มาริสา ผู้หญิงมีกึ๋น

มาริสา ผู้หญิงมีกึ๋น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ละครเพิ่งจะลาจอไปไม่นาน สำหรับนักแสดงสูงยาวเข่าดีคนนี้ มาริสา แอนนิต้า ถ้าจะย้อนอดีตไปเราคงจะจำกันได้ว่าเธอเข้าวงการมาตั้งแต่เด็ก กับภาพยนตร์โฆษณาและภาพยนตร์เรื่อง เสียดาย ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อให้เธอเป็นที่รู้จักมาถึงปัจจุบันนี้ แต่เมื่อ สา เติบโตขึ้นเธอหันมาเอาดีกับงานแฟชั่นโชว์ แต่ล่าสุดคืนจออีกครั้งในละครเรื่อง ทอง ๙ ซึ่งหลายคนมองว่าเธอกำลังจะมาทวงตำแหน่งนางเอกคืน และในวันนี้ สา มาเปิดใจกับเราทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอ รวมถึงความรักกับหนุ่มเซอร์ ต้าร์ บาร์-เผ่าพล เทพหัสดิน ณ อยุธยา ( ตาร์-บาร์บี้ ) ที่ทุกคนจับตามอง ทำงานในวงการมาตั้งแต่เด็กๆ ? จริงๆ ตอนแรกที่เข้ามาในวงการกะว่าเอาประสบการณ์ ไม่ได้จริงจังอะไรมากเลย อยากลองดูเล่นๆ สนุกๆ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นยาวมาก กลายเป็นอาชีพที่เรารักทิ้งไม่ได้ เคยลองทิ้งแล้วด้วยนะ คือตอนเรียนจบก็ไปสมัครงานที่ โอกีวี ในสายอาชีพที่เราเรียนจบมา ประมาณ 3 เดือนทำให้รู้ตัวว่าทำไม่ได้ เพราะต้องเข้างาน 8 โมงเช้า เลิกงานตอน 5 โมงเย็น ทำได้อยู่ 5 วันทนไม่ได้ ( หัวเราะ ) จริงๆ มันก็สนุก มันก็ได้เรียนรู้คนเหมือนกัน แต่ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ ทำแล้วก็แบบเดิมๆ อยู่ออฟฟิศ คุยกับลูกค้า รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เดิมๆ ซ้ำๆ สารู้สึกว่าเราไม่ได้มีความสุขกับงานตรงนั้นมากนัก ก็เลยตัดสินใจลาออกเพราะไม่ใช่ทางของเรา แต่มีช่วงหนึ่งที่ สา เงียบไปนะ ช่วงนั้นไปทำอะไร ? ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยค่ะ ช่วงนั้นเรียนอย่างเดียวจริงๆ ไม่รับงานละครเลย เพราะสารู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ของเรา ที่เราจะต้องทำให้สำเร็จต้องเรียนให้จบ แล้วพอจบที่เหลือก็แล้วแต่เราว่าเราจะไปทำอะไรต่อ สาก็เลยเต็มที่กับการเรียน เพราะสาไม่อยากเรียนแล้วดร็อป เพราะกลัวตัวเองจะไม่ยอมเรียน ก็เลยเอาวะเอาให้มันจบไปเลยทีเดียว 4 ปีเอง ไม่กลัวเหรอว่าหายไปนานแล้วจะกลับเข้าวงการไม่ได้ ? สาโชคดีค่ะ คือมีแฟชั่นโชว์ติดต่อมาตลอด แล้วก็พิธีกรงานอีเวนต์ต่างๆ ช่วงนั้นไปเด่นเรื่องของการเป็นนางแบบซะส่วนใหญ่ และช่วงนั้นสาอยากจะตั้งใจเรียนให้แม่ คือแม่ไม่ได้ขออะไรเลยนะ เพียงแต่สาคิดว่ามันหน้าที่ของเรา และสาเห็นจากหลายๆ คนที่เขาเรียนแล้วดร็อปแล้วไม่ได้เรียนต่อ สารู้สึกเสียดายโอกาส แล้วเราก็มีกำลังทรัพย์ที่จะเรียน ก็เลยตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดจนจบ กับงานเดินแบบล่ะ ดูสาจะออกมาแนวเซ็กซี่ๆ มากกว่าเรียบร้อยนะ ? อย่างที่บอกสาเป็นคนมีคาแรกเตอร์หลายแบบ จากงานละครคนก็จะเห็นสาเรียบร้อย แต่ว่าสาอยากทำอะไรที่มันหลากหลายแตกต่าง อยากมีหลายๆ แบบ อยากมีหลาย ๆ ลุคส์ และสาก็เชื่อว่าตัวเองก็โตแล้ว เรียนจบแล้ว และมันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรที่เราจะถ่ายแบบ ที่ออกมาให้เห็นว่าเราโตแล้วเป็นสาวแล้ว เพราะว่าคนจะติดภาพว่าเรายังเด็ก บางคนเขาคิดว่าสายังไม่เรียนมหาวิทยาลัยเลยด้วยซ้ำ คือสามีเหตุผลของสานะคือสาอยากเปลี่ยน อยากให้ภาพนั้นเปลี่ยนว่าเราโตแล้วทำอะไรได้หลากหลาย หลายแบบ แต่ทุกอย่างมีลิมิต ทุกๆ ครั้งที่สาเลือกถ่ายภาพเซ็กซี่มันมีข้อจำกัดในตัวมันเองอยู่แล้ว มันขึ้นอยู่กับคอนเซปต์ว่าเป็นยังไง ช่างภาพเป็นใคร ดูองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ทำให้ตอนนี้ภาพสากลายเป็นสาวเซ็กซี่ไปแล้ว ? ก็ถือว่าประสบความสำเร็จค่ะ กับการเปลี่ยนลุคส์ของตัวเองกับงานตรงนั้นมากกว่า ตัวตนจริงๆ ของสาเซ็กซี่ไหม ? ไม่นะ สาก็ธรรมดาเป็นผู้หญิงธรรมดา อยู่บ้านไม่ได้แต่งตัวเซ็กซี่อะไร จะเซ็กซี่เฉพาะถ่ายภาพหรือว่าออกงานบ้างเท่านั้นเอง จริงๆ ที่เห็นเซ็กซี่ก็เพราะว่ามีคนจัดให้ มีคนจับเราแต่งตัว เวลาออกงานก็มีบ้างให้พี่ๆ ช่างภาพมีอะไรถ่าย สนุกมีอะไรที่ได้พูดถึงกันบ้าง สาว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิงทุกคน เวลาออกงานก็อยากจะแต่งตัวให้สวยที่สุดเท่าที่จะทำได้ สาว่าส่วนไหนของสาที่เซ็กซี่ที่สุด ? อืม...ตอบยากนะ มันอยู่ที่ว่าวันไหนเราอยากจะเซ็กซี่แบบไหน เราอยากจะเซ็กซี่ทางสายตาหรือว่าเส้นผม สาแต่ละครั้งที่ออกมาก็จะดึงเด่นแต่ละส่วนออกมา อย่างไปงานแต่ละครั้งก็จะไม่ซ้ำกันเลย สาเป็นคนคิดตลอดว่าไปงานวันนี้จะต้องเป็นแบบนี้ แล้วงานต่อไปจะเป็นยังไง จะเป็นคนที่เตรียมตัวล่วงหน้านาน แต่ถ้าโทรฯ มาเชิญวันนี้ให้ไปงานพรุ่งนี้อย่างนี้สาไม่ไป เพราะว่าสายังไม่ได้คิดเลยว่าจะใส่อะไรดี จะทำผมอะไรแต่งหน้ายังไง คือสาอยากให้มันเป็นอะไรที่แบบไม่น่าเบื่อ คือสาว่าความเซ็กซี่แต่ละอย่าง ที่สาเลือกมันแล้วแต่ว่าสาจะเลือกจุดไหนมานำเสนอมากกว่า อย่างนี้ถือว่าเป็นคนแต่งตัวเก่งหรือเปล่า ? ไม่เก่งนะ แต่สาชอบแต่งตัวมากกว่า สาไม่ใช่คนแต่งตัวเปรี้ยว แต่งตัวเก๋ แต่สาเป็นคนที่รู้จักแต่งตัวเอง และพยายามดึงจุดเด่นตัวเองออกมาว่า วันนี้เราควรจะเด่นตรงไหนดี หรือว่างานนี้คนส่วนใหญ่เขาจะแต่งกันยังไง เราก็ควรจะหาอะไรที่แตกต่างไปเท่านั้นเอง คือสาเป็นคนมั่นใจในตัวเองเหมือนกันถ้าได้เตรียมตัวนะ แต่ถ้าไม่ได้เตรียมตัว ก็ยอมรับว่ามีไม่มั่นใจกับเขาเหมือนกัน แล้วในชีวิตจริงเป็นคนมั่นใจในตัวเองมากน้อยแค่ไหน ? มั่นใจค่ะ ในการเลือกทำอะไร แต่ถ้าตัดสินใจทำแล้วเพราะอยากทำ แล้วกล้าได้กล้าเสีย กล้าลองกล้าทำ และสาไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองเลย ถ้าอะไรจะพลาดก็แล้วแต่ สาคิดว่ามันเป็นบทเรียนอย่างหนึ่งที่เราได้เรียนรู้ ว่าคราวหน้าเราจะได้ไม่ต้องทำอีก ดูเป็นคนซีเรียสกับชีวิตเหมือนกันนะ ? ค่ะ ซีเรียส คือสาเป็นคนที่ต้องวางแปลนแต่ละวัน ว่าวันนี้สาจะทำอะไรบ้าง ถ้ามีงานพรุ่งนี้วันนี้คิดแล้วว่าจะต้องอะไรยังไง ทุกอย่างจะต้องเป็นระเบียบขั้นตอน และเสื้อผ้าก็จะเตรียมไว้เรียบร้อยว่าพรุ่งนี้เราจะใส่อะไร ใส่ชุดนี้ เครื่องประดับอันนี้ ทุกอย่างจะวางอย่างเรียบร้อยไว้หน้ากระจก และของทุกอย่างที่จะใช้พรุ่งนี้ วันนี้จะคิดและเตรียมไว้หมด คือสาไม่อยากให้อะไรพลาด แต่พลาดก็มีเหมือนกันเวลาที่เราแบบงานเยอะมากๆ ยุ่งๆ แต่น้อยค่ะที่พลาด มีแปลนกับชีวิตของตัวเองบ้างไหม ? อืม..ก็แปลกนะ สายังไม่ได้แปลน ตอนนี้อยากเล่นละครเยอะๆ เพราะว่าชอบสนุก อยากกลับมาเล่นอีกขออันนี้ดีกว่า ส่วนเรื่องอนาคตยังไม่แปลนไม่ได้คิดจริงๆ อย่างที่บอกว่าสาตัดสินใจทำอะไรแต่ละอย่าง สาทำเพราะชอบเพราะรักเพราะอยากทำ สาเป็นคนที่ทำงานเพราะรักงาน ไม่ได้ทำเพราะเงิน ไม่ได้รักชื่อเสียง มาถึงเรื่องความรักบ้าง ก่อนที่จะเจอ ต้าร์ มีคนมาจีบสาเยอะไหม ? ก็เรื่อยๆ ค่ะ เป็นคนไม่ค่อยสนใจและไม่ให้ความหวังใคร สาว่าการให้ความหวังสักคนมันดูเจ็บปวดนะ ถ้าเรารู้สึกว่าเขาไม่ใช่ เราไม่ชอบนะ เราก็จะบอกเขาเลยว่าเราเป็นเพื่อนกันได้ สาว่าคนที่เข้ามาจีบดูก่อนอยู่แล้วค่ะ กับต้าร์ทำไมถึงคลิกกันได้ล่ะ ? มันเริ่มจากความเป็นเพื่อน มันก็เลยไม่รู้สึกว่าเหมือนโดนผูกมัด หรือว่าอะไรรัดคออยู่ตลอดเวลาไปไหนไม่ได้ แต่เราคบกันแบบไปไหนก็ได้ คือมันสนุกและมันเป็นอะไรที่ลงตัวมากกว่า ว่างก็เจอกัน ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรโทรฯ คุยกันเอา แล้วเวลาเที่ยวต่างจังหวัดไปกันเป็นแก๊ง สากับต้าร์มีอะไรคล้ายกันบ้างไหม ? มีค่ะ เขาคล้ายๆ สา ชอบก็บอกว่าชอบ ถ้าถูกใจอะไรทำเลย เหมือนกันคล้ายๆ แมนๆ แฟร์ๆ เราเริ่มต้นมาแบบเพื่อน และเราเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันที่ม.กรุงเทพ คณะเดียวกัน เอกเดียวกัน อาจารย์เดียวกัน ก็เลยเริ่มจากการนินทาอาจารย์ จากตรงนั้นมันก็มาเรื่อยๆ และที่บ้านก็รับทราบ ที่บ้านไม่มีปัญหา อยากคบใครก็คบไป มีความสุขก็คบไปแม่ไม่ว่าอะไร อย่างต้าร์เนี่ยถือว่าเป็นสเปกหรือเปล่า ? ไม่ถึงกับสเปกนะ แต่ต้าร์เขาเป็นคนง่ายๆ น่ารัก คือสาเองไม่ค่อยมีกรอบนะเรื่องแบบนี้ ดูแค่ว่าเข้ากันได้ไหม คุยกันรู้เรื่องไหม ใช่หรือเปล่า เพราะบางทีดูจากรูปลักษณ์ภายนอก ผู้ชายคนนี้ดูดีจังเลย แต่พอผ่านไป 3 เดือน เอ๊า..เริ่มไม่ใช่ สาว่าทุกอย่างต้องใช้เวลานะ สาเป็นคนรักคนง่ายหรือเปล่า ? ไม่ค่ะ สาเป็นคนรักคนยาก ชอบคนยาก สนิทกับคนยาก ดูได้เลยว่าสาเป็นคนมีเพื่อนน้อย เป็นคนตรงไปตรงมา ทำให้บางคนเขาไม่ชอบนิสัย เพราะเป็นคนรักตัวเอง กับต้าร์ตอนนี้ถามว่าเรียกต้าร์ว่าแฟนได้หรือยัง ( เงียบคิดไปแป๊บหนึ่งก่อนตอบว่า ) ไม่ถึงขนาดนั้นนะ เรียกว่าเป็นคู่ซี้คู่หูที่ขาดไม่ได้ ตอนนี้เรายังไม่ได้หมั้นหมาย ไม่ได้แต่งงาน ยังไม่ได้ผูกพันถึงขนาดนั้น เป็นเพื่อนคู่หูมากกว่า ถ้าขาดไปเราคงคิดถึง ตอนนี้ผ่านมา 4 ปีก็โอเค. ขอไปเรื่อยๆ อย่างนี้ก่อนดีกว่า เพราะอนาคตเราไม่รู้อะไรแน่นอน อาจจะมีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดขึ้นมาก็ได้นะ ( หัวเราะ ) สาว่าดูไปเรื่อยๆ ดีกว่าไม่รีบ ตอนนี้วัยสาว่ามันเป็นวัยทำงาน วัยบ้างาน อยู่กับเพื่อนไปเรื่อยๆ ดีกว่า สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ มาริสา ผู้หญิงมีกึ๋น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook