นุ่น - วรนุช วงษ์สวรรค์ นางเอกตัวจริง

เป็นนางเอกแม่เหล็กวิก 7 สี ที่หน้าตาไม่ได้สวยเด่นหรือดังตู้มต้ามมาแบบหวือหวา แต่ นุ่น - วรนุช วงษ์สวรรค์ ใช้ความสามารถพิสูจน์ตัวเอง จนขึ้นเป็นนางเอกยอดนิยมอีกคนของวงการ ที่ยังคงรักษามาตรฐานการทำงานได้ยาวนานจนถึงวันนี้ 11 ปี นอกจากนี้ นุ่น ยังเป็นนางเอกที่มีความเสมอต้นเสมอปลายและวางตัวดี ในเรื่องการทำงานและการให้ความร่วมมือกับพวกพี่ๆ สื่อมวลชน แม้บางทีต้องเจอคำถามแบบจู่โจม ไม่ให้เกียรติ หรือล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว นุ่น ก็ไม่เคยแสดงอารมณ์ วันนี้นี้มีโอกาสได้คุยกับ นุ่น อย่างเต็มที่เต็มอิ่มกันอีกครั้ง กับทุกเรื่องราวในหลายมุมมองของความเป็น วรนุช วงษ์สวรรค์ ความรัก ณ ตอนนี้ ? ก็ต้องบอกว่ามุมมองจะแตกต่างจากเมื่อก่อน เดี๋ยวนี้เรื่องความรักนุ่นมองว่าเราทำปัจจุบันให้ดี ทำในแต่ละวันที่จะมีแค่วันนี้พรุ่งนี้ให้ดี นุ่นเชื่อว่าวันต่อไปคงดี ไม่ต้องไปคิดล่วงหน้า ไม่ต้องไปคิดอะไร เพราะแต่ละคนมีโอกาสจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ตลอดเวลา ตัวนุ่นเองยังไม่รู้เลยว่าอีก 2 ปีจะเป็นยังไง ทุกคนก็คงเหมือนกันคงไม่สามารถไปลิมิตได้จะเป็นยังไง แต่ทำทุกวันให้มีความสุข ให้เป็นไปได้ด้วยดีจะดีกว่า นุ่นว่าคนเราเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่เราต้องดูว่าสุดท้ายจุดมุ่งหมายคืออะไร ถ้าเราคิดจะทำดีกับคนหนึ่งเรามั่นคงมั่นใจกับคนหนึ่ง เราไม่ได้ทำเพื่อใครแต่ทำเพื่อตัวเอง คนชอบคิดว่าเราเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนนั้นคนนี้ นุ่นว่าไม่ใช่ แต่ถ้าเราเปลี่ยนเพื่อตัวเองคนที่มีความสุขคือตัวเรา หมายถึงถ้าเขามีความสุขเราก็มีความสุขและเราต้องเข้าใจระบบของธรรมชาติ ทำความเข้าใจว่าทุกคนเป็นยังไง ผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกันยังไง จะให้เขามาเหมือนเราไม่ได้ จะให้เราไปเหมือนเขาก็ไม่ได้เหมือนกัน ไลฟ์สไตล์นุ่นเป็นคนไม่เที่ยวแต่ถามมีบ้างมั้ยที่เราจะไปเอ็นจอยกับเพื่อนๆ อย่างเพื่อนเลี้ยงวันเกิดก็มีบ้าง แต่เราไม่ได้ไปเมาเละเทะ ความรักคือการปรับตัว ? ทุกอย่างเหมือนเป็นการเรียนรู้และซึมซับกันและกันในทุกเรื่อง วันนี้เจอปัญหาอะไรก็มาเล่าสู่กันฟัง นี่คือกำลังใจที่จะมีให้กัน เขามีให้เราและเรามีให้เขา วันที่เรารู้สึกแย่รู้สึกไม่ดีเรามีคนคอยให้กำลังใจ แต่คนเราถ้าทำอะไรต้องมีความรู้สึกพอดี และรู้จักที่จะรักตัวเองจริงๆ ทุกคู่ไม่มีปัญหาแน่ ถ้าเป็นคนอื่นจะคิดว่าเรารักตัวเองไม่สนหรอกเราดูแลตัวเองดีกว่า แต่นุ่นไม่ได้มีความคิดแบบนั้น ไม่ได้เปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่น แต่เราเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ตัวเราเองมีความสุข นั่นคือการรักตัวเองของเรา ซึ่งอาจจะไม่เหมือนคนอื่น อาจเป็นเพราะเราเรียนรู้หลักธรรมะมากขึ้น จากที่เราไปทำบุญเยอะๆ ฟังพระเทศน์ซึ่งเอามาใช้ในชีวิตได้ แต่ไม่ได้หมายความว่านุ่นจะไม่มีกิเลสเลยนะ ยังเป็นคนปกติทั่วไป ไปช้อปปิ้งตามประสาผู้หญิงไม่ได้คิดจะหลุดแล้วหลุดเลย ทำไม ต๊อด - ปิติ ภิรมย์ภักดี ถึงเป็นคนที่นุ่นเลือกที่จะเรียนรู้ ? เพราะเวลาที่นุ่นศึกษาใครจะศึกษาทีละคน อันนี้แล้วแต่คนมองนะ ถ้าเรารู้สึกเรียนรู้ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ก็เป็นเพื่อนกันได้ ตอบยากเหมือนกันก็มีการเรียนรู้กันเยอะพอสมควร ตอนแรกๆ ก็มีเรื่องเข้าใจและไม่เข้าใจก็เยอะนะคะ เพราะเราเริ่มเรียนรู้กันช่วงที่นุ่นมีข่าวตอนั้นนุ่นก็แย่เหมือนกัน เขาเองไม่เคยมีข่าว แต่ด้วยเวลาต่างๆ ก็ผ่านไปได้ บางคนจะบอกทำไมต้องบอกไม่ใช่แฟน คือสเต็ปแรกเป็นการเรียนรู้กัน ไม่ใช่อยู่ๆ มารู้จักปุ๊บแล้วเป็นแฟนกันเลย ก็ต้องมีขั้นตอนเป็นเรื่องปกติ คำว่าแฟนของคนในวงการบันเทิงมักจะคิดว่า นี่แหละคือคนที่เราจะแต่งงานด้วย คือบรรทัดฐานของคนที่เข้าใจกัน แต่นุ่นจะบอกว่าอย่าไปมองอย่างนั้นเลย วันไหนที่เราพร้อมก็คงพร้อมวันไหนไม่พร้อมคงไม่ใช่ อย่างตอนนี้ถ้าถามถึงเรื่องแต่งงานนุ่นยังไม่คิด นุ่นทุ่มให้เรื่องงานมากกว่า คือเราก็เริ่มโตแล้วไม่รู้จะอยู่ยาวมากแค่ไหน แต่ทุกวันนี้เราก็แฮปปี้กับงานที่เราได้ทำ มีการขยายงานอื่นที่อยากทำนอกจากงานละคร ด้วยเหตุผลหนึ่งเราเก็บเงินมาก้อนหนึ่งแล้วพอสมควร เงินสะสมที่เราได้จากวงการบันเทิงนี่แหละ ก็มาเปิดโรงเรียนได้ 5 ปีแล้ว ตอนนี้ก็ทำโครงการทูตน้อยวัฒนธรรมไทยปีที่ 2 และปลายปีจะหุ้นกับพี่สาว 2 คนทำคอนโดฯ ขาย ที่ซอยลาดพร้าว 15 เป็นคอนโดเล็กๆ บนเนื้อที่ครึ่งไร่ เรามีแค่ไหนทำแค่นั้น แต่ข่าวเอาไปลงว่าลงทุนเป็นร้อยล้านไม่ใช่ เป็นคอนโดฯ เล็กๆ มีทั้งหมด 8 ชั้น เนื้อที่ห้องมีตั้งแต่ 40 - 90 ตารางเมตร ปลายปีนี้จะเริ่มสร้าง ตอนนี้กำลังแก้ไขแบบเล็กน้อย คนชอบแซวว่ารวยเงียบเป็นนางเอกเศรษฐีนีตั้งแต่อายุไม่ถึง 30 ? ไม่รู้ด้วยจังหวะพอดี และเราอย่ารอที่จะทำอะไร ทำไปเถอะไม่ว่าจะเรียนถูกเรียนผิดเราก็ไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า ก็ต้องรอดูต่อไป แต่จะทำอะไรเราใช้เวลาศึกษา ถ้ามีโอกาสอยากทำรีสอร์ตริมทะเลเพราะชอบทะเล แต่ยังไม่มีเงินไงเพราะที่ดินริมทะเลค่อนข้างแพง และต้องรอให้โปรเจ็กต์คอนโดฯ นี้เรียบร้อยก่อนค่อยคิดทำอย่างอื่น เมื่อไหร่จะแขวนนวมนางเอก ? อ๊ะไม่ได้ ( เสียงสูงเชียว ) คือตอบไม่ได้ แต่วันนี้เป็นอาชีพที่เรารักและสร้างให้เราเป็นแบบนี้ เรารักและรู้สึกศรัทธาในสิ่งที่เราได้รับ จากทางช่อง ผู้จัดฯ นักข่าว และเพื่อนร่วมงานทุกคนทำให้เราเป็นทุกวันนี้ มันคืออาชีพหลัก มันบอกไม่ได้ในอนาคตข้างหน้าว่าเราจะเล่นละครเยอะเล่นละครน้อยแค่ไหน แต่คิดว่าคงมีอะไรสนุกๆ ให้ทำ แล้วคนที่ทำงานอย่างนี้ทุกวัน วันไหนไม่ได้ทำจะรู้สึกหงอยๆ เพราะเวลามากองถ่ายได้มาเจอเพื่อน ถ้าเป็นไปได้อยากอยู่ยาวๆ โดยที่นุ่นไม่ซีเรียสเรื่องบท เพราะทุกวันนี้ก็เล่นเป็นแม่มีลูกเด็กๆ แล้ว คือดูความเหมาะสมดีกว่า แต่นุ่นว่าละครเป็นศาสตร์ที่การเรียนรู้ไม่จบ และการที่เราได้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เป็นการพัฒนางานและฝีมือเราอย่างหนึ่ง นุ่นไม่ได้มองว่าเราเป็นแค่นี้ ไม่ได้มองว่าต้องเล่นบทเดียวซ้ำๆ นุ่นเองตัวร้ายก็เล่นมาแล้ว แล้วแต่ผู้ใหญ่ให้โอกาสด้วย แต่ก็คุยเล่นๆ กับเพื่อนถ้าอากาศ 50 องศาเมื่อไหร่เลิกเล่นละครเพราะร้อนมาก วันก่อนไปถ่ายละคร 44 องศาร้อนมาก แต่อันนี้พูดเล่นๆ นะ เพราะอากาศร้อนจริงๆ กระแสย้ายบ้านใหม่ ? อย่างแรกเราต้องมองความสามารถของเราว่า ทางบ้านไหนจะยอมรับในความสามารถที่เรามี และเหมาะกับคาแรกเตอร์ นุ่นมีสัญญากับช่อง 7 หลายปี ซึ่งเราทำอยู่ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้วเป็นปกติ จริงๆแล้วการร่วมงานหลายค่ายทำให้เราเรียนรู้การทำงานที่แตกต่างกันออกไป แต่นุ่นอยู่ช่อง 7 ก็มีบริษัท ดาราวิดีโอ, ดีด้า, โพลีพลัส, บ้านละคอน, กันตนา, พี่ต้อ - มารุต สาโรวาท ซึ่งแต่ละบริษัทการทำงานก็ไม่เหมือนกัน การที่เราได้ร่วมงานกับทีมใหม่ๆ แค่นี้ก็ทำให้เราได้เรียนรู้ได้เยอะ เป็นนางเอกที่รู้จักวางตัว และมีวิธีการตอบคำถามที่ไม่ทำอีกฝ่ายต้องเสียความรู้สึก ? ต้องบอกว่านุ่นต้องทำความเข้าใจพวกพี่ๆ นักข่าว เพราะมันคืออาชีพที่เขาต้องนำเสนอ ที่เขาต้องหาข่าวมาลงเป็นปกติ ซึ่งการแข่งขันตอนนี้ก็เยอะไปหมด ไม่ว่าเรื่องของธุรกิจ ดารา หรือสิ่งพิมพ์ ทุกอย่างมีการขึ้นลงแข่งขันตลอด ในเมื่อเราทำความเข้าใจแล้วว่าคืออาชีพของพี่เขาและคืออาชีพของเรา เราก็ทำหน้าที่ของเรา อันไหนตอบได้ก็ตอบไม่ยากเลย อันไหนตอบไม่ได้ก็ไม่ตอบ การตอบคำถามไม่ใช่การมีอารมณ์ หรือเราต้องโมโหไปซีเรียสกับมัน แต่ตั้งสติถ้าอะไรที่เรารู้สึกไม่มั่นใจที่จะให้คำตอบไม่ได้เราก็ไม่ตอบ ดีกว่าตอบไปด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีมันจะเป็นผลเสียมากกว่าผลบวก แต่ถามว่าบางครั้งถามมาเราไม่อยากตอบมีบ้างไหมก็มี แต่เราก็ไม่ได้โกรธก็เข้าใจคือมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เราเข้าวงการมา 11 ปีแล้วนะ เราเจอนักข่าวหลายแบบมาก เมื่อก่อนไม่มีแนวแบบนี้เราได้เห็นพัฒนาของนักข่าวหลายรุ่นเหมือนกัน พี่ๆ ที่เรารู้จักมาแต่แรกก็ยังเหมือนเดิม แต่รุ่นใหม่ก็มีอีกแบบทำให้เราได้เรียนรู้ไป แรกๆ อาจจะรู้สึกทำไมต้องถามคำถามนี้ แต่เราก็ตอบไปหรือตอบไม่ได้ก็ไม่ตอบ แต่ส่วนใหญ่เราจะตอบนะตอบเท่าที่ตอบได้ อย่างพวกพี่ๆ ถามเรื่องความรักเราก็บอกตอบเหมือนเดิม เราก็เป็นแบบนี้ไม่อยากให้ใครมองว่าเราต้องคาดหวังอะไร มุมส่วนตัวที่ไม่ค่อยมีใครรู้ ? ขี้ลืมและไม่ชอบอาบน้ำด้วย โทรศัพท์มือถือลืมได้ตลอดเวลา แต่โชคดีที่ไม่หาย เพราะมีคนที่ไปด้วยตามเก็บให้ แต่บางทีเพื่อนก็แกล้งเก็บให้แต่บอกหาย ส่วนเรื่องอาบน้ำเวลาทำงานเสร็จกลับบ้านก็ล้างหน้า แต่ยังไม่อาบน้ำขอหลับก่อน แล้วจะให้ นุ้ย ( พี่สาว ), หนิง - ภาราดา พัฒนาหิรัญ หรือ เจี๊ยบ - ชมพูนุช ปิยะธรรมชัย โทร.มาปลุกให้อาบน้ำ จนเพื่อนเลิกโทร.แล้ว เพราะโทร.มาปลุกเราไม่ยอมตื่นจนเพื่อนโมโห อย่างเจี๊ยบบอกว่าไม่โทร.ปลุกแล้ว ส่วนหนิงก็บอกทำไมนุ่นเป็นอย่างนี้ หรือบางทีเขาโทร.มาปลุกก็ตื่นมารับแบบเบลอๆ พูดไม่รู้เรื่องเหมือนละเมอว่าทำไมห้องเป็นสีชมพู พอตอนเช้าก็โทร.ไปโวยเขาว่าทำไมไม่โทร.มาปลุก หรือบางทีพี่สาวโทร.มาเราก็แอ๊บทำเสียงว่า ตื่นแล้วก็นอนต่อจนพี่สาวโมโห ก็บางทีมันเหนื่อยไงขอนอนก่อน แต่ก็ไม่ได้เป็นบ่อยๆ นะ นานๆ เป็นที สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย ภาพยนตร์บันเทิง ฉบับวันที่ 9 - 15 กรกฎาคม 2551