ตั๊ก น้อยใจสื่อไม่เห็นค่า

จะมีนักแสดงสักกี่คนที่ชัดเจนในทุกคำถามเวลาให้สัมภาษณ์อย่าง ตั๊ก-บงกช คงมาลัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ชีวิตส่วนตัว รวมไปถึงความรัก ตั๊ก ให้ความร่วมมือตอบอย่างตรงไปตรงมาไม่มีการสร้างภาพ คบก็บอกว่าคบ เลิกก็บอกว่าเลิก แต่การพูดตรงๆ โดยเฉพาะเรื่องความรัก บางทีก็เหมือนเป็นดาบสองคม มีทั้งคนที่ชื่นชมและคนที่นึกตำหนิหรือรู้สึกหมั่นไส้ ซึ่งทำให้ ตั๊ก รู้สึกน้อยใจ ถึงกับออกปากจากนี้ไปจะไม่ขอพูดเรื่องความรักอีกแล้ว ถามถึงความสัมพันธ์กับนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ ที่กำลังคบหาดูใจกับตั๊กอยู่ตอนนี้ เป็นยังไงบ้าง ? ตั๊กไม่อยากพูดเรื่องแฟนแล้ว เพราะพูดมากก็เรื่องเยอะ ตั๊กขอได้หรือเปล่าล่ะ คือเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาดีมาก แต่ที่ตั๊กไม่อยากพูด ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงด้วย และตลอดเวลาที่คบกับแฟนมาเราเป็นคนพูดคนเดียว ก็เลยไม่อยากพูดเรื่องความรักของตัวเองแล้ว ตั๊กเบื่อที่จะพูด เพราะเราเป็นคนพูดตรงเลยทำให้เป็นผลลบ ? ไม่รู้สิ ตั๊กอยากให้เป็นเรื่องส่วนตัวบ้าง แล้วพูดเยอะก็เปลืองตัว คิดว่าเราไม่ควรพูดแล้ว แหม...แล้วเราอยากทำงานให้เต็มที่ และอยากให้ข่าวเขียนเรื่องอื่นด้วย ไม่ใช่เรื่องความรักหรือเรื่องข่าวอย่างเดียว เพราะบางครั้งเราทำงานเหนื่อยแต่ไม่เขียนเรื่องงานเราเลย ทำให้คนก็ไม่รู้เรื่องงานของเรา ไม่รู้ว่าเรามีความสามารถจริงๆ เพราะบางครั้งคนอ่านแต่เรื่องความรัก เรื่องส่วนตัว จนคนไม่รู้ว่าตกลงตั๊กมีผลงานอะไรบ้าง อย่างเพื่อนตั๊กบางคนที่กลับมาจากเมืองนอก หรือทุกคนที่เจอตั๊กจะแบบเฮ้ย...นี่ไง นี่ไง ที่มีข่าว ไม่มีใครที่แบบ นี่ไงเล่นหนังเรื่องนั้นนะ ไม่มีเลย ทุกคนมีแต่พูดถึงข่าว เฮ้ย...เราเล่นหนังเหนื่อยนะ ทำไมไม่มีใครพูดถึงหนังของเราบ้าง อย่างหนังเรื่องใหม่ เทวดาท่าจะเท่ง ตั๊กเล่นคอมเมดี้ตลกมาก แต่ทำไมทุกคนไม่เห่อ ไม่รู้สึกตื่นเต้น หรือพูดถึงกันบ้าง เหมือนน้อยใจ ? น้อยใจมาก เพราะว่าเราอยู่ตรงนี้มาร่วม 9 ปีแล้ว ไม่ได้บอกว่าตัวเองแก่นะ แต่พอวันหนึ่งคนที่เขาจดจำเรา และพูดถึงเราไมได้มีเรื่องของการแสดง ทั้งที่เรารักการแสดง เรารู้สึกอิน แต่สุดท้ายเขาพูดถึงเรื่องอะไรไม่รู้ จนเรารู้สึกเอางี้แล้วกัน ต่อไปนี้ คือบางครั้งเราต้องแก้ที่ตัวเองด้วย ถ้าเราไม่พูด ถ้าเราพรีเซนต์แต่เรื่องงานบางครั้งคนอาจจะรู้ ส่วนเรื่องความรักเราไม่ควรพูดแล้ว ทุกครั้งที่ตั๊กพูดจะให้เกียรติทุกคน ให้เกียรติพี่ๆ ใช่ป่ะ เพราะวันหนึ่งเกิดไปเจอเรา เพราะมันมีปาปารัซซี่ตั๊กก็กลัว แต่พอสิ่งที่ตั๊กทำทุกคนไม่ได้เห็นค่าเลยว่าตั๊กให้เกียรตินะ แต่ทุกคนกลับมองว่าตั๊กออกมาพูดเรื่องความรักอีกแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าบางครั้งเราทำตามที่เราคิดดีกว่า ตั๊กเลยไม่พูดแล้ว แต่ถ้าตั๊กไม่พูดแล้วถูกเอาไปเขียนเองล่ะ ? ถ้าเอาไปเขียนเองตั๊กฟ้องแน่ จริงๆ นะตั๊กไม่ได้ขู่ ถ้าเขียนเองโดยเป็นอะไรที่แบบเราไม่ได้พูด แต่มาทำให้เราเสียหายเราฟ้องแน่ แต่ถ้าเราไม่พูดไม่บอก แล้วอยู่ๆ มีปาปารัซซี่ไปถ่ายเราเดินอยู่กับแฟน เฮ้ย...มีเสี่ยเลี้ยงหรือเปล่า ตั๊กก็เสียสิ แต่ตั๊กจะให้เสี่ยเลี้ยงทำไมทั้งที่หน้าตาเราก็ไม่ได้ขี้เหร่ ตั๊กถึงได้บอกก่อนว่ามีแฟนแล้วและอายุมากกว่า ทุกคนจะได้รู้ว่านี่แฟนตั๊กนะ แต่สุดท้ายสื่อกลับเขียนเล่นตั๊กซะแบบ...เอาเรื่องส่วนตัวของเราออกมาเต็มเลย และการงานของเขาก็ออกมาพรึ่บเลย แล้วมันคุ้มไหมล่ะ ไม่เอาตั๊กไม่พูดแล้ว แสดงว่ามีผลกระทบ ? ใช่ เพราะเรื่องส่วนตัวของแฟนตั๊กทุกคนรู้หมดเลย แล้วทุกคนเขียนถึงแฟนตั๊กกับตั๊กไม่ค่อยดี ฉะนั้นก็อย่ารู้เลยดีกว่า ถ้ารู้แล้วเป็นแบบนี้ บางครั้งแบบว่าสื่อบางสื่อน่าจะรู้เห็นคุณค่าของสิ่งที่แบบว่า...นะ แต่อันนี้ไม่เลย เขากลับยึดในความเป็นสื่อที่แบบไม่เห็นหัวใคร ไม่สนว่าใครจะรู้สึกยังไง ตั๊กก็ไม่รู้จะพูดทำไมเพื่ออะไร ในเมื่อตั๊กแคร์ฝ่ายเดียวแล้วได้อะไร ในเมื่อเราพูดความจริง เราแค่อยากให้เขารู้ว่าเราก็บริสุทธิ์ใจนะ เราก็ทำหน้าที่ของความเป็นดาราในวงการ เรารู้ว่าเราเป็นคนของประชาชน เราก็ทำก็พูดก็บอกในสิ่งที่เราเป็น แต่ในเมื่อเราทำแล้วไม่ดี ไม่รู้จะทำไปทำไม ตั๊กถามหน่อยจะมีดาราสักกี่คนพูดให้ตลอดว่า เราเป็นอย่างนี้อย่างนั้น โดยที่เราให้เกียรตินะ มีสักกี่คนลองนับดูสิ แต่พอตั๊กทำอะไรกลับไม่เห็นค่าของตั๊กเลย เพราะฉะนั้นก็อย่ารู้อะไรเลยดีกว่า ถ้าสื่อไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ตั๊กทำก็อย่ารู้เลย เหมือนตั๊กทำให้เดือดร้อนแต่เขาบอกไม่มีปัญหาอะไร แต่เขาแคร์ครอบครัวเขามากกว่าว่าพ่อเขาจะรู้สึกยังไง เพราะบางครั้งเขาก็ไม่อยากตอบคำถามใคร งั้นมาคุยเรื่องงานหนังที่ตั๊กกำลังจะเป็นผู้อำนวยการสร้างหนังคนใหม่ที่อายุยังน้อย ? ใกล้แล้วค่ะ ตอนนี้บทแก้เสร็จแล้ว เริ่มรู้แล้ว่าไปแนวทางไหน เพราะเตรียมงานมานานแล้ว เป็นหนังแนวอิโรติกที่ลงทุนไม่เยอะหรอก ประมาณ 20 ล้านบาท เป็นหนังที่แบบสื่อความสัมพันธ์และมีเรื่องศาสนาที่ทุกคนอาจจะคิดกันในแง่นั้นแง่นี้ แต่พอมาดูหนังเรื่องนี้จะเข้าใจกันหมดไม่ว่าศาสนาใดก็ตาม เราพยายามให้ทุกศาสนาเข้าใจถึงความเป็นธรรมชาติ ซึ่งเราไม่ได้ทำในแง่ลบแต่เราทำในแง่บวก โดยตั๊กเล่นเองแต่มีพระเอกใหม่ อยากได้พระเอกที่เคร่งศาสนา อย่างของประเทศเนปาล ที่สวดมนต์เก่ง หน้าตาดี หน้าคมๆ ตอนนี้กำลังติดต่อกับที่ทำการแคสติ้งอยู่ แต่ตั๊กอยากเดินทางไปเนปาลก่อน ไปดูเรื่องศาสนาหรือความเป็นอยู่ของผู้ชายที่นั่นบ้างว่าเป็นยังไง ส่วนการถ่ายทำคิดว่าคงจะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ และน่าจะถ่ายทำในเมืองไทย เราอยากพรีเซนต์เมืองไทย เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ และเด่นๆ เยอะ เป็นหนังแนวอิโรติกประมาณไหน ? ก็ต้องรอดู ตั๊กบอกไม่ได้จริงๆ แต่เป็นหนังประหยัดทุนนะ และเหมาะกับเรื่องแรกในการทำ สำหรับคนไม่มีประสบการณ์อย่างเรา ที่สำคัญคือเมืองนอกเขาชอบเรื่องดราม่าเรื่องความรัก คิดจะขายเมืองนอกด้วย ? จริงๆ แล้วอยากได้เงินต้องขายเมืองนอก แต่เมืองไทยก็หวังนะ หวังว่าทุกคนคงให้ความร่วมมือกับการดูหนัง แต่ว่าบางครั้งเราหวังได้แต่ไม่ชัวร์ เลยต้องทำอะไรเผื่อไว้ด้วย เพราะเงินไม่ใช่เงินตั๊ก ( หัวเราะ ) มองไว้หรือยังว่าจะให้ใครเป็นผู้กำกับฯ ? ก็กำลังติดต่อหลายๆ คนอยู่อย่าง พี่อุ๋ย-นนทรีย์ ตั๊กอยากได้เพราะพี่อุ๋ยเก่งเรื่องดราม่าและแนวอิโรติก เป็นคนเก่งที่ตั๊กปลื้มมานานแล้ว แต่ต้องดูหลายเหตุผลเพราะพี่เขาทำงานเยอะ แต่ก็มีดูคนอื่นเผื่อไว้ด้วยแต่ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงมาก เพราะมีชื่อเสียงมากเขาไม่ค่อยว่างกัน และมีสังกัดกันหมดแล้ว แต่คนต้องจับตามองว่าตั๊กมีประสบการณ์มากพอแล้วหรือ ที่จะมาเป็นผู้สร้างหนัง ? ก็กลัวเหมือนกันนะ แต่ก็ต้องลองดู ไม่ทำจะรู้ได้ไง ตั๊กก็ไม่มั่นใจหรอก ยิ่งคนพูดยิ่งไม่มั่นใจใหญ่เลย มันกดดันนะ คือเราไม่ได้เก่ง แต่เป็นเรื่องของตั๊กที่เป็นคนรักหนัง และเป็นเรื่องการทำมาหากินของเรา ตั๊กก็อยากให้คนดูหนังเลือกดู เราก็อยากสร้างหนังเพราะเราชอบหนัง แล้วบางทีหนังก็ดูไม่ยากนะ เพียงแต่เราจับจุดที่ง่ายๆ ก่อน แล้วหนังของตั๊กก็ไม่ได้ทำอะไรหวือหวาหรอก เรื่องนี้เป็นหนังสวย ซึ่งเราเล่นเองก็ไม่อยากทำอะไรที่มันเกินไปหรือเปล่า เพราะเราก็เบื่อที่จะเล่นหนังแบบโป๊ๆ พอเรามาสร้างเองจะโป๊เองทำไม มันต้องมีอะไรที่ดูดีแปลกใหม่ กลัวไหมถ้าคนจะคิดว่าเราขายชื่อของ บงกช คงมาลัย มาทำหนัง ? เคยคิดนะ แต่ถ้าหนังออกไปแล้วเขาคงไม่คิดแบบนี้หรอก บางทีมันต้องมีอะไรให้เขาเห็นก่อน เขาจะได้รู้ไง แต่ถ้าถามว่าตั๊กมั่นใจแค่ไหน ประมาณ 80% สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย ภาพยนตร์บันเทิง ฉบับวันที่ 7-13 พ.ค. 51