พี่แอ๊วตั้งมูลนิธิช่วยผู้ป่วยมะเร็ง ประกาศตัดขาด สายัณห์

ยอดรัก เปิดใจ หลังถูกกล่าวว่าไม่เป็นมะเร็ง ประกาศตัดขาด พี่เป้า-สายัณห์ หลังนักร้องลูกทุ่งรุ่นใหญ่ ''พี่เป้า'' สายัณห์ สัญญา เจ้าของเสียงร้องเพลงไก่จ๋า และอีกหลายร้อยเพลง ออกมากล่าวในทำนองคาใจว่า ''พี่แแอ๊ว'' ยอดรัก สลักใจ นักร้องลูกทุ่งขวัญใจมหาชนเป็นมะเร็งจริงหรือไม่ และประกาศไม่ขอเข้าร่วมคอนเสิร์ตที่มีผู้ยื่นมือเข้ามาจัดเพื่อหาทุนช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลหากยังไม่พิสูจน์ตัวเองให้ชัดเจน จนฝ่ายลูกชายของยอดรัก นายเกรียงศักดิ์ ไพรวัลย์ และ เสรี รุ่งสว่าง นักร้องลูกทุ่งเพื่อนซี้ของยอดรัก ต้องหอบเอาฟิล์มเอกซเรย์ผลการตรวจของยอดรักมาโชว์สื่อมวลชน เพื่อยืนยันว่าป่วยเป็นมะเร็งตับจริง ยื่นหนังสือให้หมอออกมาชี้แจง ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมาเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกรียงศักดิ์-นางจารุวรรณ สลักใจ ลูกชาย และลูกสะใภ้ ได้เดินทางมาที่ รพ.ศิริราชพร้อมกับนำหนังสือยื่นต่อ ผศ.นพ.วิเชียร ศรีมุนินทร์นิมิต แพทย์สาขาวิชาเคมีบำบัด ภาควิชา อายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แพทย์เจ้าของไข้ และดูแลอาการของยอดรัก เพื่อให้ออกมาอธิบายข้อเท็จจริง ซึ่งทางคณะแพทย์ได้มีกำหนดแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 17 มี.ค. นี้ ลูกชายยอดรักได้เปิดเผยสั้นๆ ก่อนเดินทางกลับว่า ''วันนี้เดินทางมายื่นหนังสือให้กับคณบดีแพทย์ศาสตร์ รพ.ศิริราช เพื่อต้องการให้แพทย์ แถลงข่าวชี้แจงเกี่ยวกับการป่วยของพ่อว่าเป็นโรคมะเร็งตับจริง ไม่ได้เป็นอย่างที่เป็นข่าว และต้องการความเป็นธรรมให้กับพ่อ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นพ่อไม่สบายมาก เลยต้องขอให้แพทย์แถลงข่าวให้เรื่องนี้กระจ่าง ให้ประชาชนและสังคมได้ทราบว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงไม่ได้เป็นเหมือนที่นักร้องลูกทุ่งท่านหนึ่งบอก'' พี่แอ๊ว เปิดใจรายการทีวี ต่อมาเวลา 12.00 น. ยอดรักได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรายการ ''โต๊ะข่าวบันเทิง'' ทางไทยทีวีสี ช่อง 3 ว่า หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นจนถึงตอนนี้เริ่มสบายใจแล้ว ประกาศตัดขาด ''พี่เป้า'' ไม่ขอคุยด้วยให้เปลืองประสาท ''ตอนนี้ทำใจได้แล้วครับ ผมก็ไม่ทราบสาเหตุ แต่จะขอแก้เรื่องที่คุณเป้าพูดนิดหนึ่งว่า ขอเล่าคร่าวๆ ผมรู้จากหนังสือก่อนไปหาหมอนะ แล้วเรามาเปิดดู เราก็ให้ภรรยาไปซื้อยาโรคตับ พอหลังจากนั้น 6 เดือนมันไม่ใช่ตับอักเสบแล้ว พอพบหมอแล้วนั้นก็เลยตรวจว่ามีสารมะเร็งจริง หมอก็เลยชวนเข้าโครงการคีโมของเขา ผมก็ขออนุญาตว่าขอรักษาแบบอื่นก่อน แล้วถ้าผมไม่ได้เป็นมะเร็ง ผมจะให้คีโมทำไม'' ประกาศตัดขาด พี่เป้า นอกจากนี้ ยอดรักยังให้สัมภาษณ์กับรายการ ''โต๊ะข่าวบันเทิง'' อีกว่านับจากนี้ต่อไป ไม่อยากคุยกับ ''พี่เป้า'' ให้เปลืองประสาทอีกแล้ว และยืนยันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนักร้องลูกทุ่งเครางามเพราะอาจทำให้ตายเร็ว ''สายัณห์ก็ยังมาเยี่ยมอยู่เลยตอนนั้น ยังไปบอกข่าวคนอื่นเลยว่าอีก 3 เดือนผมก็ตายแล้ว ตอนนี้มาบอกว่าไม่เชื่อว่าผมเป็น ผมไม่อยากคุยกับสายัณห์แล้ว เพราะว่าเปลืองประสาท อย่ามาช่วยเหลือผมเลย ผมมีโอกาสจะรอด แต่ถ้าเขามาส่วนช่วยเหลือนี้ ผมอาจจะตายเร็วก็ได้ ไม่เจอได้ยิ่งดี หมอยังบอกให้พูดไปเลยว่าผมเป็นจริง เดี๋ยววันจันทร์ปล่อยให้เป็นเรื่องของหมอชี้แจงก็แล้วกัน'' แพทย์ศิริราชเลื่อนแถลงข่าว ต่อมาเวลา 15.00 น. ทางโรงพยาบาลศิริราชได้มีการแถลงข่าวยืนยันว่ายอดรักเป็นมะเร็งตับจริงจากเดิมซึ่งกำหนดไว้ว่าจะมีการแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 17 มี.ค. นี้ ที่ตึกอำนวยการ ร.พ.ศิริราช โดยคณะแพทย์ รพ.ศิริราช นำทีมโดย ศาสตราจารย์คลินิกนายแพทย์ธีรวัฒน์ กุลทนันท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พร้อมด้วยนายเกรียงศักดิ์ ไพรวัลย์ ลูกชายยอดรัก แถลงวันจันทร์กลัวช้าไป คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลกล่าวว่า ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า สาเหตุที่ออกมาแถลงข่าว เพราะครอบครัวผู้ป่วยได้ขอร้องให้ออกมาช่วยยืนยันข้อเท็จจริงให้สังคม และประชาชนได้รับรู้ พร้อมกับยืนยันผลตรวจร่างกายนักร้องลูกทุ่งชื่อดังแล้วพบว่าป่วยเป็นมะเร็งที่ตับจริง แต่แพทย์เจ้าของไข้ไม่อยู่ติดภารกิจ ตนจึงให้ นพ.อุดม คชินทร หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ ชี้แจงขอมูลดังกล่าวแทน โดยบอกว่ากรณีอื่นตนแพทย์ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เนื่องจากคนไข้ไม่ได้อนุญาต ''ประชาชนให้ความสนใจมากกับกรณีของคุณยอดรักซึ่งจริงๆ ในเรื่องแบบนี้คือความลับของผู้ป่วยนะครับ เราไม่สามารถที่จะแถลงได้ นอกจากได้รับการอนุญาตของผู้ป่วย บอกที่ผู้ป่วยปรารถนาจะให้ ทีนี้ความเจ็บป่วยของป่วยเราต้องขออนุญาตผู้ป่วยทุกครั้งนี่คือหลักการทั่วไปนะครับ ตรงนี้ตรงที่เราขอมา คือลูกชายและลุกสะใภ้ของคุณยอดรักทำหนังสือมาเพื่อให้แพทย์บอกข้อเท็จจริง ตามที่ผู้ป่วยอนุญาต คือเราทำได้แค่ในลักษณะนี่เท่านั้น หมอผู้ที่รักษาคุณยอดรักจริงๆ เนี่ยไปต่างประเทศคนหนึ่ง ไปต่างจังหวัดคนหนึ่ง คือถ้าแถลงวันจันทร์ก็คงจะช้าไป วันนี้ก็เอาเท่าที่ได้ก่อน ก็เลยเอา หมออุดม คชินทร มาดูแลตรงนี้แทนก่อน เมื่อเช้าหนังสือที่มาถึงคือของคุณยอดรักสลักใจ ขอให้ข้อเท็จจริงในเรื่องของความเจ็บไข้ได้ป่วยเท่าที่จะให้ได้'' ยืนยันยอดรักเป็นมะเร็ง ด้าน นพ.อุดม คชินทร หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ จากการตรวจการสืบค้นเอกซเรย์ และผลตรวจเลือดพบว่า ยอดรักมีเชื้อมะเร็งตับจริง ก่อนทำการตรวจอีกรอบผลวินิจฉัยแน่นอนว่า นักร้องลูกทุ่งหนุ่มเป็นมะเร็งร้อยเปอร์เซ็นต์ ''ผมก็จะขอเรียนแบบนี้นะครับว่า คุณยอดรัก สลักใจ ก็ได้มาตรวจที่โรงพยาบาลศิริราชประมาณมกราคมปีนี้ แล้วก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งก่อน เมื่อมาตรวจที่ศิริราชแพทย์ที่ดูแลก็ได้ทำการตรวจ และก็ทำการสืบค้น มีเอกซเรย์คอมพิวเตอร์มีผลเลือด ซึ่งก็ตกลงว่าก็มีเชื้อมะเร็งที่ตับจริง แต่ก็ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ สุดท้ายเนื่องจากว่าเพื่อจะให้ได้ผลร้อเปอร์เซ็นต์ ก็มาตรวจอีกรอบ นำชิ้นเนื้อที่ตับบางส่วนไปตรวจเพื่อความแน่ใจจึงได้ผลออกมาว่าเป็นมะเร็งที่ตับจริงๆ ผลออกมาว่าเป็นมะเร็งตับจริงๆ'' ทั้งนี้ คณะแพทย์ขอไม่เปิดเผยเรื่องของการตรวจรักษา และระยะของมะเร็งว่าเป็นมะเร็งชนิดใด และหวังว่าประชาชนจะเข้าใจว่าความลับของผู้ป่วยถือเป็นจรรยาบรรณของแพทย์ ลูกชายสบายใจยอดรักไม่ลวงโลก หลังจากแถลงข่าว นายเกรียงศักดิ์ลูกชายของของยอดรักกล่าวว่า การที่แพทย์ออกมาชี้แจงเพียงเท่านี้ ก็เพียงพอแล้วต่อการยืนยันว่า พ่อไม่ได้ลวงโลก ''นี่มันคือเรื่องของทางการแพทย์นะครับ แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วว่าพ่อเป็นมะเร็งไม่ได้ลวงโลกอย่างที่ใครบางคนว่า เรื่องนี้ต้องถามพ่อเพราะทางคณะแพทย์ก็ไม่สามารถบอกได้ ถ้าทางการแพทย์พูดไป พ่อก็อาจจะคิดมาก ถ้าถามถึงสภาพจิตใจ พ่อดีขึ้นมาเมื่อกลางวันนี้ ส่วนคนที่พูดผมก็อยากจะบอกว่า ผมไม่รู้จักว่าเขาคือใคร แต่ตอนนี้อยากฝากบอกแฟนเพลงของพ่อคือ แถลงข่าวไปแล้วก็คือ ยอดรัก สลักใจ ไม่ได้ลวงโลก'' ถาม สายัณห์ พิมพ์ www. เป็นเปล่า เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกจะดำเนินการฟ้องเว็บไซต์ตามที่ ''สายัณห์'' แนะนำหรือไม่ ลูกชายยอดรักยืนยันว่าไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นเพียงแค่การโพสต์ข้อความ ไม่ได้เป็นการเขียนข่าว ''ถ้าจะให้ฟ้องคงฟ้องไม่ได้หรอกครับ คือมันเป็นกระทู้ที่คนเขาอ่านแล้วเข้ามาโพสต์ตอบในนั้น คือไม่รู้ว่าสายัณห์เขาได้ไปดูเองหรือเปล่า หรือว่าใครบอกมา เขา www.เป็นมั้ย ส่วนจะจบอย่างไร ต้องถามทางพ่อ เพราะตัวผมก็อยากให้หยุดเสียที คนป่วยก็ไม่ได้แย่คนเดียว ทั้งคนป่วยทั้งคนใกล้ชิดแย่กันทุกคน'' ยอดรัก เปิดบ้านแถลงฟ้องสื่อ ในช่วงบ่ายวันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 69/359 หมู่บ้านกฤษดานคร 17 ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ยอดรักได้เปิดบ้านแถลงข่าวกับสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง โดยชี้แจงว่าจะฟ้องนสพ.บันเทิงฉบับหนึ่งที่ลงข่าวตนกรณีที่ ''พี่เป้า'' ออกมาให้สัมภาษณ์ในทำนองคาใจว่าตนเป็นมะเร็งจริงหรือไม่ โดยยอดรักยืนยันว่าจะไม่ฟ้อง ''พี่เป้า'' แต่จะให้นสพ.บันเทิงไปฟ้องร้อง ''พี่เป้า'' เอาเอง โดยนักร้องลูกทุ่งขวัญใจมหาชนต้องการให้นสพ.บันเทิง ลงขอโทษตนในหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 1 สัปดาห์ พี่แอ๊ว เจ็บใจ พี่เป้า ต่อมาเวลา 18.00 น. ยอดรัก สลักใจ ได้ให้สัมภาษณ์รายการสยามทูเดย์ ซึ่งออกอากาศทาง ททบ. 5 ผ่านทางโทรศัพท์ โดยยอมรับว่าเวลานี้จิตใจดีขึ้นมากว่าช่วงแรกๆ ที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น พร้อมกับเผยว่า ความจริงตนทราบข่าวว่ามีเรื่องในทำนองนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ไม่ได้ใส่ใจ เพราะเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลที่จะสามารถคิดอะไรได้ แต่รู้สึกเจ็บใจ ที่คนที่เอามาพูดกับกลายเป็น สายัณห์ สัญญา ''ดีขึ้นเยอะเลยครับที่ได้มีโอกาสฟังข่าวว่าผมเองเป็นมะเร็งจริง ไม่ได้เป็นคนลวงโลก แต่จริงๆ แล้วผมรู้ข่าวมานานเกี่ยวกับข่าวยอดรักลวงโลก ยอดรักไม่ได้เป็นมะเร็งจริง แต่ผมไม่ได้ถือสา เพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ของเค้าที่จะวิจารณ์ แต่ที่เสียใจที่สุดเห็นจะเป็นทำไมต้องเป็น สายัณห์ สัญญา ออกมาพูด ทั้งๆ ที่สายัณห์เค้าก็รู้ เค้ามาหามาเยี่ยมผมที่บ้าน แล้วโรงพยาบาลเองก็บอกให้ผมเข้าโครงการคีโม สายัณห์ไม่น่าจะเป็นคนโง่ เพราะยาคีโมเนี่ยรักษาโรคอื่นไม่ได้นอกจากมะเร็ง แล้วทำไมเค้าถึงออกมาพูดว่าผมไม่ได้เป็น ผมเลยคิดว่าไม่น่าจะเป็นสายัณห์ น่าจะเป็นคนอื่นมากกว่า'' เมื่อพิธีกรถามว่าได้ต่อสายพูดคุยกับพี่เป้าบ้างหรือเปล่า ยอดรักกล่าวว่า ''ก็ไม่รู้จะคุยกับเขาทำไม'' ถ้าพี่เป้าฟังอยู่อยากจะพูดอะไร ''ก็อยากจะบอกอย่าไปยุ่งเรื่องของเค้าเลย เพราะถ้าหากเรารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผลเสียมันไม่ได้เกิดขึ้นกับคนอื่นอย่างเดียว แต่คนที่เสียที่สุดคือ สายัณห์ สัญญา'' ต่อข้อซักถามว่าในอดีตที่ผ่านมาเคยบาดหมางกันมาก่อนบ้างหรือเปล่า ยอดรักกล่าวว่า ''อดีตเคยมี แต่ปัจจุบันไม่คิดว่าแก่ๆ ด้วยกันแล้วไม่น่าจะมีอะไร คือไอ้โรคมะเร็งผมว่ามันไม่น่ากลัว แต่ผมกลัวโรคริษยามากกว่า'' กินยาสมุนไพรอาการดีขึ้น เมื่อถูกถามว่า การดูแลรักษาเป็นอย่างไร ยอดรักกล่าวว่า ''ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ อย่างอาหารการกินต้องงดไปเลยพวกเนื้อสัตว์ ต้องเปลี่ยนมาทานมังสวิรัติ อาหารชีวจิตแ และก็อาศัยยาสมุนไพรสกัดชนิดหนึ่งที่เขากล่าวหาว่าผมไปโฆษณา แต่ขอบอกไว้เลยนะครับว่าผมดีขึ้นเพราะตัวนี้จริงๆ และผมก็ไม่ได้ไปโฆษณา และเขาก็ไม่ได้มาจ้างผม ที่ผมถ่ายรูปไปลงในเว็บไซต์ ผมเป็นคนทำเองทั้งนั้น เพื่อต้องการตอบสนองเขาที่ช่วยนำเอาสมุนไพรมาช่วยผม สลึงเดียวผมก็ไม่เคยได้รับจากเขา อันนี้พูดอย่างลูกผู้ชายเลย'' ทรุดเมื่อไหร่รักษาแบบคีโม เมื่อพิธีกรกล่าวว่า จะเข้ารักษาในแบบคีโมไหม ยอดรักกล่าวว่า ''ก็ถ้าอาการผมมันทรุดลงผมคงต้องไป แต่ถ้าอาการผมมันทรงและดีขึ้นผมก็คงไม่ไปนับหนึ่งใหม่ เพราะตอนนี้เราดีขึ้น และถ้าเข้าโครงการผมจะมาทานสมุนไพรตัวนี้ไม่ได้ เราก็คงต้องรักษาด้วยสมุนไพรไปก่อน ผมพอใจแล้วกับอาการที่เป็นอยู่ เพราะถ้ามันอยู่แบบนี้ได้เรื่อยๆ ผมก็พอใจแล้วครับ แต่วันนี้ผมรู้สึกดีใจที่ได้ทำให้แฟนเพลงสบายใจว่าผมไม่ใช่คนลวงโลกต่อพ่อแม่พี่น้องแฟนเพลงที่ช่วยซื้อซีดี ช่วยเป็นกำลังใจให้ผมมาโดยตลอด'' เผยยอดรักอยากตาย นอกจากโทร.สัมภาษณ์ยอดรักแล้ว รายการสยามทูเดย์ยังได้สัมภาษณ์ ''แอ๊ด เทวดา'' นายวรพงษ์ ลิมปพันธุ์ รุ่นพี่ที่ยอดรักให้การนับถือ โดย แอ๊ด เทวดา เปิดเผยว่า ''หลังจากที่สายัณห์ออกมาพูด พี่แอ๊วเศร้าไม่ยอมพูดคุยกับใครเลยเป็นเรื่องจริงครับ วันที่ผมทราบข่าวตอนเช้าซึ่งเขาโทร.มาหาผม ไม่ใช่ครอบครัวของแอ๊วนะครับที่เสียใจ ครอบครัวผมเองก็เสียใจเหมือนกัน เขาบอกผมว่าพี่แอ๊ดผมไม่อยากอยู่แล้ว ผมอยากตาย ผมตกใจครับ ซึ่งกำลังจัดรายการวิทยุอยู่ ทำไมแอ๊วถึงพูดอย่างนี้ ทำไมถึงถอดใจ เพราะครั้งสุดท้ายที่ไปเยี่ยมก็ยังเป็นเหมือนเดิมเขายังสนุกสนานเหมือนเดิม'' บอกยอดรักให้คิดถึงลูกเมีย พร้อมกันนี้ ''แอ๊ด เทวดา'' ยังได้กล่าวถึงวิธีปลอบใจ ''ยอดรัก'' ด้วยว่า ''ก็พูดแบบภาษาชาวบ้าน ภาษานักเลง เฮ้ย ถ้าคนพิจิตรใจเสาะอย่างนี้อย่ามาเป็นน้องแอ๊ด เทวดา ตั้งสติให้ดีไอ้แอ๊ว เพราะคนข้างเคียงเอ็งมันไม่ได้มีแต่ ''เป้า'' สายัณห์ สัญญา เท่านั้นนะ เมียเอ็งล่ะ ลูกเอ็งล่ะ แล้วพี่แอ๊ดไม่ใช่คนข้างเคียงเอ็งเหรอ ยังร้องไห้เหมือนเดิม จนกระทั่งสามทุ่มโทร.มาหาผมอีกพี่ด่าผมซะบ้างก็ดี แต่ผมสบายใจขึ้น เพราะเค้าดีขึ้น ซึ่งตั้งแต่ที่คนในบ้านเค้าออกมาพูดกันหมดแล้ว มีที่ไหนคนกำลังจะตายมาหาว่าเค้าเป็นคนลวงโลก'' ดันยอดรักเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อถูกถามว่าอยากบอกอะไรกับน้องทั้งสองคนคือ ยอดรัก และสายัณห์ ด้านแอ๊ด เทวดา กล่าวว่า ''ก่อนอื่นฝากถึงคุณยุวดี บุญครอง หญิงเหล็กแห่งเวทีไท ผมจะจัดคอนเสิร์ตให้ที่เมืองทอง อิมแพค และเราจะช่วยกันดันให้เขาเป็นศิลปินแห่งชาติ เพราะอย่างน้อยเป็นก่อนตอนลงโลงเนี่ยดีกว่า และในส่วนของรายได้จากคอนเสิร์ตเขาไม่ขอรับเงินขอให้จัดตั้งเป็นมูลนิธิเขา ยอดรักอยากให้มาช่วยตรงนี้ และฝากไปถึงสายัณห์ด้วยว่าสูดหายใจให้เต็มปอดน้อง'' ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก