ลั่นไม่เคยของานใครทำ ต๋อย โอ่ 7 สี ชวนเอง ยันยังกราบตีน ประวิทย์

หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาว่าพิธีกรมือฉมัง ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์ บิ๊กบอสแห่งบอร์น แอนด์ แอสโซซิเอทด์ จํากัด เตรียมคัมเบ็กกลับมาในวงการโทรทัศน์อีกรอบจากที่หยุดการทำงานไปกว่า 5 เดือน โดย ต๋อย-ไตรภพ ได้เข้ามายึดเวลาคืนวันอังคารซึ่งมีรายการ 7 กะรัต ที่ผลิตโดยบริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด เป็นเจ้าของอยู่ งานนี้จึงทำให้เกิดกระแสข่าวต่างๆ ขึ้นมากมาย ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ต๋อย-ไตรภพ ได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงถึงการกลับมาผงาดในวิกหมอชิตครั้งนี้ พร้อมทั้งเปิดตัวรายการ CLUB 7 รายการวาไรตี้ทอล์กโชว์ตามแนวถนัดของพิธีกรรุ่นเก๋าคนนี้ โดย ต๋อย-ไตรภพ ได้เล่าถึงการกลับมาทำงานที่บ้านเก่าวิกหมอชิต รวมถึงรายการ CLUB 7 ว่า ''คือเราได้รับความกรุณาจากทางคณะกรรมการ ทางบอร์ดบริหารเรียกเข้าไปคุยถามว่ามีงานอะไรจะเสนอก็คุยกัน ก็ได้งานนี้มา ส่วนเรื่องเวลาผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยเพราะตอนที่เสนอเราเสนอที่ตัวไอเดียว่าเราคิดยังไง เพราะทางคณะกรรมการอยากดูความคิดที่เราคิดกับทีวีว่าเราคิดยังไง รายการเป็นแบบนี้ และตอนที่คุยเราก็ไม่ได้เจาะจงขอเวลา เราไม่มีสิทธิ์เราแค่พูดรูปร่างรายการคร่าวๆ ทางคณะกรรมการก็บอกให้เขียนแผนมาจนคณะกรรมการก็แจ้งมาว่าคุณได้วันนี้เวลานี้ ผมไม่ได้ไปเลือกนะ'' 5 เดือนไม่เคยไปของานใคร ยันเวลาที่ได้เพราะผู้ใหญ่ยื่นให้ ''ไม่เคยไปเสนอที่ไหน เป็นข่าวลือทั้งหมด คือทางช่อง 7 เรียกผมครับ ผมไม่ได้ไปเสนอที่ช่องไหนเลย คือตรงนี้เป็นความกรุณาจากทางผู้ใหญ่ทางช่องครับ เค้าเรียกผมก็ไป ผมหยุดไป 5 เดือน ไม่ได้ของานใคร ยันที่ได้เพราะผู้ใหญ่ยื่นให้ และเท่าที่ทำงานมาผมก็ไม่เคยออกจากใครเลยนะครับ ไม่เคยเลยครับ แต่บางทีเราต้องอยู่รอด ต้องดิ้นรนเพื่อลูกน้อง เพื่อบริษัท คุณไปเช็กได้ ผมไม่ใช่คนที่อยู่ๆ ไปทำโน่น ไปทำนี่ และอย่างครั้งนี้ก็เหมือนกันที่คนคนหนึ่งต้องจ่ายเงินทุกวัน 5 เดือนเต็มๆ เพราะเห็นว่าทุกคนในบริษัทเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องไม่เคยยื่นของานใครเลย คนนี้อดทนขนาดไหน (ทำไมไม่ยื่นขอ) ถามดีมากครับ วิกฤตที่เกิดขึ้นที่ไอทีวีผมโดนข้อหาจากสังคม ผมควรเอาความเดือดร้อนไปให้ใครมั้ย ผมอดทนครับ เราไม่ใช่หยิงยโสโอหัง แต่เราเป็นคนที่รู้จักในวงการ มีฝีมือเรามี งานของเราถ้าใครที่อยากได้ ที่รู้จัก ผมเชื่อว่าช่องทุกช่องรู้จักผมนะ ผมก็รอเค้าเรียก'' ฟุ้งรูปแบบรายการไม่ซ้ำใครแน่ ''ไม่เหมือนกันเลยครับ ถ้าจะเหมือนก็เหมือนแค่ทอล์กโชว์ และทอล์กโชว์ก็เหมือนกันทั้งโลก คือคุยกับคน แต่ประเด็นคุยไม่เหมือน วิธีคุยที่ผมใช้ไม่เหมือนกับใครในรายการไหน ไม่มีเลย ตอนที่ผมหยุดงานไป5 เดือน ผมนำรายการมาดูและดูจากรายการทีวีทั้งหมดพบว่าที่ผมทำทอล์กโชว์มา 15 ปี ไม่เหมือนกับใครเลย เราคิดเยอะ ดูจากงานของทุกรายการที่ออกอากาศอยู่ ว่ามีอะไรบ้าง เราดูโดยรอบงานเราถึงไม่เหมือนคนอื่น ผมไม่ทำงานแบบชกมวย หรือเหมือนเตะบอลแย่งลูกกับคนอื่น ผมทำงานเหมือนวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง รายการเราเป็นรายการที่เป็นแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ที่ติดต่อกับผู้ชมโดยตรงโดยสามารถติดต่อกับเราได้ทั้งทางทีวี เว็บไซต์ ทางจดหมาย เอสเอ็มเอส เอ็มเอ็มเอส รวมถึงแชตรูมด้วย'' ชนกับ ตี 10 วัดฝีมือกับ วิทวัส ''ด้วยความเคารพในฝีมือคุณวิทวัส และด้วยความเคารพในรายการตี 10 ผมเป็นผู้หนึ่งที่บอกได้ว่าเค้าเป็นคนมีฝีมือ และชอบในสิ่งที่ทำอยู่และกับทัศนคติของเค้าด้วย และก่อนที่ผมจะให้สัมภาษณ์เค้าก็เคยให้สัมภาษณ์มาแล้ว เค้าเองก็มองว่ามันไม่เกี่ยวกัน ไม่ได้ชนกัน ทุกอย่างเป็นกำไรของผู้ชม เป็นทางเลือกของผู้ชม ผมก็มองแบบนั้นเหมือนกัน ผมมองการทำทีวีของผมเป็นการวิ่งแข่ง และจริงๆ ประโยคนี้พูดมา 30 ปีแล้ว มนุษย์ทุกคนทำงานต้องมีลู่ของเรา พอคุณวิทวัสพูดแบบนั้นออกมา ผมมีความสุขมาก ถึงแม้คำไม่เหมือนกัน แต่มีวิธีคิดเหมือนกัน เค้าก็ไม่คิดจะแข่งกับผม สื่อเองก็เคยถามเค้าด้วยว่าจะปรับรายการต่อสู้อย่างไร เค้าบอกเค้าไม่ทำ ถ้าทำก็ไม่ใช่เค้า ผมชื่นชมมาก คนเราเก่งทางไหนทำทางนั้น อย่างดันดาราผมว่าโอเคมาก และก็มีความรู้สึกว่าในเมื่อดีอยู่แล้วก็ทำไป แล้วเค้าประกวดนักร้องผมจะประกวดนักร้องด้วยเหรอ แบบนั้นสิ้นคิดครับ ผมไม่สิ้นคิดครับ การันตีได้ว่าไม่เหมือนกันแน่นอนครับ'' ช่วงเวลาปราบเซียน ''จริงๆ ผมได้ยินคำนี้แล้วดีใจนะ ถ้าจำได้ตอนทำรายการทไวไลท์โชว์ในช่วงเวลานั้นช่อง 3 เป็นกระบี่ไร้เทียมทาน แล้วก็เป็นอเมริกันฟุตบอลลงทำไงก็ไม่ขึ้น ช่วงเวลานั้นกลายเป็นช่วงเวลาดับแสงไปเลย ถ้าใครที่อยู่ในวงการมานานจะรู้เลยว่าตอนบ่ายวันอาทิตย์เป็นช่วงดับแสงเลย แต่ผมเอาทไวไลท์ลงอยู่มา 17-18 ปี ฉะนั้นถ้าพูดคำว่าปราบเซียนกับผม ผมเจอมาตลอดครับ'' ปัญหากับเจ้าของเวลาเก่า มีเดีย ออฟ มีเดียส์ ''ไม่มีครับ ยังไม่มีปัญหากับใครทั้งสิ้น ช่องนี้เป็นสถานีให้เช่าเวลา สถานีเป็นคนกำหนดทั้งหมด อย่างที่คนพูดเรื่อง มีเดีย ออฟ มีเดียส์ คือมีเดียฯ เค้าก็เป็นของสถานีและคุณชาลอตก็พูดเองแล้วด้วยว่าไม่มีปัญหาเลย เพราะเป็นเงินนายทุกอย่างได้นายได้ ผมเองก็ไม่มีปัญหากับเค้าและ ย้ำอีกครั้งผมไม่ได้เป็นคนชี้ว่าจะเอาเวลาไหน'' กลับมาอีกครั้งพร้อมความมั่นใจ ''จริงๆ การทำงานทุกครั้งก็ตั้งใจเสนอสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ มั่นใจว่างานที่คิดมาครั้งนี้ผู้ชมจะได้ประโยชน์ ได้กำไรมากๆ ได้ทั้งความสนุก สาระ ส่วนที่ขำก็ขำกลิ้งครับ คนที่มาร่วมรายการกับเราคนที่มาร่วมงานกับผมใหม่ที่ยังปิดอยู่ คนที่จะมาทำงานกับผมการันตีได้ว่างานที่ได้รับมันสุดยอดสำหรับชีวิตเค้า และเค้าก็อยากทำและพูดเองแต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้นะครับว่าเป็นใคร ผมมั่นใจว่าสิ่งที่จะนำเสนอออกไปแตกต่างแน่นอน เป็นประโยชน์สนุกสนานแน่นอน ค่อนข้างมั่นใจครับ'' ยี่ห้อ ไตรภพ ไม่ต้องมีช่วงทดลองงาน ''ไม่มีครับ ไม่มีการพูดเรื่องนี้ ส่วนเรื่องเรตติ้งไม่กดดันผมเลยครับ ผมยอมรับในเรื่องเรตติ้งอย่างดีคือคุณทำงานในสังคมคุณจะไม่รับกติกาของสังคมไม่ได้ ถ้าไม่รับก็อย่าไปอยู่กับเค้า ซึ่งสังคมที่ผมอยู่เค้าวัดด้วยเรตติ้งก็ต้องทำตามนั้น แต่เรตติ้งมันก็มีหลายประเภท ทั้งโดยรวม ทั้งอายุเท่านี้ มันมีหลายประเภทที่จะทำให้เอเยนซี่มองว่าจะซื้อแบบไหน และทางสถานีก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้ด้วยแม้แต่คำเดียว ผมถึงบอกว่าผมได้รับเกียรติ และขอพูดเหมือนทุกๆ ครั้งที่ทำงานว่าไม่ต้องมีใครมาบอกผมหรอกครับว่าผมควรทำหรือเลิก ในชีวิตนี้ไม่เคยมี ผมเลิกของผมเอง อย่างฝันที่เป็นจริงผมก็เลิกเองไม่ใช่เพราะมันตกเลยนะ'' แว่วมาว่าจะได้เวลาเพิ่มอีก ''ตอนนี้เราเหมือนเด็กแรกเกิด หายไป 5 เดือนแล้วกลับมาก็ยังไม่อยากพูดถึงเรื่องพวกนี้ ผมไม่ทราบจริงๆ ผมคิดว่าผู้ใหญ่ทั้งหลายก็คงรอดูว่าผลงานเป็นแบบไหน ถ้าดีเค้าก็คงกรุณาเอง เพราะครั้งนี้เค้าก็กรุณา แต่ยังมีเตรียมอะไรไว้เยอะ ซึ่งแตกต่างออกไปด้วย (แต่มีข่าวว่าได้เวลาแล้ว) คืออย่างที่พูดถ้ามันเป็นความกรุณาที่ผู้ใหญ่ให้ ที่ผู้ใหญ่พูด และอะไรควรพูดก็พูดครับ เอาเป็นว่าไม่พูดดีกว่าครับ'' คัมแบ็กสู่ช่อง 7 อีกครั้ง ''คาดหวังว่าจะทำให้เค้าได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ สมัยก่อนทำท้าพิสูจน์ผมเป็นคนเปิดท้าพิสูจน์คนแรก คือพิธีกรท้าพิสูจน์คนแรกและทำให้รายการประเภทนี้เกิดไหลตามกันมาเต็มไปหมดก็คิดว่าจะทำให้ดีที่สุดครับ ก็เป็นความกรุณาที่ได้ไปคุย เป็นความกรุณาที่เค้าให้ทำงาน'' ดารา 7 สีเตรียมตบเท้าร่วมรายการ ''อย่าง คุณกบ-สุวนันท์ ที่ติดงานก็พยายามเลื่อนคิวให้เรา ทั้ง คุณแพนเค้ก-เขมรนิจ, คุณขวัญ-อุษามณี และอีกหลายๆ ท่านซึ่งเราก็ดีใจ เพราะมองเด็กพวกนี้มาตลอดแต่เราไม่มีโอกาสได้สัมภาษณ์ ทุกอย่างกระชันชิดนะ แต่ทุกคนก็พร้อมจะเลื่อนทุกอย่างให้เพื่อได้มาออกรายการเรา ทุกคนน่ารักมากครับ'' ถึงซบอกช่อง 7 แต่ก็ยังกราบตีน นายประวิทย์ เหมือนเดิม ''ไม่หวั่นเลยครับ และไม่รู้สึกอะไรเลยครับ ทุกวันนี้นายประวิทย์ยังเป็นนายประวิทย์อยู่ นายประชายังเป็นนายประชา นายประสารยังเป็นนายประสารอยู่ เมื่อไม่กี่วันกินข้าวเจอหน้านายประสานยังเฮฮาคุยกันอยู่ เจอนายประวิทย์เดี๋ยวนี้ก็ยังกราบตีนเหมือนเดิม ไม่มี ไม่มีความเปลี่ยนแปลงและไม่ว่าเมื่อไรก็ยังเรียกนายประวิทย์ตลอดให้จนต้องตายไปก็ยังเรียกแบบนั้น'' ยินดีทำรายการให้กับทุกช่อง ''ถ้าเชิญมาสะดวกทั้งนั้นครับ ทำไมจะไม่สะดวก คือต้องเข้าใจว่าสถานีแต่ละสถานีเค้ามีแคแร็กเตอร์ที่ต่างกัน บางสถานีทำรายการแบบนี้ แบบนั้นไม่ได้ ถ้าเค้าให้ผมไปทำแคแรกเตอร์ที่เหมือนเค้าก็มีปัญหาแน่นอน จะไปทำช่องนั้น ช่องนี้ได้ไหมแคแรกเตอร์เป็นตัวบอกครับ'' ช่อง 7 ไฟเขียวรายการใช้ชื่อภาษาอังกฤษ ''รายการนี้ชื่อ CLUB 7 สังเกตว่ารายการนี้เป็นรายการเดียวที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ เป็นรายการเดียว และรายการแรกทำไมเค้าให้ ซึ่งเค้าก็บอกผมคำแรกเลยว่ารายการต้องชื่อภาษาไทยนะ ผมก็บอกเลยด้วยความเคารพว่าสถานียังเป็นชื่อไทย PBS อีกสถานี NBT และที่ผมออกมาชื่อ ITV แล้วเราจะยืนยันความเป็นไทยด้วยแค่ชื่อ หรือเราจะยืนยันด้วยการกระทำเราพร้อมก้าวไปกับโลกหรือเปล่า เราจะปฏิเสธโลก แล้วให้โลกปฏิเสธเราหรือเปล่า คือทุกอย่างคุยกันได้'' ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก