ฟ้าใหม่ เรื่องย่อ ละคร ช่อง 7
ฟ้าใหม่
เรื่องย่อ ฟ้าใหม่
ปลายรัชสมัย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (สมบัติ เมทะนี) แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อ แสน (ณัฐวุฒิ สกิดใจ) อายุได้ 8 ขวบ ออกหลวงพิชิตบรเทศ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) พ่อของแสนพาแสนเข้าถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ของพระองค์ท่าน และพระองค์ท่านได้พระราชทานแสนให้เป็นมหาดเล็กของ สมเด็จพระมหาอุปราชเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) แสนเป็นที่เอ็นดู และโปรดปรานของท่านยิ่งนัก เพราะเป็นมหาดเล็กที่เด็กที่สุด อีกทั้งยังหน้าตาดีมากอีกด้วย
แสน สนิทสนมกับมหาดเล็กหนุ่มรุ่นพี่อยู่ 3 คน สองคนคือคุณคนใหญ่ หรือ คุณใหญ่ (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) กับ คุณเล็ก (คงกระพัน แสงสุริยะ) เป็นพี่น้องคลานตามกันมา ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ คุณกลาง (ชินมิษ บุนนาค) เป็นเพื่อนร่วมสาบานกับคุณใหญ่ คุณเล็กเป็นบุตรบุญธรรมของตระกูลขุนนางฝ่ายวังหลวง ทั้งสามคนและแสนสนิทสนมกันมาก ไปไหนไปด้วยกันตลอด ต่อมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มหาดเล็กทั้งสี่นี้ต่างก็มีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงในการกอบกู้และสร้างเมืองใหม่ให้เป็น "ฟ้าใหม่" ของคนไทยทั้งปวง
ฟ้าใหม่
เมื่อ แสน ย่างเข้าสู่วัยหนุ่มและโกนจุกแล้วนั้น เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ ประชวรด้วยโรคร้ายและระหว่างนั้นมีการขัดแย้งกันในหมู่พี่น้องพระราชวงศ์ของท่าน จนท่านทิวงคต คุณใหญ่ ได้รับหมายเกณฑ์ให้เข้าถวายตัวเป็นมหาดเล็กของ เจ้าฟ้าอุทุมพร (ดนุพร ปุณณกันต์) คุณใหญ่ จึงพาแสนเข้าถวายตัวด้วย คุณเล็ก ยังอยู่วังหลวง ส่วน คุณกลาง นั้นออกไปอยู่หัวเมืองตากตั้งแต่เป็นหนุ่มเต็มตัวและได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่ประจำของตน
อีกนานต่อมามีพิธีอุปราชาภิเษก เจ้าฟ้าอุทุมพร ขึ้นเป็นพระมหาอุปราชพระองค์ใหม่และมีการแห่ครองวัง แสน ออกจะตื่นเต้นที่ได้เข้าขบวนแห่ การได้เข้าขบวนแห่พิธีอุปราชาภิเษกนำพาให้ แสน ได้พบกับ เรณูนวล (พัชราภา ไชยเชื้อ) สาวรุ่นที่สวยมาก เธอมาดูขบวนแห่ครองวังกับนางในอื่น ๆ การแต่งกายของเธอบ่งบอกว่าเธอเป็นสาวในสกุลสูง แต่ท่าทางเธอแก่นแก้วก๋ากั่นราวเด็กผู้ชาย พ่อส่งเธอมาถวายตัวเป็นข้าหลวงตำหนัก พระพันวรรษาน้อย ตั้งแต่เธอยังเด็ก ปากคอเธอไม่มีใครเกินและเธอไม่กลัวใครด้วย ห้าวหาญเหมือนพ่อ ชอบขี่ม้ารำทวน ผิดวิสัยหญิงทั่วไป
ในวังหลวงยังมีเรื่องขัดเคืองเกี่ยวกับการสืบราชบัลลังก์คุกรุ่นไม่สร่าง เพราะ เสด็จพระองค์ใหญ่ หรือ เจ้าฟ้าเอกทัศ (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) พระเชษฐาของเจ้าฟ้าอุทุมพรไม่พอพระทัยที่พระองค์ไม่ได้รับอุปราชาภิเษกเป็นพระมหาอุปราชแต่ตอนนี้ทรงถูกบังคับให้ผนวช และเมื่อเสด็จพ่อยังไม่สิ้นเจ้าฟ้าเอกทัศจึงยังทำอะไรไม่ได้ แต่หากสมเด็จพ่อสิ้น ใคร ๆ ต่างคาดกันว่าเจ้าฟ้าอุทุมพรคงเดือนร้อนเป็นแน่
พระเจ้าอยู่หัวประชวรกะทันหัน แสน และ นายสุจินดา ถูกเรียกเข้าเฝ้าพระมหาอุปราช เจ้าฟ้าเอกทัศ ละจากสมณเพศมาลักลอบซุ่มดูเหตุการณ์ในพระมหามณเฑียรด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้ม เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสิ้นพระชนม์ แสน เป็นคนแรกที่เข้าถวายตัวต่อ พระเจ้าเอกทัศ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างสูงด้วยพระองค์ทรงทราบว่า แสน เป็นคนโปรดของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์
เพลาค่ำแปดนาฬิกา วันเนาสงกรานต์ ขึ้นเก้าค่ำ เดือนห้า พ.ศ. 2310 พระนครศรีอยุธยามหาราชธานีก็สิ้นศักดิ์แห่งราชธานีลง หลังจากรวมกำลังตั้งต่อสู้ศัตรูมาได้หนึ่งปีกับสองเดือน เปลวเพลิงรุกโหมโชติช่วงแดงฉานตัดกับท้องฟ้าสีดำสนิท กลืนชีวิตกรุงศรีอยุธยาบรมราชธานีอันเคยบรมสุข เป็นหมดสิ้นเลื่อมยศ
ฟ้าใหม่
เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก คนไทยก็แตกออกเป็นหมู่เป็นก๊ก ทุกก๊กล้วนแต่อยากแยกตัวไปเป็นใหญ่เป็นเจ้า ไม่มีก๊กใดเลยที่คิดจะรวบรวมบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น เหมือนเดิม นอกจากก๊กของพระยากำแพงเพชรก๊กเดียวเท่านั้น พระยากำแพงเพชร จึงต้อง ตั้งตนเป็นเจ้าด้วย เฉลิมพระนามว่า เจ้าตาก แต่ก็ไม่ทำตนเสมอเจ้าราชตระกูลหลวง หากวางศักดิ์ตนเพียงเสมอเจ้าหัวเมืองเอกเท่านั้น ทรงตั้ง แสน เป็น หลวงต่างใจ นักรบคู่พระทัย มีนายทหารฝีมือดีจำนวนมาก จากนั้นจึงทรงเริ่มรวบรวมบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่นด้วยการเข้าตีเมืองจันทบุรีซึ่งตั้งแข็งเมืองอยู่
พระเจ้าตาก ให้พลพรรคกินข้าวมื้อเย็นแล้วให้ทุบหม้อข้าวหม้อแก้งและเทเสบียงทิ้ง ทั้งหมด ให้ไปกินมื้อเช้าในเมืองจันท์ และทัพของพระเจ้าตากก็ตีเมืองจันท์ได้ แสน ให้ลูกกองของตนไปพักผ่อนหาความสุข ส่วนตัวแสนเองปลีกไปอยู่ลำพัง คิดถึง เรณูนวล ยิ่งนัก และแสนเป็นเช่นนี้มาตลอดที่ติดตามพระเจ้าตาก ไม่เคยสนใจไมตรีที่หญิงใดหยิบยื่นเสนอมาเลย
ปีกุน พ.ศ. 2310 มหาเศวตองค์ใหม่กางกั้นลงเหนือกรุงธนบุรี และยกเมืองนั้นเป็นราชธานีของไทยสยามแทนกรุงศรีอยุธยา คุณใหญ่ ได้เลื่อนเป็น พระราชรินทร์ พระตำรวจขวา คุณเล็ก ได้เป็น พระมหามนตรี พระตำรวจซ้าย แสน ยังเป็น ออกหลวงต่างใจ
แสน อยู่ทางใต้รบทัพจับศึกจนมิมีเวลานับว่าวันคืนผ่านไปนานเท่าใดแล้ว จนจัดการทางใต้เรียบร้อยราบคาบ พอดีมีตราเรียกทัพด่วนให้ แสน ขึ้นไปช่วยท่าน เจ้าพระยาสองพี่น้อง (คุณใหญ่และคุณเล็ก) รับศึกหัวเมืองเหนือ ซึ่งครั้งนี้แม่ทัพเฒ่าเชื้อพระวงศ์ระดับสูงนาม อะแซหวุ่นกี้ ผู้มีฝีมือเข้มแข็งและชั้นเชิงสูงเป็นแม่ทัพใหญ่มาเอง ตราเรียกทัพครั้งนี้สมใจแสนยิ่งนัก ท่านเจ้าพระยาสองพี่น้องตั้งค่ายอยู่ที่พิษณุโลก และรบป้องกันเมืองอย่างเข้มแข็ง อะแซหวุ่นกี้ มิอาจตีแตกได้โดยง่าย แต่ถึงฝ่ายไทยจะรบอย่างเข้มแข็งเพียงใด พิษณุโลกก็แตกแก่ อะแซหวุ่นกี้ เพราะถูกล้อมจนขาดเสบียงอาหาร อะแซหวุ่นกี้ กลับอังวะเพราพระเจ้าอังวะสิ้นพระชน จึงยกกลับไป และไทยก็ว่างศึกลงเป็นเวลานาน แสนกราบบังคมทูลขออยู่หัวเมืองเหนือ และได้รับพระมหากรุณาให้อยู่รวบรวมผู้คนที่กระจัดพลัดพรายตั้งแต่เมื่อครั้งกรุงแตกให้กลับคืนเข้าเมืองให้ได้มากที่สุด แสน จึงใช้เวลาทำการนั้นตามหา เรณูนวล ไปด้วยทุกวัน
ฟ้าใหม่
แสน ตระเวนอยู่ตามหัวเมืองใหญ่น้อยทางเหนือเนิ่นนาน ข่าวคราวที่มาจากเมืองหลวงที่เกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัวล้วนเป็นข่าวมิสู้ดีว่า ท่านโทมนัสที่เมืองพิษณุโลกแตกแก่ข้าศึกจนหันไปฝักใฝ่การวิปัสสนากรรมฐานจนเห็นนิมิตต่าง ๆ และทรงคบหากับพวกอลัชชีสอพลอ ใครกล่าวโทษฟ้องใครก็ทรงจับผู้ถูกล่าวโทษเฆี่ยนหมด แล้ววันหนึ่งสายฟ้าก็ฟาดลงมากลางศีรษะแสนเมื่อได้รับใบบอกให้กลับเข้าเมืองหลวงเพราะพระเจ้ากรุงธนสวรรคาลัยแล้ว
เพียงสามปีที่ผลัดแผ่นดินก็มีศึกประชิดติดเมืองอีก แสน ช่วยเป็นภาระคุ้มกันและจัดส่งกองเกวียนของชาวบ้านจนถึงทางเข้าเมือง และจวนเย็นวันหนึ่ง มีกองเกวียนใหญ่มากกองหนึ่งอพยพเข้ามา ความที่เป็นกองใหญ่และเข้ามาตอนพลบจึงจะยังเข้าเมืองไม่ได้ แสน และกองกำลังออกไปดักตรวจตรากองเกวียนนั้นว่าจะมีผู้แปลกปลอมแฝงมาบ้างหรือไม่ แสน กับ เรณูนวล ได้พบกันอีกครั้ง ความรักความคิดถึงแรมปีประดั่งหลั่งไหลท่วมท้นใจ แสน รับรู้ความลำบากของ เรณูนวล ด้วยน้ำตา และให้คำมั่นว่าจากนี้ไปความตายเท่านั้นที่จะพรากเขาจาก เรณูนวล ได้ แล้วสองหัวใจรักที่รอคอยกันมานานแสนนานก็ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในคืนนั้น
แสน ขอให้ผู้สำเร็จราชการเมืองพิษณุโลกประกอบพิธีสมรสให้ แล้วจากนั้น แสน กับ เรณูนวล และกองกำลังก็ไปสมทบทัพหลวงที่ลาดหญ้า ทำศึกซึ่งยกเข้ามาถึงเก้าทัพ กองของ แสน และ เรณูนวล รบแบบกองโจรและสามารถตีศัตรูแตกกระเจิงได้ชัยชนะในด้านนั้น แสน และ เรณูนวล ไปสมทบกับทัพหลวงซึ่ง พระอนุชิตราชา หรือ พระราชวังบวร หรือ คุณเล็ก เป็นแม่ทัพ ทัพไทยทำศึกสุดชีวิตวิญญาณ บรรดาคนไทยที่ซุ่มซ่อนอยู่ต่างก็ออกมาช่วยบ้านเมืองทำศึกจนมีชัยชนะอย่างเด็ดขาด และศึกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นแล้วบ้านเมืองสยามก็เข้าสู่ความสงบสุข ไร้ศึกมารบกวนอีกเลยตลอดรัชกาล ติดตามชมละคร ฟ้าใหม่ ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง7 สี เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2660
เพลงประกอบละคร ฟ้าใหม่
รายชื่อนักแสดง ฟ้าใหม่
แสน แสดงโดย ณัฐวุฒิ สกิดใจ
เรณูนวล แสดงโดย พัชราภา ไชยเชื้อ
เจ้าฟ้าอุทุมพร แสดงโดย ดนุพร ปุณณกันต์
สมเด็จพระมหาอุปราชเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ แสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
คุณใหญ่ แสดงโดย ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล
คุณเล็ก แสดงโดย คงกระพัน แสงสุริยะ
คุณกลาง แสดงโดย ชินมิษ บุนนาค
เจ้าฟ้าเอกทัศ แสดงโดย ศตวรรษ ดุลยวิจิตร
ออกหลวงพิชิตบรเทศ แสดงโดย ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แสดงโดย สมบัติ เมทะนี
ฟ้าใหม่
ฟ้าใหม่
ฟ้าใหม่
ฟ้าใหม่
ฟ้าใหม่
ฟ้าใหม่
ฟ้าใหม่
ฟ้าใหม่
ฟ้าใหม่
ฟ้าใหม่
หนัง : ฟ้าใหม่
ช่อง : ช่อง7
ออกอากาศทุกวัน : ศุกร์, เสาร์, อาทิตย์
ผู้กำกับ : จรูญ ธรรมศิลป์
บทประพันธ์ : ศุภร บุนนาค
ผู้เขียนบท : ศัลยา
นักแสดงนำ : ณัฐวุฒิ สกิดใจ, พัชราภา ไชยเชื้อ, ดนุพร ปุณณกันต์, อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร