สมาร์ท ผู้ชายโลกส่วนตัวสูง

เข้าวงการมาเพียงไม่กี่ปี แต่สำหรับผู้ชายคนนี้กลายเป็นหนุ่มเนื้อหอม ขวัญใจสาวๆ ไปแล้วทั้งวงการกับ สมาร์ท - กฤษดา พรเวโรจน์ หนุ่มนักเรียนนอกที่ตั้งใจจะเล่นละครแค่เรื่องเดียวในชีวิต แต่วันนี้เขากลับมีงานละครถึง 6 เรื่องไปแล้ว และด้วยภาพจากละครที่เราเห็นกับบทพระเอกมาดนิ่งตัวตนจริงๆ เขาจะเหมือนกับในละครหรือเปล่า วันนี้เราจะได้รู้กัน ..... กับงานในวงการวันนี้ถือว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วยัง ? อืม...ก็ถือว่ามีละครให้เล่นเรื่อยๆ ครับ แต่สำหรับเรื่องความสำเร็จเนี่ย ผมว่าผมประสบความสำเร็จตั้งแต่ละครเรื่องที่สองแล้ว เพราะว่าผมวางไว้ว่าผมจะเล่นเรื่องเดียวของชีวิตแล้วจะไม่เล่นแล้ว จริงๆ ผมไม่ได้มาสายนี้อยู่แล้ว จริงๆ ผมมาทางสายสถาปนิก ผมไม่เคยเรียนด้านการแสดงมาก่อน ผมก็กะว่าเล่นเรื่องนั้นจบก็ไม่เล่นแล้ว แต่พอดีว่าเรื่องแรกมีคนบอกว่าเราเล่นแข็ง เล่นไม่ดี ผมก็เลยเปลี่ยนความคิดว่าเราต้องปรับปรุงเล่นให้ได้ดีแล้วค่อยเลิก แต่พอเล่นไปเล่นมารู้สึกแปลกดี รู้สึกมันสนุกขึ้น ก็มาเรื่อยๆ ถึงวันนี้ ด้วยภาพดูเป็นคนเงียบ จริงๆ เป็นคนเข้าถึงยาก ? ไม่ยากหรอกครับ เพียงแต่ว่าผมจะเป็นคนที่ไม่เข้าหาใครก่อน แล้วบางคนก็จะมองผมว่าดูดุจัง บางคนก็หาว่าหยิ่ง ก็แล้วแต่ครับ เพียงแต่ผมอยู่ของผมมากกว่า เพราะตั้งแต่เด็กๆ มาเลยผมเรียนโรงเรียนประจำมา ผมก็เลยไม่ถนัดกับการไปคุยกับใครก่อนเท่าไร อยู่คนเดียวมากกว่า อย่างนี้ตอนถ่ายละครเรื่องแรกไม่อึดอัดเหรอ ? ตอนนั้นเหมือนกับเราเป็นนักเรียน ทุกวันตอนตื่นเช้าเหมือนถูกบังคับให้ไปเรียน ตอนแรกผมไม่ชอบเลย แต่มันเหมือนเราทำไปแล้ว เราเล่นไปแล้วก็ต้องให้จบเรื่อง ตัวจริงเป็นคนยังไง ? จริงๆ ผมนิ่งกว่าที่เห็นอีก แต่ด้วยละครที่เล่นบทส่วนมากก็จะทำให้เราสนุกสนาน ขี้เล่น บทก็ไม่ได้นิ่งมาก คนก็เลยคิดว่าผมเป็นคนแบบนั้น จริงๆ ก็ไม่นะ ผมก็นิ่งๆ อย่างที่บอก แต่ว่าพอเราเข้ามาทำงานมากขึ้น ก็ยอมรับว่าผมก็เริ่มเปลี่ยนเหมือนกัน เริ่มพูดมากขึ้น เล่นมากขึ้น แต่ผมเป็นคนซีเรียส มีโลกส่วนตัว แล้วอย่างนี้ปรับตัวกับข่าวยังไง เพราะพอขึ้นมาเป็นพระเอกแถวหน้า มันก็ต้องมีคนเข้าหาเยอะ ? เหมือนกับว่าผมโตมาคนเดียว การที่จะมีอะไรเข้ามาผมก็ไม่ค่อยจะซีเรียสกับเรื่องเหล่านั้น ผมถือว่าผมอยู่กับตัวเองมากกว่า ถามว่าอึดอัดไหม ผมไม่อึดอัดนะ ผมก็ยังมีความเป็นส่วนตัวของผมอยู่ มีการวางแผนกับงานในวงการไว้ยังไงคะ ? ผมไม่ได้วางแผนอะไรแน่นอน เพราะอยากทำอะไรผมก็ทำมากกว่า เพราะว่าชีวิตผมผมทำมาหมดแล้ว ทำมัณฑนาก ตกแต่งภายในก็ทำแล้ว จัดสวนก็ทำแล้ว เป็นโฆษณาก็ทำมาแล้ว ส่วนกับวงการนี้ผมว่าผมมาไกลกว่าที่ตัวเองคิดไว้ อย่างทางบ้านผมทางตระกูลผมไม่มีใครมีความสามารถด้านนี้เลย หรือว่าด้านการแสดงก็ไม่มี สมาร์ท มีมุมที่สนุกกับเพื่อนๆ บ้างไหม ? มีครับ แต่กับเพื่อนนักแสดงด้วยกัน ถ้าถามผมจะแกล้งตลอด แต่กับคนนอกที่ผมไม่รู้จัก หรือว่าไม่เคยคุยกันผมก็นิ่งๆ แต่กับคนที่เราเคยคุยกันแล้ว ผมก็คุยนะแต่ถ้าใหม่ๆ ผมก็ไม่ค่อยคุย แต่ผมมีเพื่อนหลายกลุ่มนะ นอกจากเพื่อนนักแสดง เวลาจีบหญิงจีบยังไง ? เรื่องจีบหญิง คงยากเหมือนกันครับ ( หัวเราะ ) แต่ส่วนมากก็จะมีเพื่อนแนะนำมากกว่าครับ เพราะผมเองไม่ค่อยจะได้จีบใครก่อนสักเท่าไร อย่างสมาร์ทเคยอกหักหรือเปล่า ? เคยครับ เคยร้องไห้อยู่เป็นเดือน ตามง้อเขาด้วย แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณผมอายุ 24 ได้ครับ คือด้วยการที่ว่าบ้านผมกับเขารู้จักกัน ก็คบหาสมาคมกันมา แต่ด้วยความที่ว่าผมก็เป็นคนไม่ยอม เขาก็ไม่ยอม ไม่ค่อยง้อกัน พอทะเลาะกันนิดหนึ่งต่างคนต่างไม่ง้อกัน มันก็กลายเป็นปัญหาไป สุดท้ายผมก็เป็นคนเลิกเอง เพราะด้วยความที่บ้านเราก็ไม่ค่อยจะโอเคกับใคร แต่ว่าชอบคนนี้แม่ก็บอกให้ผมง้อ แต่จริงๆ ผมเป็นลูกชายคนเดียวก็ห่วง แต่กับคนนี้แม่ให้เงินเลยนะ บอกให้ไปซื้อดอกไม้ไปง้อ เราก็เลยแบบเป็นคนแรกที่แม่ชอบ จริงๆ ก็คบกันไม่นาน แต่ว่าเราเข้ากันได้มาก จริงๆ ผมเองก็ไม่อยากจะบอกเลิกนะ แต่ด้วยความที่ว่ากลัวเสียฟอร์ม จากที่ไม่ติดต่อกันมาสักอาทิตย์หนึ่ง มันก็เลื่อนมาเป็นเดือนจากเดือนมันก็ห่างออกไปอีก สุดท้ายก็ขาดการติดต่อกัน จากตรงนั้นมุมมองความรักเปลี่ยนไหม ? ก็เปลี่ยนนะ คือผมว่ามันเป็นการมองย้อนกลับไปว่า จริงๆ เราควรทำให้ได้ดีที่สุดเท่าที่เราทำ ต่อให้ต้องเลิกกันมันก็ยังมีช่วงเวลาที่ดีๆ เราได้ทำอะไรให้เขาเอาไปจำได้ ก็เคยมีความสุข ถ้าจะมีความรักอีกครั้ง คิดว่าจะยากไหม ? ไม่อยากครับ แต่มันยากตรงที่จะหาคนมาอยู่กับเรา เพราะว่าตอนนี้เราไม่ใช่เด็กแล้ว เราก็ต้องหาคนเข้าที่กับบ้านพร้อมที่จะอยู่กับเรา เข้ากับที่บ้านได้ผมก็โอเคแล้วนะ เป็นคนให้ความสำคัญกับความรักมากน้อยแค่ไหน ? ผมให้ความสำคัญกับความเข้าใจมากกว่า ผมมองว่ารักอย่างเดียวไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ด้วยความเข้าใจกัน มันจะอยู่ได้นานกว่า ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก