จา คืนสติลุย องค์บาก2 ต่อ ปิดกล้องขอบวช
ญาติๆ เผย จา พนม ตั้งสติได้แล้วสำนึกในพระคุณ เสี่ยเจียง บิ๊กสหมงคลฟิล์มฯ และเตรียมออกมาเปิดใจ แต่ตอนนี้ขอรวบรวมหลักฐาน ที่จะมายืนยันความโปร่งใสในการทำงานของตนเอง คาดภายในอาทิตย์หน้าคงได้รับฟังเรื่องราวแบบคำต่อคำ พร้อมลุยถ่ายหนังองค์บากต่อ และขอลาบวชเมื่อถ่ายทำเสร็จ ด้าน หนิง - นิรุตติ์ พูดตรงข้าม เสี่ยเจียง ลั่น จา พนม ไม่ได้หายไปไหน และกองถ่ายก็ยังคงถ่ายทำตามปกติ เผยพระเอกนักบู๊ เป็นคนทำงานมีสมาธิ และเป็นมืออาชีพ ส่วนเรื่องปลีกวิเวกไปนั่งสมาธิ คนปฏิบัติด้วยกันจะเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องแปลก คาดปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากการเข้าใจผิด อีกฝ่ายเร่งแต่อีกฝ่ายอยากใช้สมาธิ
หลังจากที่ทางสื่อมวลชนได้ตามล่าหา จา - พนม ยีรัมย์ และทางพระเอกนักบู๊ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เหตุที่หายจากกอง เพราะเกิดปัญหาคับใจ ส่วนหนึ่งมาจากการถูกตัดงบประมาณในการทำหนังเรื่อง องค์บาก 2 และต่อมาในช่วงค่ำของวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา บิ๊กบอสสหมงคลฟิล์ม เสี่ยเจียง - สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ พร้อม ปรัชญา ปิ่นแก้ว, พันนา ฤทธิไกร และ หนึ่ง - อรรถพล เตชะรัตนะประเสิร์ฐ แถลงข่าวที่โรงภาพยนตร์ เฮ้าส์ อาร์ซีเอ โดยมีเนื้อหาหลักๆ ว่าไม่ติดใจเอาความเรื่องที่ จา - พนม ยีรัมย์ บิ๊กของค่ายไอยราฟิล์ม ซึ่งรับหน้าที่แสดงและกำกับหนังเรื่อง องค์บาก 2 ทำงานล่าช้า ทำให้หนังเสร็จไม่ทันตามสัญญา จนญี่ปุ่นและอเมริกายกเลิกสัญญาซื้อ
พร้อมกันนั้นทาง จา พนม ได้ทิ้งกองเข้าไปปักหลักตั้งสติในป่านานร่วม 3 เดือน จนทำให้เกิดเป็นข่าวคราวตามล่าหา จา พนม บนหน้าหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้แล้วทางเสี่ยได้ประกาศผ่านสื่อฯ ว่า "ให้อภัย...ไอ้จาเป็นลูกกู และถ้าเกิดจาจะลาวงการไปเลี้ยงช้างหรือบวชไม่เป็นไร จะส่งเงินเดือนไปให้ทุกเดือน แต่ถ้าเกิดไปอยู่กับที่อื่น...ไม่ได้ !!" สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้บานปลายถึงขั้น จา พนม อยากจะยกเลิกสัญญาที่เซ็นไว้กับสหมงคลฟิล์ม ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้เกาะติดข่าว ตามล่าหา จา พนม แต่ไม่สามารถเข้าถึงตัวได้ อย่างไรก็ตามทางสยามดาราไม่ละความพยายาม และในที่สุดได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวว่า ข่าวคราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและทางบิ๊กบอสสหฯ รวมไปถึงคำพูดจากใจของพี่ที่แสนดี ไม่ว่าจะเป็น พันนา ฤทธิไกร หรือว่า ปรัชญา ปิ่นแก้ว นั้น เจ้าตัวรับทราบทั้งหมด
แต่ที่ยังไม่ออกมาแถลงข่าวฟอกตัวเองให้รอดพ้นจากข้อสงสัย และการสันนิษฐานของคนภายนอกนั้น เป็นเพราะว่าตอนนี้เจ้าตัวขอตั้งหลัก และในขณะเดียวกัน จา - พนม ยีรัมย์ กำลังเตรียมรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อจะนำมาแสดงให้เห็นถึงการทำงานที่โปร่งใสเกี่ยวกับการทำหนังเรื่อง องค์บาก 2 ซึ่งคาดว่าถ้าหากทุกอย่างเรียบร้อย อาทิตย์หน้าทุกคนคงจะได้เห็นโฉมหน้าพร้อมกับการเปิดเผยแบบคำต่อคำจาก จา พนม อย่างแน่นอน
... อันที่จริงเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ลึกลับซับซ้อน ช่วงนี้จาเขาสงบมีสติมากขึ้นกว่าเดิม และในขณะเดียวกันเขามีความเคารพในตัวบุคคลเช่นเดิมนั่นล่ะ กับข่าวคราวที่เกิดขึ้นมีหลายกระแสมากๆ ประเด็นนี้จาเขาอยากให้ทุกคนฟังจากปากเขามากกว่า ซึ่งถ้าจะฟังจากปากโดยไม่มีหลักฐานอะไรใดๆ ในอันที่จะยืนยันความโปร่งใส ก็คงไม่มีใครเชื่อ ดังนั้นภายในวัน 2 วันนี้จาเขาขอตัวรวบรวมเอกสาร เพื่อนำมาแสดงให้ทุกคนดู ส่วนจะเป็นเอกสารอะไรใดๆ คงต้องรอดูดีกว่า อาทิตย์หน้าถ้าทุกอย่างเรียบร้อยคงจะได้เจอเขาอย่างแน่นอน ... แหล่งข่าวกล่าว
วันเดียวกันมีรายงานข่าวว่า ทางญาติของพระเอก ผกก. นักบู๊ได้ออกมา ยืนยันว่า จา พนม จะกลับมาทำงานที่เหลือให้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ จา พนม ยังกล่าวขอบคุณที่ เสี่ยเจียง ไม่ถือโทษ ไม่ฟ้องเอาผิดกับคนเอง และยังให้โอกาสทำหนังเรื่อง องค์บาก 2 ต่อไป ตอนนี้ จา พนม ยังฝึกสมาธิอยู่ ซึ่งระหว่างทำสมาธิจะปิดโทรศัพท์มือถือ และหลังจากทำหนังเรื่องนี้แล้วเสร็จ จา พนม ตั้งใจว่าจะกลับไปบวชที่บ้านเกิดเพื่อตอบแทนบุญคุณพ่อแม่
ขณะเดียวกันดารารุ่นใหญ่ หนึ่งในนักแสดงสำคัญในเรื่อง องค์บาก 2 อย่าง นิรุตติ์ ศิริจรรยา กลับออกมาสัมภาษณ์สวนทางกับการแถลงข่าวของ เสี่ยเจียง เมื่อวันก่อนว่า จา พนมไม่ได้หายไปไหน ตนยังถ่ายทำกันเป็นปกติ และทางกองถ่ายก็ไม่มีการพักนาน 2-3 เดือนอย่างที่พูดกันอีกด้วย ... อะไรจาไม่ได้หายไปไหน ผมก็เพิ่งเจอเมื่อ 2 อาทิตย์นี้เอง ก็ยังคุยกันเรื่องธรรมะ จาเค้าก็ยังบอกอยู่เลยว่า อยากไปหล่อพระที่จ.จันทบุรี ...
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กองถ่ายได้พักไปนานหรือเปล่า ? ... ไม่ได้พัก ก็ยังถ่ายกันอยู่ที่เขาใหญ่ ก็เดือนนี้ยังถ่ายอยู่เลย ผมเพิ่งไปเข้าฉากอยู่เลย เรื่องที่ว่าเบี้ยวอ่ะไม่มี อาจจะมีบ้างเมื่อปีที่แล้วเรื่องคิว ได้คิวมาแต่ว่าเค้าคืนคิวเพราะว่าฉากยังจัดไม่เสร็จ แล้วก็ยังยืนยันว่ายังถ่ายอยู่ จายังนั่งกำกับฯ อยู่เลย อาจารย์ที่สอนโขนก็ยังไปอยู่เลย ( อาหนิง คิดยังไงกับข่าวที่ว่าหาก จา ไม่กลับมา แล้ว ปรัชญา จะเข้ามากำกับเอง โดยไม่มี จา ? ) จะมาได้ยังไง ต้องมีจาแสดงสิ ถ้าไม่มีจาแล้วพระเอกไปไหนล่ะ เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะในเรื่องยังต้องมีฉากที่คุณจา เค้าต้องโดนฝังในหลุม และแช่ตัวด้วยน้ำแร่สมุนไพรด้วย ...
จา ในกองถ่ายเป็นยังไงบ้าง ? ... เค้าเป็นคนที่มีความเป็นสมถะมากๆ สมถะยิ่งกว่าผมอีก เวลาไปเข้ากองต่างจังหวัด จะพักที่ไหนก็ได้ บางทีไปพักในป่าด้วยซ้ำ ยังกะฤาษีแหนะ บางวันก็เคยมีคนมาบอกผมว่าเค้าขึ้นไปอยู่บนยอดเขากับลูกน้อง 2 คน ไปอยู่บนยอดเขา 2-3 คืน ไปทำไมเหรอ ไปนั่งสมาธิ ซึ่งแน่นอนว่าเค้าต้องไม่เปิดโทรศัพท์ จะต้องขาดการติดต่ออยู่แล้วแต่ก็ไม่นาน แต่ก็ตกใจเหมือนกันนะ งงว่าทำไมอยู่ๆ มามีข่าวว่าจาหายไปไหน คือเราอาจจะคิดว่าแปลก เพราะว่าเราไม่ได้ปฏิบัติอย่างนั้น แต่สำหรับคนที่ปฏิบัติจะมองเป็นเรื่องปกติของเค้า ...
การกำกับฯ หนังของ จา เป็นยังไง ? ...ก็เหมือนผู้กำกับฯ ที่มีฝีมือคนหนึ่ง คือสไตล์ของเค้าจะไม่ใช่ประเภทโหวกเหวกโวยวาย จะปล่อยให้นักแสดงเล่นไปตามธรรมชาติ คือถ้าอันไหนไม่ผ่านจะค่อยมาบอก หรือว่าอยากได้อันไหนเพิ่มจะค่อยขอค่อยบอกอีกที ไม่มีอารมณ์เกรี้ยวกราดในการทำงานเลย ผมว่าเค้ายังคงมีโอกาสได้ไปถึงฮอลลีวู้ด เนื่องจากทักษะที่เค้าเรียนมาทางด้านนี้ ...
อาหนิง จะช่วยเคลียร์ ช่วยประสานมั้ย ให้ จา ออกมาเจอกับสื่อ ? ... อ้อ ผมคงไม่ไปประกาศอะไร เดี๋ยวเค้าก็ดีกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคน เป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าเกิดไม่มีอะไรที่สุดวิสัยจริงๆ ตามมารยาทก็ไม่สมควรไปก้าวก่าย เป็นเรื่องของพ่อกับลูกน่ะ ( คิดว่าปัญหานี้เกิดขึ้นจากอะไร ? ) ผมว่าคงมีอะไรที่ไม่เข้าใจกันในวงธุรกิจ ฝ่ายหนึ่งอาจจะคิดว่าทำไมยังไม่จบซักที ขณะที่อีกฝ่ายก็อาจจะบอกว่าการทำงานก็ควรต้องใช้สมาธิกันบ้าง เรื่องก็แต่นั้นเอง ...
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก