สายัณห์ ร่ำไห้ชวน ยอดรัก ออกทีวีเคลียร์ต่อหน้า แอ๊ว ยุติแค่นี้ ขอโทษที่ด่าแรง
ยอดรัก สลักใจ ประกาศขอยุติเรื่องราวต่างๆแต่เพียงเท่านี้ และขอโทษ พี่เป้า สายัณห์ สัญญา ที่ด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง เผยที่ทำไปไม่ได้ตั้งใจ แต่เพราะรู้สึกเครียด ด้านลูกทุ่งเคราแพะเจ้าของเพลงดัง ไก่จ๋า ร่ำไห้น้ำตานองหน้า ลั่นยังรักน้องมากเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยืนยันไม่ได้มีเจตนาร้าย ส่วรครูเพลง-คนลูกทุ่งอยากเห็นทั้งคู่ปรองดองกัน
ยังคงเป็นเรื่องที่คนทั่วไปให้ความสนใจ สำหรับเหตุการณ์ไม่เข้าใจกันของสองลูกทุ่งชื่อดัง พี่แอ๊ว ยอดรัก สลักใจ และ พี่เป้า สายัณห์ สัญญา ที่สายัณห์ได้ออกมากล่าวในทำนองว่ายอดรักอาจไม่ได้ป่วยเป็นมะเร็งตับ ทำเอายอดรักเครียดกับเรื่องนี้จนกินไม่ได้นอนไม่หลับและรู้สึกมีอารมณ์กับคำกล่าวของพี่เป้าอย่างมาก จนออกมาสวนกลับพี่เป้าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง พร้อมกับประกาศไม่เผาผีกันเลยทีเดียว จนต่อมาแพทย์ศิริราชได้แถลงผลตรวจยืนยันว่ายอดรักเป็นมะเร็งที่ตับจริง ซึ่งเมื่อผลตรวจยืนยันชัดเจนด้านพี่เป้าก็ได้ออกมาแสดงความรู้สึกเสียใจ แต่ยืนยันไม่ไปขอโทษยอดรักโดยให้เหตุผลว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา ยอดรัก ได้เปิดบ้านต้อนรับผู้สื่อข่าวและเปิดใจว่าผ่านข่าว 7 สีว่า อยากขอโทษที่ด่าทอนักร้องรุ่นพี่ สายัณห์ สัญญา สาเหตุทีแรกที่พูดรุนแรงนั้นเนื่องด้วยอารมณ์และไม่ได้ยั้งคิด อาจจะใช้คำพูดก้าวร้าวเพราะฟิวส์ขาด ตอนนี้ตนอยากขอยุติเรื่องราวที่เกิดขึ้น และใช้เวลาที่เหลืออยู่ดูแลตัวเองที่ต้องผจญกับโรคร้ายให้ดีที่สุด
ด้านลูกทุ่งเคราแพะ พี่เป้า สายัณห์ ได้เปิดใจผ่านข่าวช่อง 7 เช่นเดียวกันว่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยโกรธหรือเกลียดยอดรักเลย ยังคงรักยอดรักเหมือนน้องเช่นเดิม ส่วนที่ยอดรักออกมาขอโทษที่ใช้คำพูดรุนแรงไปนั้น สายัณห์กล่าวว่าในทำนองว่าอยากให้ไปออกรายการกับตนแล้วพูดจากันต่อหน้าจะดีกว่า
วันเดียวกันมีรายงานข่าวว่า นายไพบูลย์ ไพรวัลย์ พี่ชายร่วมสายโลหิตของ ยอดรัก สลักใจ ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกหลังเกิดเรื่องนี้ขึ้นว่า ไปเยี่ยมดูอาการน้องชายแล้วก็รู้สึกสงสารน้องชายที่ต้องป่วยทั้งกายและจิตใจ สาเหตุก็มาจากคำพูดที่พูดทิ่มแทงใจดำของเพื่อนนักร้องลูกทุ่งร่วมวงการ และศิษย์อาจารย์เดียวกันที่ออกมากล่าวร้ายว่าป่วยลวงโลกหวังอยากดัง โดยเอาความตายมาล้อเล่น ตนต้องลากสังขารของคนป่วยโรคมะเร็งออกมาโต้ตอบจนเสียสุขภาพจิต
นอกจากนี้นายไพรบูลย์ยังได้ประกาศขายนามรดกของแม่ 20 ไร่ เพื่อจะเอาเงินมารักษาน้องชาย ซึ่งได้ออกมาขอร้องให้สายัณห์หยุดวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนจะขอโทษหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ อีกทั้งขณะนี้ได้ขอให้น้องชายทำสตินั่งสมาธิทำสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่ต้องการ นั่นคือให้ความบันเทิงกับแฟนเพลงจนถึงวินาทีสุดท้าย ด้วยจิตวิญญาณของนักร้องลูกทุ่งขวัญใจชาวบ้าน จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
ด้านบุคคลในวงการลูกทุ่งได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับกรณีของนักร้องลูกทุ่งขวัญใจมหาชนทั้งสองคนนี้ไปต่างๆ นานา แต่ส่วนใหญ่อยากเห็นทั้งคู่ปรองดองกันเหมือนเดิม
ครูชลธี ธารทอง ศิลปินแห่งชาติและเป็นครูรักของทั้งสายัณห์-ยอดรัก กล่าวว่า ''จริงๆ ทั้งยอดรักและสายัณห์คือลูกศิษย์ที่ผมปั้นมา รวมถึง เสรี รุ่งสว่าง อยากจะบอกว่าอย่าทะเลาะกันเลย วงการลุกทุ่งเราก็แคบและมีกันอยู่แค่นี้ควรจะรักกันมากๆ สามัคคีกันไว้ สายัณห์อาจจะผิดพลาด ก็รู้กันอยู่สายัณห์สติไม่ค่อยจะดีนะ ให้อภัยกันเถอะ ผมบอกกับเสรีว่าลูกศิษย์อาจารย์เดียวกัน เป็นพี่น้องกันให้ดูแลกันให้ดีเถอะ ผมปั้นสายัณห์ปี 2516 ยอดรักปี 2518 และเสรีปี 2522 เพราะฉะนั้นสายัณห์ถือว่าเป็นพี่โตสุด ยอดรักก็เหมือนเป็นน้อง พวกเขาเรียกผมว่าพ่อ ผมได้คุยกับยอดรักแล้วก็บอกเขาว่าอย่าโกรธ มีอะไรค่อยๆ พูดกัน กับเสรีก็ได้เจอและคุยกันว่าอย่ามีเรื่องกันเลย กับสายัณห์ยังไม่มีโอกาสได้เจอตัวเขาและยังไม่ได้คุย แต่ก็อยากบอกผ่านสื่อว่าดูแลน้องหน่อย คนเราทำผิดพลาดกันได้ พ่อไม่ว่า แต่อย่าทำร้ายน้องเลย เพราะน้องไม่สบาย เราเป็นพี่ใหญ่ก็ควรจะรักและดูแลน้อง''
ขวัญจิต ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติ สุดยอดนักร้องเพลงอีแซว เผยว่า ''ขอไม่ออกความคิดเห็นมีหลายที่โทร.มาถามเหมือนกัน แต่ว่าแม่รักเขาทั้งคู่เขาตามมาในแนวเดียวกัน เป็นสองคนที่อนุรักษ์เพลงลูกทุ่งทั้งคู่ ก็มีไปมาหาสู่กันบ้างแต่แม่ไม่อยากยุ่งทั้งสองคน เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยากให้ไปคิดกันเอาเองว่าพวกเราเป็นชาวลุกทุ่ง มีประสบการณ์ น่าจะสอนทั้งคู่ได้ว่าการที่จะอยู่แบบปัญญาชนอยู่อย่างไร เรื่องนี้แม่คงไม่เข้าไปยุ่งอะไรแต่จะดูเขาและติดตามเขา แม่จะไม่เอนทางไหนเพราะรักเขาทั้งคู่''
ชาย เมืองสิงห์ ศิลปินแห่งชาติ กล่าวว่า ''กับเป้าและแอ๊วผมไม่ค่อยได้ใกล้ชิดเขาเท่าไรไม่ค่อยได้ยุ่งกัน เพราะคนละยุค เจอกันห่างๆ เขาศิษย์จุฬารัตน์ทั้งคู่ ผมเองไม่ค่อยได้เข้าไปในซอยบุปผาสวรรค์แค่ผ่านๆ แต่ถ้าถามเรื่องความรู้สึกก็เสียใจ คนเราไม่ว่าจะทำอะไรก็เสียไปหมดคนลูกทุ่งทำอะไรก็เสียไปทั้งวงการ จริงๆ ก่อนจะพูดอะไรทำไมไม่คิดกันก่อน คนเราเห็นๆ กันอยู่ก็น่าจะรู้แล้วว่าป่วยหรือไม่ป่วย สองคนนี้ว่าไปแล้วก็น้องผมทั้งคู่แต่ผมไม่อยากพูด หมดรุ่นผมแล้วต่อไปเขาทั้งสองคนอาจจะได้เป็นศิลปินแห่งชาติก็ได้ แต่เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ ถ้าเขาย้อนมองเบื้องหลัง ก็อาจจะไม่ได้เป็น เพราะเดี๋ยวนี้การเป็นศิลปินแห่งชาติ มาตรฐานค่อนข้างเคร่ง ยกตัวอย่างเมื่อก่อนรุ่นผม ดูกันที่ผลงานจริงๆ แต่เดี๋ยวนี้มีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องไปหมด
ชินกร ไกรลาศ ศิลปินแห่งชาติ นักร้องเพลงแหล่ชื่อดัง กล่าวว่า ''รู้สึกไม่สบายใจ ผมว่าทั้งสองเขาไม่มีพรหมวิหาร 4 ไม่มี เมตตา กรุณา มุติตา อุเบกขา คนเราควรจะมีพรหมวิหาร 4 อยู่ในใจมันก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ตอนเกิดเรื่องเหมือนต่างคนต่างไม่ค่อยตั้งสติให้ดี ถ้าผมเป็นแอ๊วก็อยากเอาเวลาที่เหลือไปทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิต และถ้าผมเป็นเป้าก็จะแสดงพรหมวิหาร 4 ให้เหมือนกับชาวสวรรค์ที่เขาเป็นกัน ก็อยากให้มันจบตรงที่ให้อภัย เพราะทั้งแอ๊วและเป้าก็เคยให้ทาน แต่เขาไม่ได้ให้อภัยทาน ถ้าให้อภัยทานก็แปลว่าให้ความสุขใจกับตัวเองและคนอื่น เพราะอภัยทานเป็มนทานที่ประเสริฐสุดและสังคมต้องการ''
ก้าน แก้วสุพรรณ นักร้องลุกทุ่งชื่อดังเผยว่า ''ส่วนตัวไม่ได้อ่านข่าวเองก็ฟังๆ เขาเล่ามา รู้สึกว่าอยากให้คนลุกทุ่งสามัคคีกันไว้จะดีกว่า คนเราอยู่กันอีกไม่นานก็ตายแล้ว จะทะเลาะกันไปทำไม ผมก็ห่วงทุกคนนะทั้งยอดรักและสายัณห์นั่นแหละ อยากให้จบลงด้วยดี อย่ามองหน้ากันไม่ติด ส่วนตัวไม่ใช่แค่วงการลูกทุ่งทุกวงการนั่นแหละให้รักและสามัคคีกันไว้''
แดน บุรีรัมย์ ผู้คร่ำหวอดในวงการลูกทุ่ง กล่าวว่า ''ทราบข่าวแล้วไม่สบายใจเลย ไม่อยากให้ทะเลาะกัน อยากให้รอมชอมกันมากกว่า อย่างน้อยๆ เขาสองคนก็เพื่อนรักกัน ใครจะผิดจะถูกเวลานี้ไม่ต้องไปพูดถึง อยากให้เขาดีกันมากกว่า เพราะลุกทุ่งเราก็มีไม่เยอะ มีไม่กี่คน เราก็เป็นผู้ใหญ่ เป็นต้นแบบในวงการ ถ้ามัวมานั่งทะเลาะคนฟังเพลงจะทำยังไง ผมเชื่อว่ามีแฟนเพลงที่เป็นทั้งแฟนของยอดรักและสายัณห์ เขาก็คงจะวางตัวไม่ถูกถ้าคนที่เขารักกันทะเลาะกันแบบนี้ ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ พอแล้วสามัคคีกันเถอะ''
ภูภาณ เพชรปฐมพร ผู้คร่ำหวอดในวงการลูกทุ่ง กล่าวว่า ''ผมไม่อยากให้ปัญหานี้เกิด วงการลูกทุ่งเราหน่อยเดียวเอง ไม่อยากให้มีปัญหาตรงนี้ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นผมก็มานั่งคิดนะว่าอะไรกันหนอ เป้าเขาอาจจะสื่อสารอะไรผิดพลาดหรือเปล่า คู่นี้เขาก็รักกันดีอยู่ ตอนรู้ข่าวว่าแอ๊วป่วยเขาก็ยังมาพูดว่าต้องไปดูแอ๊วสักหน่อย จู่ๆ ทำไมมันถึงมีวันนี้ได้นะ ผมว่าเป้าเขาไปเปิดเว็บไซต์แล้วเห็น อาจจะพูดเพื่อให้แอ๊วออกมาเคลียร์ด้วยความห่วง แต่เขาพูดไม่เป็นก็เลยเกิดเรื่อง นี่คือความคิดผมนะ แต่วันนี้ผมก็ยังเห็นข่าวอยู่ว่าเป้าเขาออกมาถามว่าแอ๊วเป็นระยะที่เท่าไร ผมว่าไม่น่าจะถามหรอก ระยะไหนก็คือเป็นเพราะหมอออกมาบอกแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เรามีหน้าที่ช่วยเหลือก็ควรจะหันมาช่วยกันดีกว่า ผมอยากให้จบโดยที่เป้าเขารู้แล้วว่าแอ๊วเป็นมะเร็งจริงก็หยุดสักทีไม่ต้องพูดอะไรต่อความยาวสาวความยืดแล้ว ไม่มีประโยชน์หรอก''
ยอดธง บุญธูป ผู้คร่ำหวอดในวงการลูกทุ่ง ''คู่นี้ก็ลิ้นกับฟันตั้งแต่สมัยไหนแล้ว เมื่อก่อนเคยไม่จูบปากกันมาครั้งหนึ่งแล้ว ผมแต่งเพลงให้ร้องร่วมกันคนละท่อนยังต้องมากันคนละวันเลย แต่ว่าครั้งนี้มันเล่นแรงไปหน่อย เจอของจริงเข้าไป คือเป้าเขาเป็นคนเชื่อคนง่าย ใครพูดอะไรเขาก็พูด แล้วเป้าเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ใคร ถ้าไม่ชนะก็จะเถียงอยู่นั่นแหละจนกว่าจะชนะ ถามแอ๊วดูเขาก็รู้ดีเรื่องนี้ดีว่าเป้าเป็นคนไม่ยอมคน แต่ตอนนี้เป้าผิดเป้าไม่ยอมแพ้หรอก ก็อยากให้สื่อเลิกแหย่นะ เลิกถามเขาได้แล้ว ไม่งั้นเป้าเขาก็จะเถียงไม่จบ กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ผมว่าถ้าสื่อหยุดเรื่องทุกอย่างก็จะหยุดไปด้วย''
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ
