The Twilight Saga : Breaking Dawn Part 2
ทั้งโลกร่วมเป็นสักขีพยานกับ ก้าวใหม่แห่งสายพันธ์แวมไพร์
และ ศึกครั้งสุดท้ายที่ทุกคนห้ามพลาด
THE TWILIGHT SAGA : BREAKING DAWN PART 2
(แวมไพร์ทไวไลท์ 4 :เบรคกิ้ง ดอว์น ภาค 2)
หลังจาก แวมไพร์ทไวไลท์ 4 :เบรคกิ้ง ดอว์น ภาค 1 สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง เมื่อทำรายได้รวมทั่วโลกไปถึง 705 ล้านเหรียญ และรวมทั้ง 4 ภาคที่ผ่านมา ก็ทำรายได้ไปถล่มทลายไปกว่า 2,500 ล้านเหรียญ ในที่สุดบทสรุปสุดท้ายของมหากาพย์ แวมไพร์ ทไวไลท์ก็มาถึง ทำให้แฟนๆ แทบจะอดทนรอดูแทบไม่ไหว กระแสแรงอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นหนังที่มีคนทวีตถึงมากที่สุดในทวิตเตอร์ รวมไปถึง ได้รับการโหวตในเว็ปไซต์ขายตั๋วล่วงหน้าอันดับหนึ่งของอเมริกา Fandango ว่าเป็นหนังที่ทุกคนรอชมมากที่สุดไปเรียบร้อยแล้ว
ผู้กำกับดีกรีออสการ์ บิล คอนดอน จากภาคที่แล้วกลับมาคุมบังเหียนเหมือนเดิมเพื่อปิดตำนานรักแวมไพร์ทไวไลท์ให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ซึ่งภาคนี้ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ เบลล่า สาวสวยที่ทุกคนเอาใจช่วยมาตลอด ได้ก้าวผ่านความเป็นมนุษย์มาสู่แวมไพร์
เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจาก เบลล่า (คริสเต็น สจ๊วต) ใช้เวลาปรับตัวกับชีวิตใหม่ในการเป็นแวมไพร์ กลุ่มแวมไพร์โวลตูรี่ก็แสดงความต้องการตัว เรเนสมี ลูกสาวของ เอ็ดเวิร์ด (โรเบิร์ต แพททินสัน) และ เบลล่า มาครอบครอง ครอบครัวคัลเลนจึงขอความช่วยเหลือจากกลุ่มแวมไพร์พันธมิตรทั่วโลก รวมถึง เจคอบ (เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์) ที่ผูกวิญญาณกับ เรเนสมี แล้ว เพื่อร่วมต่อสู้ในสงครามครั้งสุดท้ายกับกลุ่มแวมไพร์โวลตูรี่ ที่จะเป็นบทสรุปของทุกสิ่ง
สงครามแวมไพร์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงไคลแมกซ์ ถือเป็นการแนะนำให้รู้จักกับกลุ่มแวมไพร์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแวมไพร์เดนาลี พันธมิตรของครอบครัวคัลเลน กลุ่มแวมไพร์จากอียิปต์ นำโดย เบนจามิน ที่มีความสามารถในการควบคุมธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ รวมถึง แกเร็ธ แวมไพร์เร่ร่อนเจ้าเสน่ห์ ที่เป็นเพื่อนเก่าของ เอ็ดเวิร์ด
สงครามครั้งสุดท้าย แห่งรัตติกาลทไวไลท์
THE TWILIGHT SAGA : BREAKING DAWN PART 2
15 พฤศจิกายน ก่อนใครในโลก