ใหม่ ไม่ได้แอ๊บ ภาพที่เห็นคือตัวตน
หลังคว้าตำแหน่งดัชชี่เกิร์ลปี 2002 ชีวิตของ ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร ก็พลิก ได้ก้าวเข้ามาเดินในถนนวงการบันเทิง
และชีวิตของเธอมาพลิกอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเธอตัดสินใจพรีเซนต์โฉมในคราบของสาวเซ็กซี่และรับบทบาทนางร้ายไปพร้อมๆ กัน
-คำว่า เซ็กซี่ กับ นางร้าย ถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเลยมั้ย?
ใหม่ - "ทั้งสองคำนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต ทำให้พ่อแม่ใหม่สบายมากขึ้น และเราไม่ได้ทำในสิ่งที่ผิด แต่เราต้องทำอาชีพหลักคือการเป็นนักแสดงให้ดีที่สุด อาชีพเสริมคือภาพเซ็กซี่ก็ทำตามที่ทุกคนเรียกร้องเป็นกระแส ใครมาดูถูกคำว่าเซ็กซี่และนางร้ายไม่ได้ ถือว่ามาพูดดูถูกอาชีพของเรา เราทำงานไม่ได้ขอใครกิน"
-พ่อแม่เคยวิจารณ์งานของใหม่บ้างหรือเปล่า ที่ส่วนมากมีแต่เซ็กซี่?
ใหม่ - "ไม่เคยเลยนะ ใหม่ภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูกของพ่อปัญญาและแม่วณี ท่านไม่เคยว่าไม่เคยติ ทำเรื่องดีท่านก็ชม ทำเรื่องที่ทำให้มีปัญหาก็ไม่เคยซ้ำเติมมีแต่พูดให้กำลังใจ เตือนให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าและตั้งสติให้ดีแล้วทุกอย่างจะดี พ่อแม่ไว้ใจในตัวใหม่มาก ใหม่คิดเป็นทำเป็น ใหม่เซ็กซี่ได้แต่เซ็กซี่แบบแคร์พ่อแม่"
-ไม่กลัวติดภาพเซ็กซี่จนล้างไม่ออกหรอ?
ใหม่ - "ไม่ค่ะ ต่อไปถ้ามีลูกก็จะให้ลูกดูนิตยสารทุกฉบับที่เราถ่าย และจะบอกลูกว่าเซ็กซี่นะไม่ได้โป๊ ไม่อุจาดและไม่อุบาทว์ มันน่าปลื้มดีนะที่แม่เคยถ่ายแบบเซ็กซี่มาก่อน ถามว่าทำทุกวันมั้ย ก็ไม่ใช่ เรื่องภาพเซ็กซี่ใหม่ไม่คิดล้าง จะล้างทำไม คนนึกถึงใหม่ก็คำว่าเซ็กซี่ ถ้าใหม่ไม่เซ็กซี่แล้วจะเป็น "ใหม่-สุคนธวา" มั้ย ใช่ว่าทุกคนจะเห็นเราเซ็กซี่ทุกงาน ให้พอรู้ว่าเรายังเป็น "ใหม่-สุคนธวา" ที่เซ็กซี่เหมือนเดิม"
-มีบางคำพูดออกมาว่าเซ็กซี่เพื่อสร้างกระแสให้ตัวเอง?
ใหม่ - "ใหม่ไม่ได้เก่งขนาดที่สามารถดูเกมออกว่าเราต้องสร้างกระแสนะเราถึงดัง ใหม่รู้สึกว่าไม่ต้องสร้างกระแส แต่ขอบคุณที่ทุกคนทำให้ใหม่อยู่ในกระแสตลอดเวลา แต่ไม่ใช่ว่าใหม่จะเอากระแสตรงนั้นมาทำให้ใหม่ดังและมีเงินมากขึ้น ใหม่ขอบคุณดวงของใหม่มากกว่าเพราะทุกอย่างดวงลิขิตเอาไว้ รวมถึงทุกๆ คนที่ทำให้ใหม่มีชื่อเสียงขึ้นมาได้"
-ดูใหม่มีสองด้าน ด้านวิชาการมีความรู้กับด้านเซ็กซี่?
ใหม่ - "ใหม่เป็นคนที่ค่อนข้างฉลาดที่จะทำอะไร คิดอะไร พูดอะไร แต่ไม่ใช่แกมโกงนะ แต่เราคิดก่อนพูดเพื่อจะทำให้เราไม่ต้องเสียใจภายหลัง ความรู้ทำให้เราเป็นคนมากขึ้น ถ้าเรามีความรู้เยอะก็สามารถทำให้ตัวเองมีภาพที่ดีออกมาได้ ส่วนความเซ็กซี่ไม่จำเป็นต้องล้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะทำให้มากไปกว่านี้ จริงๆ แล้วใหม่มีหลายภาพนะไม่ใช่เซ็กซี่อย่างเดียว บางครั้งมีโลกส่วนตัว อยากจะเงียบก็เงียบ อยากจะคุยก็คุย แต่เราไม่ใช่จิ้งจกเปลี่ยนสี แต่เราเป็นคนที่ปรับสภาพตามสังคมได้เก่ง วางตัวเก่ง ถามว่าใหม่เป็นคนอย่างไร ตอบไม่ถูก เพราะฉะนั้นคือทุกๆ คนที่เห็นใหม่นั่นแหละคือตัวตนของใหม่แล้วโดยที่ไม่ได้แอ๊บ"
-ในเรื่องงานแสดงมีคนมองว่าใหม่ย้ายช่อง 7 มาช่อง 3 ?
ใหม่ - "ใหม่ไม่ได้เปลี่ยนและไม่ได้ย้ายค่ะ เรายินดีรับทุกงานทุกค่ายทุกช่องเหมือนเดิม เพราะใหม่ไม่ได้เซ็นสัญญากับใครทั้งนั้น เรามีสัญญากับดัชชี่ ใหม่เป็นเด็กคนหนึ่งที่รอรับโอกาสจากทุกๆ ฝ่าย ถ้าใครเสนอมาเราก็สนองกลับ ไม่ได้เอนเอียงไปช่อง 3 ใหม่ไม่เคยลืมบุญคุณในสิ่งที่ช่อง 7 ทำให้ใหม่เกิด ทุกวันนี้ใหม่ก็ยังไปช่วยงานช่อง 7 เราไม่ได้ย้ายค่าย เราต้องการหาประสบการณ์จากบ้านใหม่ๆ ไปใช้กับบ้านหลังเดิมของเรา เราไม่ได้เหยียบเรือสองแคม คนเราต้องโตแต่ต้องโตในทางที่ถูกต้อง เราไม่ได้ทำร้ายบ้านเก่า ไม่เคยคิดลืมบุญคุณบ้านทุกๆ หลังที่ให้โอกาสใหม่ ใหม่อยากทำงานในวงการบันเทิงไปนานๆ และอยากให้ทุกคนปลื้มเราเหมือนที่เราเคยปลื้มนักแสดงท่านอื่นมาก่อน"
- ตอนนี้ยังมีงานอะไรที่อยากทำอีก?
ใหม่ - "ใหม่อยากทำงานเพื่อสังคม อยากสมัครงานมูลนิธิร่วมกตัญญูหรือป่อเต็กตึ๊ง ใหม่กลัวผีนะ แต่อยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทนและไม่ได้สร้างภาพ เพราะคนเราจะทำแบบนี้ได้ ถ้าเราสร้างภาพคงทำได้ไม่นาน หรือไม่ก็เป็นตำรวจหญิง มันเป็นอีกภาพพจน์หนึ่งที่ทำให้มีชื่อเสียงในวงศ์ตระกูลของเรา และทำให้สังคมมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา"
จะ สร้างภาพ หรือ ภาพสร้าง ต้องดูกันต่อไป
คำสบประมาทผลักดันสู่ความสำเร็จ
ใครๆ ก็ว่าชีวิตของดาราสาว "ใหม่"สุคนธวา เกิดนิมิตร เป็นชีวิตที่เหมือนนิยายน้ำเน่า
ตั้งแต่อายุ 3 เดือนจนย่างเข้าวัยเบญจเพส เธอยังไม่มีโอกาสได้เจอหน้าแม่แท้ๆ เลยสักครั้ง
แต่ถึงแม้จะไม่มีโอกาสได้เจอหน้าแม่ แต่เธอก็ยังได้รับอุ่นไอรักจาก "ป้าวณี สิงห์ไกร" คุณป้าซึ่งเป็นพี่สาวพ่อ ที่เปรียบเสมือนเป็นแม่แท้ๆ ของเธอ
วันนี้มีโอกาสดี ได้มานั่งคุยกับดาราสาวที่มีชีวิตดั่งนิยายอีกครั้ง
"มีแต่คนบอกว่าชีวิตของใหม่น่าจะสร้างเป็นละคร เพราะมันมีหลายความรู้สึกที่คนนึกไม่ถึง มันเป็นเรื่องจริงที่สัมผัสได้" ใหม่บอกกล่าวเมื่อถูกทักทายถึงชีวิตจริงที่มีกลิ่นเน่าคลุ้ง
"ชีวิตของใหม่ในวันนี้ถือว่าลงตัวแล้วค่ะ เราเรียนจบปริญญาตรีแล้ว และเรียนโทคณะนิเทศฯ ที่ม.ศรีปทุม จบไปแล้ว 1 เทอมได้เกรด 3.8 แต่เทอม 2 ดร็อปอยู่เพราะอยากทำงานให้ดีที่สุดก่อน แต่เราก็ไม่ลืมที่จะเรียน เพราะการเรียนทำให้เราดูมีคุณค่าทางสังคม ใหม่อยากทำให้ตระกูล "เกิดนิมิตร" มีชื่อเสียง"
"ใหม่อยากเป็นนางร้ายที่มีสมองและอีกอย่างหนึ่งที่มากกว่ามีสมองคือทำให้ครอบครัวมีความสุข เพราะเราไม่รู้หรอกว่า สวรรค์กับนรกเป็นอย่างไร แต่ใหม่รู้สึกว่าตอนนี้ใหม่ถึงสวรรค์แล้ว เพราะได้เลี้ยงดูพ่อแม่และย่าอย่างดีโดยที่ไม่ให้เขาลำบาก"
ถามว่าอยากเจอแม่แท้ๆ หรือเปล่า ใหม่ตอบเสียงดังฟังชัด "ไม่ค่ะ ไม่แล้ว ไม่ได้อกตัญญู ไม่ใช่ลืมบุญคุณแม่ แต่เราไม่เคยสัมผัส ไม่เคยรู้ว่าแม่คนนั้นเป็นคนอย่างไรก็เลยไม่เอาดีกว่า และใหม่แคร์แม่วณีมาก เราไม่ต้องการแม่คนไหนแล้ว เพราะแม่วณีคนนี้ตอบโจทย์ให้เราได้หมดทุกอย่าง เพราะท่านเป็นแม่ เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นทุกๆ อย่างที่เราอยากให้เป็น แม้จะไม่ใช่แม่ในสายเลือด แต่ใหม่ก็ถือว่าท่านเป็นแม่ที่แท้จริงของใหม่ค่ะ"
เพราะเคยมีคนสบประมาทว่าจะเลี้ยงพ่อแม่ได้หรือ อนาคตในวงการจะดังได้แค่ไหน ซึ่งตรงนี้เป็นแรงกดดันและทำให้เธอชนะใจตัวเอง ลบคำสบประมาทนั้นได้
"รู้มั้ยว่าเวลาที่ใหม่ท้อหรือเสียใจผิดหวัง เราจะมองคนที่เคยดูถูกเราแล้วมองคนที่เคยพูดให้เรารู้สึกไม่ดี มันจะทำให้เราฮึดสู้ ทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น ฉันคนนี้ล่ะจะทำให้ทุกคนได้อาย ฉันนี่แหละจะทำให้ทุกคนรู้ว่าฉันก็ทำได้"
มองย้อนกลับไป ดาราสาวกล่าวว่า เธอรู้สึกภูมิใจที่สามารถยืนหยัดมาถึงตรงนี้ได้ จากเด็กธรรมดาๆ ที่พ่อแม่ฐานะลำบาก แต่สามารถสร้างตัวมีเงิน เรียนจบปริญญาตรีได้เกียรตินิยม มีงานไม่ขาดสาย
ซึ่งเธอยอมรับว่าก็แอบชมตัวเองว่าเก่งอยู่เหมือนกัน
มองโลกแง่ลบ-ไม่ฟันธง รัก
เพราะประกวดดัชชี่บอย&เกิร์ล ในปี 2002 ด้วยกัน ทำให้ดาราสาว "ใหม่"สุคนธวา เกิดนิมิตร สนิทสนมกับหนุ่ม "มัต"อาชัญ ไชยสุวรรณ มากกว่าหนุ่มคนอื่นๆ
พอแย็บว่าปีนี้ดูเปิดตัวหนุ่มคนรู้ใจคนนี้มากขึ้น ใหม่กลับปฏิเสธ "ไม่ค่ะ กับมัตไม่ได้เปิดตัว เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด มัตเป็นเพื่อนผู้ชายที่ไม่หวังผลตอบแทน ห่วงเราและคอยดูแลเราอย่างที่ไม่ต้องการอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่ใช่แฟน เพราะใหม่ยังไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะใหม่ยังเด็ก อยากดูหลายๆ คนเหมือนกัน"
มีหลายกระแสว่า "มัต" เกาะ "ใหม่" ดัง พอได้ยินเท่านั้นเธอฉุนขาด "ไม่ค่ะ ใหม่ไม่ชอบให้ใครมาพูดแบบนี้ คนเราจะดังก็ดังได้เองโดยไม่ต้องให้ใครดัน ใหม่ว่ามันเป็นการดูถูกเขา เพราะเขาก็มีความสามารถ"
แม้จะรู้จักกันมา 6 ปี แต่ทั้งคู่เพิ่งดูกันจริงๆ 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเธอบอกว่า ยังมีอะไรอีกเยอะที่ต้องเรียนรู้
"เราอยากมั่นใจก่อน ใหม่ไม่อยากเป็นตัวตลกของสังคม ที่เปิดตัวไปแล้วพรุ่งนี้เลิกกันก็มีเสียงหัวเราะเยาะหรือเสียงด่า และใหม่อยากให้เวลากับพ่อแม่มากที่สุดแล้วค่อยนึกถึงเรื่องความรัก"
แต่ก็ดูเหมือนว่าพ่อไฟเขียวอยู่นะ "ไม่ค่ะ พ่อใหม่ไม่ได้ไฟเขียว ไม่ได้รังเกียจ และไม่ได้ปฏิเสธใคร แต่เขาเปิดใจให้กับลูกและเคารพในสิ่งที่ลูกตัดสินใจ ไม่บังคับ ใหม่บอกตรงๆ เลยว่ายังไม่คบ เรายังไม่ชัวร์ ใหม่จะเป็นคนที่มองโลกและคนในแง่ลบไว้ก่อนค่ะ"
ใหม่เล่าว่า เธอประทับใจมัตตรงที่เขาเป็นคนจริงใจ ไม่หวังผล ห่วงแบบไม่แสดงออก
แม้มัตจะไม่ใช่ชายในสเป๊ก แต่เพราะฝ่ายชายมีความรู้สึกดีๆ ให้ ฉะนั้นเธอจึงรับความรู้สึกดีนั้นไว้
"ตอนนี้ใหม่คงคบมัตเป็นเพื่อนไปก่อน ถ้ามากกว่านี้ก็คงอีกนาน ใหม่ต้องการคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่านี้ ใหม่ไม่ได้ปากแข็ง ไม่ได้กลัวว่าจะไม่มีคนจีบ ตอนนี้ยังไม่ชัวร์สำหรับตัวเราและตัวเขา เพราะเราทำงานตรงนี้ไม่สามารถไปดูแลเทกแคร์ใครได้ อยากทำงานให้ดีที่สุดและถึงดูแลคนอื่นได้"
สาวอื่นๆ มักวาดฝันใส่ชุดเจ้าสาว แต่สาว "ใหม่-สุคนธวา" กลับบอก "ไม่จำเป็นต้องแต่ง ไม่แคร์เลย อยู่กับพ่อแม่สบายใจดี"
"ถ้าได้แต่งก็คง 30 ปีขึ้นไป ขอสนุกกับงานก่อน คิดแต่งงานแต่ไม่กดดันตัวเอง สิ่งไหนจะเป็นของเรามันก็จะเป็น ได้แต่งเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ไม่ต้องมานั่งกำหนด และถ้าเกิดแฟนห้ามใหม่ทำงาน ใหม่ก็ไม่เอาคนนั้นนะ เพราะคนนั้นไม่ต้องการให้ใหม่ได้ดี เขาเห็นแก่ตัว รักต้องควบคู่กับการทำงาน ใหม่ไม่แคร์เรื่องแต่งงาน ใบทะเบียนสมรสเป็นแค่ใบๆ หนึ่ง เราอาจจะไม่ได้มีความสุขที่แท้จริงก็ได้"
ดาราสาวยืนยัน ที่คิดเช่นนี้ไม่ใช่เพราะกลัวจะมีชีวิตคู่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเช่นผู้เป็นพ่อ
"ถ้าเราทำตัวเองดี จริงใจกับเขา คิดดีทำดี คนที่เข้ามาหาก็ต้องเป็นคนที่ดี ก็ไม่กลัวที่จะต้องผิดหวัง"
ชิ้นโบแดง ดาวรุ่งยอดเยี่ยม
เข้าวงการมาแล้วหลายปี มีผลงานแสดงให้แฟนๆ ได้ชื่นชมมาแล้วหลากหลายเรื่อง แต่ถ้ายกให้เป็นละครชิ้นโบแดง ดาวร้ายสาว "ใหม่-สุคนธวา" บอกว่า ต้องเป็น "กุหลาบเล่นไฟ"
"ใหม่ชอบเรื่องนี้เพราะได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมปี 2003 จากสมาคมนักข่าวบันเทิง บทที่เล่นทำให้แสดงหลายอารมณ์ในเรื่องเดียวกัน ได้แสดงความสามารถเยอะ และเรื่องนี้ได้อาต้อ(มารุต สาโรวาท) มาเป็นครู ได้รางวัลแล้วหายเหนื่อย ชื่นใจค่ะ"
นอกจากนี้ก็ยังมีงานถ่ายแบบ ซึ่งใหม่บอกว่า "แฟชั่นที่ถ่ายในหนังสือทุกเล่มชอบหมด แต่ที่ชอบที่สุดคือนิตยสาร "ผู้หญิง" ที่ถ่ายคู่กับ "มัต" เพราะเราหายจากการถ่ายแฟชั่นไป 2 ปี พอกลับมาถ่ายอีกทีก็ฮือฮา"
และผลงานที่ลืมไม่ได้นั่นคือ การประกวดดัชชี่เกิร์ลปี 2002 ที่ทำให้เธอแจ้งเกิด
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
