บี วอนแฟนคลับ กบ สุวนันท์ หยุดป่วน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯกทม. ในฐานะพี่ชายของนายดนุพร ปุณณกันต์ หรือ บรู๊ค พระเอกชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่างครอบครัวปุณณกันต์กับ น.ส.สุวนันท์ คงยิ่ง หรือ กบ นางเอกสาวชื่อดังของช่อง 7 อีกครั้ง โดยกล่าวว่า จริงๆ จะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เพราะการออกมาพูดของนางดาริกา มารดา และตนนั้นก็ชัดเจนแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีประเด็นที่จะไปรังเกียจ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอย่างที่สังคมเข้าใจว่าครอบครัวเราไปกีดกันอะไร
ที่ตนได้ออกมาอธิบายเพิ่มเติมต่อจากคุณแม่ในวันหลังก็เพราะเป็นเรื่องของครอบครัว และเพื่อขอความเป็นธรรม อย่ามองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นควรสงสารใคร ใครน่าสงสาร หรือสุวนันท์เป็นที่สงสารของชาวบ้าน นั่นคือสาเหตุที่ตนออกมาชี้แจง
"ผมก็เป็นทั้งพี่ชาย และเป็นลูก เมื่อมีคนมาตั้งกระทู้ ส่งเอสเอ็มเอสต่อว่าคุณแม่มาตลอด 5 ปี ก็ต้องพูด เพราะคุณแม่พี่ไม่ใช่คนเลวร้าย แบ่งชนชั้นวรรณะ สิ่งที่คุณแม่ได้พูดก็เป็นความบังเอิญเพราะผู้สื่อข่าวไปถาม คุณแม่ก็พูดความจริงไปว่า 5 ปีที่ผ่านมา แฟนของน้องชายไม่เคยเข้ามาที่บ้านเลย พอมีข่าวแต่งงานท่านก็เลยบอกว่าไม่รู้เรื่อง ซึ่งล่าสุดน้องชายก็ออกมาแถลงข่าวแล้ว และยอมรับว่าเขาผิดเองที่ไม่เคยมาพูดให้ฟัง ขณะเดียวกันก็อาจบอกแฟนว่ากำลังจะบอกครอบครัวก็ได้" นายพุทธิพงษ์ กล่าวและว่า
แต่ที่สังคมมาต่อว่าคุณแม่ ตนคิดว่าไม่ค่อยเป็นธรรมมากนัก 5 ปีที่ผ่านมาสังคมทาบเรื่องราวเพียงด้านเดียว เด็กที่จะเข้ามาในครอบครัวไม่ว่ามีความคิดต่างกันยังไงก็ตาม ถ้าเป็นเด็กก็ควรมีโอกาสเข้าพูดคุยชี้แจง หรือเข้ามาเคลียร์ ปัญหาที่ผ่านมา 5 ปี ก็อาจจะคลี่คลาย จะได้จบไม่กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอย่างนี้
แต่ที่ผ่านมามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นมันมหาช่องว่างอยู่ เพราะแฟนของน้องไม่เคยเข้ามาที่บ้านแล้วหลายปี สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นว่าครอบครัวไปรังแกคุณกบ เราก็ต้องพยายามอธิบายว่าไม่ใช่ มันมีความไม่ชัดเจนตรงนี้อยู่ ก็เลยเกิดความไม่สบายใจทั้งคุณแม่และคุณกบ แต่ท้ายที่สุดครอบครัวของตนก็กลายเป็นตัวร้าย ซึ่งจริงๆ จะว่าไปแล้วเป็นเรื่องของคน 2 คน เขาจะรักกันยังไงก็เรื่องของเขา แต่ปัญหามันทิ้งไว้นานเกินไป
นายพุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่เป็นพี่ชายวันนี้ตนก็ได้แนะนำน้องชาย หลังจากที่เขามาหาที่บ้านว่า ในฐานะที่เราเป็นลูกและอยากให้ทุกฝ่ายดีขึ้นก็มีทางแก้ได้ไม่ยาก เราเป็นเด็กก็ควรเข้าหาผู้ใหญ่ แม้ว่าครั้งแรกจะไม่ดีขึ้น 100% หรือยังไม่ถูกใจ แต่ก็ควรเอาความดีชนะ เข้าไปหา ทำตัวให้ผู้ใหญ่เห็นว่าเราไม่ได้มีจิตใจไม่ดี คุณแม่ก็ไม่ได้ใจดำ ว่านู้นประตูออกไป มันไม่ใช่ ผู้ใหญ่ทุกคนมีเหตุผล น้องเขยเราก็อยู่กันปกติ ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้รู้สึกไม่ชอบ
5 ปีที่ผ่านมา คุณแม่โดนรุมอยู่คนเดียว ทั้งกระทู้ในอินเตอร์เน็ต แม้กระทั่งผมที่ออกมาพูดก็ถูกว่าว่าไปยุ่งอะไรกับชีวิตเขา ซึ่งเรื่องนี้ควรให้ความเป็นธรรม เราไม่ได้ว่าหรือติคุณกบเลย แต่ที่ออกมาพูดก็ในฐานะคนกลาง เพราะนั่นก็แม่ นี่ก็น้อง หันหน้ามาคุยกันได้ไหม ส่วนแฟนคลับก็ต้องเข้าใจว่ายิ่งวิพากษ์วิจารณ์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งกดดันทุกฝ่าย นายพุทธิพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่องว่างที่ว่าคือเรื่องอะไร นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องที่เกิดจากความน้อยใจ ก็คงตั้งแต่งานบวช ที่คุณกบเขาไม่ได้ถือหมอน กลายเป็นแม่ น้องสาว ซึ่งวันนั้นขอบอกว่าเป็นอะไรที่ยุ่งมาก อีกทั้งเรายังไม่รู้ว่าเขาจะเป็นคนที่ได้แต่งงานกัน ก็คิดว่าคบหากันเฉยๆ ความแน่ชัดอะไรยังไม่มี ทำให้วันนั้นสังคมออกมาประณามครอบครัว แต่แฟนของน้องชายก็่เคยออกมาพูดทำให้สังคมเข้าใจความจริงว่าจริงๆ ไม่มีอะไร และวันนั้นก็ยังนั่งกินข้าวด้วยกัน ไม่เคยมาพูด ไม่เคยเข้ามาหา แต่วันหนึ่งก็มีข่าวจะแต่งงาน บรู๊คก็ไม่เคยมาให้แม่หาฤกษ์ให้
ต่อข้อถามว่า หลังมีข่าวออกมาได้เคลีย์กันบ้างหรือยัง นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า วันนี้น้องชายก็ติดต่อมา เราก็เห็นว่าระหว่างคุณพ่อ ผมในฐานะพี่ชาย และน้องชาย ควรจะมาคุยกัน แต่คุณแม่ยังอาจยังเป็นประเด็นคงต้องให้แยกไว้ก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อแก้ไขปัญหาให้ทุกอย่างหรือสถานการณ์ดีขึ้น ส่วนคุณกบนั้นคงยังไม่ได้คุย แต่คิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้ยากเย็นอะไร เป็นเรื่องปกติ ขณะที่เรื่องของการแต่งงาน ผมได้บอกกับน้องไปแล้วว่าเรื่องการแต่งงานถ้าอยากให้แต่งแล้วยั่งยืนมีความสุขที่สุด ควรเคลียร์ปัญหาเรื่องนี้ให้จบก่อน ถ้ายังไม่จบแล้วดื้อแต่งไปก็ไม่มีความสุข แล้วแยกไปอยู่ด้วยกันเองไม่เอาญาติ เอาพี่เอาน้อง มันก็ไม่ใช่วิสัยของประเพณีไทย
อยากบอกว่าแรงกดดันมันแรง คุณแม่ก็เสียใจเราไม่เคยทำอะไร ไม่เคยด่าเขา กลับถูกกระแสสังคมโจมตี และผมอยากฝากบอกคนที่ว่าผมเข้าไปยุ่งทำไมนั้น คงไม่ยุ่งไม่ได้ เพราะอีกคนแม่ อีกคนน้อง คนบางคนด้วยซ้ำที่มาเขียนกระทู้ด่าผม นั่นแหละไม่ควรเข้ามายุ่ง พี่ชายบรุ๊ค ระบุ
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก