มาริโอ้ เมาเร่อ หนุ่มหน้าใส หัวใจเกินร้อย

มาริโอ้ เมาเร่อ จากเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยู่ๆ ได้รับเลือกให้เข้ามาแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง รักแห่งสยาม ที่สร้างความฮือฮาให้สังคมเมืองไทยเราเป็นอย่างมาก และส่งผลให้ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างมาก และเป็นพ่วงจากหนังหนึ่งในนักแสดงเรื่องนั้นที่ชื่อ มาริโอ้ กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นคนใหม่ในชั่วข้ามคืน และแน่นอนวันนี้ในเมื่อเขาเนื้อหอมขนาดนี้ เราก็ต้องสนองเสียงเรียกร้องกันอย่างเต็มใจ กับการพูดคุยหนุ่มหน้าใสที่ชื่อ มาริโอ้ คิดว่าตัวเองเป็นหนุ่มเนื้อหอมมั้ย ? ไม่หรอกครับ ผมรู้ตัวเองดี ผมเป็นเด็กขี้เหร่ ใส่แว่น หัวโล้น แล้วแถมออกแบบเด็กดื้อเงียบๆ ไม่เนื้อหอมหรอกครับ ที่บ้านเลี้ยงโอ้มายังไง ? ก็เลี้ยงแบบให้เราช่วยเหลือตัวเองครับ ให้ออกไปสู้ชีวิตด้วยตัวเราเอง ก็ประมาณว่าไปถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ซึ่งก็มีหลายตัวมากครับ แต่เงินที่หามาได้ก็ให้แม่ครับ แล้วผมค่อยขอเอาทีหลัง แต่ตอนนี้โอ้ขอเงินแม่น้อยลงมากครับ เชื่อตัวเองมั้ยว่าจากหนังเรื่อง "รักแห่งสยาม" แค่เรื่องเดียวและเป็นเรื่องแรก ทำให้ตัวเองถึงประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้ ? คงเป็นเพราะหลายๆ อย่างครับ หนังเรื่องนี้ยังได้เป็นหนังยอดเยี่ยมแห่งปี และยังมี "พี่นก-สินจัย เปล่งพานิช" ร่วมแสดง ซึ่งพี่เขาไม่ได้เล่นหนังมานาน คือร่วมกันหลายๆ อย่างผู้กำกับ "พี่มะเดี่ยว" เขาเก่งมากครับ รวมทั้งนักแสดงทุกๆ คนที่ทำให้หนังเรื่องประสบความสำเร็จ และผมก็ไม่เคยคิดเลยนะครับว่า จะมีคนทำเวบไซต์ให้เราหลายๆ เวบ บอกตรงๆ โอ้ดีใจมากนะครับ ที่มีคนรักเราขนาดนี้ แล้วเขาก็คอยให้กำลังใจ บางครั้งก็เอาขนมมาให้กิน เอาของเล่นมาให้ แล้วทำไมกล้ารับเล่นเรื่องนั้นล่ะ เพราะว่าบทก็ออกแนวแบบล่อแหลมกับภาพลักษณ์ ? คือมันเป็นหนังสือแรกครับ แล้วผมก็เป็นแค่เด็กม.6 ธรรมดา ที่จะได้เล่นหนังกับพี่นก คือผมไม่ได้ห่วงเรื่องบทเลยนะตอนนั้น ผมคิดแต่ว่าเราจะมาเป็นนักแสดง เราก็ต้องเล่นได้หลายบทบาท แต่งานด้านการแสดงผมยังต้องเรียนรู้เพิ่มอีกเยอะเลยครับ จำความรู้สึกครั้งแรกที่เขาฉากได้มั้ย ตอนนั้นมันเป็นยังไง ? ตื่นเต้นมากครับ เพราะมันเป็นครั้งแรกของเรา กลัวไปหมด กลัวว่าจะทำให้คนอื่นๆ เขาเสียเวลา จากวันนั้นมาถึงวันนี้ ชีวิตเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน ? ก็มากครับ ไปไหนต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น ต้องรู้จักการวางตัวมากขึ้นด้วย ผมรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นด้วยครับ อย่างเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันเขาก็เรียนอยากเดียว แต่ผมก็ต้องออกมาทำงานตรงนี้ แต่ก็ดีใจนะครับที่เราได้ออกมาทำงานช่วยพ่อแม่ แต่ถามว่าอึดอัดมั้ยเวลาไปไหนแล้วมีพี่ๆ น้องๆ มากรี๊ดๆ แรกๆ ก็ยอมรับครับว่าอึดอัดมาก เพราะว่าเราก็เป็นแค่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตธรรมดา อยากจะไปเล่นสเก๊ต หรือว่าอยากจะไปทำอะไรกับเพื่อน พอเจอคนก็มีคนมาถ่ายรูปเราก็ได้แต่ยิ้มครับ แต่ว่าตอนนี้เริ่มชินแล้วครับ และก็เข้าใจมากขึ้น เวลาเจอแฟนคลับเยอะๆ โอ้ทำไง ? แฟนคลับผมส่วนมากจะเป็นชาวสีม่วง แต่พวกเขาน่ารักทุกคนนะครับ ไม่ได้มาทำให้ให้เราเสียหาย แล้วมีข่าวว่าโอ้มีเพื่อนสนิทแล้วจริงหรือเปล่า ? ก็จริงครับ แต่เรารู้ว่าเรายังเด็ก แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่โอ้จะเรียกว่าแฟน แต่เราคบกันมานาน แต่โอ้ไม่ใช่คนที่ปิดบัง ไม่อยากจะมาแบบปิดอะไร เพราะถ้ามารู้กันที่หลังมันก็ไม่ดี และอีกอย่างโอ้ว่าเรากันก็ไม่มีอะไรเสียหายครับ เพราะผมก็รู้จักกันมานานก่อนที่จะเข้าวงการ ตั้งแต่เรียนประถม แล้วกับงานในวงการละคร ตอนนี้มีค่ายละครติดต่อให้มาเล่นละครแล้วยัง ? คือผมอยากจะเล่นหนังมากกว่าครับ กลัวที่จะเหลิงมั้ย เพราะส่วนมากเมื่อมีชื่อเสียง มีคนมาเอาใจเยอะๆ คนส่วนมากจะเหลิงนะ ? ไม่เคยเลยครับ เพราะโอ้บอกตัวเองตลอดเวลาว่าเราก็แค่เด็กแว่นคนหนึ่ง ชีวิตเราก็เดินดินเหมือนคนอื่น เราไม่ได้อยู่สูงกว่าใคร เราก็คนธรรมดาเหมือนกัน ไม่ได้วิเศษกว่าใคร เพียงแต่แค่เรามีโอกาสได้เข้ามาทำงานในวงการเท่านั้นเอง แล้วที่เขาบอกว่าโอ้ดังแล้วหยิ่งล่ะ ? ก็ได้ยินมาเหมือนกันครับว่าพอเราดังแล้วหยิ่ง เล่นตัว แต่ก็รับได้นะกับข่าว เพราะว่าผมเองไม่ได้หยิ่งและเล่นตัว คือโอ้อยากจะบอกว่าโอ้รักพ่อรักแม่มากๆ รักครอบครัว โอ้เองก็มีฝันของตัวเองนะ คืออยากเล่นสเก๊ตมากๆ แต่โอ้ก็ทิ้งฝันของตัวเองมาทำงานตรงนี้เพื่อฝัน มาช่วยพ่อแม่ แล้วผมจะหยิ่งไปทำไป เรายังต้องทำงานในวงการนี้อีกยาวครับ ที่บ้านลำบากเหรอคะ ? ก็ไม่ลำบากนะ เพราะว่าพ่อเขาก็มีธุรกิจของเขา แต่เราก็ต้องช่วยกันดูแลครอบครัว เรื่องการเรียนละ ตอนนี้แปลนไว้ยังไง ? เรื่องเรียนโอ้ไปลงเรียนไว้ที่ม.รามคำแหง เพราะว่าจะได้มีเวลามาทำงานด้วย แต่ผมโอ้ก็ตั้งใจเรียนเต็มที่นะ เพราะว่ามันจะเป็นวิชาที่ติดตัวเราไปตลอด ก็ตั้งใจครับ มีเวลาก็ไปเรียน ไปสอบ ตอนนี้ก็อยากลองดูว่าทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเป็นยังไง ก็โอเค.ครับไหวเลยจะสู้ต่อไปตรงนี้ ก็พยายามที่จะให้จบภายใน 4 ปีครึ่ง 5 ปี ขอถามถึงเรื่องค่าตัวหน่อย เขาบอกว่าคนดังค่าตัวมักจะสูงขึ้นจริงมั้ย ? อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ผู้จัดการส่วนตัวครับ เพราะโอ้ก็พยายามปรึกษาเขาว่าไม่ให้สูงเกินไป เพราะว่าโอ้ก็แค่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย