แล้วซึ่งเขาไปหลงแอบชอบคุณครูของจูเนียร์ที่เป็นน้องชาย(รับบทโดยเหลิมหม่ำโชว์) ชายเพชรเนี่ยะเขาก็มีคนแอบปลื้มอยู่แล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็คือจั๊กจั่นหรือพิรมน นางพิรมนนางตัวดี(ออกเสียงแบบมีตัวอาร์)นี่แหละค่ะ ทำให้ความเป็นมาเป็นไปหญิงนุชที่คุนแม่ปั้นมือไว้กับชายเพชรระหองระแหง ชายเพชรก็ไม่ค่อยสนใจเลย หญิงนุชก็เลยทำทุกวิถีทางนี่หล่ะค่ะเพื่อครอบครองหัวใจชายเพชร Q.หนักอกหนักใจไหมสำหรับการมารับบทไฮโซแบบนี้ ตุ๊กกี้ : ตอนแรกที่รับบทมา ไม่รู้ว่าต้องมาเล่นอย่างนี้ รู้แต่ว่ามาเล่นเป็นไฮโซ จริงๆแล้วตุ๊กกี้เคยแต่งมาหมดแล้วจะเป็นไฮโซ โลโซ แม่ค้า เด็กแว้นไม่แว้นทุกอย่างในชิงร้อยนะคะ แต่ว่าเรื่องนี้มันมีจุดเด่นตรงที่ว่าชุดของเขามันโอเวอร์จริงๆเหมือนเดินมาจากแคทวอล์ค เดินมาแล้วโพสต์ท่า โพสต์ทุกท่าอย่างเดียว แอ็คอยู่นั้นแหละไม่รู้จะแอ็คอะไรนักหนา แต่ว่าถามว่าพร้อมไหมพร้อมค่ะเพราะว่าในเรื่องเป็นไฮโซแบบตลกค่ะ ถามว่าตุ๊กกี้เล่นได้ไหมเล่นได้ถนัดไหม ถนัดค่ะ เพราะว่าในการเล่นชิงร้อยบางครั้งก็เล่นกระมิดกระเมี้ยนกับพี่หม่ำอย่างเนี้ยะค่ะ แต่ว่าอันนี้มันดูแล้วเต็มที่ๆจริงๆเพราะว่าทั้งชุดเอย คำพูดคำจาก็มีซ่อมบ้าง บางทีก็หลุดนะค่ะลืมตัวอาร์ พี่หม่ำก็จะสั่งเทคแล้วก็มากะซิบว่าอย่าลืมบทบาทตัวเองก็จะตัวอาร์ ตลอดเวลาคะ ก็เต็มที Q.ทราบมาว่าแค่เฉพาะเสื้อผ้าอาภรณ์ของตัวละครตัวนี้ก็ไฮโซหรูหราอลังการมากๆ ตุ๊กกี้ : ในภาพลักษณ์ของความเป็นหญิงนุชนะค่ะ หญิงนุชแต่งตัวนานมาก นัดกองตี 5 ตี 5ครึ่งหญิงนุชนั่งเก้าอี้เป็นคนแรกค่ะ และก็เข้าฉากเป็นคนสุดท้ายเพราะว่าอะไรค่ะเพราะทรงผมต้องไปดูในหนังเพราะทรงผมหญิงนุชเยอะแยะมากมาย เพราะผมจริงก็เยอะอยู่แล้วแถมวิคอีก 2 ก้อนเวอร์ที่สุดเท่าที่จะเวอร์ได้ ทรงผมไม่ไป ไปที่หน้าค่ะ ถ้าเป็นชิงร้อยสีแดงสีเขียวสีส้มแต้มไปเถอะค่ะ ฮาอย่างเดียวแต่งในเรื่องนี้ไม่ได้เขาต้องละเมียดละไม คิ้วเอย ตาเอย ขนตาเอย ตั้งแต่เล่นมาคือขนตาไม่ซ้ำค่ะนอกจากคอนตินิวท์ ถ่ายซีนเดิม ถ้าไม่คอนฯมาเป็น10 แล้วก็มาที่เสื้อผ้าๆหญิงนุชเป็นเอกลักษณ์คือเข้าจะใส่ขนเฟอร์แล้วก็ขนสัตว์ มีทั้งม้ามีทั้งเสือๆเล็กเสือใหญ่เสือน้อยลูกเสือและที่สำคัญคือมีงูเหลือมด้วยค่ะ เอาหละสิค่ะ หญิงนุชมีทุกประเภทและที่สำคัญ เยอะกว่านางเอกอีกค่ะจะบอกไว้ก่อนนางเอกนี้คลุมๆโทนขาวสีครีมแต่ตุ๊กกี้ค่ะมีลายค่ะมีลายทุกชุด เลยค่ะ แถมเยอะกว่านักแสดงทุกคนเลย

Q.มีฉากไหนที่ประทับใจเป็นพิเศษไหม ตุ๊กกี้ : และมีอีกฉากหนึ่งนะค่ะเป็นสาวไฮโซเล่นน้ำกันก็จะมีพี่ฮายและเพื่อนสสาวพี่ฮายอีก 4 คนและมีตุ๊กกี้ด้วยแล้วต้องแต่งชุดว่ายน้ำเหมือนกันโอ้ยแต่ชุดว่ายน้ำคนอื่นเขาเซ็กซี่กันหมดค่ะ แต่ของตุ๊กกี้เป็นชุดเด็ก ตุ๊กกี้ก็บอกกับฝ่ายเสื้อผ้าว่าหนูไม่เอาโป๊นะค่ะ หนูอาปรากฎว่าพี่ฝ่ายคอสตูมท์เขาก็สั่งชุดมา มาเลยเป็นชุดเด็ก ตุ๊กกี้ใส่ชุดว่ายน้ำเด็กค่ะ ตั้งแต่หัวจดเท้าและที่สำคัญเด็ดไปกว่านั้นตุ๊กกี้ว่ายน้ำไม่เป็นค่ะแต่ต้องกระโดดลงไปในสระค่ะ ตูมๆๆๆๆเป็นคนสุดท้าย สำหรับการกระโดดน้ำตามปกติมนุษย์ทุกคนที่ต้องกระโดดน้ำไม่ว่าจะเป็นเบสิคหรือว่าไม่มีเบสิคทุกคนกระโดดน้ำได้หมด แต่ปรากฎว่าในการกระโดดน้ำพี่หม่ำมีท่าแปลกๆมาให้ทำ นั่นคือพี่หม่ำทำท่าให้ดูค่ะ เป็นท่ากบ ดูสิค่ะหุ่นอย่างนี้แล้วกระโดดกบ ยิ่งเหมือนกบมากยิ่งขึ้นเลยค่ะ กบตัวที่1กบตัวที่ 2 กบตัวที่ 3 ปรากฎว่าเขาทำท่ากระโดด แต่เขาไม่ลงน้ำ วิธีการกำกับของพี่หม่ำ เขาจะหาแพะรับบาปนั่นคือสั่งการให้ทีมพร็อพ(ทีมหาอุปกรณ์ประกอบฉาก) เลียนแบบท่าที่พี่หม่ำบอกแต่ให้โดดน้ำแทน โดยพี่หม่ำทำให้ดูบนบก คือทำให้นักแสดงเห็นภาพมากที่สุด ทำไม่ได้ให้มันรู้ไปปทุกคนก็เลยทำได้หมดค่ะ แต่ตุ๊กกี้ต้องแช่อยู่ในน้ำนานมากเกือบชั่วโมงทั้งหนาวทั้งสั่นแต่ก็สู้เต็มที่เลยค่ะ แต่ที่เด็ดสุดคือนอกจากให้นักแสดงโดดท่ากบ แต่ให้ว่ายน้ำเป็นท่าตัวเงินตัวทองลองคิดดูว่าจะฮาขนาดไหนค่ะ Q.ตัวเองว่ายน้ำไม่เป็นแล้วแก้ปัญหาอย่างไรในฉากนี้ ตุ๊กกี้ : พี่หม่ำเพิ่งรู้ตอนจะเข้าฉากค่ะว่าตุ๊กกี้ว่ายน้ำไม่เป็น แต่ก็ต้องลง ยังไงก็ต้องลงค่ะปรากฎว่าพี่หม่ำฉลาดค่ะ พี่หม่ำเอาห่วงยางมาใส่ให้ตุ๊กกี้คือโดดยังไงก็ไม่จมค่ะ ก็โดดลงไปก็ไม่จมเพราะมีห่วงยางอยู่ นี่คือการแก้ไขปัญหา แต่ตกใจคือสระว่ายที่ว่ายอยู่ตุ๊กกี้สูง 150 ซ.ม แต่สระว่ายน้ำสูง2 เมตรพูดง่ายๆก็คือยังไงก็ต้องท่วมหัวตุ๊กกี้ แต่มีห่วงยางอยู่เลยผ่านไปด้วยดี Q.ผู้กำกับก็ชวนขำซะขนาดนี้ แถมรวมนักแสดงระดับฮาขั้นเทพอีกต่างหาก อย่างนี้มีหลุดเทคกันกระจายเลยซิ ตุ๊กกี้ : พูดถึงสถิติการเทคนะค่ะ ส่วนใหญ่เทคน้อยมาก แต่การเทคของภาพยนตร์เรื่องนี้มีสาเหตุมาจากการหลุดขำนั่นเองจะมีหนึ่งในนักแสดงที่หลุดขำและทำให้เทค แต่บอกตรงๆขอเตือนก่อนเลยค่ะกรุณาอย่าเทคเพราะถ้าคุณเทคปุ๊บคุณเพ็ชรทายผู้กำกับเขาจะวิ่งเข้ามาทันทีเลยค่ะ วิ่งเข้ามาทำไมเหรอค่ะ วิ่งเข้ามาเติมไดอาล็อคมุกคำพูดเพิ่มทันทีเลยค่ะ ก่อนแอ็คชั่นมันจะมีคำพูดอยู่ 5 คำแต่พอสั่งเทคปุ๊บคุณเพ็ชรทายจะวิ่งมาเพิ่มอีก เป็น 10 คำค่ะ ฉะนั้นแล้วจำอันแรกก็ยังไม่ได้ต้องมาจำอันที่ 2 อีกเพิ่มไปเรื่อยๆคิดดูสิค่ะว่าทำไมนักแสดงเรื่องนี้ถึงไม่อยากเทคเพราะเทคปุ๊บ ผู้กำกับจะมาเสริมคำพูด แต่การเสริมทับของเขามันก็ฮานั่นละค่ะมันก็ฮาขึ้นไปเรื่อยๆๆๆ ถ้าเกิดถามว่าใครเทคมากที่สุดคงจะเป็นอรชร เด็กปั้นคนล่าสุดของพี่หม่ำ อรชรไม่ได้เทคเพราะคำพูดเขานะค่ะ เทคเพราะอากัปกิริยาเขาค่ะ เพราะแต่ละท่าของเขามันเต็มเหนี่ยวค่ะไม่ว่าพี่หม่ำจะให้ทำอะไร จะกระโดดม้วนหน้าม้วนหลัง โดนถีบ มันก็เลยมีหลายเทคจากลักษณะที่ว่าค่ะ ส่วนบรรดาทีมนักแสดงของวงษ์คำเหลา แต่ละคนถือว่าขั้นเทพไม่ว่าจะเป็นป๋าเล็ก(สมเล็ก ศักดิกุล)ก็เป็นนักแสดงคนหนึ่งที่ผ่านภาพยนตร์ ละคร ซิทคอมมาเยอะมากมาย ก็คือเป็นคนที่เจนเรื่องการแสดง ส่วนแม่แดงแม่แดงๆนี่เป็นนักแสดงรุ่นอาวุโสคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการร้องเพลงนั้นเยี่ยมยอดเป็นนักแสดงละครเวทีนี้ต้องให้เขาเลยพลังเสียงเทคนิคการแอ็คติ๊งต่างๆนาๆสองคนนี้ไม่เท่าไหร่มาเจอบุคคลนี้ ฮายอาภาพร เจ้าแม่ซิทคอม เจ้าแม่ละคร เจ้าแม่โชว์ เจ้าแม่หนัง หนังกี่เรื่องแล้วที่เขาแสดงได้รางวัลจากบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมจากหนังของพี่หม่ำด้วยการันตีเขา.. โอ้โห ..แล้วพี่หม่ำยิ่งไม่ต้องพูดถึงค่ะเพราะเขาเป็นทั้งผู้กำกับและเป็นทั้งพระเอกของเรื่องแล้วมาเจอนางเอกจั๊กจั่น แต่ละคนนี่คือผลงานนับไม่ได้มันเยอะจริงๆตุ๊กกี้ต้องทำการบ้านอย่างมากเพื่อที่จะมาประชันบทบาทไม่ด้อยไปกว่าเขาและทำให้อยู่ในบทบาทการแสดงที่เต็มที่เต็มร้อย ส่วนพี่อรชรรับบทเป็นพระพี่เลี้ยงรับบทเป็นคนที่คอยติดสอยห้อยตามไปตลอดเวลาบทนี้นะค่ะถ้าไม่ใช่คนที่ร่างกาย แข็แรงถ้าไม่ใช่คนที่ร่างกายสมบูรณ์ถ้าไม่ใช่คนที่กล้าเล่นทุกอย่างรับรองค่ะต้องเข้าโรงพยาบาลแต่พี่อรชรเขาทำได้บทนี้นะค่ะถ้าไม่ดังก็ไม่รู้จะว่าจะยังไงแล้ว...เพราะบทนี้พี่อรชรเขาเต็มที่ค่ะกินยาดมยาอมกินทุกอย่าง เชื่อเลยค่ะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ส่งให้เขาดังจริงๆค่ะ แล้วก็ภาพยนตร์เรื่องนี้รวมนักแสดงที่บอกได้เลยค่ะว่าไม่ธรรมดาเหมือนชื่อเขาค่ะ Q.ที่ผ่านมาคนจะนึกถึงคู่ขวัญอย่างหม่ำ-เจเน็ต มาเรื่องนี้เป็นคู่หม่ำ-จั๊กจั่น อยากให้เกจิอย่างตุ๊กกี้คอมเมนท์พระนางคู่นี้ดูบ้าง ตุ๊กกี้ : สำหรับพี่หม่ำนะค่ะ เขามีนางเอกคู่ขวัญนางเอกประจำตัวเขานะค่ะ ถ้าเป็นแหยมยโสธรก็พี่เจเน็ต เขียว ถ้าเป็นบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ก็พี่เจเน็ต เขียวอีกนั่นแหล่ะค่ะ เพราะทั้งคู่เขาเหมาะเจาะกันซินะ เพราะว่าเขาฮาเหมือนกัน เขาตลกเหมือนกัน เขาจึงเหมาะสมกันดีโยนมุขไปโยนมุขมาก็เลยฮา แต่เรื่องนี้จั๊กจั่นซิค่ะ มองภาพไม

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ บทสัมภาษณ์ที่จะทำให้คุณรู้จักกับ ตุ๊กกี้ชิงร้อยชิงล้าน สุดารัตน์ บุตรพรม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook