ยอดรัก ช้ำทรุดหนักโดนหาว่าหลอก ลูกชายโชว์ฟิล์มฯ ใบหมอยันเป็นมะเร็งจริง

ยอดรัก ช้ำทรุดหนักโดนหาว่าหลอก ลูกชายโชว์ฟิล์มฯ ใบหมอยันเป็นมะเร็งจริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พี่แอ๊ว-ยอดรัก เครียดกินไม่ได้นอนไม่หลับ ลูกชายพร้อมกับ เสรี รุ่งสว่าง โชว์ฟิล์มเอกซเรย์พร้อมใบรองแพทย์ยืนยันว่านักร้องลูกทุ่งขวัญใจมหาชนป่วยเป็นมะเร็งจริง เตรียมเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งที่รพ.ศิริราชวันที่14มี.ค.นี้ หลังจาก พี่เป้า สายัณห์ สัญญา นักร้องลูกทุ่งเครางามเจ้าของเสียงร้องเพลงดัง ไก่จ๋า และอีกหลายร้อยเพลงที่เป็นอมตะ ออกเปิดใจว่าไม่ขอข้องเกี่ยวกับคอนเสิร์ตตามที่มีผู้หวังดีในวงการลูกทุ่งจัดขึ้นเพื่อหาทุนช่วย พี่แอ๋ว ยอดรัก สลักใจ เป็นทุนในการรักษามะเร็งที่ตับ พร้อมกับกล่าวในทำนองคาใจว่านักร้องลูกทุ่งขวัญใจมหาชนป็นมะเร็งตับจริงตามที่ออกมาเปิดเผยกับสังคมหรือเปล่า และท้าให้ ยอดรัก เจ้าของเสียงร้องเพลงดัง สามสิบยังแจ๋ว และเพลงอมตะอีกหลายร้อยเพลง ออกมาพิสูจน์ตัวเองให้ชัดเจนว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบเรื่องนี้ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 69/359 หมู่บ้านกฤษฎานคร 17 ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ซึ่งเป็นบ้านของ ยอดรัก เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และความคิดเห็นหลังจาก พี่เป้า ออกมากล่าวในทำนองว่าคาใจว่าเป็นมะเร็งตับจริงหรือเปล่า พร้อมกับท้าให้ออกมาพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าป่วยเป็นมะเร็งจริงหรือไม่ แต่ปรากฏว่า ทาง ยอดรัก ไม่อนญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าสัมภาษณ์ภายในบ้าน โดยมีคนในบ้านเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ออกมาบอกกับผู้สื่อข่าวที่ประตูบ้านว่า ตอนนี้คุณแอ๊วไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ เพราะรู้เครียดจนปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน ขอนอนพักผ่อน และบอกว่าให้ติดต่อมาขอสัมภาษณ์ในภายหลัง ทั้งนี้จากการตรวจสอบบริเวณบ้านของ ยอดรัก พบว่านอกจากรถยนต์จำนวนสองคัน ยี่ห้อเบนซ์สีบรอนซ์ และกระบะยี่ห้อโตโยต้าสีดำ จอดอยู่ในที่จอดรถด้านข้างของบ้าน ส่วนหน้าบ้านมีรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่น เอสเคป สีดำ และยี้ห้ออีซูซุสีขาวจอดอยู่นอกรั้วหน้าบ้าน นอกจากนี้ภายในบ้านมีผู้หญิงวัยกลางคน 2 คน และผู้ชายวัยกลางคน 2 คน แต่งตัวภูมิฐานหิ้วของพะรุงพะรังลงมาจากรถยนตร์ยี่ห้ออีซูซุเข้าไปภายในบ้าน พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวยังพบว่า ที่รั้วด้านหน้าของบ้านมีป้ายโฆษณาสีเขียวอ่อน แขวนอยู่ โดยใจความในป้ายระบุว่า nature perfect ศูนย์บริการ bio-lite บ้านยอดรัก Tel : 0-2888-0036, Fax 0-2888-1341 และมีรูปกระปุกผลิตภัณฑ์อยู่ด้านขวามือของป้ายโฆษณา นอกจากนี้เมื่อสังเกตเข้าในภายในบ้านพบว่า จากประตูบ้านเข้าไปด้านขวามือห่างกันเพียงเล็กน้อยพบว่ามีป้ายโฆษณาผลิตภัณฑ์เดียวกันกับป้ายโฆษณาที่แขวนอยู่รั้วบ้านด้านนอกแขวนอยู่ด้านหน้าของห้องที่อยู่ด้านขวามือของตัวบ้าน แต่ป้ายโฆษณาดังกล่าวมีความแตกต่างกับด้านนอกรั้วคือ มีรูปพี่แอ๋วครึ่งตัวใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ถือกระปุกโชว์ผลิตภัณฑ์ด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวายกนิ้วโป้งมาพร้อมกับกางนิ้วชี้ไปที่กระปุกผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในมือซ้าย อย่างไรก็ตาม ต่อมามีรายงานข่าวว่า นายเกรียงศักดิ์ ไพวัล และ น.ส.จารุวรรณ หทัยวรรณ ลูกชายและลูกสะใภ้ นายยอดรัก สลักใจ น้องร้องลูกทุ่งชื่อดัง ออกมาท้า นายสายัณห์ สัญญา ให้มากราบเท้าพ่อ พร้อมแถมเงินให้อีก 10 ล้านบาท หากผลตรวจจากโรงพยาบาลยืนยันว่า พ่อตนป่วยเป็นมะเร็ง และไม่ได้มีการจัดฉาก ตามที่ ''พี่เป้า-สายัณห์'' ออกมากล่าวหา พร้อมกันนี้ยังได้ท้าให้ทุกคนที่สงสัยไปขอผลตรวจากคณะบดีคณะแพทย์ศาสตร์ รพ.ศิริราช ได้เลย นอกจากนี้รายงานข่าวยังระบุว่า อาการล่าสุดของ ยอดรัก ขณะนี้ได้ทรุดลง หลังทราบข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ เพราะยังไม่ทราบเหตุผลของการออกมากล่าวหาดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า ยอดรัก ไม่ได้มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับนายสายัณห์มาก่อนทั้งนี้ ยืนยันครอบครัวลำบากจริง แต่ไม่ใช่ขอทาน ต่อมาเวลา 14.00 น. พี่เป้า-สายัณห์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการที่ออกมา เป็นผู้ให้ข่าวท้าทาย ยอดรัก ที่ป่วยอยู่ว่าให้ออกมาพิสูจน์ตนเองให้ชัดเจนว่า เป็นโรคมะเร็งหรือไม่อีกครั้ง ที่นครหลวงรามา ซ.บุปฝาสวรรค์ ว่า ตนเองในฐานะเป็นนักร้องลูกทุ่งคนหนึ่ง เมื่อพบเห็นเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ลงข่าวในลักษณะเหมือนคนวงการลูกทุ่งเป็นคนลวงโลก ก็รู้สึกไม่สบายใจ อยากให้ ยอดรัก ออกมาพิสูจน์ตนเอง เพื่อให้ความจริงปรากฏ ซึ่งหากว่า ยอดรัก เป็นมะเร็งจริง จะได้ดำเนินการฟ้องร้องเว็บไซต์ที่ลงข่าวบิดเบือน ''ถ้าหากว่าเป็นจริงนะเราควรนำเรื่องมาเปิดเผยให้สังคมรู้ว่าเราเป็นอย่างนี้จริงๆ สาเหตุที่พี่ให้สัมภาษณ์หนังสือแบบนี้ไป เนื่องจากว่ามันมีเว็บไซต์เว็บไซต์หนึ่งที่ลงว่านักร้องลูกทุ่ง ยอดรัก สลักใจ เป็นมนุษย์ลวงโลก เขาลงไปอย่างนั้นในเว็บไซต์นี่นะ เราก็เฮ้ยถ้ามันเป็นแบบนี้ปุ๊บเนี่ย เราควรจะมาประกาศตัวมาตีแผ่ให้เขารู้ว่า ถ้าเราเป็นจริง ควรจะฟ้องร้องเลยนะว่าเว็บไซต์ที่ลงไปแบบนี้หมายความว่าอะไร ทั้งๆ ที่เราเป็นจริงอย่างนี้แล้วเนี่ยจะมาลงแบบเหมือนซ้ำเติม แล้วกล่าวหานักร้องลูกทุ่ง พี่เป้าก็ในฐานะนักร้องลูกทุ่งคนหนึ่งถ้าถูกหาว่าลวงโลกอะไรอย่างเนี่ยนะ ถ้าเราเป็นจริงอย่างนั้นเราเป็นจริงๆ เราควรจะฟ้องร้องตรงนี้ไม่ควรนิ่งเฉย ถ้าเรานิ่งเฉยมันเหมือนแบบว่าเราเป็นแบบนั้นจริงๆ แบบที่เขาลงเว็บไซต์นะ อีกมุมหนึ่งก็คือว่าถ้าเราไม่เป็นจริง แล้วปูดขึ้นมาเพียงเพื่อผลประโยชน์อะไรซักอย่างหรือมีใครชี้แนะแนวทางมาต่างๆ เพื่อหาผลประโยชน์อะไรนี่นะ หรือจะเป็นการโปรโมตตัวเองก็ตามทีเนี่ย ถ้ามันไม่เป็นจริงอย่างนี้มาทำแบบนี้มันก็ไม่ถูกต้องนะ อีกอย่างมันจะเสื่อมเสีย วงการลูกทุ่งเขาจะประณามว่าเฮ้ยทำไมวงการลูกทุ่งเป็นแบบนี้หลอกลวงแหกตา หากถ้าเราเป็นจริงอย่างเว็บไซต์เขาลงว่าเป็นมนุษย์ลวงโลกอะไรแบบนี้นะ แล้วถ้าเราเป็นอย่างนั้นไม่ได้เป็นโรคร้ายอย่างนี้จริงๆ นี่ แล้วเราไปกุข่าวขึ้นมานี่มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แล้วอีกหน่อยสังคมวงการลูกทุ่งก็จะกลายเป็นแบบว่าถูกคนดูถูก คนจะประณามจะเหยียดหยาม เพราะฉะนั้น เรื่องนี้จะยุติถ้ายอดรักเป็นจริงๆ เราออกมาเลยมาเลยมาพิสูจน์ตัวเองไปเชิญทีวีทุกๆ ช่อง แล้วก็นักข่าวนักหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับไปที่โรงพยาบาลเจาะเลือดมาตรวจเดี๋ยวนั้นเลยให้หมอเขาแทงออกมาเลยว่าเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายแล้วจริงๆ นะ เสร็จแล้วปุ๊บนี่มีเว็บไซต์เว็บไซต์หนึ่งลงข่าวว่าแบบนี้เราก็ฟ้องร้องเลย'' เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ พี่เป้า ได้มีโอกาสได้คุยกับพี่แอ๊วถึงประเด็นนี้บ้างไหม ด้านนักร้องลูกทุ่งชื่อดังกล่าวว่า ''ก็ไปเยี่ยมมา 2 ครั้งแล้ว ดูๆ แล้วมองว่าเอ..เป็นจริงหรือเปล่า บางทีพี่ก็พูดๆ ลักษณะว่า เฮ้ยเป็นจริงหรือเปล่า ไม่ใช่มาหลอกกันเอง พี่น้องตกอกตกใจกันหมด เพราะมองว่าลักษณะเหมือนไม่เป็นอะไรที่นี้ประกอบกับเออ แล้วเราก็บอกว่าถ้าไม่เป็นจริงไม่ใช่เรื่องดีงามนะไม่ใช่เรื่องตลก ไม่ใช่เรื่องสนุกที่เราต้องทำแบบนี้ใช่ไหม ที่นี้อยู่มาไม่นาน เห็น คุณจักรพันธุ์ ยมจินดา สัมภาษณ์ออกทีวีว่า คุณยอดรักรู้ได้อย่างไรว่าเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายใช่ไหม แล้วแอ๊วก็บอกว่าผมรู้ครับพี่ ผมรู้ดีเลยว่าผมเป็นมะเร็งแล้วเป็นขั้นสุดท้ายด้วย ผมรู้ดีกว่าหมออีก แล้ว จักรพันธุ์ ยมจินดา ก็ถามอีกว่าอ้าวแล้วคุณรู้ได้อย่างไรล่ะหมอบอกเหรอแอ๊วบอกว่าไม่ใช่ผมอ่านจากหนังสือ ทีนี้เราฟังๆ ดูผมก็เฮ้อ...หรือว่ามันเป็นแบบที่เว็บไซต์เขาลงว่าแอ๊วไม่ได้เป็นอะไร แล้วเสร็จแล้วปุ๊บแค่เพียงอ่านหนังสือมาว่า คนเป็นมะเร็งขั้น 1 เป็นอย่างงี้นะ ขั้นสองเป็นอย่างงี้ ขั้นสามเป็นอย่างงี้นะแล้วก็เอามาพูดกันในลักษณะว่า เหมือนๆ กับว่าตัวเองเป็นอะไรแบบนี้ ที่บังเอิญเกิดมีใครสมมติว่ามีใครชักใยวางแผนอยู่เบื้องหลังหาผลประโยชน์อะไรต่างๆ สมมติว่าเป็นอย่างนี้จริง แล้วไปคล้อยตามทำอะไรไปอย่างนี้ แล้วซักวันหนึ่งเกิดความจริงถูกตีแผ่ออกมาว่าถ้าแอ๊วไม่เป็นอย่างนี้จริงๆ เนี่ยมันจะเสียหายไปทั้งวงการหมดเลย'' เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าไม่เชื่อใช่ไหมว่าเป็นมะเร็ง พี่เป้า กล่าวว่า ''ในสายตาแล้วมีความรู้สึกว่า ไม่น่าจะใช่'' ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าอะไรทำให้มั่นใจขนาดนี้ พี่เป้า กล่าวว่า ''ก็...นึกออกไหมพอมีคนถามว่าหมอบอกเหรอ หมอยังไม่ได้พูดซักคำแล้วคุณแอ๊วรู้ได้อย่างไร เขาบอกว่าเขารู้มาจากอ่านหนังสือ แค่ตรงนี้เราฟังดูแล้วเฮ้ยมันไม่น่าจะเป็นไปได้ แล้วบอกว่าเนี่ยผมเป็นมะเร็งเนี่ยเอามือจับเจอเลยเป็นก้อนๆ เลย เป็นมะเร็งที่ตับแล้วจับ เราฟังดูแล้วมันน่าเป็นไปได้เหรอจับเห็นเลย ถ้าสมมติเป็นก้อนอยู่ที่ตับจับดูตรงไหนให้เห็น มันเป็นไปไม่ได้จับข้างหลังหรือตรงไหนก็เป็นไปไม่ได้ เราก็เลยมีความรู้สึกว่า มันไม่น่าจะใช่ มันน่าจะมีเหตุผลอย่างอื่นหรือเปล่า'' ต่อคำถามว่าที่ออกมาเพราะมุ่งประเด็นไปเรื่องผลประโยชน์หรือเปล่านักร้องลูกทุ่งชื่อดังเจ้าของเสียงร้องเพลง ไก่จ๋า กล่าวว่า ''เออ...อะไรมันน่าจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า แต่อันนี้เราก็ไม่รู้อะนะ แต่เป้าหมายคือเขาจะทำเพื่ออะไรเราไม่สามารถจะรู้ แต่ถ้ามันเป็นจริงก็สามารถฟ้องร้องไอ้คนที่ลงว่า เป็นมนุษย์ลวงโลก ความจริงไม่ได้เป็นอะไรแล้วกุข่าวขึ้นมาเพื่อโปรโมตเพลงอะไรต่างๆ ตรงนี้เราสามารถฟ้องร้องได้เลย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าประกาศไม่ขึ้นคอนเสิร์ตช่วยเหลือจริงไหม พี่เป้า กล่าวว่า ''ก็พี่เป็นคนพูดว่า ถ้าเกิดเรื่องนี้เป็นจริงนะ แล้วจู่ๆ เหตุการณ์เป็นแบบที่เว็บไซต์เขาลงอะไรอย่างนี้นะเราก็เลยเฮ้ยพี่ก็เลยบอกว่า ถ้าเรื่องอย่างนี้พี่เป้าจะไม่ร่วมด้วยนะ เพราะไม่อยากร่วมขบวนการด้วย ใครจะทำอะไรก็ทำไปเหอะแต่อย่าเอาพี่เป้าไปร่วมด้วยไปวุ่นวายด้วยอะไรต่างๆ คือใครจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ เพราะอยู่ๆ ปุ๊บมันมีหนังสือ ลงวันก่อนหน้านี้ด้วยมั้งว่า สายัณห์ สัญญา นำทีมนักร้องลูกทุ่ง ชักแถวเป็นผู้นำนักร้องหลายๆ ท่านด้วยกันไปร่วมจัดงานช่วยเหลือยอดรัก เราก็เลยคิดว่าถ้าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเราก็จะตกเป็นจำเลยของสังคมไปด้วย ถ้าเกิดมันไม่เป็นความจริงอย่างนั้นน่ะ อย่างที่มาบอกมาออกข่าวกันเนี่ย แต่ดันเป็นจริงแบบที่เว็บไซต์ลง แล้วสายัณห์ก็ไปมีชื่ออยู่ในนั้นเพื่อสร้างข่าวสร้างภาพขึ้นมา มันกลายเป็นเราร่วมขบวนการด้วย มันจะเสียหาย และมันก็ไม่ใช่แค่นั้น ศิลปินลูกทุ่งทุกคนน้องๆ พี่ๆ ทุกคนต่างๆ ก็จะเสียหาย ก็เลยปฏิเสธไปว่าไม่เอาไม่ไปไม่ร่วมด้วย ที่นี้อยู่ๆ เนี่ยเขาลงมาว่าเราไปร่วมด้วย เราก็เลยโทร.ไปโวยวายเขาบอกว่ารู้ได้อย่างไร ว่า สายัณห์ สัญญา ไปร่วมตรงนี้ด้วยอะไรด้วย มีกิจกรรมตรงนี้ด้วย เพราะปฏิเสธไม่ไปหรอก เพราะเหตุผลเป็นแบบนี้เราก็ไม่ไปไม่ร่วมด้วยดีกว่า ที่นี้เราก็โวยวายกับเขา เขาถามว่าไม่รู้เรื่องเลยหรอ พี่ก็บอกว่าไม่รู้ แล้วเขาก็บอกว่ามีการลงโปสเตอร์อะไรต่างๆ พี่ก็เลยบอกไม่ใช่นะ ช่วยบอกกับแฟนเพลงให้ทราบด้วย เรื่องนี้จะเป็นจริงไม่เป็นจริง สายัณห์ สัญญา ไม่ขอรับรู้ด้วยนะ และไม่ขอไปยุ่งด้วยใครจะทำอะไรก็ทำไป'' ต่อคำถามว่าโดยส่วนตัวมีปัญหากับ พี่แอ๊ว มีปัญหาขัดแย้งกันไหม พี่เป้า กล่าวว่า ''ไม่มี (ขึ้นเสียงสูง) พี่รักมันจะตาย มันเหมือนน้องคนหนึ่ง แล้วรักมันมาก ก็ไปเยี่ยมมันไปอะไรมันมาตั้งสองครั้ง แล้วก็ไปนั่งบีบนั่งนวดให้กัน เพียงแต่บอกว่าถ้าหากว่ามันเป็นจริง พี่น้องเราก็มาช่วยเหลือกัน แต่ถ้ามันไม่เป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องที่ดีงามนะ ไม่ใช่เรื่องที่ตลก ไม่ใช่เรื่องที่จะมาฉวยโอกาสแล้วสร้างข่าวแบบนี้ขึ้นมา สังคมเขาจะประณามเอา'' เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีการพูดคุยกับพี่แอ๊วบ้างหรือยัง แล้วถ้าโรงพยาบาลเขาแถลงข่าวว่าเป็นจริง พี่เป้า กลัวว่าจะเสียหน้าไหมที่ออกมาพูดในทำนองนี้ พี่เป้า กล่าวว่า ''เอาถ้าถามอย่างนี้ปุ๊บพี่เป้าจะเสียหน้าหรือเปล่า ทำไมไม่ไปถามเว็บไซต์ล่ะ เขาลงว่า ยอดรัก สลักใจ เป็นนักร้องลวงโลก แล้วที่ว่าโรงพยาบาลจะมาแถลงข่าวน่ะไปถามมาแล้วเหรอ...ไปถามมาแล้วเหรอ เห็นว่าเนี่ยพูดเองเออเองกันหรือเปล่า นักข่าวส่วนมากนะบางทีไปลงมันเกินกว่าเหตุเนี่ย มันเหมือนกับเสี้ยมเขาควายให้ชนกันบางทีออกข่าวจริงบ้างไม่จริงบ้างอะไรต่างๆ ที่จริงนักข่าวควรจะมีจรรยาบรรณกันหน่อย สิ่งที่ไม่จริงไม่ควรเอาไปลง สิ่งที่จริงลงไปเหอะ ความจริงน่ะถ้าถูกเปิดเผยถูกตีแผ่ก็โอเค เพราะฉะนั้นถ้ามันเป็นความจริง แต่ถ้ามันไม่เป็นความจริงอย่าไปเขียนไปหาว่าคนนั้นพูดอย่างนี้ คนนี้พูดอย่างนั้น ไปเจาะข่าวไปจี้ข่าวมันทำให้คนทะเลาะกันป่นปี้ เพราะฉะนั้นก็ให้ออกมาแต่ความเป็นจริง อย่างผมสิ่งใดที่ผมกล้าทำผมก็กล้ารับครับ แต่กับคนอื่นที่จะมาพูดว่ากับผมถ้ามันไม่เป็นความจริงผมไม่ยอมนะ สายัณห์ สัญญา ไม่ใช่คนละลาบละล้วง หรือมาพูดอะไรซี้ซั้ว ถ้ามันเป็นจริงพูดอะไรก็พูดได้'' ต่อคำถามว่าอยากให้ ยอดรัก มาพูดยืนยันว่าเป็นมะเร็ง พี่เป้า กล่าวว่า ''อยากครับ เรื่องของเรื่องคืออยากให้แอ๊วออกมายืนยัน ในเมื่อเว็บไซต์เขาออกมาประณามอย่างนั้นเราก็ตั้งใจให้แอ๊วออกมาพิสูจน์เลยโดยการที่ไปที่โรงพยาบาลก็ได้ ให้หมอเจาะเลือดมาดูซิว่าเลือดมีผลเป็นมะเร็งหรือไม่เป็น ให้มีคำสั่งแพทย์ออกมาเลยว่าเป็นจริงเราจะได้ฟ้องร้องดำเนินการที่เขาเอาเราไปบอกว่าเป็นนักร้องลูกทุ่งลวงโลก ก็มีความรู้สึกอย่างนี้ อยากปกป้องสิทธิ์ของวงการลูกทุ่ง ไม่อยากให้เสื่อมเสีย ในเมื่อเขาลงมาแบบนี้ ถ้าเป็นจริงพี่ก็จะพูดกับยอดรักว่าแอ๊วนิ่งเฉยไม่ได้นะ เราควรพิสูจน์ให้สังคมรู้เลย แล้วก็ฟ้องเลยไม่มีทนายเดี๋ยวจะจัดหาให้ไม่กลัว อย่าเฉยมัวแต่เฉยอยู่เนี่ย ให้เขาออกข่าวพูดเองเออเองอะไรกันเนี้ยไม่ใช่อย่างนั้น แต่ถ้าเกิดเราพิสจน์ตรงนี้ไม่ได้ เขาลงเว็บไซต์มาแบบนี้ แล้วท้ายที่สุดความจริงอยู่ตรงไหนล่ะนักข่าวจะได้ความจริงจากตรงไหน เพราะฉะนั้นถ้ามีโรงพยาบาลที่แอ๊วไปตรวจเขาออกมาชี้แนะชี้นำมาเปิดเผยพูดความจริงแทงออกมาเลยว่า ยอดรักสลักใจเป็นมะเร็งจริงๆ นะ เป็นขั้นสุดท้ายด้วยนะ ถ้ามาอย่างนี้ปุ๊บเราจะได้ดำเนินการต่อไปนักข่าวก็ได้ความจริงถูกไหม แต่ทุกครั้งที่มีข่าวเนี่ย มีแต่นักข่าวไปพบที่บ้าน ที่เรารู้มานะ ก็มีแต่ว่าเออนักร้องเพื่อนเขาอะไรเขาเนี่ยเชิญนักข่าวไปที่บ้านไปสัมภาษณ์มันเหมือนแบบว่า ยังไงล่ะพูดไปแล้วปุ๊บมันไม่มีหลักฐานมายืนยันนึกออกไหม แล้วพอเรานั่งดูทีวี ก็เห็นนักข่าวเขาไปเจาะลึกจี้จุด แอ๊วก็ตอบไปบางครั้งเหมือนเป็นจริงหรือเปล่าหรือไม่เป็นจริงทำให้คนคิดว่า เฮ้ยสมมติว่านักวิชาการหรือนักปัญญาชนพอฟังดูแล้วปุ๊บเฮ้ยยอดรักเป็นจริงหรือเปล่า ตรงนี้ไงแต่ถ้าเกิดมีหมอมายืนยันมันก็ดีสิ ถ้าเขาออกมาแบบนี้ดีเลย ถ้าเป็นจริงวงการเราจะได้ใสสะอาดโปร่งใสไม่ใช่มนุษย์ลวงโลกอย่างที่เขากล่าวหาเรา'' เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ได้คุยกับ พี่แอ๋ว เขาคุยกับพี่ประมาณไหนว่าพี่ผมเป็นนะหรือว่าอะไรอย่างไร พี่เป้า กล่าวว่า ''อ๋อ...ก็เคยถามตอนไปเยี่ยมว่าเฮ้ยเป็นจริงหรือเปล่า เอาจริงๆ นะ ไม่ใช่กุข่าวขึ้นมานะที่นี่แอ๊วมันก็หัวเราะอะ มันก็บอกว่าโธ่พี่ผมเป็นจริง พี่ก็บอกว่าเป็นจริงนะไม่ต้องไปเสียใจอะไรไม่ต้องไปคิดอะไรคนเขามีเงินเป็นพันล้านหมื่นล้านเขาก็ยังเป็น เรื่องความเจ็บป่วยไข้เป็นเรื่องของธรรมดา เราก็ได้แต่ปลอบใจ เราก็บอกเมียกับลูกเขาไว้ด้วยนะว่าไม่มีอะไรไม่จำเป็นอย่าไปเล่าให้เขาฟัง ไม่ต้องไปพูดให้พ่อฟังลูกเขาก็บอกว่าพวกผมรู้เมียเขาก็บอกว่ารู้ ที่นนี้อยู่ๆ ก็มีข่าวจากทีวีเฮ้ย..แอ๊วพูดเองเลยว่าเป็นมะเร็ง เป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายผมอยู่ได้ไม่เกินสามเดือน เราก็เลยเอ...แบบนี้เป็นจริงหรือเปล่าจากคำให้สัมภาษณ์อะไรต่างๆ เราวินิจฉัยจากสภาพที่เป็นอยู่อาการไม่น่าจะเป็น แล้วอยู่ๆ มีเว็บไซต์ออกมาอย่างนี้ เราก็เลยคิดว่าเฮ้ยหรือว่าพวกนี้เขาเจาะลึกไปถึงขั้นรู้ว่ายอดรักไม่ได้เป็นจริงมั้งอะไรอย่างนี้ ที่นี่ถ้าเกิดมันเป็นจริงล่ะแล้วเราไม่ต่อต้านไม่นำความจริงมาเปิดเผยพวกเราลูกทุ่งเสียหาย ทั้งตัวยอดรักก็เสียหาย แต่ถ้าหากไม่เป็นจริงมันก็เสียหายอีกเหมือนกัน'' ต่อคำถามว่ายืนยันว่าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับข่าวนี้ พี่เป้า กล่าวว่า ''ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย จะไปมีอะไร'' เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้ามีคนมองว่าพี่เป้าออกมาให้ข่าวแบบนี้เพื่อโปรโมตตัวเองหรือเปล่า พี่เป้า กล่าวว่า ''ก็ไม่รู้จะไปพูดเพื่ออะไร สร้างกระแสสายัณห์เหรอเป็นคนอยากออกทีวี สายัณห์เหรอที่อยากเป็นข่าวมีแต่พยายามไม่ให้เป็นข่าว ทีวีไม่รู้กี่ช่องเชิญให้ไปออกพี่เป้าก็ไม่ไปออก อย่ามองว่าสร้างกระแสมันไม่ใช่คิดแบบนี้คิดผิดแล้ว สายัณห์สัญญาถ้าอยากจะดังอยากจะอะไร ผมไม่หยุดวงดนตรีมาเป็นสิบยี่สิบปีหรอกผมไม่ประกาศตัวหยุดหรอก ไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนั้นคือความดังอิ่มตัวแล้วพอแล้ว ตรงนี้ถ้าผมออกมาทำอะไรซักอย่างเพื่อหวังผลประโยชน์มันไม่ใช่ อยากบอกนักข่าวทุกคนที่สัมภาษณ์สายัณห์ สัญญาไว้ด้วย เพราะพี่เป้าพูดอะไรพี่เป้ารักษาคำพูด รับผิดชอบในคำพูดทุกคำพูดเลย แต่ถ้าไปพูดอะไรแบบลอยๆ แล้วไปลงเกินกว่าเหตุเนี่ย'' ส่วนคำถามที่ว่าที่ออกมากล่าวเรื่องนี้กลัวผิดใจกับ ยอดรัก ไหม หรือต้องไปเคลียร์อะไรไหม พี่เป้า กล่าวว่า ''ยัง ยังไม่เคลียร์อะไรเพราะยังไม่ได้อ่านอะไร'' แล้วถ้าหากทาง ยอดรัก นำหมอมายืนยันว่าเป็นจริง ''ถ้าเป็นจริงนะก็จะชี้แนะเลย แล้วพร้อมจะเป็นตัวตั้งตัวตีให้ฟ้องเลยที่มันลงข่าวว่าเราเป็นนักร้องลูกทุ่งลวงโลก ไม่ได้เป็นจริงกุข่าวขึ้นมาอะไรฟ้องเลย'' ถ้าเป็นจริงยินดีไปขึ้นคอนเสิร์ตช่วย ยอดรัก ไหม ''ยินดีไปขึ้น ไม่ได้ขึ้นแค่นี้ด้วย ที่จัดเนี่ยมันจิ๊บจ๊อยมากเลย น่าไปจัดที่โน่นอิมแพค เมืองทองธานี ให้มันได้เลยวสมมติถ้าเกิดว่าเป็นจริงๆ ไม่ต้องไปขายบ้านบรรดาพี่ๆ น้องๆ ศิลปินช่วยกันอยู่แล้ว แม้กระทั่งถ้าหากว่าสมตติไม่เป็นจริงมันก็ยังไม่สายเกินไปที่เราจะสารภาพกับสังคม อย่าตกเป็นจำเลยสังคมเลย พร้อมที่จะสารภาพกับสังคมว่าเออจริงๆ แล้วผมมีความจำเป็นเรื่องอื่นนะ มีความจำเป็นต้องใช้เงินทำอะไรต่างๆ สมมตินะ อย่างที่ให้สัมภาษณ์แล้วเนี่ยว่าติดหนี้จำนองอยู่ 5 ล้าน 6 ล้าน เงิน 5 ล้าน 6 ล้านมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่เราจะหามาได้ บอกพี่ๆ น้องๆ ว่าเออช่วยกันหน่อยเว้ย ถ้าเรื่องไม่เป็นความจริง ไม่จำเป็นต้องกุข่าวขึ้นมา บอกพี่น้องบรรดาศิลปินทั้งหลายช่วยกันได้แบบนี้ไม่อยากหรอกจัดงานซัก 3-4 งานก็สามารถไปไถ่บ้านมาได้อะไรได้ ตรงนี้ สายัณห์ สัญญา พร้อมอยู่แนวหน้าเลย'' เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนตัวมีโอกาสหวนคืนวงการลูกทุ่งไหม ''อาจจะไปการเมืองก็ได้ ลูกทุ่งไม่รู้ซิก็รับงานบ้าง ก็มีทาบทามเล่นการเมืองบ้าง เรื่องร้องเพลงบ้างครั้งก็เบื่อหน่ายสังคมบางทีทำให้ไม่ดีไม่งามขึ้น ไม่อยากให้สังคมมีแต่โกหกหลอกลวงกัน ในสังคมนักร้องก็อยากให้เอาความจริงมาพูดบนพื้นฐานของความถูกต้อง'' ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 18.00 น. เพื่อนนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เสรี รุ่งสว่าง, นายเกรียงศักดิ์ ไพรวัลย์ และ คุณยุวดี บุญครอง ประธานกรรมการบริหารบ.เอเชีย เทเลวิชั่นฯ ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ สยามทูเดย์ ที่มี บ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ และ ว่าน ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง ถึงกรณีที่ พี่เป้า-สายันณ์ คาใจ พี่แอ๊ว-ยอดรัก อาจไม่ได้เป็นมะเร็ง โดย เสรี รุ่งสว่าง ได้เปิดใจแสดงความรู้สึกว่า ''ความรู้สึกของเขาตอนนี้คือทรุดเลยครับ ผมอยู่สุพรรณฯตั้งแต่เมื่อเช้าเขาโทร.ไปหาบอกให้กลับมากรุงเทพฯ ด่วน แล้วเขาก็ร้องไห้ใหญ่เลยครับ แล้วเขาก็โทร.ไปหาพี่แอ๊ดที่พิษณุโลก พี่แอ๊ดก็ถามว่าเรื่องอะไรกัน ผมก็ไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่ามีคนโทร.หาผมเยอะแยะ พอตอนบ่ายๆ ก็ได้เข้ากรุงเทพฯ มาเจอพี่แอ๊วนอนเก็บตัวนิ่งเลยครับ จากที่อาการเคยร่าเริง พอรู้ข่าวตั้งแต่เช้า แย่เลย สายัณห์ไม่ได้ไปหาหมอกับยอดรัก...ก็ไม่รู้เขาเอาเรื่องมาจากไหน เนี่ยไงครับ ...ครั้งแรกที่ไปนะครับหมอที่โรงพยาบาลธนบุรีเขาก็บอกว่าเป็นเนื้องอกในตับ แล้วตอนเช้าเขาก็โทร.มาหาผมบอกว่าดีนะที่ผมรู้วันตาย แต่คุณไม่รู้วันตาย ยอดรักเขาบอกผม ผมก็งงถามเขาว่าเป็นอะไร เค้าก็บอกว่าผ่าตัดแล้วเป็นเนื้องอกในตับ ผมยังบอกว่าให้ไปตรวจให้แน่ใจก่อน เลยแนะนำให้ไปที่รพ.ศิริราช คือวันพรุ่งนี้เราก็จะทำเรื่องไปที่โรงพยาบาลแล้วก็ให้หมอเขาแถลงข่าวว่ายอดรักจะเป็นหรือไม่ ตอนที่เขาบอกว่าเป็นเนื้องอกในตับนี่...เขาเอาเนื้องอกไปตรวจแล้วเขาก็บอกว่าเป็น แต่ยอดรักก็ไม่อยากให้ข่าวใครหรอก...ไม่ต้องให้ใครดูฟิล์มหรอก นี่ตั้งแต่ 15 ม.ค. 51 แล้วนะ เขาว่าคนเราถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งก็จะแย่ไปด้วย ครอบครัวรู้ ทุกคนรู้แต่ไม่ได้ชัดเจนแบบนี้ แต่ ณ วันนี้ต้องชัดเจนแล้ว ผมไม่เข้าใาจว่าเขาออกมาพูดเพื่ออะไร จริงๆ ผมก็อยากให้สิ่งที่ คุณสายัณห์ สัญญา พูดว่าไม่เป็นนะ...อยากให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน อยากให้เขาไม่เป็นมะเร็ง จะได้หาย'' จากนั้นพิธีกร บ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ ได้ยกฟิล์มเอกซเรย์ของ พี่แอ๊ว-ยอดรัก มาโชว์ให้ทุกคนได้ดูและชี้ว่าก้อนตรงส่วนนี้คือส่วนที่เป็นเนื้อร้าย ซึ่งจะเป็นตรงส่วนขั้วและไม่สามารถตัดทิ้งได้ ก่อนที่จะโชว์ฟิล์มอีกหนึ่งแผ่นจากโรงพยาบาลนครธน 2 ให้เห็นว่าจุดเหลืองๆ อยู่ด้วย และชี้ให้เห็นถึงตัวเลขพร้อมกับอธิบายว่าค่าเฉลี่ยของคนถ้าอยู่ในช่วง 0-หมื่นสามจุดหก เป็นเรื่องปกติ แต่ของ พี่แอ๊ว อยู่ที่ 5.3 หมื่นแสดงให้เห็นถึงความไม่ปกติ ทั้งนี้ เสรี ยังได้กล่าวแสดงความรู้สึกถึง พี่เป้า ต่อไปอีกด้วยว่าตนเองไม่ทราบสาเหตุที่นักร้องร่วมวงการเดียวกันต้องออกมาพูดเช่นนี้ และไม่สนใจหาก สายัณห์ จะไม่ไปร่วมงานคอนเสิร์ต ''คือมันกระทบกระเทือนไปถึงการทำงานเอาเงินมาให้เขารักษาตัวเนี่ย อย่างวันที่ 26 มี.ค. ที่จะมีคอนเสิร์ตเขาเนี่ย เราไม่อยากให้กระทบกระเทือนตรงนั้น เราอยากจะช่วยเขาเป็นเบื้องต้นเท่านั้น แต่เมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้มาเราต้องออกมาเปิดเผย ผมอยากจะย้ำตรงนี้เลยว่าคนที่บอกว่าพี่แอ๊วไม่เป็นเนี่ย สงสัยเขาอยากเป็้นมั้ง อยากจะให้เขาเป็นจังเลย พี่เป้าก็เป็นคนออกมาให้ข่าวเองว่าอีก 2 เดือนตาย 3 เดือนตาย แต่ตอนนี้ดันมาบอกว่าไม่เป็นอีกล่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาจากจังหวัดไหนกันแน่ แต่ถ้าเป็นคนสุพรรณฯ เค้ามีความคิดทุกคน ผมเองขนาดจบป.4 ยังมีความคิดดีกว่าเลยครับ ที่เขาบอกว่าเขาแค่ต้องการจะเตือน จะไปเตือนเขาทำไมล่ะ ไอ้เรื่องอย่างนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัว มันเป็นเรื่องของ ยอดรัก สลักใจ ไม่ใช่เรื่องของสายัณห์ มันเป็นเรื่องของคนลูกทุ่ง คนลูกทุ่งถ้าจะเสียเขาก็ตัดไปเป็นบางคน ไม่ใช่ตัดเขาหมด...ถ้าเขาเป็นอย่างนั้นเขาก็รับกรรมเขาเอง เราจะต้องไปเดือนร้อนอะไรแทนเขา ไม่เห็นจำเป็นเลย อย่างผมเองผมรู้ไวพจน์ ศิลปินแห่งชาติเขาไปแถลงข่าวเขาก็รู้ ทำไมเขาไม่พูดล่ะ แต่เขาพูดเรื่องไม่ใช่เรื่อง ผมบอกให้ฟังเลยว่าทุกคนเขาก็ไม่ได้เชิญอยู่แล้ว สายัณห์ไม่ไปเค้าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ไม่ต้องไปหรอก ผมและทุกคนไปช่วยด้วยความเต็มใจ นักร้องทุกคนที่ไปร่วมแถลงข่าว เอกชัย, เอกราช, สุรชัย, รุ่ง-สุริยา เค้าก็ไปด้วยความเต็มใจทั้งนั้น คนอยู่ที่อเมริกาเค้ายังช่วยเลยครับ สายัณห์ไม่ไปก็ไม่เป็นไร เพราะเขาก็ไม่อยากให้ไปอยู่แล้ว'' เสรี รุ่งสว่าง กล่าว ด้าน นายเกรียงศักดิ์ ไพรวัลย์ ลูกชายของ พี่แอ๊ว-ยอดรัก ได้กล่าวถึงความรู้สึกและอาการของพ่อ ณ ตอนนี้ว่า ตั้งแต่ทราบข่าวเมื่อเช้าพ่อก็ทรุดหนัก...จากที่เขาร่าเริง พูดคุย ยิ้มแย้มกลายเป็นเก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง ไม่พูดไม่จากับใครทั้งนั้น ''ครับ...คือเมื่อเช้าพ่อเขาอ่านหนังสือพิมพ์ พอได้ยินข่าวไปแล้วก็คือฟุบ เก็บตัวอยู่ในห้อง ไม่กินข้าว ไม่อะไรทั้งสิ้น เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องอย่างเดียว ไม่ปกติเลยครับ คือปกติจะร่าเริงตลอดเวลา ปิดม่าน ปิดกระจกไม่คุยกับใคร ทรุดเลยครับ เสียใจหนักมาก เสียใจมากครับ...อย่างพ่อตอนเมื่อวานยังเล่นได้ สนุกสนานอยุ่เลย แต่เมื่อเช้าทรุดหนัก คือไม่ใช่พ่อที่เป็นคนเดียว ทำให้ครอบครัวเสียใจกันหมดทุกคน ก็ไม่รู้ครับว่าเขาคิดยังไงถึงพูดออกมาอย่างนี้'' นายไพรวัลย์ กล่าว จากนั้น คุณยุวดี บุญครอง ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงความรู้สึกในฐานะคนหนึ่งที่ได้จัดคอนเสิร์ต เวทีไท หายทุนช่วยค่ารักษา ยอดรัก ว่า ''เวทีไทเป็นเวทีสำหรับคนไทย สำหรับคนลูกทุ่งที่เรามีความห่วงใย คนเรามีอะไรก็ต้องช่วยกัน เราก็เลยบอกว่าให้มาออกเวทีไทเถอะ...พี่เขาก็บอกว่ายังไม่พร้อม ก็เลยบอกให้พี่เสรีเอาเพื่อนๆ มาออกรวมกันดีกว่า เราไมได้คิดอะไร เราคิดอย่างเดียวคือเป็นการแสดงความห่วงใย แสดงความรักว่าเรารักเพื่อน วันนั้นพี่แอ๊วร้องเพลงแล้วคน 3 พันคนลุกขึ้นยืนแล้วพี่แอ๊วเค้าก็ร้องไห้ นี่หรือคะคนไม่ป่วย...พี่อยากจะถามพี่เป้าว่าหัวใจพี่เป้าทำด้วยอะไร พี่แอ๊วไม่ได้สิ้นคิดขนาดนั้น และทางเราก็ไม่ได้ต้องมานั่งหลอกลวงประชาชนว่าทำคอนเสิร์ตร่วมมือกับพี่แอ๊ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมันเกิดจากความรู้สึก พี่แอ๊วไม่ได้มาก่อม็อบพวกเรานะคะ ไม่ได้มาก่อม็อบว่าจัดคอนเสิร์ตให้หน่อย ช่วยผมหน่อย ไม่ใช่ แต่มันคือความรู้สึกของเราว่าอะไรล่ะที่เราจะทำได้ วันนั้นพี่แอ๊วพูดขึ้นมาเลยว่าไม่คิดว่าคนไทยจะรับพี่เค้า จะมีความห่วงใยพี่เค้าขนาดนี้ พอถึ้งวันนี้มีข่าวลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ว่าเขาหลอกลวงประชาชน แล้วคนที่ป่วยหนักขนาดนั้นเนี่ย กำลังใจเขาสำคัญที่สุด คือพี่แอ๊วเนี่ยเขาอาจจะอยู่กับเราได้อีกเดือน 2 เดือน จะอยู่กับเราได้อีกไม่นาน จะมาโกหกคนเพื่ออะไร พี่อยากจะถามพี่เป้าว่าพี่เป้าโกรธแค้นอะไร ทำไมพี่เป้าต้องทำร้ายจิตใจของพี่แอ๊วและคนไทยทั้งประเทศขนาดนี้ พี่เป้าเป็นคนที่แล้งน้ำใจกับวงการบันเทิง ซึ่งงานไหนที่เชิญไปแล้วไม่ได้เงิน พี่เป้าไม่มา คอนเสิร์ตนี้เราขอน้ำใจคือเวทีนี้เป็นเวทีของพวกคุณ มาขึ้นเถอะ'' คุณยุวดี บุญครอง กล่าวในที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่าหลังจากที่ให้สัมภาษณ์ออกอากาศสด รายการสยามทูเดย์แล้ว ทาง เสรี รุ่งสว่าง และลูกชายของยอดรักได้เปิดใจอีก เมื่อถูกถามว่าอยากพูดอะไรถึงพี่เป้าอีกไหม โดย เสรี รุ่งสว่าง กล่าวว่า ''ออกมาพูดทำไม ไม่เคยช่วยอะไร เสียใจมาก เพราะเป็นคนให้กำลังใจยอดรัก และพี่เป้าเองน่าจะเป็นคนให้กำลังใจยอดรักได้ดีมาตลอด ทำไมต้องออกมาพูดแบบนี้ คนเป็นคือยอดรักไม่ใช่สายัณห์ จะมาโพนทะนาทำไม เรื่องมะเร็ง ขนาดญาติเราเป็นเรายังไม่อยากบอกให้รู้เพราะกลัวกำลังใจหาย ยอดรักก็ไม่ได้อยากเป็นหรอก แต่หมอบอกว่าเป็น ก็อยากให้เป็นเหมือนที่สายัณห์บอกจริงๆ ที่ยอดรักไม่ได้เป็น แต่เมื่อเขาเป็นจะมาตอกย้ำเพื่ออะไร'' เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดสาเหตุที่ทำให้ พี่เป้า ออกมาพูดเรื่องนี้เพราะอะไร เสรี กล่าวต่อว่า ''อยากดังมั้ง เพราะตอนนี้เขาก็ไม่มีข่าว ร้องเพลงก็ไม่ดัง ไม่มีน้ำใจ งงมาก 2 อาทิตย์ตอนที่รู้ว่าเป็นมะเร็งเขามาหายอดรัก มากอดรัดฟัดเหวี่ยงกันและเป็นคนให้ข่าวว่ายอดรักอยู่ได้อีก 2-3 เดือน ตอนนี้กลับมาบอกว่าไม่เป็นประสาทหรือเปล่า ส่วนเรื่องนักร้องลูกทุ่งมาร่วมจัดคอนเสิร์ตหลอกคนดูไม่ใช่ ถ้าเรื่องนี้ไม่จริง ถ้าจะเสียก็เสียคนเดียว ใครจะมาเสียด้วยมันเป็นเรื่องตัวบุคคล คนเขามองออก'' ต่อคำถามว่าจะมีการเคลียร์ใจกับ พี่เป้า ไหม เสรีกล่าวว่า ''ไม่คุย ทำไมพูดแบบนี้ แถลงข่าวเราก็ไม่รู้อยากเป็นเองมั้ง'' แล้วที่พี่เป้าบอกพูดกันเอง หมอไม่เคยออกมาพูด เสรี กล่าวว่า ''ยอดรักไม่ได้พูดเอง หมอเขาบอกมา วันที่ไปตรวจที่โรงพยาบาลศิริราชนักข

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ ยอดรัก ช้ำทรุดหนักโดนหาว่าหลอก ลูกชายโชว์ฟิล์มฯ ใบหมอยันเป็นมะเร็งจริง

ยอดรัก ช้ำทรุดหนักโดนหาว่าหลอก ลูกชายโชว์ฟิล์มฯ ใบหมอยันเป็นมะเร็งจริง
ยอดรัก ช้ำทรุดหนักโดนหาว่าหลอก ลูกชายโชว์ฟิล์มฯ ใบหมอยันเป็นมะเร็งจริง
ยอดรัก ช้ำทรุดหนักโดนหาว่าหลอก ลูกชายโชว์ฟิล์มฯ ใบหมอยันเป็นมะเร็งจริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook