ยู่ยี่ เซ็นใบหย่าเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ หวังอาจมีรีเทิร์นสามี

ยู่ยี่-อลิสา เปิดใจชีวิตครอบครัวดีขึ้นหลังเตียงหัก ชี้หย่าเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ใจอ่อนเห็นอดีตสามีเป็นสุภาพบุรุษ ระบุเตรียมกลับคืนวงการแต่ขอปรับเวลาเลี้ยงลูกควบคู่ไปด้วย บอกปัจจุบันใช้ธรรมมะนำชีวิตให้จิตนิ่งปล่อยวาง ยู่ยี่-อลิสา เควสต้า ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากหย่ากับ แฟรงค์ เควสต้า สามีแล้ว ชีวิตครอบครัวดีขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งตนและแฟรงค์ต่างก็เคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ต่างก็ปรับตัวเข้าหากันมากขึ้น ข่าวที่ไม่ดีเคยมีขึ้นหน้า 1 ซ้ำแล้วซ้ำอีกตอนนี้เหมือนไม่มีอะไรแล้ว ซึ่งพอใจแค่นี้ ได้อยู่บ้านเลี้ยงลูก เล่นกีฬา กินของที่อยากกินไม่ต้องอดแล้ว และแต่ต่อไปก็จะเริ่มรับงานในวงการมากขึ้น อลิสา กล่าวว่า ตอนที่หย่ากันนั้นเข้าใจว่าอาจจะเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรือบางคนก็บอกว่าแต่งงาน 5 ปีอาจจะมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้น แต่ก็คาดหวังด้วยน้ำตาว่าทุกอย่างจะดีขึ้น และตอนนี้ก็ขึ้นกว่าที่คิดเอาไว้ ส่วนจะกลับไปจดทะเบียนหรือไม่นั้น มองว่ามันเป็นแค่กระดาษเพียงใบเดียว ทะเบียนหย่าก็เช่นกัน แต่ตนรู้ว่ายังรักเขาอยู่และคิดว่าเขาก็ยังรักตนอยู่เหมือนกัน มันเหมือนจะใช้ นาง หรือ นางสาว มันไม่จำเป็นต้องเลือกอะไร "ตอนนี้ดีกว่าเดิมอีก เขาเป็นสุภาพบุรุษกับยี่มาก เทคแคร์ อย่างตอนที่เกิดอุบัติเหตุกับยี่และลูก ได้ใจเขามาก เพราะคนแรกที่โทรหาคือเขา ยี่ไม่มีใครในชีวิตเลย แล้วเขาเป็นคนขับรถช้าคุณยายวิ่งแซง แต่เขามาถึงภายในไม่กี่นาที เราก็เลยเห็นว่าเวลาที่เราลำบากเรามีใคร และตอนนี้เขาก็หาเวลาให้ตัวเอง ลูก และยี่มากขึ้น เราก็ต้องทำใจเหมือนกันว่าการเลี้ยงลูกบางทีมันก็เหนื่อย และเราก็อาจจะอยากไปทำงาน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เวลาทำงานทั้งหมด เพราะว่างานของเราคือการเลี้ยงลูก เรื่องแบบนี้ปรับกันได้เพราะช่วงนั้นเป็นอารมณ์ชั่ววูบ แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงจะไม่เปลี่ยนอะไร เพราะถ้าไม่เป็นอย่างที่เป็นมาอาจจะไม่ดีอย่างนี้ก็ได้ ตอนนี้ยี่กับเขาก็ดูกันไป ยี่อยากจะให้มีวันกลับมาพร้อมหน้ากัน ทุกคนอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์อยู่แล้ว แต่อย่าไปฝืนมันปล่อยมันไปเป็นธรรมชาติ" "การหย่าครั้งนี้ช่วยชีวิตยี่ไว้เยอะมาก ตอนที่หย่าเราคาดหวังด้วยน้ำตาไม่คิดว่าจะดีอย่างนี้ คิดว่าเขาก็คงไป ตอนนี้เขาก็ได้พิสูจน์ว่าเขาเป็นคุณพ่อ ใจดี ถึงตอนนี้มันไม่ได้มีทะเบียนหรืออะไรก็แล้วแต่" อลิสา กล่าวและว่า ตนได้คุยกับแฟรงค์เรื่องการรับงานในระดับหนึ่งว่าตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี มีอะไรให้ทำก็น่าทำ นอกจากจะได้เงินแล้วยังมีความสุขด้วย ซึ่งนอกจากได้ทำในสิ่งที่รักแล้ว สิ่งหนึ่งที่นำมาใช้ในชีวิตก็คือ ธรรมมะ ซึ่งเคยทำแต่จิตไม่นิ่งพอ ตอนนี้ก็พยายามใช้มันให้มากขึ้น ใช้ทุกวันก็จิตใจสบายขึ้น โล่งขึ้น- เห็น เจอ- เข้าใจ ปล่อยวาง ถ้าไม่เข้าใจ เจอแล้วก็ปล่อยวางแล้วเดินผ่านไป เพราะหนักเปล่าๆ ไม่ต้องไปแบกมันไว้ ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก