อิ๊ก หวั่นมีปากเสียง ทาทา ปัดทำรายการคู่ อนาคตลุ้นแฟน
เชฟหนุ่มรูปหล่อ อิ๊ก - บรรณ ปัดทำรายการร่วมซูเปอร์สตาร์สาว ทาทา ยัง เพราะกลัวมีปากเสียง ปิดปากเงียบไม่แฉรูปแบบรายการของเพื่อนสาว เพราะกลัวไม่เซอร์ไพร์ส บอกไม่ซีเรียสถูกมองเกาะชื่อเสียงทาทาดังไม่เลิก ย้ำสัมพันธ์ ณ วันนี้แค่เพื่อนแต่อนาคตไม่แน่ขอลุ้นเป็นแฟน
ตกเป็นข่าวจับคู่ซูเปอร์สตาร์สาว ทาทา ยังไม่เลิก ล่าสุดเชฟหนุ่มพิธีกรรายการ ครัวอินดี้ อิ๊ก - บรรณ บริบูรณ์ มีกระแสข่าวเตรียมทำรายการคู่กับทาทา เหมือนเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ที่มากเกินคำว่าเพื่อนให้ดูจริงยิ่งขึ้น พอสอบถามเรื่องนี้กับเจ้าตัว อิ๊กรีบบอกปัดทันที
"ไม่ได้ทำรายการกับทาทา แต่เขาทำของเขาเอง อิ๊กก็ทำรายการของอิ๊ก เราไม่ได้ทำคู่กัน เพียงแต่เราทำบริษัทเดียวกัน และเขาก็ไม่ได้มาปรึกษาอะไรผมในการทำ เพราะมันเป็นรายการทำอาหารของเขา ดังนั้นคงไม่มีอะไรต้องมาปรึกษา ถามว่ารายการทาทาเป็นแบบไหน เดี๋ยวผมบอกไปจะไม่สร้างเซอร์ไพร์ส เอาเป็นว่าเดี๋ยวไปดูกันเอาเองดีกว่า"
"โครงการที่ผมจะไปแจมรายการร่วมกับทาทาก็ยังไม่มี และยังไม่เห็นมีใครติดต่อมาให้ทำรายการด้วยกันเลย ถ้าจะให้ทำคู่กันจริงๆ เราก็ต้องดูด้วยว่าเป็นรายการอะไร เดี๋ยวทะเลาะกัน (หัวเราะ) มีข่าวคู่กับทาทาตลอดแบบนี้ผมไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะยังดีที่มีข่าวกับเพื่อน ไม่ใช่ไปมีข่าวกับคนที่ไม่รู้จักเลย เรื่องข่าวกับทาทาก็ถือว่ามีมูลเหมือนกันเพราะทำบริษัทเดียวกัน เพียงแต่ไม่ได้ทำคู่กันแค่นั้น (มีข่าวเยอะดูเหมือนไปตอกย้ำความสัมพันธ์?) ไม่หรอก เพราะบริษัทที่ทำอยู่มีคนอีกเยอะ เขาไม่ได้ทำแค่รายการแต่ทำอีเว้นท์ด้วย และผมก็ไม่ใช่รู้จักทาทาแค่คนเดียว ผมรู้จักอีกเยอะ แต่คนส่วนใหญ่จะรู้จักแค่ทาทากับอิ๊ก เลยถูกจับตามองอย่างนั้น"
ซีเรียสมั้ยถูกมองเกาะทาทาและสร้างกระแสให้ตัวเองตลอด? "ผมไม่ได้สร้างแต่ไม่รู้ใครสร้าง (หัวเราะ) แต่ไม่ว่ากระแสจะมายังไงเราก็ทำงานเหมือนเดิม มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกระแส ผมเลยไม่ซีเรียสอะไร มันไม่ใช่ข้อเสียด้วย ส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยได้ดูทีวีอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยได้ยินอะไรพวกนี้"
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ณ วันนี้ จะมีโอกาสพัฒนาขึ้นไปเป็นแฟนในอนาคตหรือไม่ พิธีกรหนุ่มเผยความรู้สึกว่า "อนาคตไม่แน่ไม่นอน แต่ตอนนี้เรายังบริสุทธิ์ใจเป็นเพื่อนกัน ทุกวันนี้ก็เจอหน้ากันตามบริษัท เพราะผมต้องเข้าประชุม แล้วบริษัทก็ไม่ใช่บริษัทใหญ่ตึกหลายสิบชั้น ก็เลยได้เจอกันบ้าง"
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก