ละคร อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว
ณ ดินแดนเวทมนตร์ เมืองของแม่มดพ่อมดทั้งหลาย ทาฮิร่า (ดวงดาว จารุจินดา) แม่มดอาวุโส (ยายของ จินนี่ และ ฮันนี่) กับ บาบาร่า (สุปรีย์ฎา คำนวนศิลป์) คู่ปรับตัวร้ายที่กลายมาเป็นเพื่อนรัก และ ไทเกอร์ แมวแสนรู้ พูดได้ กำลังเดินเล่นในเมือง ซึ่งมีงานฉลองวันเวลา พิเศษในรอบหลายพันปี คือ วันที่ 9 เดือน 9 ปี 9 เวลา 9 นาฬิกา ทุกคนต่างมีความสุข แต่แล้วก่อนถึงเวลาสำคัญไม่กี่ชั่วโมง จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง แผ่นดินแตกแยกเป็นร่องลึกอย่างน่ากลัว ซ้ำร้ายลมพัดแรงกลายเป็นพายุหอบน้ำทะเลขึ้นมาซัดท่วมเมือง ผู้คนหนีตายกันอลหม่าน รวมทั้ง ทาฮิร่า บาบาร่า และ ไทเกอร์ เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ทุกอย่างก็สงบลง ดินแดนเวทมนตร์ได้รับความเสียหายมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มีคนบาดเจ็บล้มตายกันมาก เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอาเพศบอกลางร้ายที่น่ากลัวมาก กลุ่มแม่มดอาวุโสรีบไปที่หอประชุมอย่างรู้หน้าที่ เมื่อที่ประชุมพร้อม ประธานซึ่งเป็นผู้ที่อาวุโสที่สุดจึงบอกกับทุกคนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่เป็นเพราะมีอสูรร้ายตนหนึ่งเกิดขึ้นแล้วบนดินแดนแห่งนี้ อสูรน้อยตนนี้ถ้าไม่รีบกำจัด อีกยี่สิบปีข้างหน้ามันจะย้อนมาทำลายดินแดนเวทมนตร์จนไม่เหลือซาก อสูรน้อยตนนี้เกิดมาเพื่อทำลายจริงๆ ขอให้แม่มด พ่อมดทั้งหลายออกตามล่า และกำจัดมันให้เร็วที่สุด อันตรายจากอสูรน้อยทำให้ทุกคนหวาดกลัวรวมทั้ง ทาฮิร่า บาบาร่า แต่ทั้งคู่ไม่คิดหนีเอาตัวรอด หน้าที่ในการดูแลรักษา ดินแดนแห่งนี้เป็นของแม่มดอาวุโสทุกคน ทาฮิร่า กับ บาบาร่า รวมทั้ง ไทเกอร์ แมวที่มีประสาทในการดมกลิ่นดีเป็นพิเศษจึงออกตามล่าอสูรด้วยกัน ผ่านไปหลายชั่วโมงทั้งสามก็ไม่พบวี่แววอสูรแต่อย่างใด ทาฮิร่า จึงแยกไปตามหาอีกทางหนึ่ง ปล่อยให้ บาบาร่า กับ ไทเกอร์ ไปอีกทางหนึ่ง ขณะที่ทาฮิร่าขี่ไม้กวาดผ่านป่าละเมาะ นางสังเกตเห็นแสงสว่างนวลเหมือนแสงไฟส่องวูบวาบขึ้นมา ทาฮิร่า ตัดสินใจบินลงไปเดินสำรวจทันที ที่นั่นนางพบกระท่อมหลังหนึ่ง เก่าทรุดโทรมจนไม่น่าจะมีใครอยู่ได้ แต่เสียงเด็กทารกร้องแว่วออกมาทำให้ทาฮิร่ารีบเข้าไปในกระท่อมทันที ที่พื้นห้องกลางบ้าน มีตะกร้าหวายบุด้วยผ้าสีแดงสวยสดใสวางอยู่ เสียงเด็กทารกร้องมาจากในตะกร้า ทาฮิร่าปราดเข้าไปดูทันที ทารกน้อยน่ารักลืมตามองนางตาแป๋ว ทาฮิร่ามองตาใสๆ ปากนิด จมูกหน่อย ของแกแล้ว ก็อดอุ้มขึ้นมาไม่ได้ พลางนึกสงสัยว่าเป็นลูกของใครกัน
ร่างน้อยๆ นั้นห่อหุ้มด้วยผ้าไหมเนื้อเนียน สีแดงสวย มีลายปักด้วยเป็นลวดลายสวยประณีตงดงาม แสดงว่าพ่อแม่เด็กคนนี้ต้องไม่ธรรมดา แน่นอน ทาฮิร่าอดคิดถึง จินนี่ และ ฮันนี่ หลานสาวที่ตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่โลกมนุษย์ไม่ได้ เพราะเมื่อยังเป็นเด็ก ทั้งสองสาวก็น่ารักน่าเอ็นดูไม่แพ้เด็กคนนี้เลย ทาฮิร่าตกใจเมื่อคิดได้ว่า เด็กคนนี้เป็นลูกอสูรที่นางต้องกำจัด สำนึกในหน้าที่ทำให้ ทาฮิร่า ยกมืออีกข้างขึ้นสูงเตรียมกำจัดเด็กน้อย ตาใสแจ๋วที่มองนาง ปากน้อยๆ ที่เผยอขึ้นราวจะพูดด้วยทำให้ทาฮิร่าทำไม่ลง นางคิดทบทวนช้าๆ ถ้าเด็กคนนี้ไม่ใช่อสูร นางก็จะทำความผิดมหันต์ เป็นบาปหนักหนาสำหรับแม่มด ตราบใดที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าเจ้าตัวน้อยนี้เป็นอสูรทาฮิร่าจะไม่กำจัดแก เมตตาธรรมในใจทำให้นางตัดสินใจจะเลี้ยงทารกน้อยนี้ไว้เป็นหลานสาวคนใหม่ เสียงของบาบาร่ากับไทเกอร์ที่ร้องเรียกทาฮิร่า ทำให้นางต้องรีบซ่อนเจ้าตัวน้อยไว้ในลังเก่าๆ ที่มุมกระท่อมทันที เพราะรู้ดีว่าถ้าบาบาร่ากับไทเกอร์พบแกเข้า เด็กน้อยคนนี้คงไม่รอดชีวิตแน่นอน เมื่อทั้งสองตามเข้ามาในกระท่อม ไทเกอร์ทำจมูกฟุดฟิดทันที พลางพึมพำว่ากลิ่นเด็กทารก ไทเกอร์ปรี่เข้าค้นในกระท่อมจนทาฮิร่าใจหาย นางได้แต่ส่งกระแสจิตเตือนเด็กน้อยให้หาวิธีซ่อนร่องรอยกลิ่นของตัวเองอย่าให้ไทเกอร์หาพบ ถ้าพ้นจากที่นี่ได้นางจะดูแลแกต่อไป ทาฮิร่าไม่หวังว่าเด็กคนนี้จะรับรู้อะไร ได้แต่คิดหาทางช่วยเหลือทางอื่น ทว่าจู่ๆ ไทเกอร์หยุดชะงัก หมุนไปรอบๆ ยื่นจมูกดมทุกอย่างจนแม้กระทั่งที่ลังนั่น ทาฮิร่าใจสั่นทำอะไรไม่ถูกกลัวไทเกอร์จะเปิดลังแล้วพบเด็กน้อย ทว่าไทเกอร์กลับไม่มีท่าทางว่าจะสนใจลังใบนั้นอีก ได้แต่เดินบ่นพึมพำว่าแปลกที่กลิ่นทารกหายไปเฉยๆ หายไปทันทีไม่ใช่ค่อยๆ จางไป แต่หายวูบไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน ทาฮิร่าจึงแกล้งว่า ไทเกอร์เพี้ยน แล้วชวนหนึ่งแม่มดกับหนึ่งแมวออกไปตามหาที่อื่น แมวตัวเก่งเริ่มหงุดหงิดเพราะมั่นใจในประสาทสัมผัสพิเศษของตัวเอง แต่เมื่อบาบาร่าเห็นด้วยกับทาฮิร่าที่จะไปจากที่นี่ไทเกอร์จำใจยอมตามไปด้วย
ดึกมากแล้วเมื่อทาฮิร่าย้อนกลับมาที่กระท่อมร้างเพื่อมาพาเด็กน้อยกลับไปที่บ้าน นางดีใจที่เด็กน้อยยังอยู่ที่เดิมที่ซ่อนไว้ นางจึงรีบพากลับไปที่บ้านของนางทันที ทาฮิร่าปิดประตูแน่นหนา นางโบกมือร่ายคาถา นมขวดหนึ่งปรากฏขึ้นมาทันที นางรีบป้อนให้เจ้าตัวเล็ก พึมพำหยอกล้อกับเด็กน้อยอย่างอารมณ์ดี ทาฮิร่าแปลกใจที่แม่หนูอึดเกินเด็กทั่วไป ไม่ได้กินนมหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่งอแง นมหมดขวดอย่างรวดเร็ว ทาฮิร่าโยนขวดเปล่าหายวับไปในอากาศ เจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนส่งเสียงอ้อแอ้เหมือนจะคุยด้วย นางจึงบอกแกว่าจะตั้งชื่อให้ว่า แนนนี่ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) พูดแล้วก็ลังเลพึมพำเหมือนจะถามต่อไปว่า ชอบไหม หรือจะเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น ทาฮิร่าตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงใสๆ ตอบมาว่าหนูชอบชื่อ แนนนี่จ้ะ เสียงนั้นดังขึ้นในความคิดในจิตใจอย่างประหลาด แต่นางไม่มีเวลาหาที่มาของเสียงนั้น เพราะบาบาร่ากับไทเกอร์กำลังเคาะประตูอยู่ดังลั่น ทาฮิร่าหันซ้ายหันขวาลุกลี้ลุกลนหาที่ซ่อนแม่หนูแนนนี่ นางยิ้มอย่างดีใจเมื่อเหลือบไปเห็นตะเกียงแก้วบนโต๊ะ ทาฮิร่า กระซิบบอกแนนนี่ให้ซ่อนอยู่ในตะเกียงแก้วและให้ระวังไทเกอร์ให้ดี พริบตาเดียวร่างแนนนี่หายวับไปในตะเกียงแก้ว แต่ทาฮิร่าต้องตกใจเมื่อไทเกอร์ปรากฏตัวขึ้นมาแทนในชั่วเสี้ยววินาทีตามมาด้วยบาบาร่า ไทเกอร์ทำจมูกฟุดฟิด เดินวนรอบทาฮิร่า ทำหน้าตาสงสัย พึมพำว่ากลิ่นแปลกๆ ก่อนจะหันไปสนใจตะเกียงแก้ว ทาฮิร่ารีบคว้าตะเกียงแก้วขึ้นมาถือไว้ ย่อส่วนจนเหลืออันนิดเดียว แล้วรีบซุกไว้ในเสื้อคลุมของนาง พลางบ่นว่าต้องรีบเก็บก่อนไทเกอร์จะทำตะเกียงแตกเพราะทั้งซนและซุ่มซ่าม ไทเกอร์งอนแต่ไม่วายจะเที่ยวดมฟุดฟิดไปทั่วบ้าน งึมงำแต่ว่า กลิ่นทารก กลิ่นเด็กอ่อน ต้องหาให้เจอ ทาฮิร่าได้แต่ส่งกระแสจิตเตือนแนนนี่ ให้ระวังตัว จู่ๆ ไทเกอร์ หยุดนิ่ง ทำหน้างงๆก่อนจะบ่นอุบอิบว่า กลิ่นหายไปหมดแล้ว ทาฮิร่าจึงถอนใจยาวอย่างโล่งอก จากนั้นต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรกว่าบาบาร่ากับไทเกอร์จะยอมกลับไป เมื่อแน่ใจว่าอยู่กันตามลำพัง ทาฮิร่าจึงลองส่งกระแสจิตคุยกับแนนนี่อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่านางไม่ได้หูแว่วไปเอง เด็กน้อยทำให้นางอึ้งเมื่อสามารถโต้ตอบกับนางทางกระแสจิตได้ราวกับคนที่โตแล้ว ทาฮิร่าเลี้ยงแนนนี่ลำบากขึ้นทุกวัน เพราะบาบาร่ากับไทเกอร์มาแอบดูอยู่เสมอ และหลายครั้งที่เกือบจับแนนนี่ได้ ทว่าแนนนี่มีอำนาจพิเศษที่เก่งกว่า เพราะจะรู้ตัวและหายจากอ้อมแขนทาฮิร่าไปซ่อนตัวในตะเกียงแก้วอย่างรวดเร็วจนทาฮิร่าปรับตัวไม่ทัน ต้องยืนทำท่าอุ้มเด็ก พูดคนเดียวอยู่จนบาบาร่ากับไทเกอร์สงสัยมากขึ้นทุกที ขณะเดียวกัน ผู้นำแม่มดประกาศตามล่าอสูรต่อไปจนกว่าจะกำจัดได้ สถานการณ์ที่ดินแดนเวทมนตร์ตึงเครียดขึ้นทุกวัน จนทาฮิร่าตัดสินใจว่าต้องส่งแนนนี่มาเลี้ยงที่โลกมนุษย์ และต้องหาครอบครัวที่ดี มีศีลธรรมด้วยเพื่อจะได้อบรมสั่งสอนให้อสูรน้อยกลับตัวกลับใจ นางมั่นใจว่าเด็กที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูด้วย ความรัก ความเมตตา และได้รับการสั่งสอนที่ดี จะเติบโตเป็นคนดีได้ ดังนั้นทาฮิร่าจึงต้องเดินทางมาโลกมนุษย์บ่อยครั้ง ครอบครัวดีที่ต้องการนั้นหายากเหลือเกิน
วันหนึ่ง ทาฮิร่าบินผ่านซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง นางเห็นหญิงสาววัยรุ่นอุ้มเด็กเดินแกมวิ่งท่าทางโกรธจัด หน้าตาบูดบึ้ง ปากบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง เมื่อนางตั้งใจฟัง ก็ตกใจจนแทบเป็นลม เพราะหญิงคนนั้นตั้งใจพาเด็กมาทิ้งที่กองขยะ หรือถ้ามีโอกาสก็จะฆ่าทิ้งทันที ก่อนที่ทาฮิร่าจะบินลงไปห้าม ผู้หญิงอีกคนหนึ่งวิ่งมาห้ามเสียก่อน ผู้หญิงคนนี้แต่งกายดีท่าทางมีเมตตา ทาฮิร่าแอบดูเหตุการณ์ต่อไปจึงรู้ว่า แม่ของเด็กชื่อมาลี เป็นเด็กสาวมาจากต่างจังหวัด มีอาชีพเป็นแม่ค้าขายปลาในตลาด อยู่มาวันหนึ่ง มาลีถูกผู้ชายกลุ่มหนึ่งฉุดและโดนรุมข่มขืนจนหมดสติจำอะไรไม่ได้ มาลีไม่กล้าไปแจ้งความเก็บเรื่องเงียบไว้ กว่าจะรู้ตัวก็ตั้งท้องได้หลายเดือนแล้ว พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แท้ง แต่ไม่สำเร็จ เธอไม่รักลูกเลยสักนิด ทุกวันมาลีจะบ่นระบายความเคียดแค้นชิงชังอยู่คนเดียว โดยไม่รู้ว่าเด็กในท้องรับรู้ถึงความโกรธแค้นนี้ด้วย เมื่อครบกำหนด มาลีคลอดลูกเป็นหญิง หน้าตาน่าเอ็นดู แต่เธอกลับเกลียดลูกที่สุด ทันทีที่ออกจากโรงพยาบาล มาลีตั้งใจจะอุ้มลูกมาทิ้ง ทว่า ปัทมน (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) เจ้าของโรงงานเย็บกระเป๋าเพื่อส่งออกที่มีชื่อเสียงมาพบเข้าเสียก่อน เธอเป็นคนใจบุญ จึงขอลูกสาวของมาลีมาอุปการะ มาลีรีบส่งลูกให้โดยไม่อาลัยสักนิด มาลีวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่า ปัทมนจะคืนลูกกลับมา ทาฮิร่าตามปัทมนไปถึงบ้าน ได้รู้เพิ่มเติมอีกว่า ปัทมนเป็นม่าย มีลูกชาย หนึ่งคนชื่อ ธานี (กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์) อายุเพิ่ง 5 ขวบ เธอเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จมาก ใจบุญ และฐานะดี บ้านของเธออยู่ติดกับ ดร.จักรวาล (ปรินทร์ วิกรานต์) นักวิทยาศาสตร์หนุ่มใหญ่ เขาเป็นพ่อม่ายมีลูกติดสองคน ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง คือ ภวัต (ชนะพล สัตยา) อายุเท่า ธานี และ รัดเกล้า (ธันย์ชนก ฤทธินาคา) อายุประมาณ 3 ขวบ ทั้งสองครอบครัวนี้ สนิทสนมกันมาก เด็กๆ ก็รักกันเหมือนพี่น้อง เรียนอยู่ที่เดียวกันด้วย ดังนั้น ดร.จักรวาล กับ ปัทมน จะผลัดกันรับลูกถ้าอีกฝ่ายไม่ว่าง หรือถ้าใครมีงานต้องไปต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ หลายวัน ดร.จักรวาล กับ ปัทมน จะสลับกันช่วยดูแลเด็กๆ ให้ เด็กหญิงลูกของมาลี ปัทมนตั้งชื่อให้ว่า ดารกา (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ธานีเห่อน้องสาวคนใหม่มาก รวมไปถึง ภวัต กับรัดเกล้าด้วย ทาฮิร่าพรางตัวแอบตามดูครอบครัวนี้อยู่หลายวันจนรู้ว่า ดร.จักรวาล กับ ปัทมน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ปัทมน เป็นคนจิตใจงาม อ่อนโยน ชอบปฏิบัติธรรม ทาฮิร่าดีใจที่พบคนที่เหมาะสมที่จะฝากแนนนี่ให้ดูแลแล้ว แต่ยังหาวิธีส่งตัว แนนนี่มาอยู่ที่นี่อย่างแยบยลไม่ได้ ทุกวันที่กลับไปจากบ้านปัทมน ทาฮิร่าจะเล่าเรื่องครอบครัวนี้ให้แนนนี่ฟัง นางบอกต่อไปว่าการที่หลานสาวตัวน้อยได้ไปอยู่กับปัทมนจะเป็นการดี และปลอดภัยที่สุด บ่ายวันหนึ่งขณะที่ ทาฮิร่า พรางตัวมาที่บ้านนี้เช่นเคย เสียงเอะอะของคนในบ้านที่ตามหา ธานี ทำให้ทาฮิร่าร้อนใจ นางปรากฏร่างที่สระว่ายน้ำทันทีที่ได้ยิน เสียงกรีดร้องของปัทมน ภาพของเด็กชายธานีกำลังดิ่งจมลงก้นสระ ทำให้ปัทมนทำอะไรไม่ถูก ทาฮิร่าร่ายมนตร์วิเศษทันที ร่างธานีกลับพลิกหงายลอยตัวขึ้นช้าๆ กลับมาที่ริมสระ ในช่วงเวลานั้นปัทมนตกตะลึงตาค้างมองทาฮิร่าอย่างแปลกใจ เมื่อร่างลูกชายลอยมาใกล้เธอๆ รีบวิ่งไปช้อนตัวลูกชายขึ้นมากอด ธานีรู้สึกตัวดีไม่มีอาการของคนที่จมน้ำเลย อย่างไรก็ตาม ปัทมนก็จะพาแกไปโรงพยาบาล ขณะที่ทุกคนในบ้านโกลาหลช่วยธานี ปัทมนเหลียวหาหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมรุ่มร่าม ท่าทางใจดี ที่ช่วยลูกชายไว้ เธอหันไปพบนางกำลังจะเลือนหายไปในกำแพง ปัทมนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ที่โรงพยาบาลหมอตรวจธานีอย่างละเอียดและบอกว่าปลอดภัยดี คืนนั้นปัทมนสวดมนตร์อยู่นาน ตั้งจิตอธิษฐานขอพบหญิงลึกลับที่ช่วยชีวิตลูกชายสักครั้ง เมื่อปัทมนกลับเข้าห้องนอนส่วนตัว เธอพบทาฮิร่านั่งรออยู่แล้ว มาคราวนี้นางแต่งกายสุภาพทันสมัย สง่างาม หน้าตายิ้มแย้มอย่างคนใจดี ปัทมนรีบยอบตัวลงนั่งพนมมือไหว้ขอบคุณทาฮิร่าทันที การที่นางช่วยชีวิตธานีไว้ ปัทมนถือว่าเธอเป็นหนี้บุญคุณนางที่สุด ทาฮิร่าคุยกับปัทมนอยู่นานนางขอร้องให้ช่วยเลี้ยงแนนนี่ หลานสาวตัวน้อย เด็กพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ทาฮิร่าจำเป็นต้องบอกข้อมูลบางอย่างให้ปัทมนรู้เพื่อจะได้ไม่ตกใจ ถ้ายัยหนูทำอะไรแผลงๆ ทาฮิร่าบอกว่านางเป็นแม่มดมาจากดินแดนเวทมนตร์ ส่วนแนนนี่เป็นหลานสาวที่มีเลือดผสมของมนุษย์กับแม่มด เด็กกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการยอมรับจากคนที่นั่น ทาฮิร่าจึงต้องนำมาฝากให้ปัทมนเลี้ยงดู โดยขอให้อบรมแกให้เป็นคนดี และสัญญาว่าจะมาเยี่ยมแกบ่อยๆ ช่วยประคับประคองอีกทางหนึ่ง ทาฮิร่าขอร้องให้ปัทมนเก็บเรื่องแนนนี่เป็นแม่มดไว้เป็นความลับ ซึ่งปัทมนยอมรับปากอย่างเต็มใจ
ไม่กี่วันต่อมา ทาฮิร่าในมาดหญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวดี สง่างามก็อุ้มแนนนี่มาให้ปัทมน เธอรับแกมาอุ้มอย่างเอ็นดู เด็กน้อยตากลมโตใสแจ๋วยิ้มให้ปัทมน ทาฮิร่าอยู่ไม่นานก็กลับไป ได้แต่ส่งกระแสจิตคุยกับแนนนี่ตลอดเวลา น่าแปลกที่ทันทีที่ปัทมนอุ้มแนนนี่ ดารกากลับร้องไห้จ้างอแง อย่างไม่มีเหตุผล วันนั้นธานีภวัต และรัดเกล้า แย่งกันเลี้ยงน้องสาวคนใหม่ พอดารการ้องไห้ก็ไปโอ๋ดารกา ภวัต สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงใสแจ๋วก้องในหัวว่า ห้ามไปเล่นกับคนอื่น พี่ภวัตต้องเป็นพี่ชายของแนนนี่คนเดียว เขาเหลียวมองรอบตัวก็ไม่มีใคร ภวัตหันไปมองแนนนี่ ยัยหนูยิ้มให้ส่งเสียงอ้อแอ้ชวนเล่นเหมือนทารกทั่วไป แต่เมื่อเขาหันไปหา ดารกา เสียงดุๆ ใสแจ๋วนั่นก็ดังขึ้นอีก พี่ภวัตมาหาแนนนี่ ภวัต มองธานี รัดเกล้า และยายผาด (จารุศิริ คชหิรัญ) พี่เลี้ยงของเด็กๆอย่างประหลาดใจ ที่ทุกคนทำราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ภวัตหันไปมองแนนนี่อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องนั้น เด็กชายคิดว่าเขาหูแว่วไปเอง ทาฮิร่าที่แอบเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่อ่อนใจในความแก่นแก้วของแนนนี่ นางหาโอกาสปรากฏตัวมาคุยกับภวัต บอกว่าแกเป็นยายของแนนนี่ ค่อยๆคุยจนเด็กชายถามถึงเรื่องที่ได้ยินเสียงแนนนี่ หรือแนนนี่พูดโต้ตอบราวกับอ่านใจเขาได้ ทาฮิร่าทำเป็นดีใจที่ภวัตรู้สึกเหมือนแก แถมยังบอกอีกว่า แกไม่กล้าบอกใครกลัวเขาจะหาว่าเพี้ยน แนนนี่เป็นเด็กพิเศษจริงๆ ทาฮิร่ากับภวัตตกลงกันว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับรู้กันสองคน ภวัตรู้สึกดีและสบายใจมากขึ้นที่ไม่ได้ผิดปกติคนเดียว ดึกมากแล้วเมื่อทาฮิร่ามาหาแนนนี่ ยัยหนูดีใจนักหนา แต่เมื่อทาฮิร่าถามเรื่องภวัตว่าทำไมต้องพูดคุยสื่อสารกับเขา แนนนี่ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า ตนรู้สึกผูกพันกับเขามาก ทันทีที่เห็นหน้า และจะไม่ยอมให้เขาไปวุ่นวายกับคนอื่นเด็ดขาด พี่ภวัตต้องรักแนนนี่ เป็นพี่ชายของแนนนี่คนเดียว ทาฮิร่าเริ่มหนักใจกับอิทธิฤทธิ์ของเจ้าอสูรน้อยเต็มที เวลาผ่านไป วันนี้ที่บ้านปัทมนจัดงานฉลองวันเกิดให้ลูกสาว ทั้งสองคน คือ ดารกา และแนนนี่ ทั้งคู่อายุ 12 ปีแล้ว ปัทมนเลี้ยงเด็กทั้งคู่มาด้วยกัน อบรมเหมือนกันทุกอย่างแต่นิสัยใจคอต่างกันลิบลับ แนนนี่ทั้งขี้อิจฉา เอาแต่ใจตัวเอง เป็นตัวป่วนประจำบ้าน แก่นแก้ว ชอบแกล้งและเอาเปรียบดารกาตลอดมา แกไม่ยอมรับว่าดารกาเป็นพี่สาว แม้ปากจะเรียก พี่ดา แต่ก็เรียกไปอย่างนั้น แนนนี่รักและติดภวัตมาตั้งแต่เด็กๆ จะอาละวาดถ้าภวัตไม่เล่นด้วยหรือหันไปสนใจดารกา ด้านการเรียนแนนนี่เรียนไม่ค่อยเก่งจนปัทมนหนักใจส่วนดารกาตรงกันข้าม เด็กหญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน เรียนเก่ง และยอมให้แนนนี่แกล้งตลอดเวลา ยายผาดสรุปว่า ถ้าเป็นละครดารกาก็เป็นนางเอกส่วนแนนี่คือนางอิจฉา วันนั้นเกิดเรื่องอีกจนได้ เมื่อภวัตหยิบกล่องของขวัญผูกโบว์สีชมพูให้ดารกาก่อนจะหยิบกล่องผูกโบว์สีแดงให้แนนนี่ พลางพูดเย้าอย่างอารมณ์ดีว่า สีชมพูเหมาะกับดารกาที่หวานเรียบร้อย ส่วนแนนนี่เป็นสีแดงเพราะซนเหลือเกิน แนนนี่ตาคว่ำมองดารกาที่บรรจงแกะกล่องอย่างหมั่นไส้เต็มทน แต่ยังเกรงใจภวัตจึงไม่อาละวาด ดารกาหยิบผ้าพันคอเนื้อนิ่มสีชมพูหวานคลี่ออกดูอย่างพอใจ เด็กสาวขอบคุณภวัตพี่ชายที่แสนดีอย่างน่ารัก แนนนี่งอนป่องฉวยกล่องของขวัญไปที่ห้องนอน เธอแกะโบว์และฉีกกระดาษขาดอย่างคนใจร้อนและเอาแต่ใจ ทาฮิร่าซึ่งแอบดูอยู่นานได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ แนนนี่กระชากผ้าพันคอเนื้อนิ่มแบบเดียวกับของดารกา เพียงแต่เป็นสีแดงออกมาอย่างโกรธจัด ทั้งที่ผ้าพันคอผืนนั้นสีสวยสดใสมาก แต่แนนนี่กลับมองไม่เห็นความสวยงามของมันเด็กสาวฉีกผ้าพันคอขาดเป็นริ้วทันที บ่นพึมพำต่อว่าภวัตที่ไม่รู้ใจตนว่าตัวเองชอบสีชมพูและเกลียดสีแดงที่สุด แนนนี่ทำให้ทาฮิร่าต้องปรากฏตัวออกมา แนนนี่ดีใจที่ยายมาหา แต่ก็หน้าเสียเพราะรู้ว่าเดี๋ยวต้องถูกดุแน่นอน ทาฮิร่าอบรมแนนนี่ที่ทำตัวไม่น่ารัก ไม่เห็นคุณค่าของของขวัญที่ภวัตหามาให้ เด็กสาวเถียงข้างๆ คูๆ ว่า ภวัตแกล้งเลือกสีแดงมาให้ทั้งที่รู้ว่าแนนนี่ชอบสีชมพู ทาฮิร่าจึงพูดอย่างรู้ทันว่า ถ้าภวัตเลือกสีแดงให้ดารกาแล้วสีชมพูให้แนนนี่ เธอก็จะเกลียดสีชมพูใช่หรือไม่ แนนนี่หน้าแดงที่ยายรู้ทันแต่ไม่ยอมรับง่ายๆ ทาฮิร่าจึงบอกว่า รู้มั้ยกว่าภวัตจะตัดสินใจเลือกผ้าพันคอผืนนี้ให้แนนนี่เขาใช้เวลาเลือกอยู่นานมาก ต่างกับของดารกา ที่เห็นปุ๊บก็หยิบเลย แนนนี่ยังเถียงว่า เพราะภวัตสนใจแต่ดารกา จึงรู้ดีว่าต้องหยิบสีชมพู
ทาฮิร่าระอาใจกับความรั้นของแนนนี่จนอยากจะตีแม่หลานสาวจอมแก่นสักที แต่ก็ทำไม่ลงจึงอธิบายต่อไปอีกว่า ตรงกันข้ามเลย ที่เลือกให้แนนนี่อยู่นานก็เพราะต้องการให้ของที่ถูกใจแนนนี่ต่างหาก ภวัตเดินหาอยู่นานกว่าจะได้ผ้าพันคอสีแดงสวยถูกใจเขา ถ้าไม่เพราะสนใจแนนนี่มากจะเดินหาให้เหนื่อยทำไม หยิบสีอะไรก็ได้ หรือแม้แต่สีแดงก็มีให้เลือกเป็นสิบๆ เฉดสี แต่ผืนนี้สวยต่างจากผืนอื่นภวัตจึงเลือกมาให้เธอ แต่แนนนี่กลับฉีกขาดเหมือนไม่เห็นคุณค่าและน้ำใจคนให้ ทาฮิร่าย้ำว่าที่รู้ก็เพราะแอบตามไปเพื่อหาของขวัญให้แนนนี่เหมือนกัน แนนนี่ยิ้มออกโบกมือร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว ผ้าพันคอที่ขาดเป็นริ้วกลับคืนสู่สภาพเดิมทันที ทาฮิร่าถอนใจอย่างหนักใจเมื่อเห็นแนนนี่ใช้เวทมนตร์ นางย้ำกับเธอว่า บอกกี่ครั้งว่าห้ามใช้เวทมนตร์พร่ำเพรื่อ เพราะแนนนี่เกิดมาเป็นลูกครึ่งแม่มดลูกครึ่งมนุษย์ การใช้เวทมนตร์พร่ำเพรื่อหรือใช้ในทางที่ผิดจะเป็นการทำลายตนเอง แนนนี่โผกอดทาฮิร่าอย่างประจบและรับปากว่าจะระวังให้มากขึ้น ทาฮิร่าใจอ่อนแม้จะรู้ว่าแนนนี่จะเผลอตัวบ่อยครั้งเมื่อไม่ได้ดั่งใจ แนนนี่อ้อนขอตะเกียงแก้วจากทาฮิร่าเป็นของขวัญวันเกิดเหมือนทุกปี เด็กสาวปฏิเสธของขวัญชิ้นอื่นจากทาฮิร่าจะขอเพียงอย่างเดียวคือตะเกียงแก้วที่ผูกพันมาตั้งแต่เด็ก ทาฮิร่ารับปากว่าปีนี้จะให้ โดยตกลงกันก่อนว่าแนนนี่ต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเป็นความลับอย่าให้ใครเห็นเด็ดขาด แนนนี่รับปาก ทาฮิร่าจึงบอกว่าคืนนี้จะนำมาให้ แต่ตอนนี้ให้แนนนี่กลับลงไปทำหน้าที่เจ้าของวันเกิดที่น่ารักได้แล้ว เด็กสาวพันผ้าพันคอผืนสวยวิ่งลงมาอย่างอารมณ์ดี แม้จะหงุดหงิดที่ต้องเป่าเค้กพร้อมกับดารกาแต่ก็พยายามข่มใจ แนนนี่ตัดเค้กลงจานแบ่งแล้วรีบยกไปให้ปัทมนกับจักรวาลที่โต๊ะก่อนดารกาจะแย่งทำ แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งแนนนี่เห็นดารกากำลังประคองถาดเสิร์ฟเค้กให้ ภวัต รัดเกล้า และธานีที่โต๊ะกลางสนาม แนนนี่ก็โกรธขึ้นมาอีก เธอเหลือบเห็นผ้าพันคอสีชมพูที่ดารกาวางเอาไว้ แนนนี่ห้ามใจไม่อยู่สาวน้อยอารมณ์ร้ายหยิบผ้าพันคอผืนนั้นขึ้นมาฉีกขาดก่อนจะพับไว้เหมือนเดิม เมื่องานเลี้ยงเลิก ดารกาหยิบกล่องของขวัญกลับไปที่ห้อง เธอใจหายเมื่อเห็นว่าผ้าพันคอผืนสวยเป็นรอยขาดหลายแห่ง ดารกานึกรู้ว่า ต้องเป็นฝีมือแนนนี่ เธอเดินไปที่ห้องน้องสาวและต่อว่าอย่างเสียใจ แต่แนนนี่กลับทำไม่รู้เรื่องปฏิเสธเสียงแข็ง แต่แล้วก็หน้าซีดเมื่อดารกาพูดเรียบๆ ว่า งั้นคงขาดมาจากที่ร้านแล้วภวัตไม่เห็น เธอจะไปบอกภวัตให้พาไปเปลี่ยนผ้าผืนใหม่ ดารกาออกจากห้องไปแล้ว แนนนี่หน้าเง้าไม่พอใจ เธอจะยอมให้ดารกาทำอย่างนั้นไม่ได้ สาวน้อยพึมพำขอโทษทาฮิร่าก่อนจะผิดสัญญาใช้เวทมนตร์ทำให้ผ้าพันคอสีชมพูกลับสู่สภาพเดิมอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ส่วนดารกากลับไปที่ห้องส่วนตัว ได้แต่เสียใจที่โดนแกล้ง แต่เธอคงไม่บอกภวัต ที่พูดไปก็เพราะต้องการให้แนนนี่กลัวบ้างเท่านั้น ดารกาสะบัดผ้าออกเพื่อพับเก็บ เด็กสาวอึ้งเมื่อเห็นว่าผ้าพันคอผืนสวยไม่มีรอยขาดแม้สักนิด ความดีใจที่ได้ของกลับมามีมากกว่าความสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรกัน คืนนั้นดารกาหลับอย่างมีความสุข ส่วนแนนนี่คอยทาฮิร่าจนดึกกว่าทาฮิร่าจะมา นางนำตะเกียงแก้วมาให้แนนนี่ตามสัญญา ซึ่งแนนนี่ดีใจมาก คว้ามือทาฮิร่าหายวับลงไปในตะเกียงแก้วด้วยกันทันที ห้องในตะเกียงแก้วสวยงามน่าอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง แนนนี่ลงนอนบนเบาะนุ่มสีสวยแล้วหลับไปอย่างง่ายดาย ทาฮิร่ายิ้มให้อย่างเอ็นดูก่อนจะกลับดินแดนเวทมนตร์ไป
ไม่กี่วันต่อมา จักรวาลนำข่าวดีมาบอกภวัตว่ามหาวิทยาลัยที่อเมริกาตอบรับให้เขาเข้าเรียนแล้ว และต้องเดินทางเร็วๆ นี้ ภวัตตั้งใจจะเรียนแพทย์ เขาเรียนเก่งจนได้ไปเรียนต่ออย่างที่ตั้งใจ ข่าวนี้ทำให้ดารกาซึมลงไป เธอเองก็รักและ ติด ภวัตไม่ต่างจากแนนนี่เช่นกัน ส่วนแนนนี่ที่ใครต่อใครเป็นห่วงว่าคงอาละวาดไม่ยอมให้ภวัตไป กลับนิ่งเฉย ไม่ทุกข์ร้อนเสียใจอะไรเลยสักนิดจนทุกคนแปลกใจ เมื่อถามเธอเรื่องนี้ แนนนี่กลับพูดจาเป็นผู้ใหญ่ว่าภวัตไปเรียนเพื่อนำความรู้กลับมารักษาคนไข้ไม่ได้ไปเที่ยวสักหน่อยจะโกรธทำไม ที่จริงแล้วแนนนี่รู้ดีว่าเธอจะไปหาภวัตเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเธอเป็นแม่มด แว้บไปแว้บมาเมืองไทยกับอเมริกาง่ายนิดเดียว วันที่ไปส่งภวัตที่สนามบิน แนนนี่หงุดหงิดที่ดารกาทำพวงกุญแจที่มีกรอบรูปใส่รูปตัวเองให้ภวัตติดตัวไปเป็นที่ระลึกเพื่อจะได้ไม่ลืมเธอ แต่ครู่เดียวก็ยิ้มระรื่น รูปถ่ายหรือจะสู้ตัวจริงอย่างแนนนี่ ทาฮิร่าแอบมาพบภวัตที่ห้องพักผู้โดยสาร นางมาอวยพรให้เขาเรียนสำเร็จและเดินทางปลอดภัย ชายหนุ่มงงๆ ที่ทาฮิร่าโผล่มาและหายไปอย่างรวดเร็ว จนเขานึกชมว่านางช่างแข็งแรงเหลือเกิน ส่วนแนนนี่เมื่อกลับถึงบ้านเธอรีบกลับไปที่ห้องส่วนตัวก่อนจะหายแว้บไปพร้อมไม้กวาด พาหนะคู่ใจ เธอจะบินตามไปส่งภวัตพี่ชายคนพิเศษของเธอ ส่วนภวัตตกใจนึกว่าตาฝาดเมื่อเห็นแนนนี่ขี่ไม้กวาดบินลอยอยู่ข้างหน้าต่างเครื่องบิน เสียงใสๆ ของเธอที่ดังขึ้นในใจทำให้เขารู้ว่าไม่ผิดตัว เป็นแนนนี่จริง ภวัตทำอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าเธอทำได้อย่างไร แนนนี่โบกมือให้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังทำให้ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ สงสัยว่า ภวัตจะเพี้ยน เพราะมีเขาเพียงคนเดียวที่จะเห็นเธอได้ ในเวลาเดียวกัน ทาฮิร่าที่เฝ้ามองหลานสาวจากดินแดนเวทมนตร์ หนักใจที่แนนนี่อสูรน้อยตนนี้ฤทธิ์มากเหลือเกิน ขี่ไม้กวาดบินตามเครื่องบินได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยตั้งแต่อายุนิดเดียว แนนนี่เป็นเด็กพิเศษมากจริงๆ เสียด้วย ทาฮิร่าอดสงสัยไม่ได้ว่าหลานสาวเป็นอสูรแต่ทำไมใช้เวทมนตร์และขี่ไม้กวาดคล่องแคล่วราวกับแม่มดอย่างนี้ เก่งกว่าจินนี่กับฮันนี่เสียอีก ส่วนภวัตแปลกใจมากขึ้นเมื่อเขาเดินทางถึงที่พักแล้วพบแนนนี่นั่งรออยู่แล้วที่เก้าอี้รับแขก ภวัตเข้าใจว่าแนนนี่บินตามมาพร้อมครอบครัว แนนนี่ต้องอธิบายอยู่นาน แสดงการใช้เวทมนตร์อีกหลายอย่างกว่าภวัตจะยอมรับอย่างไม่เต็มใจนักว่าเธอเป็นแม่มด เวลาผ่านไปอีก แนนนี่โตเป็นสาวสวยคมเข้มสะดุดตา เธอเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนดารกามุมานะจนสอบติดแพทย์จนได้ เธอตั้งใจเรียนแพทย์เหมือนภวัตเพราะต้องการใกล้ชิดกับเขา ทั้งที่เคยตั้งความฝันว่าจะเป็นนักธุรกิจเหมือนปัทมน ขณะที่ภวัตเรียนอยู่อเมริกา คนอื่นๆ ในครอบครัวติดต่อกับเขาทางสื่อทันสมัยต่างๆ ทั้งโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต แต่แนนนี่กลับใช้วิชาแม่มด แม้จะโบราณแต่ได้ผลดีกว่า เพราะเธอสามารถไปพบกับภวัตได้ตลอดเวลา แม้จะต้องทำตามเงื่อนไขของภวัตอยู่บ้าง เช่นให้ระวังตัว หรือห้ามมากวนตอนใกล้สอบ แนนนี่ก็พอใจ บ่ายวันนี้ รัดเกล้านำข่าวของภวัตมาเล่าให้ฟังเหมือนเคย แต่ข่าวนี้กลับทำให้ดารกาเสียใจมาก รวมทั้งแนนนี่ด้วย รัดเกล้าบอกว่า กลับมาคราวนี้ภวัตคงพาแฟนกลับมาด้วย เธอชื่อ บุษบา (ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) เป็นผู้หญิงที่สนิทสนมกับภวัตมากเป็นพิเศษ ดารกาเสียใจ เจ็บปวดจนต้องหนีกลับไปร้องไห้ที่ห้องพัก เธอรักภวัตเหลือเกิน ในความรู้สึกของเธอภวัตไม่ใช่ พี่ชาย มานานหลายปีแล้ว แต่เขาเป็น คนพิเศษในใจเธอต่างหาก ส่วนแนนนี่แทบอดใจรอจนถึงค่ำไม่ไหว คืนนี้เธอต้องไปคุยกับภวัตให้รู้ความจริงเกี่ยวกับบุษบาให้ได้ ที่ห้องพักของภวัต ชายหนุ่มโดนแนนนี่แม่มดจอมป่วน ซักถามเขาอย่างละเอียดเรื่องบุษบา ซึ่งเขาตอบตามความจริงว่าไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเพื่อน แนนนี่ถามจนพอใจ เมื่อมั่นใจว่าภวัตไม่ได้รักบุษบาเธอโผเข้ากอดภวัตแน่นอย่างดีใจ บอกย้ำว่าเขาต้องรักเธอดูแลเธอคนเดียวเท่านั้น ภวัตใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แนนนี่เข้ามากอดเขา แต่ทุกครั้งเธอเหมือนน้องน้อยน่ารักขี้ประจบทำให้เขารู้สึกเอ็นดู ไม่เคยใจเต้นแรงอย่างนี้สักครั้ง ภวัตค่อยๆ ปลดมือยัยจอมแก่นออกจากตัว ข่มใจไม่ให้ตื่นเต้นจนแนนนี่รู้ เพราะเธออ่านใจเขาได้ง่ายมากถ้าภวัตเผลอตัวคิดเรื่อยเปื่อย เขารู้ว่าถ้าเขาทำจิตว่างแล้ว แนนนี่จะไม่สามารถอ่านใจเขาได้เลย ชายหนุ่มแกล้งไล่แนนนี่กลับโดยอ้างว่าเขาจะดูหนังสือเตรียมสอบครั้งสุดท้าย แนนนี่ยอมกลับแต่โดยดี ภวัตข่มใจอ่านหนังสือต่อไป พยายามทำจิตนิ่งๆ แต่ภาพของแนนนี่แม่มดสาวสวยคอยรบกวนจิตใจอยู่ร่ำไป วันหนึ่ง แนนนี่นึกสนุกแอบเดินทางไปที่ดินแดนเวทมนตร์ทั้งที่รู้ว่า ทาฮิร่าห้ามนักหนา แต่ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอแอบไปจนได้
แนนนี่ตื่นตาตื่นใจมากกับความสวยงามของดินแดนแห่งนี้ สาวน้อยไปที่โรงเรียนเวทมนตร์ เธอนั่งฟังการสอนของครูอย่างสนุกสนาน คาถาต่างๆ พรั่งพรูเข้าสมองอย่างง่ายดาย ช่างต่างจากการเรียนที่มหาวิทยาลัยบนโลกจริงๆ ที่แนนนี่ไม่เข้าใจอะไรเลย หญิงสาวหลบออกไปก่อนที่ใครจะทันสังเกต เธอเดินเพลินๆไปที่ห้องสมุดสะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่ง ปกสีดำสนิท ตัวหนังสือสีทองกระจ่างที่หน้าปก แนนนี่หยิบขึ้นมาเปิดดูอย่างสนใจ ตาคมสวยเป็นประกายอย่างถูกใจเมื่อเห็นว่าเป็นตำราที่รวบรวมคาถาบทพิเศษๆ เอาไว้ แนนนี่พึมพำขอยืมก่อนจะเก็บหนังสือเล่มนั้นใส่กระเป๋าสะพายทันที แม่มดน้อยออกเที่ยวต่อไปอย่างตื่นตาตื่นใจ จนมาถึงตลาดกลางเมืองซึ่งทาฮิร่า บาบาร่ากับไทเกอร์ออกมาซื้อของเช่นกัน แนนนี่เดินปะปนกับชาวเมืองไปเรื่อยๆ เธอเที่ยวเพลินจนไม่ทันระวังตัว มารู้สึกตัวอีกทีเจ้าไทเกอร์แมวตัวร้ายก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว ไทเกอร์เดินวนดมฟุดฟิดรอบตัวเธอ มันลังเลไม่แน่ใจ เมื่อได้กลิ่นอสูรจางๆ จากตัวแนนนี่ กลิ่นอ่อนมาก แต่ก็เป็นกลิ่นอสูร ไทเกอร์โวยวายเอะอะให้ช่วยจับอสูรทันที ทาฮิร่าตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นแนนนี่ เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายจนแนนนี่ทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อหันไปเห็นทาฮิร่าก็ใจชื้น สองยายหลานคุยกันทางกระแสจิต ทาฮิร่าแอบร่ายมนตร์ช่วยแนนนี่ให้หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิดเต็มที คืนนั้นทาฮิร่าตามมาดุแนนนี่ในตะเกียงแก้วมากมาย นางชี้ให้เห็นถึงอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับแนนนี่ถ้ายังดื้อไม่เชื่อนางและแอบไปที่ดินแดนเวทมนตร์อีก และการที่แนนนี่หย
หนัง : อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว
ช่อง : ช่อง 7
ออกอากาศทุกวัน : ศุกร์, เสาร์, อาทิตย์
ผู้กำกับ : จรูญ ธรรมศิลป์
บทประพันธ์ : โสภี พรรณราย
ผู้เขียนบท : ฉายฉันท์ / ภาวิต
ผู้จัด : ดีด้า วีดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
นักแสดงนำ : ชนะพล สัตยา, พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์, อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์, ธันย์ชนก ฤทธินาคา, กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์, ธันวา สุริยจักร, ดวงดาว จารุจินดา, สุปรีย์ฎา คำนวนศิลป์, ปนัดดา โกมารฑัต, มยุริญ ผ่องผุดพันธ์, ปรินทร์ วิกรานต์, ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว