เปิดใจอนันดา ในThe Leap Years

เปิดใจอนันดา ในThe Leap Years

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เปิดใจ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม กับทุกคถามที่คุณอยากรู้ในภาพยนตร์ โรแมนติก ในต่างแดนเรื่องแรกของเขา The Leap Years : ภาพยนตร์สิงคโปร์เรื่องราวของพรหมลิขิต ที่นำพาคน 2 คน ให้มาพบกัน

The Leap Years ใช้เวลาถ่ายทำนานกี่ปี อนันดา: ประมาณ 4 ปี ประมาณปีอะไรคะ อนันดา: 2004 ประมาณ 3 ปี ครึ่ง เป็นหนังที่ผู้หญิงดูแล้วเค้าชอบแหละ อนันดาไปเล่นหนังเรื่องนี้ได้ยังไงครับ อนันดา: ไม่รู้ใครเอาเทปบันทึกไปให้เค้าดู แล้วเค้าก็บอกว่า เนี่ย เค้าจะเอาไอ้เนี่ย ไอ้เนี่ยที่มาแคสต์เนี่ย ก็กลายเป็นว่าไอ้ละครทีวีที่ผมได้เนี่ย เค้าก็แคนเซิลไป ก็คือสตูดิโอเนี่ยเค้าบังคับให้ผมแคนเซิลละครทีวีเพื่อมาเล่นหนัง ประมาณนั้น

รับทันทีเลยหรือเปล่า? อนันดา:ก็ไม่ถึงขนาดทันทีหรอก แต่ว่าเราก็ไปคุยกับผู้กำกับก่อน อ๋อ จำได้แล้วว่าผู้กำกับเค้าทำอะไรมาก่อน เค้าเคยทำไอ้นี่ เคยดู Woman on Top ป่ะ ที่ เพนเนโลเป้ ครูซ เล่นน่ะ คือเค้าเป็นผู้กำกับคนนี้ คนแรกที่เค้ารับเข้ามาคือคนนี้ แล้วคนที่กำกับสุดท้ายเนี่ยคือคนที่อยู่ใน จีนเนี่ย จีนเค้าเป็นโปรดิวเซอร์ เค้าเป็นเจ้าของโปรดักชั่นเฮ้าส์ที่จ้างผู้กำกับคนนี้เข้ามาทำ แล้วพอดีตอนนั้นผมไปคุยกับผู้กำกับคนนี้แล้วเหมือนกับถูกคอกันน่ะ คุยกันรู้เรื่อง แล้วเค้าก็บอกว่าเชื่อใจเรานะ บทมันค่อนข้างดี อย่างนู้นอย่างนี้ อะไรอย่างเงี้ย ผมก็โอเคๆ ถ้างั้นก็อย่างที่ผมบอก ผมก็ยอมแคนเซิลละครทีวีไป แล้วมาเล่นของเค้าแทน

แล้วละครทีวีตอนนั้นได้รับบทอะไร เป็นบทสำคัญหรือว่าพิเศษอะไรหรือเปล่า? อนันดา: ตอนที่เค้าแคสต์เราเนี่ย แคสต์ที่เอเจนซี่ของเค้าเนี่ยมันจะต่างจากเราตรงที่ เค้าแคสต์เป็นโปรไฟล์ เค้าไม่ได้แคสต์เจาะจงเป็นผมหรอก โปรเจ็คต์อันใดก็ตามเนี่ย เค้าจะเอาบทหลายๆแบบมา อย่างอันที่ผมแคสต์ไปเนี่ย เค้าเอาบทจาก Sex and the City มาให้ผมเล่น แล้วก็มีบทตลก มีบทดราม่า มีอะไรเงี้ยให้เราลองหลายแบบ แล้วรู้สึกว่าเค้ามาโดนฉากดราม่าหรืออะไรซักอย่าง จำได้มันมีอันนึงที่ผมแคสต์แล้วต้องนอนอยู่บนเตียง แล้วแบบ อย่าทิ้งผมไปนะ อย่าไป อยู่กับผม อะไรเงี้ย แล้วเค้าบอกเค้าชอบอันนี้มาก (หัวเราะ) ไม่รู้เหมือนกัน ประมาณนั้น ตัดสินใจนานมั้ยกว่าจะตอบรับ? อนันดา: คือจริงๆตอนนั้นน่ะ ผมอยากหนีจากกรุงเทพฯอยู่แล้วไง ก็ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเพราะบท แล้วก็อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราอยากออกไปจากกรุงเทพฯ ไปพักแป๊บนึง แล้วก็ไปทำงานที่อื่น ไปเจอคนใหม่ๆ อะไรเงี้ย อ่านบทแล้วเป็นไงมั่ง? อนันดา: ก็ดีครับ บทดีครับ บทมันน่ารักดีครับ แต่ยอมรับว่าเราก็ไม่เคยเล่นเป็นตัวละครแบบนี้มาก่อน ก็เกร็งมาก ก็กลัวว่าอะไรที่มันพระเอกจ๋าเนี่ย เราไม่ค่อยได้ทำ แล้วก็กลัวว่าจะเล่นไม่ได้ พูดตรงๆว่าตอนแรกก็เบื่อมากเลย แต่มีคนช่วยอยู่เยอะเหมือนกัน

แล้วนี่เล่นเป็นอะไร พระเอกเหรอ? อนันดา: ตัวละครที่เราเล่น ชื่อเจเรมี่ เจเรมี่เนี่ยมันเป็นคนสร้างกังหัน กังกันลมน่ะ แล้วตัวละครของมันก็จะเหมือนลม คือเป็นคนที่ลมพัดไปทางไหนก็ไปทางนั้น ไม่ค่อยอยู่กับที่ แล้ววันหนึ่งมันก็พัดมาที่สิงคโปร์ คือมันไม่มีดีเทลในบท แต่ว่ามันอยู่ที่สิงคโปร์ คือมันคงมาทำงาน หือกลับมาเยี่ยมครอบครัว หรืออะไรซักอย่าง แล้วก็มาเจอนางเอก วันที่ 29 กุมภา แล้วบังเอิญวันนั้นเป็นวันเกิดของเค้า แล้วก็หลงรักกัน มีเคมีอย่างนู้นอย่างนี้ แต่พอนิสัยมันเป็นคนที่ไม่อยู่กับที่เนี่ย วันนั้นมันก็ต้องไป เรื่องมันจะเกิดขึ้นตอนที่สองคนนี้เค้ารับปากว่าอีก 1 ปีเราจะมาเจอกันนะ วันที่ 29 เราจะกลับมาเจอคุณ ในวันเกิดของคุณ อะไรทำนองเนี้ย มันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงจากกาลเวลา และความรักระหว่างสองคนนี้ แล้วการทำงานเป็นไงบ้างครับ เห็นบอกว่าอยากหนีจากกรุงเทพฯ อนันดา: ไอ้ส่วนที่อยากหนีเนี่ย มันไม่เกี่ยวอะไรกับงานหรอก อยากไปอยู่ในที่ที่เราไม่รู้จักคน อยากไปอยู่ในที่ที่ไม่มีใครโทรหาผมได้ คือหนีน่ะ นึกออกป่ะ แล้วเค้าก็ดีกับผมมาก เค้าให้ผมไปก่อนเปิดกล้องประมาณ 3 เดือนครึ่ง ช่วงนั้นเนี่ย เค้าก็เช่าเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์สวยๆให้ผมอยู่ แล้วผมก็ไม่ทำอะไร ก็นอน ดูดีวีดีไป เดินเล่น อะไรเงี้ย แล้วไม่มีใครรู้จักเรา อ๋อ ก็มีรู้จักบ้าง เพราะชัตเตอร์เพิ่งฉายไป แต่คือมันต่างจากกรุงเทพฯมากไง มันก็เลย...อย่างที่รู้กันน่ะว่าบางทีผมมีปัญหาเรื่องนอน พอไปแล้วก็เหมือนได้คลายเครียด แล้วก็บำบัดจิตตัวเองในเวลาเดียวกัน

แล้วการทำงานล่ะ ต่างไหม ต่างยังไงบ้าง อนันดา: ตอนแรกเราก็กะว่า เฮ้ย ไปทำงานที่อื่นมันต้องต่างกันใช่ป่ะ เหมือนกันเด๊ะเลย ทำหนังมันก็เหมือนกันหมดน่ะ คราฟท์การสร้างหนังเนี่ยมันเหมือนกันเลย คือมีทุกตำแหน่งเหมือนกันหมด เพียงแต่ว่าเค้าอาจจะมีคำย่อที่ต่างกัน แค่นั้นเอง แล้วต้องมีซ้อมกันก่อนไหมคะ เห็นว่าต้องมีเลิฟซีน ค่อนข้างใกล้ชิด อนันดา: ก็มีเวิร์คช็อป มันก็เกร็งอยู่เหมือนกันเพราะว่าตอนที่เราไปถึงที่นู่นเนี่ย ที่ผมบอกว่าไปเก็บตัวประมาณ 2-3 อาทิตย์เนี่ย นางเอกเค้าเพิ่งคลอดลูกมาได้ประมาณเดือนนึงมั้ง ภาพแรกที่เราเห็นนางเอกคือเค้าเป็นแม่ไง แล้วเราต้องมามีเลิฟซีนหนุงหนิงกับคนนี้ เราก็แบบติดภาพแม่แล้วอุ้มลูกน่ะ แล้วแฟนเค้าก็นิสัยดีเหมือนกัน เราก็สนิทกับแฟนเค้าอีก แฟนเค้าเป็นพิธีกร ชื่ออัลเลน วู เป็น nice guy มาก ก็เข้ากัน คนนี้จะพาผมไปเที่ยวตลอด ผมกลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวเค้า ฝากหนังหน่อย กับผู้ชมกันหน่อย อนันดา: สำหรับใครที่อยากดูหนังรัก ดี ๆสักเรื่องต้องไม่พลาดหนังเรื่องนี้นะครับ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ เปิดใจอนันดา ในThe Leap Years

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook