ฝ้าย พลิกลิ้นยังหาพ่อ น้องจัสติน ไม่เจอ
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา นักร้องชื่อดัง แด๊ก-เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด ( แด๊ก-บิ๊กแอส ) ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา รัชดาฯ อีกครั้ง เพื่อตรวจพิจารณาพยานหลักฐานในคดีข้อหาพรากผู้เยาว์และทำอนาจาร อดีตนางแบบนู้ด ฝ้าย-สุวรรณรี ไชยมงคล หลังขอศาลเลื่อนนัดมาถึง 2 ครั้ง โดยแด๊กได้เดินทางมาที่ศาลด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และทันทีที่ได้พบหน้าคู่กรณี น้องฝ้าย ที่เดินทางมาเพื่อเข้าร่วมการตรวจสอบหลักฐานด้วยเช่นกัน ทั้งคู่ก็ได้มีการทักทายและพูดคุยกันพร้อมรอยยิ้มตลอดเวลา
ภายหลังพิจารณาคดีนักร้องชื่อดังยังคงคอนเซ็ปต์เดิน ไม่ขอพูดเรื่องรายละเอียดและยกหน้าที่ทั้งหมดให้กับทนายเป็นคนจัดการ ผิดกับด้าน น้องฝ้าย ที่ยินดีตอบคำถาม และยังได้กล่าวขอโทษสื่อมวลชน เจ้าตัวพลิกลิ้นสารภาพว่าแท้จริงแล้วยังหาพ่อตัวจริงให้ลูกชาย น้องจัสติน ไม่เจอ แต่ที่ครั้งก่อนให้สัมภาษณ์ไปว่าพบแล้ว และเขายังได้เซ็นรับรอง น้องจัสติน เป็นบุตร เพราะเคยโดนรังเกียจและถูกมองเป็นผู้หญิงสำส่อน บวกกับตัวเองยังเด็กเลยต้องพูดเพื่อตัดปัญหาไปก่อน
ฝต้องขอโทษพี่ๆ ทุกคนด้วย ที่ให้สัมภาษณ์ไปครั้งนั้นว่ารู้ตัวว่าใครเป็นพ่อของจัสตินแล้ว จริงๆ ยังไม่ทราบ แต่ที่ฝ้ายต้องให้ข่าวไปแบบนั้นเพราะเวลาเป็นข่าวทีไรฝ้ายจะต้องเดือดร้อนทุกที ที่ผ่านมาเวลาไปสมัครทำงานที่ไหนเขาก็ไม่รับ เหมือนเขารังเกียจและมองเราเป็นผู้หญิงไม่ดี เหมือนเราสำส่อน ด้วยความเด็กๆ ฝ้ายไม่รู้จะหาวิธีไหนก็เลยต้องตอบแบบนั้นไปเพื่อตัดปัญหาไปก่อน ถ้าฝ้ายไม่พูดไปแบบนั้นไปทำงานที่ไหนเขาก็ไม่รับ ตอนนี้ยังหางานทำไม่ได้และไม่มีเงินเลี้ยงลูก สงสารแม่ด้วยที่ต้องมาเดือดร้อนกับเรา ฝ้ายต้องมีรายจ่ายและลูกก็ต้องกินทุกวัน
ฝ้ายไม่อยากให้พี่นักข่าวถามถึงเรื่องนี้อีก เอาไว้ให้เสร็จคดีก่อนค่อยเดินเรื่องหาพ่อให้จัสตินอีกที ที่เจอกับพี่แด๊กเมื่อกี้ก็คุยกันแต่เรื่องลูก ไม่ได้คุยเรื่องคดี ซึ่งถ้าเขาหยิบยื่นน้ำใจมาให้ก็ยินดีรับเสมอ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เรื่องมันยุติโดยเร็ว เพราะยิ่งคดียืดเยื้อก็ยิ่งมีผลกระทบกับหนูและลูก ฝ้ายอยากทำมาหากินจะได้มีเงินมาเลี้ยงจัสติน แต่ถ้ายังมีข่าวอยู่ก็จะหาลำบาก
สำหรับความบหน้าของคดี ทนายความของอดีตนางแบบนู้ดได้เผยว่าอาจจะถอนแจ้งความ แด๊ก-บิ๊กแอส ในคดีข้อหาทำอนาจาร เนื่องจากฝ้ายอยากให้เรื่องยุติโดยเร็ว และไม่อยากให้แด๊กต้องติดคุก ส่วนคดีพรากผู้เยาว์นั้นไม่สามารถยอมความกันได้ จึงจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนายโจทย์ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาดำเนินการต่อ โดยศาลได้นัดสืบพยานโจทย์และจำเลยในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยเริ่มจากฝ่ายโจทย์ที่มีพยานทั้งหมด 8 ปาก ในวันที่ 13-14 ก.พ. จากนั้นจะสืบพยานฝ่ายจำเลยต่อในวันที่ 15-16 เดือนเดียวกัน
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
++ Update ข่าวดาราคนดังได้ก่อนใคร
AIS กด *48880521114
Dtac กด *19888821114
True move กด *48880521114