เรื่องย่อละคร เงารักลวงใจ
บทประพันธ์ พรดี (ณัฐิยา ศิรกรวิไล)
บทโทรทัศน์ จิรัฏฐ์ นิรดา
กำกับการแสดง กฤษณ์ ศุกระมงคล
ออกอากาศทุกวัน ศุกร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3
เรื่องย่อละคร เงารักลวงใจ
ณ บ้านอัศวธานนท์ รัญญา ทายาทคนเดียวของตระกูล อัศวธานนท์ ถูก เถลิง ผู้เป็นพ่อตบตีอย่างกราดเกรี้ยว หลังจากจับได้ว่าเธอแอบลักลอบได้เสียกับ มงคล คนขับรถ ซึ่งเพื่อปกปิดความอัปยศ เถลิงได้จับรัญญาขังไว้ในห้อง แล้วสั่งลูกน้องให้วางแผนฆ่ามงคล หากทว่ามงคลกลับไม่ตายไปตามแผน ซ้ำยังได้พบกับ บัว หรือครูบัวของเด็กๆ กำพร้าในบ้านทอฟ้า หญิงสาวใจดีที่มาช่วยชีวิต ทั้งยังนำเขาไปส่งโรงพยาบาลทันเวลา แต่เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองตกอยู่ในสภาพของคนพิการ ขาเดินได้ไม่ปกติ หนำซ้ำใบหน้ายังเต็มไปด้วยบาดแผลไฟไหม้พุพองดูน่ากลัว มงคลชอกช้ำและรู้สึกเศร้าที่ไม่มีที่ไป แต่บัวก็คอยให้กำลังใจเขา และชักชวนให้ไปอยู่ที่ บ้านทอฟ้า มูลนิธิรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอดูแลอยู่ หลังจากนั้นมงคลจึงกลายเป็น นายไม้ นักการภารโรงในมูลนิธิแห่งนี้ และเจียมตัวเจียมใจว่าเขาไม่ควรคิดกลับไปหารัญญาอีก เพราะมีแต่จะเป็นภาระของเธอและอาจทำให้เธอเป็นอันตราย เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่เกิดกับเขาเป็นการกระทำของเถลิง ไม่ใช่เพียงอุบัติเหตุ เขาจึงทนก้มหน้ารับกรรมอยู่ที่บ้านทอฟ้า ด้านรัญญา ที่เข้าใจผิดคิดว่ามงคลตายไปแล้ว เสียใจมาก แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเธอเพิ่งได้ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ !! รัญญาไม่แน่ใจว่าเถลิงจะยอมให้เธอเก็บรักษาชีวิตเด็กเอาไว้หรือไม่ จึงวางแผนหลอกผู้เป็นพ่อว่าต้องการจะไปเรียนต่อที่ต่าง ประเทศ เถลิงหลงเชื่อและยอมให้ไป รัญญารีบออกเดินทางทันทีก่อนที่พ่อจะระแคะระคาย และไปพักอยู่กับ ยุวรินทร์ เพื่อนรักตั้งแต่สมัยเด็กที่อาศัยอยู่ที่นั่น เธอและยุวรินทร์ช่วยกันประคับประคองทารกน้อยในครรภ์จนวันที่เด็กคลอดออกมาเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก ร่างกายสมบูรณ์ ผิวพรรณหมดจด รัญญาเห็นความน่าเอ็นดูของลูก อดไม่ได้ที่จะแอบหวังว่าบางทีเมื่อพ่อของเธอได้เห็นหลานแล้วอาจจะใจอ่อนยอมให้อภัยเธอและลูก จึงได้ตัดสินใจพาลูกสาวตัวน้อยบินกลับมายังกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงแผ่นดินเกิด โดยรัญญาพาลูกสาวไปฝากไว้ที่เนอสเซอรี่ก่อน เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องนี้ จนกว่าเธอจะได้สารภาพกับพ่อให้เรียบร้อย ก่อนออกไปจากเนอสเซอรี่รัญญาได้นำสร้อยที่มีจี้สลักอักษรย่อชื่อของเธอและมงคลห้อยติดตัวหนูน้อยเอาไว้ ซึ่งสร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยที่มงคลได้ให้เธอไว้ตั้งแต่สมัยที่แอบคบหากัน ขณะที่รัญญารวบรวมความกล้าเดินทางกลับไปยังบ้านอัศวธานนท์ เพื่อที่จะสารภาพความจริงที่ปกปิดมานับปี แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อเถลิงสืบเรื่องนี้ได้ก่อน เขารู้สึกเหมือนถูกหักหลัง โกรธมากจนไม่ฟังคำอธิบายใดๆ ได้แต่ต่อว่าและสาปส่งรัญญาอย่างรุนแรง รัญญาเสียใจมากเมื่อพบว่าหมดหนทางที่จะให้พ่อยอมรับหลาน เธอตัดสินใจกลับไปรับลูกที่เนอสเซอรี่ ออกจากอัศวธานนท์ครั้งนี้เธอตั้งใจจะหนีไปใช้ชีวิตกับลูกตามลำพัง ไม่ลังเลที่จะทิ้งทุกอย่างเพื่อลูก แม้ว่าต้องตกระกำลำบากแค่ไหนก็ตาม หากแต่สิ่งที่หญิงสาวคิด ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น เพราะว่าเถลิงได้สะกดรอยตามเธอไป เมื่อไปถึงเนอสเซอรี่ รัญญาต้องช็อคสุดขีด เพราะตึกแถวละแวกนั้นได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น เปลวไฟรุนแรงลุกลามไปจนถึงเนอสเซอรี่ที่เธอฝากลูกไว้!!! รัญญาได้ทราบข่าวว่าเด็กๆ ที่อยู่ที่นี่ต่างเสียชีวิตไปจนหมด หญิงสาวแทบขาดใจ เมื่อพบว่าสายใยรักเพียงหนึ่งเดียวระหว่างเธอกับมงคลต้องมาจากไปอย่างน่าสลดใจเป็นที่สุด ด้านเถลิงที่ตามมาพบเหตุการณ์ครั้งนี้เข้าพอดี สะใจเป็นอันมาก ที่มารหัวขนผู้เป็นความอัปยศของตระกูลอัศวธานนท์ได้ตายจากไปพร้อมกับกองเพลิง รัญญาเสียใจจนแทบจะคุมสติไว้ไม่ได้ เป็นเหตุให้ เมื่อทางโรงพยาบาลติดต่อมาเพื่อบอกเรื่องลูกของเธอว่ายังมีชีวิตอยู่และได้รับการช่วยเหลือไว้ที่โรงพยาบาล ไม่อาจจะสื่อสารถึงเธอได้ เถลิงเป็นผู้รับโทรศัพท์ และเขาไม่สนใจรับรู้ความจริงข้อนี้ ได้บอกกับทางโรงพยาบาลไปว่ารัญญาได้ตายไปแล้ว และไม่มีใครที่จะรับเลี้ยงเด็กผู้หญิงคนนั้นได้ทางโรงพยาบาลไม่มีทางเลือก ในที่สุดต้องส่งตัวเด็กน้อยไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า บ้านทอฟ้า ส่วนเถลิงนั้นได้พารัญญากลับไปยังบ้านอัศวธานนท์ในฐานะผู้ชนะที่ได้ทุกอย่างกลับคืนมา แต่ช่วงเวลาแห่งความลำพองใจของเถลิงมีได้เพียงไม่นาน ราวกับเคราะห์กรรมนั้นมีตาและตามมาทัน ชายชราถูกเล่นงานด้วยอาการโรคหัวใจกำเริบ ต้องพบกับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส และถูกหลอกหลอนด้วยภาพความผิดต่างๆ ที่ตัวเองเคยกระทำไว้ เมื่อในขณะสำนึกสุดท้ายแม้คิดจะเปิดเผยความลับเรื่องที่ลูกของรัญญายังมีชีวิตอยู่ เพื่อไถ่บาปที่ติดตัว ก็ยังไม่สามารถทำได้ เขาตายไปพร้อมกับความลับนั้น และตายในสภาพโดดเดี่ยวไร้คนเหลียวแล หลังเสร็จจากงานศพของเถลิงแล้ว รัญญาตัดสินใจไปทำบุญให้ลูกน้อยของเธอ และตั้งใจจะไปวางดอกไม้ที่เนอสเซอรี่ด้วยความอาลัย แต่แล้วกลับได้รับรู้ข้อมูลที่ไม่คาดฝัน มีหลายคนยืนยันว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนั้นไม่ได้คร่าชีวิตเด็กไปทั้งหมด มีเด็กหลายคนที่รอดตาย และถูกส่งตัวไปยังมูลนิธิต่างๆ รัญญากลับมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าลูกน้อยของเธอยังมีชีวิตอยู่และตั้งใจที่จะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมี เพื่อตามหาลูกให้พบ ไม่ว่ามันจะยากเย็นสักเพียงใดก็ตาม 18 ปีต่อมา ข้าวหอม เด็กสาวหน้าตาดี เติบโตขึ้นในบ้านทอฟ้า ได้รับของขวัญวันเกิดจากแม่บัว ผู้จัดการมูลนิธิ ที่เธอรักและเคารพราวกับเป็นแม่แท้ๆ ของขวัญที่แม่บัวให้ข้าวหอม คือ สร้อยพร้อมจี้ ซึ่งเป็นของสิ่งเดียวที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิด เด็กสาวมีความสุขมาก ต่างจาก รตี ซึ่งอึดอัดกับวันเกิดของข้าวหอมเป็นที่สุด ถึงพวกเธอจะเติบโตมาพร้อมกันในบ้านทอฟ้า และรตีเองเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของข้าวหอม แต่ลึกๆแล้วใจของเธอมีแต่ความอิจฉาริษยา เธอมีนิสัยแตกต่างจากข้าวหอมทุกอย่าง ทั้งเกียจคร้าน ฉาบฉวย เจ้าอารมณ์ และเห็นแก่ตัว นั่นทำให้ใครต่อใครต่างเปรียบเทียบเธอกับข้าวหอมเสมอ จนหลายครั้งรตีต้องระบายออกความน้อยเนื้อต่ำใจด้วยการไปกลั่นแกล้งข้าวหอม แต่ด้วยความเป็นคนจิตใจดี ทำให้ข้าวหอมอภัยให้กับรตีทุกครั้ง นอกจากอุปนิสัยที่ต่างกันมากมายแล้ว รตียังกร้านโลก และช่ำชองมากกว่า เธอริมีความรักตั้งแต่ยังเด็ก รตีแอบคบกับ มังกร เด็กหนุ่มในบ้านทอฟ้าเหมือนกัน เขาเป็นชายหนุ่มที่โตที่สุด และยังเป็นคนที่สร้างความเดือดร้อน ให้คุณบัวต้องคอยสะสางอยู่เสมอ แต่เพราะความหน้าตาดี ทำให้รตีหลงเสน่ห์ และยอมเชื่อฟังมังกรทุกอย่าง แม้ว่าเขาจะชักนำเธอไปในหนทางผิดๆ ก็ตาม ขณะเดียวกัน ที่บ้าน กำธรภูวนาท ภูผา หนุ่มใหญ่ผู้เป็นคนดูแลที่ดินแห่งบ้านทอฟ้า กำลังต่อว่า โตมร น้องชายของเขาที่วางโปรเจ็คท์จัดสรรที่ดินในบ้านทอฟ้าให้เป็นรีสอร์ท เพราะภูผาต้องการให้บ้านทอฟ้าเป็นที่พักพิงของเด็กกำพร้าต่อไป ขณะที่โตมรกลับต้องการหาผลประโยชน์จากที่ผืนนี้ ภูผา เป็นคนจิตใจดี และใจบุญ ผิดกับโตมรกลับโลภมากและทำได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ภูผามีลูกชายหนึ่งคนคือ นาวา ซึ่งถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีและเพียบพร้อมทุกอย่าง นาวาเป็นคนหนุ่มที่มีไฟและความมุ่งมั่นพยายาม เขารักและทุ่มเทในกีฬาฟันดาบยิ่งกว่าอะไรหมด แต่แล้วกลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน ทั้งที่เป็นตัวเก็งเข้าร่วมทีมชาติ แต่ก่อนหน้าวันคัดตัวเพียงวันเดียว เรื่องไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เหตุการณ์นี้ฉุดคร่าความฝันที่ยิ่งใหญ่ของเขาไป ขาทั้งสองที่เคยยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง มาวันนี้กลับใช้การไม่ได้ อดีตนักกีฬาอนาคตไกลต้องตกอยู่ในสภาพคนไข้ขาพิการ ที่ต้องนั่งเก้าอี้เข็นตลอดเวลา ทำให้นาวาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากเด็กหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความร่าเริงกลายเป็นคนเก็บตัวและโมโหร้าย ที่ไม่ว่าใครก็เข้าหน้าไม่ติด ทางฝ่าย โตมร เองก็มีลูกชายหนึ่งคนเหมือนกัน คือ เตชิต เด็กหนุ่มไฟแรงที่สามารถทำงานแทนโตมรได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่โตมร คอยอิจฉาริษยาภูผาผู้เป็นพี่ เขาจึงกดดันเตชิตให้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือไม่ก็ตาม และหากเตชิตขัดคำสั่งก็จะถูกต่อว่าราวกับไม่ใช่ลูก ด้วยเหตุนี้เตชิตจึงมีสภาพไม่ต่างกับหุ่นยนต์ที่ไร้หัวใจ เพราะไม่เคยได้รับความรักและเอื้ออาทรจากผู้เป็นพ่อเลยแม้แต่น้อย หลังจากอุบัติเหตุของนาวาผ่านไปนับเดือน ภูผาเห็นว่าลูกชายยังเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง และจมอยู่กับทุกข์ เขาจนปัญญาที่จะเยียวยาจิตใจของลูก จึงได้ปรึกษากับครูบัว ซึ่งเป็นเพื่อนที่นับถือกัน ครูบัวอาสาที่จะช่วยดูแลนาวาให้ ภูผาจึงตัดสินใจส่งลูกชายไปพักผ่อนยังบ้านทอฟ้า เมื่อไปถึง นาวาได้เจอกับ ข้าวหอม เด็กสาวผู้เต็มไปด้วยความน่ารัก สดใส และมองโลกในแง่ดี ทั้งสองคนสนิทกันได้เพราะบัวมอบหมายให้ข้าวหอมช่วยดูแลนาวา ถึงแม้ว่าแรกๆ เขาจะเกรี้ยวกราดใส่ทุกคน แต่กับข้าวหอมเธอรับมือกับอารมณ์ร้ายของเขาได้อย่างชาญฉลาด และรู้ทันนาวาในหลายๆ ทาง อีกทั้งยังกระทำกับเขาราวกับเขาเป็นคนปกติ ไม่ทะนุถนอมมากจนเกินไป ไม่ใส่ใจความพิการของเขา การกระทำของข้าวหอมช่วยให้นาวาหลุดออกจากโลกที่เจ็บปวดของตัวเอง และรู้ว่าแท้จริงแล้วคนที่ดูถูกเขามากที่สุด ก็คือตัวเขาเองต่างหากไม่ใช่ใครอื่นนาวาจึงเริ่มกลับมามีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโชคชะตาอีกครั้ง ขณะเดียวกันที่กรุงเทพฯ โตมรทนพฤติกรรมของภูผา พี่ชายที่คอยขัดแข้งขัดขาอยู่เสมอไม่ไหว จึงได้ส่งคนมาทำร้ายภูผา จนกระทั่งภูผาบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล ระหว่างนั้นเขาก็ได้ผงาดขึ้นมาใช้อำนาจของภูผาอย่างเต็มที่ ในฐานะผู้รักษาการกรรมการผู้จัดการ แถมยังใช้โอกาสนี้เร่งโปรเจ็คท์บ้านทอฟ้า โดยส่ง เตชิตมาบีบให้ทุกคนที่มูลนิธิรีบย้ายออกไปจากที่นี่ เพื่อที่เขาจะได้ปรับปรุงให้มันเป็นรีสอร์ท5 ดาวตามแผน เมื่อเตชิตมาถึง ก็ได้พบกับนาวาและเกือบจะขับรถชนนาวา ข้าวหอมโกรธมากต่อว่าเตชิตอย่างแรง ทำให้เตชิตโมโหมากและตั้งใจจะเอาชนะหญิงสาวที่อวดดีในสายตาของเขาอย่างข้าวหอมให้ได้ ตรงกันข้ามกับนาวาที่ยิ่งอยู่ใกล้ข้าวหอม เขาก็ยิ่งหลงรักเธอ เตชิตต้องการจะเอาคืนข้าวหอมและแกล้งนาวา จึงบอกนาวาเรื่องที่ภูผาบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล ทั้งที่ภูผากำชับทุกคนเป็นอย่างดีไม่ให้รู้ถึงหูนาวา เพราะภูผากลัวว่านาวาจะเป็นห่วง ทำให้เมื่อนาวารู้เรื่องจึงรีบเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อมาเยี่ยมภูผา และได้พบว่าพ่ออาการดีขึ้นมากแล้ว การกลับมาครั้งนี้ของนาวา ทำให้ภูผาดีใจมากที่พบลูกชายกลับมามีกำลังใจดังเดิม ไม่เหลือร่องรอยของชายหนุ่มผู้โศกเศร้าและเฝ้าโทษตัวเองอย่างที่เป็นมา แต่ที่ทำให้ภูผาต้องแปลกใจที่สุดก็เพราะนาวาขอเข้ารับการผ่าตัดรักษาขา เพราะหวังว่าเมื่อเขากลับมาเดินได้เป็นปกติอีกครั้ง เขาจะกลับไปดูแลข้าวหอม หญิงสาวที่เขารัก ขณะเดียวกัน รัญญา ยังคงเดินหน้าตามหาลูกสาวที่หายไปอย่างมุ่งมั่น จนกระทั่งยุวรินทร์กลับมาจากต่างประเทศ จึงได้มาช่วยเพื่อนรักด้วยอีกแรง ทั้งคู่ได้ติดตามจากร่องรอยของเด็กไปที่อยู่ในเนอสเซอรี่แห่งนั้นไปทีละคน ทีละคน จนพบว่าเด็กหญิงคนสุดท้าย ได้รับการดูแลจากบัว นั้นปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์แล้ว รัญญาและยุวรินทร์จึงมุ่งหน้าไปที่นั่นในทันที ที่กาญจนบุรี เตชิตเดินหน้าเรื่องไล่ที่ ให้ทุกคนออกไปจากบ้านทอฟ้าอย่างไม่ลดละ จนข้าวหอมทนไม่ไหวไปมีปากเสียงกับเขา เตชิตตั้งใจแกล้งข้าวหอมจึงสั่งให้เธอทำงานบ้านสารพัด จนกระทั่งร่างกายหญิงสาวรับไม่ไหวล้มป่วยลง ตอนนั้นเองเตชิตถึงได้สัมผัสถึงความห่วงใยลึกๆ ที่เขามีต่อผู้หญิงคนนี้ เขาต้องการจะดูแลเธอ ยิ่งได้ใกล้ชิดกันในขณะที่พยาบาลอาการป่วยของข้าวหอม เขาก็ยิ่งรู้ใจตัวเองมากขึ้น ว่าเขาได้ตกหลุมรักข้าวหอมเข้าเสียแล้ว แต่เมื่อข้าวหอมฟื้นขึ้น เธอกลับเกรี้ยวกราดใส่เตชิตด้วยความโมโห แต่สิ่งที่เตชิตทนไม่ได้มากที่สุด คือการที่เธอเอาเขาไปเปรียบเทียบกับนาวา โดยบอกว่า เตชิตไม่มีทางเป็นคนดีได้เท่านาวา และ ถ้าเลือกได้ ข้าวหอมอยากให้นาวาเป็นคนดูแลเธอมากกว่าเขา คำพูดของข้าวหอมยิ่งทำให้เตชิตรู้สึกอยากเอาชนะเธอให้ได้ จึงไปสู่ขอข้าวหอมกับคุณบัว เพื่อแลกกับการยกเลิกโปรเจ็ครีสอร์ท รวมถึงการให้ทุกคนได้อยู่ที่บ้านทอฟ้าเหมือนเดิม ข้อเสนอที่เตชิตพูดออกไป ทำให้ข้าวหอมยิ่งเกลียดชังเขามากขึ้น ในขณะที่รตีรู้สึกอิจฉาข้าวหอมอย่างรุนแรง ที่ชายหนุ่มหน้าตาและฐานะดีอย่างเตชิต มาขอข้าวหอมแต่งงาน แทนที่เขาจะเลือกเธอ ขณะที่ข้าวหอมกำลังกลุ้มใจอย่างมาก ไม่รู้จะหนีจากอำนาจของเตชิตได้อย่างไร ระหว่างนั้นนายไม้ ภารโรงพิการที่เป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่ที่ข้าวหอมเคารพรัก ได้เห็นสร้อยคอพร้อมจี้ของหญิงสาว เขาจำได้ว่ามันเป็นของที่เขาซื้อให้กับรัญญา ภรรยาที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตร่วมกัน นายไม้จึงไปถามเอาความจริงกับข้าวหอมว่าได้สร้อยข้อมือนี้มาได้อย่างไร หากแต่ข้าวหอมกลับไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับสร้อยเส้นนี้เลย รู้เพียงแต่ว่ามันเป็นของชิ้นเดียวที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิด ทำให้นายไม้ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าบางทีข้าวหอมอาจจะเป็นลูกสาวของเขากับรัญญา เขาดีใจมากถึงกับเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ จึงสวมกอดข้าวหอมอย่างมีความสุข ตอนที่ข้าวหอมและนายไม้อยู่ด้วยกัน รตีได้แอบดูเหตุการณ์อยู่ และเกิดสงสัยอย่างมาก จึงไปแกล้งขู่นายไม้ เรื่องที่เขาแสดงความใกล้ชิดกับข้าวหอมจนเกินงาม ว่าจะนำเรื่องไปฟ้องคุณบัว แล้วนายไม้ก็จะไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อไปอีก นายไม้จึงต้องยอมบอกความจริงกับรตีว่าที่เขากอดข้าวหอมเพราะคิดว่าข้าวหอมอาจจะเป็นลูกสาวของเขากับรัญญา และถ้าเป็นจริง ป่านนี้รัญญาคงจะทุกข์ใจมากที่ต้องพลัดพรากจากลูกสาวถึง 18 ปี ตอนแรกรตีไม่อยากเชื่อนายไม้ ว่าสารรูปพิการอย่างนี้จะเคยมีภรรยามาก่อน แต่ในที่สุดความสงสัยก็นำเธอไปสู่การค้นหาข้อมูล จนกระทั่งได้รู้ถึงฐานะของรัญญาว่าอดีตภรรยาของชายพิการวันนี้เธอคือทายาทมหาเศรษฐีใหญ่และเป็นไฮโซที่มีชื่อเสียง ยิ่งไปกว่านั้นรัญญากำลังดำเนินการตามหาลูกสาวของเธอที่หายไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว!! ทำให้รตีต้องเชื่อในที่สุดว่าข้าวหอมคือบุตรสาวที่หายตัวไปของไฮไซสาว ความอิจฉาที่มีต่อข้าวหอมยิ่งพุ่งพล่านขึ้นมาอีกหลายเท่า รตีคิดหาทางที่จะฉกชิงความโชคดีมาจากข้าวหอม เธอวางแผนจะสวมรอยเป็นลูกสาวของรัญญาเสียเองโดยขอร้องให้มังกรช่วยเหลืออีกแรง รตีเริ่มแผนด้วยการเป่าหูนายไม้ ไม่ให้บอกเรื่องนี้กับข้าวหอม เพราะหากเป็นเธอ คงยอมรับไม่ได้ถ้ารู้ว่ามีพ่อเป็นคนพิการอย่างนี้ และช่วยวางแผนให้นายไม้พาตัวข้าวหอมไปหารัญญา เพื่อยืนยันสถานภาพว่าข้าวหอมเป็นลูกของเธอกับนายไม้จริง เมื่อนั้นข้าวหอมก็จะได้ยอมรับในตัวนายไม้ นายไม้หลงเชื่อและเดินเข้าไปในแผนการร้ายของรตี รตีและมังกรจึงได้พาตัวข้าวหอมและนายไม้ไปยังกรุงเทพโดยหลอกข้าวหอมว่าให้ไปเป็นเพื่อนเธอไปสมัครสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ โดยก่อนเดินทางมังกรแอบลอบเข้าไปวางเพลิงเผาห้องทะเบียนในบ้านทอฟ้า เพื่อลบประวัติของรตี โดยหารู้ไม่ว่า รัญญาและยุวรินทร์ได้เบาะแสที่อยู่ของบัวแล้ว กำลังเดินทางมาที่บ้านทอฟ้าเช่นกัน เมื่อรัญญาและยุวรินทร์เดินทางมาถึงบ้านทอฟ้ากลับพบว่าบ้านทอฟ้ากำลังถูกไฟไหม้ ทั้งคู่วิ่งเต้นรีบขอให้คนมาช่วยดับเพลิง แต่เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว และเผาผลาญทุกสิ่งวอดวายไปหมด แม้แต่ครูบัวเองก็ต้องตายด้วยฝีมือมังกรเพราะมาเห็นเหตุการณ์ ทำให้ความหวังของรัญญาที่จะมาสอบถามเรื่องลูกสาวต้องวูบลงเช่นเดียวกัน เศษซากของอาคารที่หลงเหลืออยู่ ตอกย้ำถึงความสูญเปล่าของสิ่งที่รัญญาพยายามค้นหามาโดยตลอด เธอต้องตรอมตรมมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันรตีวางแผนแย่งสร้อยมาจากข้าวหอมโดยวางยาข้าวหอมและนายไม้จนแอบขโมยสร้อยมาได้ แต่มังกรเห็นว่าควรจะฆ่าปิดปากทั้งสองคนด้วย จึงเอาตัวข้าวหอมและนายไม้ไปทิ้งยังหน้าผาแล้วแกล้งทำร้ายรตีให้เหมือนกับเพิ่งประสบอุบัติเหตุมา รตีตกใจมากไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุทำให้ข้าวหอมและนายไม้ตาย แต่เพราะคำพูดของมังกร และความโลภของเธอที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้ต้องยอมตามความคิดของเขา แผนของทั้งคู่ดูเหมือนจะสำเร็จไปด้วยดี เพราะนายไม้เสียชีวิตทันทีในหุบเหวลึก หากทว่าข้าวหอมนั้นกลับรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ โดยที่มังกรและรตีที่ได้ออกจากที่แห่งนั้นไปแล้ว จึงมิได้ล่วงรู้เลย เมื่อจัดการสวมรอยแทนข้าวหอมเสร็จสรรพ รตีได้ติดต่อไปยังบ้าน อัศวธานนท์ บอกว่า เธอเองคือลูกสาวของรัญญาที่หายสาบสูญไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว แต่ระหว่างที่นายไม้พาเธอเดินทางมาเพื่อพบกับรัญญาได้ประสบอุบัติเหตุขึ้น นายไม้เสียชีวิต แต่เคราะห์ดีที่เธอรอดชีวิตมาได้ และต้องการติดต่อกับคนในครอบครัวคนเดียวที่เหลืออยู่ คือแม่แท้ๆ ของเธอ เมื่อรัญญาได้รู้เรื่องก็ดีใจมาก เหมือนกับได้เกิดใหม่ รัญญาและยุวรินทร์รีบเดินทางมารับตัวรตีที่โรงพยาบาล และได้เห็นหลักฐานคือสร้อยคอพร้อมจี้ของเธอ รวมถึงศพของนายไม้ที่ยืนยันว่า นายไม้กำลังพาเธอเดินทางมาหารัญญาจริงๆ ทำให้รัญญากับยุวรินทร์เชื่อในคำบอกเล่าของรตีอย่างสนิทใจ ด้านเตชิตที่รู้ข่าวอุบัติเหตุ รีบไปที่โรงพยาบาลเช่นกัน เขาได้พบกับข้าวหอมที่บาดเจ็บสาหัส เมื่อหญิงสาวฟื้นขึ้นมาก็เสียใจมากที่นายไม้จากไปเพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ หนำซ้ำรตีก็ยังหายตัวไปด้วย แต่สองสิ่งนี้ก็ยังไม่เลวร้ายเท่าข่าวการจากไปของคุณบัวพร้อมกับบ้านทอฟ้าที่ถูกเผาจนหมดสิ้น !! ในเวลานี้ข้าวหอมจึงกลายเป็นคนที่ไร้หลักพักพิงใดๆ ขณะที่เตชิตรู้สึกเป็นห่วงและสงสารเธอ เขาจึงทวงสัญญาเรื่องการแต่งงาน โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าถ้าข้าวหอมยอมตกลง เขาจะสร้างบ้านทอฟ้าขึ้นใหม่และจะให้น้องๆ ของข้าวหอมในบ้านทอฟ้าได้กลับมาอยู่ที่นี่เหมือนเดิม ด้วยข้อเสนอนี้ข้าวหอมจึงจำใจหมั้นกับเตชิต และย้ายเข้าไปอยู่ในบ้าน กำธรภูวนาทตามที่ชายหนุ่มต้องการ ทางบ้านอัศวธานนท์ รัญญาซึ่งเข้าใจว่าได้ลูกสาวที่แท้จริงกลับคืนมาก็ดูแลรตีเป็นอย่างดีให้สมกับที่พลัดพรากกันไปถึง 18 ปี สิ่งที่รัญญาแสดงต่อรตี ทำให้เด็กกำพร้าอย่างเธอมีความสุขมาก ไม่เคยมีครั้งไหนที่รู้สึกสมหวังและได้รับความรักมากมายขนาดนี้มาก่อน รตีปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้ใครมาพรากเอาชีวิตสดสวยนี้ไปเป็นอันขาด ด้านโตมร เมื่อได้รู้ข่าวการหมั้นของเตชิตกับข้าวหอม เขาโมโหมากที่ลูกชายตกลงกับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้า สั่งให้เตชิตเลิกยุ่งกับข้าวหอม และไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปทันที แต่เตชิตกลับยืนยันว่าจะไม่เลิก และถ้าโตมรขัดขวาง เขาจะพาข้าวหอมหนีไป แม้จะขัดเคืองใจมากแต่โตมรก็ต้องยอมจำนน เพราะหากขาดเตชิต แผนการแย่งสมบัติมาจากภูผาก็คงจะไม่สำเร็จอย่างแน่นอน แต่คนอย่างโตมรก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แม้ไม่ปะทะโดยตรง แต่เขาก็แกล้งหาวิธีการสกปรกต่างๆ นานาบีบบังคับข้าวหอมทางอ้อมให้เธอยอมออกไปจากบ้านหลังนี้เอง ข้าวหอมต้องทนลำบากใจหลายครั้งหลายหน ในเวลาที่เธอสุดจะทานทนทุกครั้งเตชิตกลับเป็นคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และบอกให้เธอฮึดสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้หญิงสาวเริ่มหวั่นไหวและไม่เข้าใจว่า แท้จริงแล้ว เตชิตนั้นเกลียด หรือว่ารักเธอกันแน่ ไม่ทันที่ข้าวหอมจะได้รู้ความในใจของเตชิต นาวาได้มาหาเธอพร้อมกับขาทั้งสองข้างที่กลับมาเป็นปกติดังเดิม แต่แล้วจิตใจของเขาถูกกระตุกอย่างแรงเมื่อได้รับรู้ว่าข้าวหอมกลายเป็นคู่หมั้นของเตชิต และได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านกำธรภูวนาทด้วยกัน นาวาเสียใจอย่างมาก ไปเอาเรื่องกับเตชิต หาว่าเตชิตตั้งใจจะเอาชนะเขา ด้วยการบีบข้าวหอมให้ยอมหมั้นด้วย แต่เมื่อข้าวหอมยืนยันว่า เธอยอมหมั้นกับ เตชิตด้วยความเต็มใจ แต่นาวาไม่เชื่อ เขามองเห็นร่องรอยความไม่เข้าใจระหว่างเตชิตกับข้าวหอมที่ปกปิดไม่สนิท จึงไม่คิดจะยอมแพ้ เขาออกปากกับเตชิตว่า จะต้องแย่งข้าวหอมกลับมาเป็นของเขาให้ได้ !! ด้านรตีเมื่อที่มาอยู่บ้านอัศวธานนท์ ก็เริ่มออกลายนิสัยเสีย จนทำให้ยุวรินทร์ไม่พอใจ พยายามตักเตือนและอบรมรตีให้เอาดีให้ได้ รตีไม่ฟังและยิ่งแสดงอาการไม่เคารพยุวรินทร์มากขึ้น ทางฝ่ายรัญญานั้นด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้ลูกต้องพลัดไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะตำหนิสั่งสอนรตี ทำให้รตีได้ใจมากยิ่งขึ้น รัญญาตั้งใจจะชดเชยให้รตี จึงเตรียมประกาศเปิดตัวว่ารตีเป็นลูกสาว และเป็นทายาทคนเดียวแห่งสกุล อัศวธานนท์ ในงานวันเกิดของเธอ แต่เพราะรตีกลัวว่าถ้ามีคนรู้เรื่องนี้มากขึ้น ความลับของเธออาจจะแตก จึงขอร้องให้รัญญาเก็บเรื่องนี้ไว้โดยอ้างว่า เธออยากอยู่กับรัญญาอย่างสงบ ในงานวันเกิดของรัญญา โตมร และภูผา สั่งให้ลูกชายทั้งสองไปร่วมงานด้วย โดยที่เตชิตได้พาข้าวหอมไปเปิดตัวเช่นกัน เมื่อรตีได้เห็นข้าวหอมทีแรก เกือบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะคาดไม่ถึงว่าข้าวหอมจะยังมีชีวิตอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวดไปมากกว่านั้นคือ ข้าวหอมได้กลายเป็นคู่หมั้นของเตชิต รตีแทบคลั่งที่ไม่ว่ายังไงข้าวหอมก็ยังคงได้ในสิ่งที่เธอไม่เคยได้ รตีไม่ยอมแพ้และตั้งใจที่จะแย่งเตชิตมาจากข้าวหอมให้ได้ เมื่อรัญญาได้พบข้าวหอมก็รู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก โดยที่ข้าวหอมเองก็รู้สึกผูกพันกับรัญญา ไม่ต่างกัน ด้วยสายใยของความเป็นแม่ลูกที่ลึกล้ำ ทำให้ทั้งคู่รู้สึกอยากใกล้ชิดกัน รัญญาถึงกับเอ่ยปากชวนให้ข้าวหอมหมั่นมาหาเธอที่บ้านบ่อยๆ ข้าวหอมเองก็เต็มใจที่จะทำตามคำเชิญนั้น เพราะรู้สึกอบอุ่นใจที่ได้ใกล้ชิดกับรัญญา ทางฝ่ายรตีหมกมุ่นหาหนทางที่จะครอบครองเตชิต แล้วก็คิดได้ว่าควรฝากฝังตัวเองกับโตมร บิดาของเขาที่ดูชื่นชมเธอมากกว่าข้าวหอมอย่างเห็นได้ชัด โตมรพอใจชาติตระกูลของรตี จึงช่วยสนับสนุน ช่วยหาวิธีแยกเตชิตกับข้าวหอมออกจากกัน เพื่อที่เตชิตจะได้แต่งงานกับหญิงสาวที่คู่ควรมากกว่าอย่างรตี โตมรจึงแกล้งส่งข้าวหอมให้ไปช่วยงานรัญญาที่บ้านอัศวธานนท์ ให้รตีได้มีโอกาสมาหาเตชิตและทำความสนิทสนมกับเขาให้มากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นเตชิตก็ไม่เคยหวั่นไหวไปกับรตีเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขากลับเริ่มเห็นว่า ลึกๆ แล้ว ข้าวหอมก็รู้สึกหึงหวงเขาเช่นเดียวกัน ด้านรัญญาเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับข้าวหอมก็เริ่มรู้สึกแปลกใจที่เธอและข้าวหอม มักชอบอะไรคล้ายๆ กัน และทำอะไรเหมือนกันหลายอย่าง จนยุวรินทร์ถึงกับออกปากว่า ข้าวหอมน่าจะเป็นลูกของรัญญามากกว่ารตีเสียอีก ขณะที่นาวาเองก็ยังคงดูแลข้าวหอมอยู่ห่างๆ แต่ยิ่งได้เห็นเตชิตและข้าวหอมอยู่ด้วยกันมากเท่าไหร่ นาวาก็ยิ่งรู้สึกว่า ข้าวหอมยิ่งไกลออกไปจากเขามากขึ้นเท่านั้น ด้านมังกรที่คอยเทียวมาขอเงินรตีอยู่เนืองๆ เริ่มติดการพนัน ทำให้เขาเรียกร้องเงินจาก รตีมากขึ้น เมื่อรตีไม่ให้เขาก็ใช้วิธีขู่ว่าจะแฉความลับที่รตีเป็นทายาทตัวปลอมจนในที่สุด รตีตัดสินใจวางแผนฆ่ามังกรทิ้ง เพื่อความลับของเธอจะได้ไม่ถูกเปิดเผยอีกต่อไป ขณะที่รตีและโตมรเห็นว่า นาวาน่าจะเป็นเหยื่อที่เหมาะสมที่สุดในการเล่นงานข้าวหอม จึงวางแผนให้เหมือนว่าข้าวหอมและนาวาใกล้ชิดกัน เพื่อให้เตชิตคิดว่านาวาและข้าวหอมรักกัน แผนของรตีและโตมรเป็นไปด้วยดี ทันทีที่เตชิตได้รู้ก็ทั้งแค้น ทั้งเสียใจ หลังจากวันนั้นเขาจึงเย็นชากับข้าวหอม มิหนำซ้ำยังควง รตีมาประชดข้าวหอมอีกด้วย จนกระทั่งข้าวหอมทนอยู่ในสภาพนี้ไม่ไหวอีกต่อไป เธอจึงหนีออกจากบ้านนาวาโกรธมากที่เตชิตทำให้ข้าวหอมต้องเสียใจ ขณะที่เตชิตก็โกรธที่นาวามาแย่งข้าวหอมไปจากเขา ชายหนุ่มทั้งสองต่างออกตามหาข้าวหอมด้วยความเป็นห่วง จนกระทั่งเตชิตมาพบข้าวหอมซึ่งหนีมาที่บ้านทอฟ้า เพราะเธอไม่มีที่ไปที่อื่นอีก เขารู้สึกสงสารหญิงสาวจับใจ ทั้งสองได้ใช้เวลาปรับความเข้าใจกันและมันทำให้เตชิตได้รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แท้จริงแล้วเป็นแผนการของโตมรที่จงใจจะแยกพวกเขา ออกจากกันนั่นเอง เตชิตพาข้าวหอมกลับมาที่บ้านกำธรภูวนาทอีกครั้ง ทำให้โตมรโมโหมาก ยื่นคำขาดให้เตชิตเลิกกับข้าวหอม ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ให้สมบัติแก่เตชิตแม้แต่ชิ้นเดียว เตชิตไม่ยี่หระ กลับปฏิเสธสมบัติทุกชิ้นของโตมรและจะขอพาข้าวหอมย้ายออกไปอยู่ด้วยกันข้างนอก การตัดสินใจของเตชิตทำให้นาวารู้ว่า แท้จริงแล้ว เตชิตไม่ได้ทำทุกอย่างเพียงเพราะจะเอาชนะเขาเท่านั้น แต่เป็นเพราะเตชิตรักข้าวหอมจริงๆ ด้านรตรีที่ไม่สามารถแย่งเตชิตมาได้ ผิดหวังมาก แต่เพราะมีรัญญาคอยปลอบ ทำให้รตรีพอจะมีความรู้สึกของผู้ชนะหลงเหลืออยู่ ตรงที่อย่างน้อย เธอก็แย่งแม่ของข้าวหอมมาได้ แต่แล้วเรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อรัญญาเกิดประสบอุบัติเหตุ และทางโรงพยาบาลต้องการเลือดด่วน ยุวรินทร์บอกให้รตรีถ่ายเลือดให้กับรัญญา แต่เมื่อตรวจเลือดดูแล้ว ปรากฏว่ารตรีและรัญญามีกรุ๊ปเลือดไม่ตรงกัน ทำให้ยุวรินทร์เริ่มไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้ว รตีคือลูกสาวของรัญญาจริงหรือไม่ ยุวรินทร์ตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับรัญญา ถึงแม้ว่ารัญญาจะไม่เชื่อแต่เพื่อให้ความจริงกระจ่าง จึงขอให้รตีตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันว่าเป็นลูกสาวของเธอจริงๆ แต่รตีก็สามารถเอาตัวรอดมาได้โดยขอให้ข้าวหอมแอบถ่ายเลือดให้รัญญาโดยที่รัญญาไม่รู้ และแอบนำเลือดของข้าวหอมไปตรวจดีเอ็นเอในชื่อของเธอแทน หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านไป รตีคิดว่ายุวรินทร์คือหอกข้างแคร่ที่เธอจะต้องกำจัด รตรีจึงวางแผนฆ่ายุวรินทร์จนสำเร็จ แต่แล้วหลังจากงานศพของยุวรินทร์ ผลพิสูจน์ดีเอ็นเอกลับถูกส่งมายังบ้านอัศวธานนท์ ทำ