เรื่องย่อละคร แววมยุรา
ตอนที่ 11 ( 18 พ.ค. 55 )
เพื่อเป็นการขอบคุณที่สยุมภูว์ได้ช่วยชีวิตอาเหลียงไว้ อาเหลียงกับสยุมภูว์ จึงจัดงานเลี้ยงปาร์ตี้หน้ากากขึ้น อาเหลียงเซ็นต์สัญญาร่วมลงทุนกับสยุมภูว์ ส่วนสยุมภูว์ก็เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ว่าเขากับนายจักร คือคน คนเดียวกัน แววดีใจที่ได้เห็นหน้าสยุมภูว์ แต่ก็ต้องตกใจที่รู้ว่าเขาคือนายจักรนั่นเอง
นิติภูมิเองก็แค้นใจที่มองข้ามคนใกล้ตัวไป ระหว่างที่ทุกคนกำลังตกตะลึง เสียงปืนของศักดาก็ดังขึ้น เขามุ่งเป้าไปที่สยุมภูว์ แต่พลาดไป สยุมภูว์ยังไม่ตาย ศักดาจึงรีบหนีไป สยุมภูว์ให้เพิ่มพงษ์พาแววมาส่งที่บ้านเพื่อความปลอดภัย แต่เพียงแค่ลับหลังไป นิติภูมิก็ให้ศักดา มาลักพาตัวแววไป
ตอนที่ 12 ( 19 พ.ค. 55 )
สยุมภูว์เสียใจมากที่แววต้องมารับเคราะห์แทนตน เขาไปช่วยแววจากเงื้อมือ นิติภูมิ นิติภูมิ จึงสารภาพว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เขาไปเป็นคนทำ เพื่อต้องการฆ่าสยุมภูว์ กำจัดให้พ้นทาง นอกเขาจะได้รับมรดกแล้ว เขาจะได้แววมาครอบครองด้วย นิภิภูมิซ้อมสยุมภูว์ปางตาย ไม่ว่าแววจะร้องขอชีวิตสยุมภูว์อย่างไร นิติภูมิก็ไม่ฟัง เขาใช้ถังดับเพลิงฟาดไปที่ศรีษะสยุมภูว์ จนสยุมภูว์ สติดับวูบไปไม่รู้สึกตัวอีกเลย นิติธร กับเพิ่มพงษ์บุกมาช่วยได้ทัน นิติภูมิ จึงโยนความผิดทุกอย่างให้ศักดา ว่าศักดาเป็นคนทำ แล้วยิงศักดาเสียชีวิตเพื่อเป็นการปิดปาก
ตอนที่ 13 ( 20 พ.ค. 55 )
สยมภูว์ถูกนำส่งโรงพยาบาล เขารอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่เมื่อฟื้นขึ้นมากลับจำทุกอย่างไม่ได้ แม้แต่ชื่อตนเอง แววเสียใจมาก เพิ่มพงษ์ก็เสียใจมากเช่นกัน ทั้งสองช่วยกันรื้อฟื้นความทรงจำให้กับสยุมภูว์ แต่ก็ไม่เป็นผล เพิ่มพงษ์ พาตัวสยุมภูว์ กลับไปพักที่คฤหาสน์ทศพล แววรู้สึกเหงาที่ไม่มีสยุมภูว์ อยู่เคียงใกล้
สยุมภูว์ ทศพล นักธุรกิจหนุ่มหล่อผู้ลึกลับ เก็บเนื้อเก็บตัวสุดๆ จนไม่เคยมีภาพใบหน้าของตนออกสื่อใดๆ เพิ่งกลับมาเมืองไทย หลังจากที่ไม่ได้มาเหยียบแผ่นดินแม่เลยร่วม 15 ปี เขาและ เพิ่มพงษ์ มือขวาข้างกาย รีบมาพบ นิติธร ทนายประจำตัวของ สีหราช ทศพล พ่อของเขาที่เพิ่งเสียชีวิตไป เพื่อรับฟังพินัยกรรมซึ่งมีเนื้อความว่า พ่อของเขายกบ้านไม้หลังเก่าและเงินจำนวนหนึ่งให้กับนิติธร และยกกิจการของกลุ่มบริษัททศพลกรุ๊ปที่ใหญ่โต มูลค่ามหาศาลให้กับสยุมภูว์ พร้อมระบุว่าถ้าสยุมภูว์ไม่สามารถรับมรดกได้ ทศพลกรุ๊ปก็จะถูกยกให้นิติธรและทายาทเป็นผู้รับมรดกแทน
คืนนั้น หลังมื้อค่ำ สยุมภูว์กับเพิ่มพงษ์เดินกลับมาที่รถ ทันใดนั้น ก็เกิดระเบิดขึ้น จนรถไหม้วอดไปทั้งคัน เห็นชายชุดดำสวมหมวกกันน็อกซึ่งใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิด พยักหน้าพอใจที่งานสำเร็จลุล่วง ก่อนจะบิดมอเตอร์ไซค์หนีหายไป
แวว มยุรา ปรากฏตัวบนเวทีในงานแถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์นำเข้าสุดหรูในโชว์รูม เธอคือพริตตี้ที่สวยเซ็กซี่และพูดพรีเซนต์รถยนต์ได้อย่างฉะฉาน คล่องแคล่ว โดย คำรพ เจ้าของบริษัทนำเข้ารถยนต์รุ่นนี้จ้างแววมาทำงานเป็นพริตตี้ของบริษัทตนในอัตราเงินเดือนสูง เพราะหลงรักแววจนมองไปถึงขั้นว่าเขาจะทำให้แววยอมเป็นภรรยาเขาให้ได้ ขณะที่แววนั่งในรถ สาธยายถึงความไฮ-เทคของระบบปรับเบาะไฟฟ้าต่างๆ พอออกจากรถ ก็ปิดประตูหนีบเอาชายกระโปรงจนกระโปรงหลุด เหลือแต่กางเกงขาสั้นตัวจิ๋วที่ใส่ไว้ข้างใน สื่อมวลชนยิงแฟลชกันแปลบปลาบ ในห้องแต่งตัวหลังเวที คำรพอดใจไม่ไหวลวนลามแวว จนแววสุดจะทนตบหน้าคำรพ และตัดสินใจลาออกในที่สุด
แววต้องแบกรับภาระค่ารักษาตัวของมารตี ผู้เป็นแม่ ที่เข้าใจว่าตนเองป่วยอยู่ตลอดเวลา อีกทั้ง วัณณรี น้องสาวที่กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย และใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย แววกลุ้มใจหนัก จนต้องมาปรึกษาเรื่องการหางานทำกับ ชลธิชาและเริงใจ เพื่อนรักที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย จนเพื่อนทั้งสองเห็นใจ จะช่วยหางานให้กับแววอีกแรง
นิติภูมิ ลูกชายคนเดียวของนิติธรแค้นที่พ่อทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการรับใช้คุณสีหราช และทศพลกรุ๊ป กระทั่งตอนที่แม่ของนิติภูมิป่วยหนัก พ่อก็ยังไม่มีเวลาให้ จนแม่ต้องจากไปก่อนเวลาอันควร หนำซ้ำพ่อยังพูดชอบเปรียบเทียบนิติภูมิที่เกเร กับสยุมภูว์ที่เรียนเก่ง และยังสามารถบริหารกิจการบริษัทในเครือทศพลกรุ๊ป จนประสบความสำเร็จน่าภาคภูมิใจ นิติภูมิรู้สึกจงเกลียดจงชังสยุมภูว์เข้าไส้ จึงตัดสินใจว่าจ้าง ศักดา อดีตมือปืน กำจัดสยุมภูว์ เพราะเขารู้ว่าถ้ากำจัดสยุมภูว์ซะกิจการทศพลกรุ๊ปทั้งหมดจะกลายเป็นของพ่อและของตน
เพิ่มพงษ์ชี้แจงสถานการณ์ว่า สยุมภูว์กำลังถูกตามฆ่า จึงควรจะหาเซฟเฮาส์ และอำพรางตัวซะ เพิ่มพงษ์จึงซื้อ ร้านขายต้นไม้และรับจัดสวน Secret garden ให้สยุมภูว์ จะได้เป็นที่ให้พักผ่อนและยังใช้บังหน้า เพื่อจะเป็นออฟฟิศ ที่จะเหมือนศูนย์บัญชาการ และบริหารกิจการทศพลกรุ๊ป และยังเช่าบ้านไว้อีกหลัง เพื่อเป็นที่นอน และยังมีประโยชน์ในแง่ที่ว่า ถ้าเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจะได้ย้ายสลับที่อยู่ได้
ทั้งสองมาถึงบ้านหลังน่ารักน่าอยู่ เพิ่มพงษ์หันมาอีกที สยุมภูว์ก็เดินเข้าบ้านไปแล้ว เพิ่มพงษ์จึงตามเข้าไป แต่จริงๆ แล้ว สยุมภูว์เข้าผิดบ้าน เพราะบ้านที่รั้วติดกันก็คือบ้านของแววนั่นเอง แววเพิ่งอาบน้ำเสร็จนุ่งผ้าเช็ดตัวเปิดประตูห้องน้ำมาเจอสยุมภูว์ ถึงกับยืนตะลึงเพราะใบหน้าที่สวยถูกสเปคของแวว แต่เขาก็โดนปาทั้งขวดแชมพู สบู่ แปรงล้างห้องน้ำ สยุมภูว์พยายามอธิบายแต่แววโวยว่าเป็นพวกโรคจิตจะมาข่มขืน สยุมภูว์เห็นว่าแววไม่ฟังคำอธิบาย จึงวิ่งออกมาจากบ้านและเจอเข้ากับเอกรินทร์ เพื่อนของแวว และเมื่อได้ยินแววร้องโวยวายให้ช่วย เอกรินทร์จึงต่อยหน้าสยุมภูว์ทันที แววสวมเสื้อคลุมเสร็จจะวิ่งมาซ้ำ แต่เพิ่มพงษ์รีบมาขวางไว้ทัน ก่อนจะชี้แจงให้ทุกฝ่ายเข้าใจกัน เมื่อถูกถามชื่อ สยุมภูว์เกือบหลุดปากบอกชื่อจริง แต่เพิ่มพงษ์สวนไปว่าชื่อจักร กังวาลไกร เป็นลูกของพี่ชายของตน พร้อมแนะนำตัวเองว่าชื่อน้าเพิ่ม กังวาลไกร เอกรินทร์จึงรีบขอโทษจักรเป็นการใหญ่
น้าเพิ่มผูกมิตรกับแววในฐานะเพื่อนบ้านรั้วติดกัน แต่คู่ของแววกับจักร กลับไม่ยอมปรองดองกัน จักรก็โวยว่าแววไม่ยอมขอโทษ น้าเพิ่มชอบใจที่เห็นจักรทะเลาะกับแวว บอกว่าไม่เคยเห็นคุณสยุมภูว์เป็นแบบนี้ งั้นต่อไปนี้ คุณสยุมภูว์เป็นจักรแล้วก็ขอให้ทำตัวกวนๆ แบบนี้ให้ตลอดเลยแล้วกัน น้าเพิ่ม พาแจ๊ค ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ที่ตนเอามาให้ช่วยงาน ทั้งทำงานบ้านที่นี่ และไปช่วยที่ร้านขายต้นไม้ด้วย โดยต่อหน้าแจ็ค ทั้งสองจะเป็น น้าเพิ่ม กับจักร ไม่หลุดว่าเป็นสยุมภูว์ ต่อหน้าใครทั้งนั้น
คืนนั้น ชลธิชาโทรหาแววคุยเรื่องที่แววยังตกงาน แววรีบหลบออกมาคุยที่สวนหย่อมในบริเวณบ้าน ชลธิชาชวนให้แววมาช่วยงานในร้านกาแฟอีกคน แต่แววปฏิเสธ คิดว่าตนจะต้องต่อสู้ทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้ จักรอยู่แถวริมรั้ว ได้ยินและได้เห็นความกลัดกลุ้มของแวว แววน้ำตาไหลออกมา ทำให้จักรได้เห็นว่า ภายนอกที่ทำตัวห้าว ข้างในแววก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงเท่านั้น
เอกรินทร์ที่ทราบว่าแววยังไม่มีงานทำ พาแววไปสมัครงานตำแหน่งพีอาร์ที่บริษัทตัวแทนรถยนต์ญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง แต่แววโชคร้ายที่มีเรื่องกับไลลา น้องสาวของเอกรินทร์เสียก่อน จนกลายเป็นว่าแววต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ทำเอาไลลาฝังใจไม่ชอบหน้าแววตั้งแต่แรกพบ เอกรินทร์ขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งแววที่ร้านกาแฟ เริงใจแสดงออกว่าชอบเอกรินทร์อย่างออกนอกหน้า ขณะที่ชลธิชาได้แต่แอบมองแต่ไม่แสดงออก
รุ่งขึ้น คำรพเข้ามาหาแววถึงในบ้าน เพื่อขอให้แววกลับไปทำงานกับตน แววกลัวแม่และน้องจะรู้ความจริงว่าตนออกจากงานแล้ว จึงลากแขนคำรพออกมาคุยที่ข้างรั้วบ้าน คำรพยื่นข้อเสนอว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ พร้อมเสนอว่าถ้าอยากมีรถมีคอนโดส่วนตัวก็คุยกันได้ แววปฎิเสธไม่ยอมขายศักดิ์ศรีกิน จักรฟังอยู่ ยิ่งประทับใจในตัวผู้หญิงคนนี้ คำรพยังบอกให้แววไปพิจารณา แววน้ำตาไหลพราก ที่ถูกพูดจาดูถูกศักดิ์ศรี จักรเกาะรั้วคุยแสดงความเห็นใจ แววนึกว่าจักรจะซ้ำเติม ก็โวยประชดว่าอยากจะซ้ำเติมอะไรก็รีบๆ ซะ เพราะถ้ายังตกงานแบบนี้ อีกไม่กี่เดือนบ้านที่ขาดส่งมาร่วมปี ก็คงจะต้องโดนยึด และถึงเวลานั้น แววคงจะไม่มาเสนอหน้าให้นายคอยเยาะเย้ย ซ้ำเติมแล้ว
จักรเห็นใจแวว ขนาดนอนไม่หลับ รุ่งขึ้นที่ร้านต้นไม้ เลยไปนั่งหาว นั่งสัปหงก เพิ่มพงษ์ต้องเตือนให้จักรรีบสวมบทบาทสยุมภูว์เพื่อบริหารทศพลกรุ๊ป ให้เดินหน้าต่อไปได้ ทั้งสองรู้ดีว่าการเข้ามาบริหารบริษัทก็เหมือนการเปิดว่าสยุมภูว์ยังมีชีวิตอยู่ และจะยิ่งทำให้สยุมภูว์ตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น จักรจึงใช้ ร้านขายต้นไม้ ตั้งเป็นศูนย์บัญชาการ ชลธิชา ชวนแวว กับเริงใจมาซื้อต้นไม้ด้วยกัน แววได้เจอจักร ก็ปะทะคารมกันอีก แววหมั่นไส้เลยใช้จักรให้ยกกระถางต้นไม้ขึ้นรถ แล้วเปลี่ยนใจแกล้งให้ยกกลับคืน จนจักรเหนื่อย แต่จักร ก็ยอมเพราะชอบแววเข้าให้แล้ว
คืนนั้น จักรเห็นเอกรินทร์มาส่งแววที่บ้าน ก็ตั้งใจเดินออกมาทำเป็นเล็มต้นไม้ ดูความเป็นไปของแวว เมื่อเอกรินทร์กลับไป บังเอิญมีงูเลื้อยมาทางแววมยุรา ด้วยความตกใจแววโดดเข้ากอดจักรซะกลม วัณณรีกับมาลตีออกมาเห็นเข้า มาลตีไม่พอใจกับภาพที่เห็นนัก เพราะเข้าใจว่าจักรเป็นคนจน ไม่อยากให้ลูกสาวไปพัวพันด้วย แต่จักรเสนอตัวว่าจะช่วยจัดสวนให้ สวนจะได้ไม่รกจนงูเข้ามาอีก วัณณรีจึงรีบออกปากตกลงเพื่อช่วยเหลือจักรอีกแรง
ชลธิชาช่วยหางานให้แววไปเป็นนางแบบวันประมูลงานศิลปะและเครื่องเพชรที่แกลเลอรี่ของนุกูล พ่อของชลธิชา แววบอกว่าจะทำงานนางแบบนี้เป็นจ็อบสุดท้าย เพราะอยากทำงานที่ได้ใช้ความสามารถจริงๆ ในงานประมูลงานศิลปะและเครื่องเพชร นอกจากนุกูล และชลธิชา ยังมีคำรพ ไปปรากฏตัวอยู่ในงาน เพราะต้องการตามตื๊อแวว คำรพบอกว่าจะประมูลสร้อยเพชรให้แวว แววเป็นนางแบบที่คอยพรีเซนต์งานศิลปะ ภาพเขียน และเครื่องเพชรที่นำมาประมูล และยังมีไลลามารับหน้าที่เหมือนแววในงานนี้ จนถึงการประมูลสร้อยเพชรโบราณชิ้นสำคัญ นุกูล คำรพ ประมูลสู้กันจนราคาสูงไปถึงหกล้าน พิธีกรงานประมูลนับถอยหลัง แต่ก่อนจะเคาะแล้วขาย ชายคนหนึ่งก็ประมูลไปในราคาเจ็ดล้านบาท โดยแนะนำตัวว่าเขาคือ วงศกร เลขาหมายเลข 3 ของคุณสยุมภูว์ ทศพล หลังเลิกงาน คำรพตามตื๊อแวว พร่ำบอกว่าจะดูแลส่งเสียทั้งแววและครอบครัวอย่างดี คำรพฉุดแววให้ขึ้นรถของตน แต่จักรโดดมาช่วยไว้ โดยแลกหมัดกับคำรพ จนได้แผลกลับไปคนละเล็กละน้อย ไลลาได้เห็นจักรก็ยังพร่ำเพ้อ ว่าแมนเต็มร้อย ดูฮีโร่ถูกใจสุดๆ แถมยังเข้าไปปะทะคารมกับแวว ที่ต่างคนต่างไม่ยอมลงให้กัน จนเอกรินทร์ชักจะปวดหัวกับน้องสาวสุดเปรี้ยวคนนี้ ต้องดึงไลลา พากลับบ้านไป จักรจึงได้อาสาไปส่งแววด้วยรถกระบะสภาพบุโรทั่งของตน และเมื่อถึงบ้าน แววขอบคุณเขาด้วยการทำแผลให้ แต่พอจักรพูดกวนใส่ แววเลยหนักมือไปหน่อย จักรเลยเผลอไปดึงมือแววออก เพียงแค่จับมือ ทั้งสองก็รู้สึกหวั่นไหวกันเล็กๆ น้าเพิ่มกับแจ็คมั่นใจว่าเจ้านายของตน ท่าทางจะหลงเสน่ห์สาวข้างบ้านคนนี้เข้าแล้วอย่างแน่นอน
นิติภูมิ เห็นข่าวจากหน้าทีวี ที่เป็นเอกรินทร์รายงานว่าตัวแทนของสยุมภูว์ประมูลเครื่องเพชรไป ก็รีบโทรหาศักดา โวยว่าไอ้สยุมภูว์ยังมีชีวิตอยู่ และด่าศักดาที่ถ่ายรูปหน้าตาของสยุมภูว์ให้ตนไม่ได้ ทำให้ตนไม่รู้ว่าสยุมภูว์หน้าตาเป็นยังไง นิติธรสั่งให้ลูกชายหยุดความคิดเลวๆ ซะ และบอกกับนิติภูมิว่าตนจะปกป้องสยุมภูว์ และทำงานให้สยุมภูว์ต่อไป แต่นิติภูมิก็โกหกจนนิติธรเชื่อว่านิติภูมิไม่เคยแม้แต่คิดที่จะลอบฆ่าสยุมภูว์
จักรจัดสวนให้บ้านแวว และตั้งใจนำต้นแววมยุรา มาจัดให้โดยเฉพาะ แววยิ้มปลื้ม รู้สึกถึงสิ่งดี ๆที่จักรหยิบยื่นให้ และการที่จักรจัดสวนให้แววครั้งนี้ ทำให้ทั้งสองเริ่มเปิดใจที่จะคุยกันมากขึ้น แววชอบใจต้นแววมยุรา จนถึงกับเอาเฟรมพร้อมขาตั้งมาเพ้นท์ภาพสีน้ำมัน จักรเห็นเข้าก็ทึ่ง เพิ่งได้รู้ว่าแววมีฝีมือทางด้านศิลปะ ยุให้แวววาดภาพให้เยอะๆ เพื่อจัดนิทรรศการแสดงภาพที่แกลเลอรี่ไปซะเลย ชลธิชาเห็นดีด้วย กับการแสดงภาพเขียนของแวว เพราะแกลเลอรี่ก็เป็นของนุกูล พ่อของเธอเอง เริงใจกับเอกรินทร์ก็อาสามาช่วย แต่แววก็หมดไฟที่จะวาดรูปต่อ เพราะได้รับการติดต่อจากธนาคารให้ส่งค่างวดผ่อนบ้านที่ค้างอยู่หลายเดือน ซ้ำร้ายทั้งมาลตีและวัณณรีก็ใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย จนแววไม่มีเงินเหลือเก็บอีกแล้ว
เมื่อจักรรู้เรื่องที่แววกำลังร้อนเงิน จักรมอบพวงกุญแจรูปดาวที่เป็นคริสตัลสวยใสให้กับแวว พร้อมบอกว่าอยากได้อะไรให้อธิษฐานกับดาวดวงนี้ จักรคะยั้นคะยอให้แววเอ่ยคำอธิษฐาน แววพูดๆ ไปว่าขอให้ได้งานเงินเดือนดีๆ จักรรีบให้นิติธร ติดต่อแววมาทำงานในตำแหน่งเลขาของสยุมภูว์ ทศพล เจ้าของและประธานกรรมการของทศพลกรุ๊ป โดยจะสั่งงานผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์
รุ่งขึ้น นิติธรมาพบแววถึงที่บ้าน โดยมีนิติภูมิแอบตามมาซุ่มสังเกตการณ์ และคลาดสายตากับจักรไปอย่างหวุดหวิด เพราะคิดว่าจะทำให้ได้พบตัวของสยุมภูว์ นิติธรอ้างว่าคุณสยุมภูว์เห็นแววจากงานประมูลเพชรแล้วถูกชะตา โดยเสนอเงินเดือนที่สูงถึงสามแสนบาท แววตกลงใจทำงานเพราะอยากพิสูจน์ความสามารถของตนเองมากกว่าเงิน นิติธรเอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คบางเฉียบมาให้แววเริ่มต้นเปิดจอ เปิดเวปแคม กับฝ่ายสยุมภูว์ที่เป็นเงาดำมืด และเห็นแต่ตัว ไม่เห็นหน้า ภารกิจที่สยุมภูว์ให้แววทำนั้น ก็มีแต่เรื่องหาของกิน แต่เป็นแบบประเภทเร่งด่วนให้ทันเวลา ซึ่งไม่มีเรื่องงานบริษัทอะไรให้ทำ จนแววเริ่มสงสัยว่าสยุมภูว์เป็นเจ้านายประเภทไหนกันแน่
ทางด้านของจักรในคราบของสยุมภูว์ อยู่ในห้องบัญชาการในร้านต้นไม้กับน้าเพิ่ม ทั้งสองขำสะใจที่ได้แกล้งทดสอบแวว แต่แววก็ทำภารกิจทุกอย่างเสร็จสิ้นได้ด้วยดี คืนนั้น แววกลับบ้านอย่างเหน็ดเหนื่อยหมดสภาพ แววด่าสยุมภูว์ให้จักรฟัง เพราะไม่รู้ว่าสองคนนี้คือคนเดียวกัน แววบ่นอยากเห็นหน้าสยุมภูว์มากๆ เพราะมั่นใจว่าต้องโรคจิต หรือไม่ก็เพี้ยนแน่ๆ จักรสะดุ้งโหยง รีบแก้ให้ว่า มหาเศรษฐีคงเป็นแบบนี้ ไม่เหมือนคนจนๆ อย่างตน ที่กินอยู่แบบธรรมดาๆ
ร้านกาแฟของชลธิชา มียอดขายตกลงไป เอกรินทร์อาสาช่วย เพราะตนต้องถ่ายทำข่าวที่ต้องสัมภาษณ์คนบ่อยๆ ก็เลยคิดว่าจะมาสัมภาษณ์ที่ร้านกาแฟนี้ เพื่อเป็นการโปรโมต ถึงวันที่มาถ่ายทำ เริงใจดี๊ด๊า โบกมือเข้ากล้อง แถมยังทำหน้าปลื้มเอกรินทร์อย่างชัดเจน ความช่วยเหลือจากเอกรินทร์ได้ผลดี มีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้นเพราะเห็นในข่าว ชลธิชายิ่งรู้สึกดีกับเอกรินทร์มากขึ้น
จักรเริ่มชอบแววมากขึ้นเรื่อยๆ จนน้าเพิ่มสังเกตเห็น เขาใช้ประโยชน์จากการเป็นสยุมภูว์ ด้วยการสั่งให้แววไปพบนิติภูมิ เพื่อให้นิติภูมิสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวมาให้ตน คำถามละเอียดมากเป็นร้อยๆ ข้อ จนจักรได้รู้จักความคิดของแววมากขึ้น บางวันแววกลับมา เจอจักรนั่งเอกเขนกสบายใจอยู่ในบ้าน จักรเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ได้ เพราะใช้วิธีหาสมุนไพร ยาบำรุงมาฝากมาลตีนั่นเอง มาลตีบอกแววว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าค่างวดที่ค้างไว้ คุณสยุมว์ภู ทศพล เคลียร์ให้หมดแล้ว แววทั้งดีใจ แต่ก็ไม่ไว้ใจว่าคุณสยุมภูว์ หวังอะไรจากตนกันแน่
ชลธิชา เอกรินทร์ เริงใจ ช่วยกันติดตั้งภาพเขียนสีน้ำมันสีจัดจ้าน ที่สื่อถึงดอกแววมยุรา เพียงแค่ติดตั้งเสร็จ นุกูลก็แจ้งข่าวดีว่า ตนส่งภาพถ่ายงานของแววไปให้คอลเลคเตอร์ที่เป็นฝรั่งดู และขอซื้อ
งานทุกชิ้นของแวว การทำตัวลึกลับของสยุมภูว์ยิ่งกระตุ้นให้แววอยากรู้ว่าเขาคือใคร เมื่อได้พบนิติธรอีกครั้ง แววอ้างว่าอยากจะขอบคุณกับความมีน้ำใจกรุณาของสยุมภูว์ จึงอยากเข้าพบเพื่อกราบขอบคุณสักครั้ง นิติธรได้แต่ส่ายหน้า เพราะสยุมภูว์ไม่มีวันให้ใครเข้าพบ แม้แต่เขาเอง ก็ต้องรอให้สยุมภูว์เป็นฝ่ายติดต่อมาเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น และแววก็ต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายมาหนักยิ่งขึ้น แต่จักรก็คอยช่วยเหลือแวว จนงานสำเร็จไปได้ตลอดเวลา
เอกรินทร์พอเข้าใจว่าจักรกับแววนั้นมีใจให้กัน จึงไปปรับทุกข์กับชลธิชา และเริงใจที่ร้านกาแฟ ไลลาที่มากับเอกรินทร์ได้ยินเข้าก็สงสารพี่ชาย ก็เลยยิ่งเพิ่มดีกรีความเป็นปฏิปักษ์กับแวว ฝ่ายเริงใจ พอได้ยินว่าเอกรินทร์ผิดหวังจากแวว ก็รีบเชียร์ให้ตัดใจ และลองพยายามมองๆ คนอื่นบ้างดีกว่า แต่เอกรินทร์กลับคิดว่าตนยังพยายามทำดีกับแววไม่พอ จะพยายามให้มากกว่านี้ ชลธิชาบอกจะเป็นกำลังใจให้ ขณะที่เริงใจเองก็มุ่งมั่นจะเอาชนะใจของเอกรินทร์อยู่เช่นกัน
แววกับสยุมภูว์เริ่มคุยกันสนิทสนมมากขึ้นผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ บางครั้งแววก็ปรึกษาปัญหาชีวิต ปัญหาในครอบครัว โดยสยุมภูว์มีคำตอบที่ดีให้เสมอ แววขอร้องว่ากำลังจะถึงวันเกิดของตน จะขอเข้าพบเพื่อขอบคุณสยุมภูว์ได้ไหม แววออดอ้อนจนสยุมภูว์ยอม ให้แววแต่งตัวสวยๆ ไปพบกับตนในงานปาร์ตี้คืนพรุ่งนี้ได้เลย แววดีใจมากที่จะได้พบหน้าสยุมภูว์ เธอเล่าให้จักรฟังอย่างกระตือรือร้น จนจักรคิดว่าแววสนใจสยุมภูว์เพราะเขาเป็นคนรวย แววน้อยใจที่จักรเข้าใจผิดจึงต้องการพิสูจน์ด้วยการพาจักรไปงานด้วย
คืนปาร์ตี้ แววแต่งตัวสวยสุดๆ จนจักรที่ยืนรออยู่หน้าบ้านถึงกับตะลึงงัน เมื่อไปถึงงานปาร์ตี้ แววพบว่าเป็นปาร์ตี้หน้ากาก ในงานเอกรินทร์มาทำข่าว แต่ก็ต้องสวมหน้ากากด้วย แม้แต่เพิ่มพงษ์ก็สวมหน้ากากมาคอยดูสถานการณ์ในงาน เพราะจักร กับสยุมภูว์จะต้องสลับตัวกันมาเพื่อไม่ให้แววจับพิรุธได้
จักรแต่งตัวเซอร์ๆ เท่ๆ ต้องวิ่งสลับไปเปลี่ยนเป็นสยุมภูว์ในชุดสูทหรู ผมหวีเรียบแปล้ วิ่งเข้าวิ่งออกเพื่อสลับกันมาคุยกับแวว แต่จังหวะหนึ่งหน้ากระจกในห้องน้ำ จักรเปลี่ยนเป็นสยุมภูว์แล้วเดินชนเข้ากับ
เอกรินทร์ เอกรินทร์เอะใจรู้สึกผิดสังเกตเรื่องจักรกับสยุมภูว์ ค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แววเพียงแค่แปลกใจว่าทำไมจักรดูท่าทางกระหืดกระหอบเหมือนวิ่งมาเหน็ดเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา
เริงใจนั้นชอบเอกรินทร์อยู่ จึงพยายามเชียร์แววให้ชอบจักร และช่วยจักรให้จีบแววสำเร็จ เพราะเข้าใจว่าถ้าเอกรินทร์เลิกชอบแวว ก็จะต้องเลือกตนแน่นอน จึงสมคบคิดกับชลธิชาที่มีบ้านพักตากอากาศริมทะเล จึงพากันไปเที่ยว ทั้ง แวว จักร เอกรินทร์ ชลธิชา เริงใจ โดยมีไลลาแอบตามมาด้วย
ที่บ้านพักริมทะเล จักรและแววมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกัน ต่างฝ่ายต่างถามกันว่าทำไมถึงยังไม่มีแฟน ทั้งสองตอบแทบตรงกันว่า เพราะเกลียดและกลัวการโกหกหลอกลวงที่สุด ทั้งสองจึงสัญญากันว่าจะไม่โกหกหลอกลวงกัน ส่วนคู่ของเอกรินทร์กับชลธิชาก็เริ่มรู้ใจกันมากขึ้น เพราะแทบทุกครั้งที่เอกรินทร์เศร้าเสียใจจากแวว ก็จะพบว่าชลธิชาคอยปลอบใจอยู่ข้างๆ เสมอ ส่วนเริงใจที่เป็นฝ่ายเข้าหาเอกรินทร์ เอกรินทร์ก็ให้ความสนิทสนมด้วยความรู้สึกแบบเพื่อน จักรกับแววมีจังหวะได้ใกล้ชิดกันจนเกือบเผลอใจ แต่ก็โดนทำลายจังหวะด้วยไลลา ที่เริ่มจะไล่ล่าจักรอย่างจริงจังมากขึ้น และก็ร้ายใส่แววเพิ่มดีกรีขึ้นเรื่อยๆ
กลับมาที่กรุงเทพฯ น้าเพิ่ม เก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว ถามเจ้านายว่า กำลังคิดจะทำอะไรอยู่ กับการที่สวมบทเป็นจักร และสยุมภูว์สลับไปมาจนงง น้าเพิ่มรู้ว่าจักรตั้งใจจะจีบแวว ก็ควรจะเป็นคนเดียวและจีบให้ชัดเจนไป จักรจึงอธิบายว่าเขาอยากรู้ว่าแววชอบเขาที่ตัวตนไหนกันแน่ น้าเพิ่มแย้งว่าแต่ตัวจริงคุณคือสยุมภูว์ วันนึงความจริงก็ต้องปรากฏ แล้วผู้หญิงเขาจะรู้สึกอย่างไร
คำรพใช้เงินมาหลอกล่อ ซื้อข้าวของให้มาลตี กับวัณณรีเสียมากมาย เมื่อแววรู้เข้าก็มีปากเสียงกับคำรพอีก แต่มาลตีกับวัณณรีไม่พอใจ ทำให้แววต้องทะเลาะกับแม่และน้อง แววมาระบายกับจักร จักรจึงให้แววไปปรับความเข้าใจกับมาลตีและวัณณรีในที่สุด ทั้งนี้แววยังซื้อกระเป๋าสตางค์ใบใหม่ให้จักร พร้อมกับใส่สตางค์ไว้ให้เป็นขวัญกระเป๋า แววอยากให้กำลังใจจักร ไม่ให้หมกมุ่นเรื่องรวยหรือจนให้มากนัก
ในขณะที่ความสัมพันธ์ของแววกับจักรคืบหน้า ความสัมพันธ์ของแววกับสยุมภูว์ก็ไปได้สวยไม่แพ้กัน ในวันเกิดของแวว จักรลงมือทำอาหารให้แววกิน เพราะไม่มีเงินพาแววไปเลี้ยงวันเกิด เอาขนมปังราคาถูกๆ มาปักเทียนให้แววเป่าแทนเค้ก ขณะเดียวกัน สยุมภูว์ ส่งชุดสวยมาให้ พร้อมรถมารับให้แววไปดินเนอร์ที่โรงแรมหรู แต่เมื่อไปถึง แววได้พบเชฟส่วนตัวปรุงอาหารให้ และแล้วชายหนุ่มก็ปรากฏกายขึ้น แต่ดันเป็นเลขาอีกคนของสยุมภูว์ ท้ายที่สุดแล้วเธอต้องดินเนอร์หน้าจอคอมพิวเตอร์กับเงาของสยุมภูว์ เท่านั้น
มาลตี กินยาลดความอ้วนจนป่วย ต้องรีบนำตัวไปส่งโรงพยาบาล แววรีบไป แล้วพบว่า จักรเป็นคนนำตัวมาส่งโรงพยาบาลคอยดูแลจนกระทั่งแววมาถึง โดยวัณนรีไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ได้สนใจดูแลแม่เลย แววโกรธและโทษว่าน้องสาวทำตัวเหลวไหลไม่ดูแลแม่ ทั้งสองมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง วัณนรีโกรธ เลยเตลิดหนีออกจากบ้าน วัณณรี หนีออกมาโดยไม่มีที่พึ่ง ไม่มีเงิน จึงโทรหาคำรพ คำรพพามาหาที่พัก และคิดจะรวบรัดปล้ำซะ ส่วนหนึ่งก็เพื่อแก้แค้นแวว แต่วัณณรีหนีออกมาได้ ทำให้เธอได้คิด และคิดถึงแววเป็นอย่างมาก แววประคองแม่กลับมาที่บ้านอย่างหมดหวัง ขณะที่ทุกคนกำลังเศร้าเสียใจ วัณณรีก็กลับมา แววกับวัณณรีต่างก็ร้องไห้ขอโทษอีกฝ่าย มาลตีเองเห็นว่าวัณณรีสำนึกในความลำบากของพี่สาวที่ต้องแบกภาระหาเลี้ยงครอบครัวแล้ว ก็รู้สึกผิดตามลูก เอาแต่โทษตัวเองว่าผิดที่แม่ ที่เป็นตัวอย่างไม่ดีแก่ลูก
วันวาเลนไทน์ จักร เอาของขวัญวันเกิดย้อนหลังมาให้แวว เป็นกระถางต้นแววมยุรา ที่ดอกเป็นสีชมพู จากร้านต้นไม้ แวว กำลังจะรับของขวัญ นิติธรก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับ นำสร้อยเพชรที่ประมูลได้ในครั้งที่แวว ทำหน้าที่เป็นนางแบบ บอกเป็นของกำนัลจากสยุมภูว์ จักรรู้สึกว่าของขวัญตนด้อยค่าไป จึงเดิน ออกมาเงียบๆ เอกรินทร์ก็เตรียมของขวัญให้แววเช่นกัน แต่เมื่อเห็นสร้อยเพชรที่คอแวว จึงซ่อนความเสียใจเอาไว้ภายใน แล้วมาหลบอยู่ที่ร้านกาแฟ ที่นั่น ชลธิชารับฟังแล้วสวมกอดปลอบใจเอกรินทร์ พอดีเริงใจเห็นเข้า จึงได้รู้ว่าชลธิชาเองก็มีใจให้เอกรินทร์เช่นกัน เริงใจจึงตัดใจยอมรับความจริง หลีกทางให้เอกรินทร์กับชลธิชาในที่สุด แต่ความเป็นเพื่อนของทั้งสองก็ยังคงอยู่ตลอดไป ทั้งสองกอดกันร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง
นิติภูมิสะกดรอยตามนิติธรพ่อของตนมาเจอสยุมภูว์ และได้เห็นหน้าสยุมภูว์เต็มๆ น้าเพิ่มจึงต้องพาสยุมภูว์ พรางหน้าหนีไปเก็บตัวกบดานที่ร้านต้นไม้ เพื่อความปลอดภัย แววนึกว่าที่จักรหายไป เพราะน้อยใจเรื่องของขวัญวันวาเลนไทน์ แววได้แต่ปรับทุกข์กับต้นแววมยุราที่จักรเคยจัดให้ที่สวนในบ้าน แววสับสนว่าตนเองนั้น รักใครกันแน่ระหว่าง สยุมภูว์ผู้ร่ำรวย กับจักรผู้ต่ำต้อย
เอกรินทร์เริ่มมองชลธิชาในมุมใหม่ พบว่า ชลธิชาเป็นผู้หญิงที่น่ารัก อ่อนหวาน และเข้มแข็งในขณะเดียวกัน ทำให้คนที่อยู่ใกล้สบายใจอย่างประหลาด เอกรินทร์เห็นแวว เศร้าเพราะจักรหายไป ก็สงสารแวว และตัดสินใจที่จะไปพูดคุยกับจักรให้รู้เรื่อง และที่ร้านต้นไม้นั่นเอง เอกรินทร์พบจักร ใส่สูทเนี้ยบสั่งงานเพิ่มพงษ์ในคราบของสยุมภูว์ เอกรินทร์แอบซุ่มดูจนแน่ใจ แล้วนึกย้อนไปถึงตอนที่เจอจักร และสยุมภูว์ทำลับๆ ล่อๆ ในห้องน้ำ ที่ปาร์ตี้หน้ากากก็ลำดับเรื่องได้ จนมั่นใจว่าสยุมภูว์ผู้ลึกลับนั้น แท้จริง ก็คือคนเดียวกับนายจักรที่ทุกคนรู้จักกันดีนั่นเอง
แววขอพบสยุมภูว์เพื่อลาออก แต่เขากลับสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าไว้ อ้างว่าประสบอุบัติเหตุเสียโฉม สยุมภูว์สารภาพว่าเขาหลงรักแวว เธอคือผู้หญิงที่เขาตามหามาตลอดชีวิต เพราะเขาเกลียดกลัวการโกหกหลอกลวงเป็นที่สุดนั่นเอง แววรู้สึกเอะใจ กับคำพูดคุ้นๆ และประโยคนี้เอง ที่ทำให้แววตัดสินใจว่า แท้ที่จริงแล้ว ชายที่เธอรักคือ จักรนั่นเอง แววถอดสร้อยเพชร ที่เป็นของขวัญคืนให้แก่สยุมภูว์ และยืนยันจะกลับไปตามหัวใจของเธอที่หายไปกับจักรให้ได้ แววรีบร้อนลาออกมา ไม่สนใจแม้แต่จะมองหน้าตาที่แท้จริงของสยุมภูว์แม้แต่น้อย เพื่อมาพบจักร แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเพิ่มพงษ์บอกว่าจักรหลบไปที่ทะเล ที่เคยไปกับแววนั่นเอง แววรีบดั้นด้นไปหา โดยความช่วยเหลือของเอกรินทร์ ชลธิชา และเริงใจ
เมื่อพบกับจักร แววตัดพ้อเรื่องไลลา จักรบอกว่าความจริงวันนั้นที่ร้านต้นไม้ ตนกำลังบอกเลิกไลลา เพราะรู้ตัวดีว่ารักใคร ทั้งสองสวมกอดกัน คำสารภาพรักที่อัดอั้นมานานก็พรั่งพรูออกมา จักรยอมรับความจริงว่าเขากับสยุมภูว์คือคน คนเดียวกัน แววโกรธจัดที่โดนหลอก แววตบหน้าจักร โทษฐานที่หลอกลวงให้ตนรัก และตบอีกทีเป็นการตบหน้าสยุมภูว์ที่ทำเหมือนตนเป็นคนโง่ แววเอาพวงกุญแจรูปดาวที่พกติดตัวตลอดเขวี้ยงใส่หน้าจักร แล้วร้องไห้วิ่งหนีไป จักรรู้สึกผิดและสมควรแล้วที่ตนจะต้องเป็นอย่างนี้ เพราะการโกหกคนรัก เป็นความผิดบาปที่สาสมจะได้รับผลกรรมเช่นนี้แล้ว
ที่กรุงเทพฯ สยุมภูว์ พร้อมเพิ่มพงษ์ไปแสดงตัวเปิดเผยที่บ้านของแวว เพื่อขอโทษแวว แต่มาลตี
กับวัณณรีไม่ให้พบ ไล่สยุมภูว์ออกไป มาลตีย้ำว่าความรักในครอบครัวนี้ มีค่ากว่าความรักที่หลอกลวงและซ่อนเร้นของสยุมภูว์ สยุมภูว์ผิดหวัง เดินคอตกออกมา แล้วพบกับนิติภูมิ กับศักดาที่มาไล่ล่า สยุมภูว์โดนยิง เลือดไหลนองเต็มเสื้อ เพิ่มพงษ์กับแจ็ค โดดล็อคศักดากับนิติภูมิไว้ แววได้ยินเสียงปืนวิ่งออกมาดู ขณะที่ทั้งสองกำลังจะจนมุม สยุมภูว์แสดงความเป็นลูกผู้ชาย ขอร้องให้นิติภูมิกับศักดาปล่อยแววไปซะ แล้วตนสัญญาว่าจะยอมให้ฆ่าให้แกงได้ตามสบาย เอกรินทร์ขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาช่วยอัดกับศักดาจนเจ็บตัว สยุมภูว์ก็เล่นงานนิติภูมิจนหมอบราบ แต่ทันใดนั้น นิติภูมิควักปืนอีกกระบอกในแจ็คเก็ตยิงใส่สยุมภูว์อีกนัด สยุมภูว์ร่วงลงไป นิติภูมิตามจะไปยิงซ้ำ นิติธรก็ปรากฏตัวขึ้น ประกาศว่าถ้าลูกจะฆ่าใครซักคน ก็ฆ่าพ่อซะ เพราะพ่อเป็นต้นเหตุเรื่องทั้งหมด นิติธรเข้าไปสวมกอดลูกร้องไห้เหมือนจะขาดใจ ตำรวจมาถึง จับตัวของนิติภูมิและศักดาใส่กุญแจมือสยุมภูว์หมดสติ เสียเลือดไปมาก แววกอดร้องไห้ พร่ำบอกรัก ทุกคนเสียใจ ดูเหมือนสยุมภูว์จะไม่รอดแน่ๆ แล้ว
หนัง : แววมยุรา
ช่อง : ช่อง 3
ออกอากาศทุกวัน : ศุกร์, เสาร์, อาทิตย์
ผู้กำกับ : ต้น - ชานนท์ สมฤทธิ์
บทประพันธ์ : พนมเทียน
ผู้เขียนบท : ทองเอก
ผู้จัด : บริษัท เวฟ มีเดีย เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
นักแสดงนำ : ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, มารี เบรินเนอร์, ภพธร สุนทรญาณกิจ, นุชนันทน์ อรัณยะนาค, หรรษา จึงวิวัฒน์วงศ์, โชติกา วงศ์วิลาศ, จาตุรงค์ มกจ๊ก, ปชาบดี ตัณฑปุตตะ, พิศาล อัครเศรณี, อนุชิต สพันธุ์พงษ์, เกริก ชิลเลอร์, สมภพ เบญจาธิกุล, นวลปรางค์ ตรีชิต
เวลาออกอากาศ : 20.30 น.