นุก พูดเป็นนัย! อนาคตเตียงหักชัวร์!

ทิ้งงานเบื้องหน้าไปทำหน้าที่เป็นคุณแม่เต็มตัว ดูแลทั้งลูกและสามีชนิดไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แต่ไหง...ล่าสุดในงานเปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ของยีนส์ ลีวายส์ อดีตนักร้องขวัญใจวัยโจ๋ นุก-สุทธิดา กลับเอ่ยปากเป็นนัยถึงความสัมพันธ์กับสามีทายาท ป. ประตูน้ำ ป้อ ว่าชักเริ่มไม่หวานเหมือนเก่า แถมย้ำนักย้ำหนาว่าสิ่งที่ตนรักที่สุดในชีวิตมีอยู่สองอย่างคือ พ่อแม่ และ ลูก เท่านั้น!! คนอื่นไม่เกี่ยว!!! เล่นจั่วหัวมาแบบนี้อนาคตมีหวังเตียงหักอีกคู่ชัวร์!?! ผู้สื่อข่าวแกล้งแซวว่าแอบหนีลูกและสามีมาเที่ยวหรือเปล่า อดีตนักร้องสาวหัวเราะร่วน ก่อนเปรยอย่างอารมณ์ดีว่า ก็เป็นช่วงที่เราสามารถจะห่างจากลูกได้บ้าง คือหนึ่งจิตใจเราไม่ต้องพะว้าพะวงแล้ว เพราะเขาโตแล้ว สามารถพูดได้ ฟ้องได้ ไม่ต้องห่วงอะไรมากแล้ว พอถามต่อว่ามีโอกาสจะหวนคืนวงการอีกครั้งมั้ย สาวนุกเปิดใจว่า ก็ยังอยากอยากกลับนะ เพราะว่าถ้าพูดถึงในชีวิตสิ่งที่รักที่สุดนอกจากลูกก็คือวงการนี้ ก็อยากกลับค่ะ แต่ด้วยสภาพของความเป็นแม่เราก็จะต้องเลือกเวลาที่มันจะไม่ชนกับเวลาที่ให้ลูก ด้วยผู้จัดด้วยก็ต้องอิงกันหลายๆ อย่าง แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีติดต่อมานะคะ เพราะเคยประกาศไว้ว่าจะไม่รับ แต่ตอนนี้พร้อมแล้วนะคะ อาจจะรับได้บ้าง แต่ไม่ทั้งหมด ไม่เป็นตัวเมน คือบทต้องไม่ใช่นางเอก (หัวเราะ) เพราะว่าถ้าเป็นตัวเมนอาจจะไม่มีเวลาให้ลูก รับเป็นจ๊อบๆ จะสะดวกและสบายใจกว่า คือเราไม่ต้องไปรับผิดชอบภาระของคนทั้งกอง แต่ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสได้เล่นละคร ถ้าเลือกได้ก็อยากจะเลือกเป็นตัวรองๆ ผู้สื่อข่าวถามเข้าประเด็นกรณีมีกระแสข่าวเรื่องชีวิตครอบครัวเริ่มระหองระแหงออกมาถี่ขึ้น สาวนุกฟุ้งว่า จริงๆ ก็มีมาทุกช่วงแหละ เพราะเป็นคนพูดจาไม่ค่อยระวังเท่าไหร่ คือไม่ได้สร้างภาพน่ะ การที่นุกพูดว่ารับได้ทุกบทก็ไม่ได้สร้างภาพนะ เป็นอย่างนี้จริงๆ คิดอย่างนี้จริงๆ คือจะให้มาสร้างภาพน่ะไม่พูด เหมือนกับเรื่องแฟนถ้ามีคนมาถามว่าทะเลาะกันบ้างหรือเปล่า จะให้นุกบอกว่าไม่ทะเลาะกันเลยเป็นไปได้เหรอ ก็ทะเลาะกันนะ แต่ว่ายังไม่คิดจะเลิกกันเท่านั้นเอง แต่ถ้าเลิกกันแล้วจะบอก เพราะนุกก็ไม่ได้กลัวกับการเลิก แต่ไม่ได้คิดว่าจะเลิกกัน ถ้ย...คือถ้าสมมติเลิกกันแล้วแถลงข่าวไม่เครียด เพราะว่ามันเป็นความจริง แต่ถ้ายังไม่ได้เลิกกันแล้วก็ยังไม่ได้คิดเลยก็จะเครียด อย่างสมมติว่ามีข่าวว่าเป็นแฟนกับคนนี้แล้วเป็นจริงๆ ก็จะไม่เครียดเลย แต่ถ้าไม่ได้เป็นแล้วมีข่าวจะเครียด พอถามต่อว่าด้วยความที่เป็นคนพูดตรงมาก จนบางครั้งถึงขั้นทะเลาะกัน ฝ่ายสามี ป้อ ว่ายังไงบ้าง นุกเปิดอกคุยว่า เขาก็มีสะเทือนนะแรกๆ ว่าทำไมสัมภาษณ์อะไรแบบนี้ เราก็บอกเราพูดตรง คือด้วยความที่สังคมไทยดาราจะพูดไม่ตรง เพราะฉะนั้นนักข่าวต้องตีความ คนอ่านก็ตีความซ้อนอีก เพราะฉะนั้นมันก็เป็นเรื่องของการตีความแล้ว แต่เวลาที่เราพุดตรงบางทีเอาไปตีความเป็นหนักกว่าเดิมอีก ก็เราเป็นคนอย่างนี้ เท่าที่นุกจำได้นุกเป็นศิลปินคนแรกที่พูดว่ามีแฟนนะในรุ่นนุก นุกไม่ได้ซีเรียสกับภาพลักษณ์ ถ้าคบใครเราก็ให้เกียรติคนนั้น ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกครั้งถึงสถานภาพครอบครัวตอนนี้ว่ายังเหนียวแน่นเหมือนเดิมหรือเปล่า อดีตนักร้องสาวกล่าวอย่างไม่เต็มปากเต็มคำว่า ก็...อืม คือมันเป็นช่วงที่เราปรับตัวเรื่อยๆ ค่ะ จากบทบาทของการเป็นแฟนมาเป็นสามี-ภรรยา มันก็ต้องปรับตัวช่วงหนึ่ง แล้วจากสามี-ภรรยา มาเป็นพ่อแม่มันเป็นภาระที่หนักมาก เป็นภาระที่นุกก็รับไม่ได้ รู้สึกว่าเราตีค่าความเป็นแม่ไว้สูงมาก ฉะนั้นเวลาที่เราเป็นเราก็ต้องไปให้ถึงตรงนั้น พอเราไปไม่ถึงมันก็กดดัน แต่พอวันนึงเราไปถึงตรงนั้นแล้ว เราก็ไม่ต้องกดดัน เพราะลูกก็โตแล้ว ช่วงตอนนี้มันเป็นช่วงของความผ่อนคลายในชีวิต ค่อยๆ ผ่อนลงมา พอถามต่อว่าตอนนี้ครอบครัวยังรักกันดีอยู่ใช่มั้ย นุกกล่าวว่า คือนุกเป็นคนที่...สมมติเราเป็นแฟนกัน จะให้นุกมาบอกว่ารักเธอตลอดไปนุกพูดไม่ได้ แม้ตอนนั้นจะอินแบบรักใหม่ๆ นุกก็จะไม่พูด เพราะนุกเชื่อว่าชีวิตเราไม่มีคำว่าตลอดไปสำหรับนุก นุกไม่เชื่อคำนี้ นุกเชื่อ ณ วินาทีนี้ และ ณ วินาทีเรายังรักกันอยู่ค่ะ แต่ถ้าให้มาคอนเฟิร์มว่าตลอดไปนุกไม่พูดค่ะ มันน่ากลัวค่ะ ส่วนเรื่องที่ทำให้ทะเลาะกันบ่อยๆ สาวนุกกล่าวว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องลูกทั้งนั้น พร้อมเปรยต่อว่า ก็เรื่องลูกมากๆ แต่ว่าจริงๆ นุกว่าลึกๆ ไม่ใช่เรื่องลูก มันคือเรื่องการที่นุกอิจฉาป้อ เพราะป้อเวลามีลูป้อก็ยังเป็นป้อ เป็นเหมือนที่นุกเคยอยู่กับเขา แต่วันที่นุกมีลูกแล้ว คือป้อก็ชวนนุกไปเที่ยวนะคะ ทำไมล่ะ...ทำไมนุกไม่ไปเที่ยวกับป้อล่ะ? แต่คือเราไปไม่ได้อ่ะ อย่างชวนไปเที่ยวฮ่องกง เราไปไม่ได้ คือเราอยากไปแต่เราต้องอยู่กับลูก มันเป็นหน้าที่ ความรักเรามันไม่ได้โรแมนติกอีกแล้ว พอเราเป็นพ่อแม่เนี่ย คือมันมีหน้าที่แล้วเราต้องรับผิดชอบอย่างสูงมากๆ ถามว่าหวานมั้ย มันก็ยังมีพาร์ทเล็กๆ ซื้อของให้ซื้ออะไรให้ แต่ถ้าถามนุกความหวานมันต้องเป็นธรรมชาติ มันต้องไม่ประกอบด้วยหน้าที่ มันต้องมีฟิลลิ่งตอนนั้นที่เรารู้สึกแล้วทำตามความรู้สึก นั่นคือความหวานสำหรับนุก ฉะนั้นตอนนี้ก็ต้องหยุดไว้ก่อน รอให้ลูกโตอีกสักระยะหนึ่งก่อน สาวนุกกล่าวเป็นนัยๆ ต่อว่า อนาคตไม่แน่นอนค่ะ ไม่มีใครแน่นอน วันนี้รักพรุ่งนี้อาจจะเลิกก็ได้ ถ้าสมมตินุกออกมาพูดว่ารักกันจนวันตาย หรือมีคอลัมน์นึงมาสัมภาษณ์ว่าความสัมพันธ์เป็นยังไง ซึ่งนุกดูคนก่อนหน้านุกแต่ขอไม่บอกว่าเป็นใคร อ่านแล้วคือแฟนคือเพื่อนที่ต้องอยู่กันไปจนวันตาย นุกพูดไม่ได้มันน่ากลัว ถ้าพูดออกไปแล้วไม่ได้อยู่กันจนวันตายอ่ะ มันน่ากลัว นุกก็ไม่เคยพูดกับใคร นอกจากพ่อแม่กับลูกที่นุกบอกว่านุกจะรักไปจนวันตายตลอดชีวิต นอกนั้นไม่มีใครที่นุกจะพูดว่ารักจนวันตาย เพราะความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้ คือสมมติเราเป็นแฟนกันหรือเป็นสามีภรรยากัน ถ้าวันนึงเขาไม่ดีกับเรา เราก็ไม่รักเขาถูกมั้ยคะ แต่ถ้าลูกหรือพ่อแม่ถ้าเขาไม่ดีกับ ยังไงสุดท้ายแล้วเราก็ต้องรักเขา แต่นอกเหนือจากพ่อแม่และลูกแล้วความรักมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาค่ะ ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก