4ส.ค.รู้ผล จา-เจียง ชี้ชะตา องค์บาก2

หนึ่ง ลั่นยังไม่รู้ จา เตรียมประกาศลาวงการ หากสหมงคลฟิล์ม ไม่รับข้อเสนอ 7 ข้อ ทนาย จา เผย ต้องการแค่ เสี่ยเจียง ออกมาบอก ว่ารับข้อเสนอข้อไหนได้บ้าง ย้ำหากนิ่งเฉย นักบู๊ชื่อดัง อำลาวงการผ่านสื่อ พร้อมขอขมา เผยตอนนี้กำลังเลือกวัดที่จะบวชอยู่ ครูตุ๊ยห่วงศิษย์ ทีมผู้บริหารบริษัท สหมงคลฟิล์ม นำโดยนายอัครพล เตชะรัตนประเสริฐ หรือ หนึ่ง ผู้อำนวยการพัฒนาธุรกิจ ลูกชายของนายสมศักดิ์ หรือเสี่ยเจียง ประธานกรรมการบริษัท ยืนยันผ่านรายการ "คม ชัด ลึก" ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่น แชนแนล โดยมีนายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ และนายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ว่าจะทำการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก 2 โดยมอบหมายให้ นายปรัชญา ปิ่นแก้ว และนายพันนา ฤทธิไกร ผู้ควบคุมงานสร้างภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ช่วยกันรับไปดูแลแทน นายพนม ยีรัมย์ หรือ จา นั้น ขณะที่ นายจารุพล เรืองเกตุ ทนายความของ จา ออกมาบอกว่า หาก นายสมศักดิ์ ไม่รับข้อเสนอทั้ง 7 จะไม่กลับไปทำหนังต่อ และ จา ก็จะปิดฉากตัวเองอำลาวงการหนัง ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม นายอัครพล หนึ่งในผู้บริหารสหมงคลฟิล์ม กล่าวถึงกรณีที่พระเอกหนุ่มยื่นข้อเสนอจะลาวงการ หาก นายสัมศักดิ์ หรือบริษัท สหมงคลฟิล์ม ไม่ตอบตกลงตามข้อเสนอ 7 ข้อ ว่าเรื่องนี้ คงต้องมีการประชุมกับผู้ใหญ่ในบริษัทก่อน "ณ ตอนนี้ผมยังไม่รู้เรื่องเลย ผมยังไม่ทราบเรื่องจริงๆ ว่าทางทนาย หรือ จา ออกมาพูดอะไร แต่ถ้าเขาพูดแบบนี้ เราก็ต้องคุยกับผู้ใหญ่ทางบริษัทอีกที หากทราบเรื่องแล้ว จะแถลงข่าวแน่นอน แต่ผมไม่แน่ใจ ว่าเมื่อไร ยังไงผมต้องขอโทษด้วย ที่ตอนนี้ให้คำตอบอะไรไม่ได้ เพราะเพิ่งทราบเรื่อง อาจจะมีการประชุมกันในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ แล้วจะเป็นการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายของบริษัท ที่จะแจ้งให้ทราบว่าเรื่องจะจบยังไง เพราะหนังเรารอไม่ได้จริงๆ" นายอัครพลกล่าว นายจารุพล กล่าวว่า ทางพระเอกนักบู๊ต้องการให้นายสมศักดิ์ ออกมาคุยกัน ข้อเสนอที่เรียกร้องไป ข้อไหนรับได้ ข้อไหนรับไม่ได้ อย่างไร ให้บอกฝ่ายสื่อมาก็ได้ หรือจะให้ทนายความของบริษัทโทรมาบอกตนเงียบๆ ก็ได้ อยากให้ติดต่อกลับมา จะได้ชัดเจน ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ไม่ใช่ตั้งแง่ และกดดันกันอยู่แบบนี้ "จาอยากให้เรื่องจบ แต่ถ้าเขายังนิ่งเงียบอยู่แบบนี้ จาก็จะแถลงข่าวอำลาวงการแน่นอน โดยจะลาผ่านสื่อ จะมีดอกไม้ธูปเทียน ขอขมาทั้งหมด ตอนนี้กำลังดูวัดอยู่ เพื่อที่ง่ายแก่การธุดงค์ของจา คือ จาบอกแล้ว ว่าถ้าไม่คุยกัน ไม่ออกมาบอกอะไร ไม่รับก็ไม่รับ ถ้าจะฟ้องเรื่องสัญญานักแสดง ฟ้องก็ฟ้อง" นายจารุพลกล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้า จา ไปบวช หรืออำลาวงการไปจริงๆ เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง นายจารุพล บอกว่า ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะจาเป็นคนแรกๆ ของนักแสดงไทยที่ก้าวไปสู่อินเตอร์ได้ ส่วนเรื่องสภาพจิตใจของนักบู๊คนดัง ยังคงสับสน และมีอาการเครียดให้เห็น แต่เรื่องครอบครัวเริ่มคลี่คลายแล้ว เพราะจาได้คุยกับแม่ (นางรินทร์ ยีรัมย์) และแม่ก็ได้ส่งต่อข้อความถึงพ่อ (นายทองดี ยีรัมย์) แล้ว ส่วนตนก็ได้คุยกับพ่อของจาแล้ว เหลือแต่ทางเสี่ย ที่จายังไม่ได้คุย และยังไม่ได้เคลียร์ "อย่างที่บอก ถ้ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางสหมงคลฟิล์มไม่ติดต่อกลับมาในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ผมจะแจ้งให้ทราบ ว่าจาจะแถลงข่าวลาวงการที่ไหน เมื่อไร" นายจารุพลกล่าว นายยอดธง เสนานันท์ หรือ ยอดธง ศรีวราลักษณ์ ( ครูมวยชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ที่บ้านพัก ภายในค่ายมวยศิษย์ยอดธง เลขที่ 36/7 หมู่ 6 ต.หนอปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่าด้วยที่ จา พนม เป็นลูกศิษย์คนหนึ่ง รู้สึกเป็นห่วงแบบครูห่วงลูกศิษย์ หาก จา พนม อยากมีผู้ใหญ่คอยให้คำปรึกษา ขอให้มาหาหรือโทรศัพท์มาหาตน พร้อมที่จะเป็นที่พึ่งทางใจและให้คำปรึกษาร่วมชี้ทางและหาช่องทางแก้ไขปัญหาทั้งหมด นายยอดธงกล่าวว่า ไม่มีครูหรืออาจารย์คนไหนอยากเห็นลูกศิษย์ลำบาก แล้วไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย แต่ไม่ขอเป็นมือที่สามเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นเห็นแล้วก็รู้สึกสะเทือนใจ เนื่องจากจา พนม เป็นลูกศิษย์ที่ตนภาคภูมิใจในการนำศิลปะมวยไทยไปเผยแพร่จนมีชื่อเสียงระดับโลก อีกทั้ง ยังเป็นพระเอกหนังบู๊ที่ไม่ใช้ตัวแสดงประกอบ ใช้ความสามารถของตัวเองมาตลอด "หวังเล็กๆ ว่าอยากจะให้ลูกศิษย์คนนี้กลับมาสร้างหนังให้จบ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และยืนยันว่าถึงแม้ครูจะไม่อยู่ในสายตายหรือความคิดของจา พนม แต่จะขอเป็นกำลังใจ และให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจบลงด้วยดี โดยขอให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาอย่างมีสติ หรือถ้าจาไม่มา ก็ขอให้นายพันนา ฤทธิไกร คิดถึงอดีตเมื่อ 5 ปีก่อน ที่นายพันนาเป็นผู้ชักนำและพาจามาฝึกมวย" นายยอดธงกล่าว ส่วนนายพนม ยีรัมย์ เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน นายพันนา พร้อมทีมงานได้พาจาไปฝากให้ครูยอดธง ช่วยถ่ายทอดศิลปะแม่ไม้มวยไทย โดยคลุกคลี กินนอน อยู่ในค่ายมวยศิษย์ยอดธง ก่อนที่ จา พนม จะได้เล่นภาพยนตร์องค์บากเรื่องแรกจนมีชื่อเสียงโด่งดัง