ใครว่า หยาดทิพย์ ขาลง ??

ใครว่า หยาดทิพย์ ขาลง ??

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ตั้งแต่เริ่มโตเป็นสาว นางเอกชื่อดัง หยาดทิพย์ ราชปาล ก็ตกเป็นข่าวโน้นข่าวนี้แทบไม่เว้นแต่ละวันเลยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องของความรัก ควงใครแต่ละทีก็มักจะได้รับความสนใจจากสื่ออยู่เสมอๆ วันนี้ ดาวต่างมุม จึงชวนเธอมาเปิดใจข่าวค(ร)าวต่างๆ ตั้งแต่เรื่องงานไปจนถึงเรื่องหัวใจของเธอ ช่วงนี้ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง ? ช่วงนี้ทำงานเยอะเหมือนกัน เพิ่งปิดกล้องละคร ทางช้างเผือก ไป แล้วตอนนี้ก็กำลังถ่ายละคร สุดแดนหัวใจ และเรื่อง ผู้การเรือเร่ นอกจากนี้ก็มีงานประจำเป็นพิธีกรรายการ สีสันบันเทิง งานโชว์ตัว แล้วก็งานถ่ายแบบและเดินแบบเรื่อยๆ ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่หนักมาก ตอนนี้ ทางช้างเผือก ยังไม่ปิดกล้อง มีงานซ้อนกันหลายเรื่อง แต่ก็สนุกดีได้ไปกองถ่ายหลายๆ กอง ก็เหนื่อยบ้าง เพราะบางทีวันนึงต้องเดินทางไปโน่นไปนี่หลายที่ แต่เวลาเหนื่อยเราก็จะเหนื่อยไม่นาน ถึงเหนื่อยแต่ก็สนุก ทำงานติดต่อกันมานานแค่ไหนแล้ว ? ทำงานติดๆ กันแบบนี้มา 3 ปีแล้ว ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลย ปีนึงได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัดประมาณ 2 ครั้งๆ ละ 2-3 วัน เช่น ช่วงสงกรานต์ แล้วเวลาไปหยาดก็จะไม่ทำอะไรเลย เอาแต่อยู่โรงแรมอย่างเดียว เลือกที่วิวสวยๆ นอนเล่นอย่างเดียว คิดว่าเราทำงานหนักเกินไปมั้ย ? หยาดเพิ่งอายุครบ 21 ค่ะ ช่วงเวลานี้หลายคนอาจจะเรียนหนังสืออยู่ แต่สำหรับหยาดก็ไม่รู้สึกว่าหนักไปนะ ชินแล้ว เราทำงานตรงนี้มานานแล้ว และงานตรงนี้ให้อะไรกับเราหลายๆ เรื่อง บางทีถ้าทำงานน้อยลงเราอาจจะเบื่อก็ได้ มีวิธีเลือกรับงานอย่างไร ? เรื่องรับงานจะให้แม่ดูให้ แล้วก็ช่วยๆ กันตัดสินใจ แต่ถ้าละครก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ทางช่อง 3 หยาดไม่เคยปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะเรามั่นใจว่าผู้ใหญ่เขาต้องเลือกงานดีๆ ให้กับเรา ส่วนงานอื่นๆ จะดูตามความเหมาะสม แต่หยาดว่าหยาดโชคดีกว่าคนอื่นนิดนึง ตรงที่เรามีโอกาสทำงานครบเกือบทุกแขนงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานพิธีกร ถ่ายแบบ และเดินแบบ เพราะมีหลายๆ งานที่ตัวเราไม่กล้าที่จะทำเราก็ได้ทำ หยาดต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทางช่องมาก ที่ทำให้หยาดได้ร้องเพลงใน The Album แล้วก็ได้ทำงานพิธีกรรายการ สีสันบันเทิง เพราะตอนแรกเลยหยาดปฏิเสธไม่อยากทำ เพราะเรารู้ว่าตัวเราพูดอะไรงงๆ ร้องเพลงก็ร้องไม่รู้เรื่อง แต่ผู้ใหญ่ก็บอกว่าอยากให้ลองทำดู เพราะเขามั่นใจว่าเราน่าจะทำได้ คิดว่าฝีมือการเล่นละครของเราเป็นอย่างไรบ้าง ? โตขึ้นนะ อย่างเมื่อก่อนตอนที่เริ่มกลับเข้ามาทำงานในวงการอีกครั้ง ตอนอายุ 15-16 ปี เราก็จะเล่นได้แต่บทใสๆ แต่พอโตขึ้นมาเราก็ได้งานอะไรที่แตกต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นนางเอกแบบร้ายๆ ในละคร เล่ห์กุหลาบ หรือรับบทเด็กใจแตกใน รังนกบนปลายไม้ รู้สึกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีนะ แต่กว่าเราจะมาถึงวันนี้ได้เราก็ต้องเพาะบ่มทักษะทางการแสดงมามากพอสมควร จากวันแรกที่เข้าวงการจนถึงวันนี้ คิดว่าวงการบันเทิงเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ? ก็เปลี่ยนไปมากพอสมควรนะ อย่างเมื่อก่อนตอนที่กลับเข้ามาวงการอีกครั้ง ช่วงแรกๆ หยาดจะไม่ชอบเวลาที่ต้องตกเป็นข่าว อารมณ์ประมาณว่า เฮ้ย...เราไม่ได้ทำนะ เขาไม่น่ามาเขียนถึงเราแบบนี้เลย กลัวคนอื่นจะเข้าใจผิด แต่ตอนนี้เราคิดอะไรได้เยอะขึ้นทำใจได้แล้ว บางคนเจอหนักกว่าเราอีก ขณะเดียวกันวงการนี้ก็ทำให้เราเจอคนหลากหลายรูปแบบ สอนให้เรามองคนเป็นมากขึ้น หยาดมักตกเป็นข่าวเยอะ มีวิธีรับมืออย่างไร ? หยาดก็จะตอบความจริง แต่เราก็จะบอกเลยว่าเราตอบได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก เพราะบางเรื่องมันเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ ก็อาจจะขอเก็บไว้เป็นส่วนตัวบ้าง แต่ที่สำคัญเลยหยาดจะไม่โกหก ตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ก็จะเงียบไปเลยดีกว่า แต่อย่างบางทีเจอข่าวที่ใช้อักษรย่อ แล้วเขียนแบบเสียๆ หายๆ หยาบคายเกินไป หยาดก็จะเลี่ยงโดยการไม่อ่าน เพราะ ณ ตรงนั้นเราทำอะไรไม่ได้ ยิ่งอ่านก็ยิ่งเครียด อย่างเวลาเราอ่านเรื่องของดาราคนอื่นยังรู้สึกสงสารเขาเลย ส่วนใหญ่มันก็คงไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดหรอก ใครจะมารู้ชีวิตเราได้ตลอด 24 ชม. เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาเขียนๆ กัน มันก็ไม่มีทางเป็นจริงร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ข่าวไหนที่ทำให้เราเสียใจมากที่สุด ? หยาดเริ่มทำใจได้แล้วค่ะ เมื่อก่อนจะไม่ชอบมากเวลาที่ต้องตกเป็นข่าวมือที่ 3 ไปเกี่ยวข้องกับชีวิตรักของคนอื่น เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ดี และที่สำคัญเราไม่เคยไปยุ่งกับคนที่มีแฟนแล้ว ถ้าโตมาหน่อยก็คงเป็นข่าวที่บอกว่าเราไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เราไม่ชอบเลย เวลาจะนอนยังไม่มีเลย จะเอาเวลาที่ไหนไปสำมะเลเทเมา หยาดคิดว่ามันแรงมาก เรามีความรู้สึกว่าเรื่องติดยาเสพติดมันเป็นอะไรที่รุนแรง เกินกว่าที่จะมากล่าวหากัน เวลาตกเป็นข่าวเสียๆ หายๆ พ่อแม่ว่าอย่างไรบ้าง ? เขาก็เข้าใจเรา ไม่ค่อยพูดอะไร อย่างแม่จะอยู่กับเราตลอดเวลา ก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนคุณพ่อไม่ค่อยได้อ่านหนังสือพิมพ์เท่าไหร่ เขาไม่สนใจเรื่องบันเทิงอยู่แล้ว โชคดีที่ทางบ้านเราเข้าใจ เขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนยังไง และอะไรที่มันจริงและไม่จริง แม่ก็จะแนะนำว่าให้เรารู้จักวางตัวให้เหมาะสม มีความรับผิดชอบและมีระเบียบวินัย แต่แม่จะอยู่กับหยาดแทบตลอดเวลาอยู่แล้ว เวลามีอะไรก็จะเตือนเราทันที คิดว่ามันคุ้มกันมั้ย ? ถ้ามองในแง่ไม่ดีก็คงไม่คุ้ม เพราะแลกกับชื่อเสียงของเราไปเยอะเหมือนกัน แต่หยาดจะพยายามคิดแค่ว่า ยังไงเราก็เข้ามาแล้วหน้าที่หลักของเราก็คือ ต้องทำงานให้ดีที่สุด และหยาดก็ยังมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่น่าจะอยากรู้จักดาราในแง่ของผลงานมากกว่า และคนส่วนใหญ่เขาคงมีวิจารณญาณมากพอเวลาอ่านข่าว เขาคงไม่เชื่อทั้งหมดหรอก ถ้ามัวแต่มองมุมแย่ๆ เดี๋ยวจะเครียดไปกันใหญ่ วงการนี้ให้อะไรกับเราบ้าง ? ให้เยอะนะ อย่างแรกเลยคือให้ประสบการณ์ ถ้าเป็นเด็กรุ่นเดียวกัน เขาคงยังไม่เจอเพราะยังไม่ถึงวัยทำงาน นอกจากนี้วงการยังสอนให้เราปรับตัวกับคนในสังคมได้เป็นอย่างดี แต่ก็อาจจะเสียชีวิตวัยรุ่นไปบ้าง เพราะไม่ค่อยได้ไปไหนกับเพื่อน แต่พอเรามีเพื่อนในวงการ แล้วงานอย่างเราก็ได้ไปโน่นไปนี่บ่อยๆ มันก็เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ เราก็ได้ทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วย ถามว่าเหงามั้ย...ก็ไม่ค่อยเหงานะ เพราะเวลาไปตามกองถ่ายก็จะมีเพื่อนอยู่ที่นั่น อาศัยมีเพื่อนตามกองถ่ายตรงโน้นทีตรงนี้ที แล้วเรื่องความรัก ? ตอนนี้ยังไม่อยากมีใคร ทำงานก่อนดีกว่า เป็นโสดมาเกือบปีแล้ว แต่ไม่เหงานะมีเพื่อนเยอะ ทุกวันนี้เวลาพักผ่อนแทบไม่มี เวลาว่างก็ไปอยู่กับเพื่อนทันที ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะมีข่าวแต่กับไฮโซ ? จริง ๆ เดี๋ยวนี้คนชอบมองว่าดาราอยากเป็นข่าวกับไฮโซ หยาดยังไม่รู้เลยว่าเขาตัดสินคำว่า ไฮโซ ตรงไหน คือคนรวยเหรอมันก็ไม่ใช่ แล้วทำไมไม่คิดว่าไฮโซอาจจะอยากเป็นข่าวกับดาราบ้างก็ได้ และที่จริงหยาดก็ไม่ได้เป็นข่าวกับใครมากมาย แค่ พี่กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ และ พี่โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร เท่านั้น ของหยาดเนี่ยเป็นข่าวกับพวกไฮโซน้อยมาก นอกนั้นจะเป็นข่าวกับเพื่อนๆ นักแสดงด้วยกันมากกว่า รู้สึกยังไงเวลาที่คนมองว่าดาราเป็นของเล่นไฮโซ ? แล้วแต่มุมมองของคนมากกว่า ทำไมไม่มองว่าไฮโซเป็นของเล่นดารามั้งล่ะ ( หัวเราะ ) คือวงการมันวนอยู่แค่นี้แหละ เราไม่ได้เป็นของเล่นเขาหรอก ไฮโซไม่ได้เป็นอะไรที่พิเศษที่จะสามารถเอาดาราไปเป็นของเล่นได้ เราทำงานของเราหาเงินเองได้ก็เยอะ ไม่จำเป็นต้องไปเป็นของเล่นของใคร เรายืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองได้ ช่วงนี้มีข่าวน้อยลง คนเลยมองว่าเป็น หยาดขาลง ? แล้วแต่คนคิดมากกว่า แต่ถ้าจะบอกว่าขาลงคงไม่ใช่ เพราะงานเยอะกว่าเดิม ทุกวันนี้ทำงานจนไม่มีเวลานอนแล้ว แต่ถ้าเป็นในแง่ที่ว่าข่าวซาลง หยาดดีใจนะ เพราะเมื่อก่อนมีข่าวเยอะจนปวดหัว มีข่าวน้อยๆ บ้างก็ดี เพราะหยาดเป็นคนพูดตรงหรือเปล่า คนเลยชอบปั้นข่าวเพื่อให้แก้ ? คือถ้าเขาถามอะไรมาเราก็ตอบไปอย่างนั้น ก็ไม่รู้ทำไมมีข่าวออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้หยาดพยายามปรับตัว พูดให้น้อยลง เมื่อก่อนพูดตรงกว่านี้และไม่ชอบให้คนมากล่าวหา ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ใครทำไม่ดีกับเราเราก็จะพูด แต่ตอนนี้เราทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะการที่เราพูดตรงไป นอกจากเขาจะไม่เขียนแก้ให้เราแล้ว ยังจะต่อว่าเราด้วย เราก็พยายามตอบได้เท่าที่ตอบ แล้วถ้าข่าวไหนที่ไม่ใช่เรื่องจริงก็เลี่ยงไม่อ่านเลย ล่าสุดมีข่าวกับ พี่ต่าย-ณัฐพล ลียะวณิช ด้วย ? คงเป็นเพราะเราสนิทกันมานานแล้ว เล่นละครด้วยกันหลายเรื่อง ก็ยอมรับว่าสนิทกัน แต่อาจเป็นเพราะว่าพี่ต่ายไม่มีใคร หยาดไม่มีใคร คนเลยจับคู่ให้ ส่วนเรื่องที่คนมองว่าเป็นการจับคู่โปรโมตนั้น...ก็ไม่จริงหรอกค่ะ หยาดเล่นละครกับใครก็โดนจับคู่ประจำ บอกตามตรงเหนื่อยนะที่ต้องมานั่งตอบคำถาม อย่างเรื่องพี่ต่ายตอบคำถามมาหลายเดือนแล้ว และก็ไม่เห็นจะโปรโมตอะไรได้เลย ถามว่ากับพี่ต่ายมีโอกาสพัฒนามั้ย จริงๆ ทุกคนมีโอกาสทั้งนั้น ถ้าอยู่ในเวลาที่เหมาะสมและเป็นคนที่ใช่ แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีอะไร เป็นพี่น้องแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็ดีอยู่แล้ว หนุ่มแบบไหนที่สามารถพิชิตใจหยาดได้ ? ชอบคนที่เป็นผู้ใหญ่ คนที่เทคแคร์ดูแลเราได้ คนรุ่นเดียวกันจะไม่ค่อยเอาใจเรา ไม่มีใครมาโอ๋ เรื่องหน้าตาถ้าเป็นแต่ก่อนจะชอบคนตี๋ๆ ขาวๆ เดี๋ยวนี้เริ่มไม่ชอบตี๋เพราะมีเยอะมาก ชอบผู้ใหญ่มากกว่า จะเป็นคนในหรือนอกวงการก็ได้ ขอให้เป็นคนดีก็พอ เวลาหยาดเลือกคบใครเราไม่ได้มองตรงนั้น แต่ถ้าเป็นคนในวงการด้วยกันก็น่าจะดีกว่า เพราะเขาจะเข้าใจการทำงานของเรา สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ ใครว่า หยาดทิพย์ ขาลง ??

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook