100 ปี Titanic สัมผัสตำนานโลกของเรือที่ไม่มีวันจม
สัมผัสตำนานโลกของเรือที่ไม่มีวันจม ดำดิ่งสู่ห้วงลึกแห่งกาลเวลากับ 100 ปี TITANIC นิทรรศน์
ใครได้ผ่านไปแถวห้าง CENTRAL WORLD ช่วงนี้ อาจได้เห็นโฆษณา เกี่ยวกับ TITANIC เรือสำราญที่โลกรู้จักกันเป็นอย่างดี ว่าเป็นเรือที่ยิ่งใหญ่ หรูหรา และได้ชื่อว่า "ไม่มีวันจม" แต่ท้ายที่สุด มันก็ได้อัปปางลง เพราะความประมาทของมนุษย์ นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่โลกต้องจารึกไว้ใน 1 หน้าประวัติศาสตร์สำคัญ
TITANIC เป็นที่กล่าวขวัญถึงมาตลอด โดยเฉพาะความยิ่งใหญ่อลังการของมหานาวาแห่งยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นศตวรรษ 1900 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปี 2012 นี้ นับเป็นฤกษ์งามยามดี ที่เรือยักษ์ลำนี้ "ไททานิค" ได้อัปปางลงสู่ก้นทะเลของท้องมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ เป็นเวลาครบ 100 ขวบปีพอดิบพอดี จึงมีการรำลึกถึงอีกครั้ง และมีการนำเอาเรื่องราวของมันที่เคยเป็นตำนานรักสนั่นจอที่เคยโลดแล่นบนโลกเซลลูลอยด์กลับมาเรียกความประทับใจใหม่อีกครั้งในรูปแบบ 3D เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
แต่นั่น...ก็หาใช่สาระสำคัญอันใดไม่ เมื่อมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ตั้งใจไขว่คว้าหาที่มาที่ไปของเรือยักษ์ลำนี้ รวมทั้งอยากสัมผัสประสบการณ์แห่งประวัติศาสตร์ครั้งนี้แบบเสมือนมีส่วนร่วม จึงได้เกิดนิทรรศการ TITANIC: THE ARTIFACT EXHIBITION --- 100 ปี ไททานิค นิทรรศการแห่งประวัติศาสตร์โลก ขึ้น ณ ชั้น 8 Central World LIVE ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ล เพื่อเป็นการรวบรวมเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ของมหานาวาลำนี้ สำหรับคนที่รักและสนใจใคร่รู้เรื่องราวแห่งอดีต รวมทั้งได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดประหนึ่งได้เข้าไปมีตัวตนร่วมกันในประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของ ไททานิค
เริ่มต้นการเดินทาง กับการซื้อบัตรในราคา 500 บาท สำหรับบุคคลทั่วไป และ 350 บาท สำหรับนักเรียน-นักศึกษา ซึ่งเท่าที่ได้สัมผัส นับว่าไม่เสียเปล่าเลยกับราคานี้ เพราะเราจะได้รับตั๋วโดยสารเสมือนเราได้ซื้อตั๋วเพื่อขึ้นไปบนไททานิค และร่วมเดินทางไปกับการเดินทางแห่งกาลเวลาครั้งสำคัญ โดยเราจะได้รับตั๋วเดินทาง หรือ Broading Pass 1 ใบ ที่ระบุทั้งชื่อ และรายละเอียดต่างๆ ซึ่งเป็นของบุคคลที่มีตัวตนจริง และเคยร่วมเดินทางไปกับไททานิคเมื่อ 100 ปีก่อนมาแล้วจริงๆ (สวมบทเป็นผู้โดยสารกันเลยทีเดียว) ที่สำคัญ...ก่อนเข้า เราจะได้รับเครื่องบรรยาย หรือ Audio Guide เพื่อร่วมรับรู้เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ได้อย่างออกรสและเข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งเมื่อเข้ามาถึงห้องแรก เราจะพบกับโมเดลเรือ และเรื่องราวเบื้องต้นเกี่ยวกับไททานิค รวมทั้งสิ่งของต่างๆ ที่กู้ได้จากซากเรือ ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้บนเรือลำนี้
เมื่อเดินถัดเข้าไปจะพบกับทางเดินสำหรับชั้นโดยสารชั้น 1 ที่สร้างขึ้นมาจากแบบจริงของเรือ และข้าวของที่งมขึ้นมาได้ เป็นของผู้โดยสารชั้น1 มีทั้งสร้อยคอ เครื่องประดับ เหรียญเงิน เป็นอาทิ รวมทั้งจัดแสงดประวัติของเหล่าผู้โดยสารชั้น 1 ที่มีตัวตนจริง ไม่ได้เป็นเพียงตัวละครที่โลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์มเท่านั้น อาทิเช่น โธมัส แอนดรูว์ส ผู้ออกแบบเรือ, มากาเร็ต บราวน์ หญิงเหล็กผู้กล้าหาญ รวมทั้ง เจ บรูซ อิสเมย์ เจ้าของสายการเดินเรือ White Star เจ้าของเรือไททานิค
เมื่อถัดเข้าไปอีกชั้นก็จะพบกับโถงบันไดกลางซึ่งจุดนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่ผู้มาเยี่ยมชมไม่ควรพลาด เพราะบรรยากาศแรกที่เดินผ่านเข้ามานั้น ให้อารมณ์เหมือนกับเราได้เข้ามาสู่โถงกลางของเรือจริงๆ แม้แต่โดมโค้งด้านบนที่สลักลายไว้อย่างสวยงาม ทำให้เราอดนึกสภาพของไททานิคในยามที่งดงามที่สุดไม่ได้
โซนถัดเข้าไปด้านในจะเป็นโถงกว้างที่จัดแสดงสิ่งของมากมายหลายหลากจากซากเรือ ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำและห้องส่วนตัวของผู้โดยสาร โดยจะมีการจำลองห้องอาหาร รวมทั้งห้องนอนของผู้โดยสารชั้น 1 เอาไว้ และเมื่อเดินเข้าไปอีกห้องก็จะเป็นส่วนของห้องโดยสารชั้น 3 ซึ่ง 1 ห้องจะต้องพักอยู่ด้วยกัน 4 คน (เข้าใจอารมณ์ได้เลยว่าความต่างระดับมันเป็นยังไง)
มาถึงโซนใต้ท้องเรือ มีการจำลองเตาสำหรับถ่านหินเพื่อต้มน้ำให้เดือดไปใช้เป็นแรงขับเคลื่อนไอน้ำอีกที ที่นี่จะมีประตูกั้นน้ำ และมีถ่านหินของจริงที่กู้จากซากเรือมาจัดแสดงให้ชม
เมื่อถัดออกมาก็จะเป็นโซนดาดฟ้าเรือ ที่มีแสงดาวระยิบระยับและภูเขาน้ำแข็งที่มองเห็นจากระยะไกล ถ้าใครได้ยืนเกาะริมดาดฟ้าจะมีลมเย็นจัดพัดมาปะทะหน้าด้วย เหมือนกับอยู่บนเรือในคืนที่อากาศหนาวเหน็บของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือกันจริงๆและเมื่อหลังจากออกจากโซนดาดฟ้าเรือ ก็จะได้พบกับสาเหตุแห่งการอัปปางของเรือสำราญที่ยิ่งใหญ่ลำนี้ กับราตรีสุดท้ายแห่งไททานิค ที่เป็นการจำลองบรรยากาศของภูเขาน้ำแข็งที่เป็นน้ำแข็งจริงๆ มาให้ลองสัมผัส พร้อมด้วยข้าวของอีกบางส่วนที่เป็นอุปกรณ์เรือที่ใช้บนโซนดาดฟ้าเรือ ที่ผ่านการใช้งาน และได้สัมผัสกับอุบัติเหตุครั้งสำคัญไปพร้อมกับไททานิคในคืนวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 1912
เมื่อเรืออัปปางลง ห้องสุดท้ายจึงเป็นห้องที่บอกเล่าเรื่องราวการเก็บกู้ซากแห่งความหลัง ซึ่งโซนสุดท้าย (แต่ไม่ท้ายที่สุด) นี้ เมื่อเดินเข้ามาแล้ว ผู้ร่วมเดินทางจะต้องตื่นตาตื่นใจกับห้องจัดแสดงจุดจบของไททานิค ที่จัดแสดงในบรรยากาศใต้พื้นสมุทรแอตแลนติกเหนือที่ไททานิคนอนสงบนิ่งอยู่ มีจานชามช้อนส้อมตกเกลื่อนกลาด เรียงรายอยู่ใต้พื้นทรายก้นทะเล โดยทางเดินส่วนนี้จะเป็นกระจกให้เราเดินไปบนพื้นสมุทรที่มีข้าวของจมอยู่กระจัดกระจาย อย่างจานที่จมอยู่หลายใบนั้น จมลงในลักษณะที่เป็นระเบียบมากทำให้อดหวนระลึกถึงค่ำคืนแห่งความโกลาหลของหลายชีวิต และการรอคอยและยอมรับจุดจบของชีวิตอย่างสงบและกล้าหาญของอีกหลายๆ ชีวิตไม่ได้เช่นกัน
และเมื่อออกจากห้องสุดท้ายมา เราก็จะได้พบกับรายชื่อผู้โดยสารมากมายนับไม่ถ้วน ความสนุกจะอยู่ตรงที่ให้เรานำบัตรโดยสารที่ได้มาตอนแรกออกมาเทียบรายชื่อกับผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่บนกระดาน ดูว่าเรา "รอด" หรือ "ไม่รอด" (ซึ่งส่วนใหญ่ไม่น่าจะรอด)
ท้ายที่สุด เมื่อออกจากนิทรรศการมาแล้ว มั่นใจมาก ว่าใครที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของไททานิคจะต้องอิ่มเอมใจมิรู้คลายอย่างแน่นอน ราวกับได้ตีตั๋วเดินทางย้อนเวลาไปเป็นส่วนหนึ่งของความหลังอันยิ่งใหญ่ของมหานาวาลำนี้สำหรับนิทรรศการนี้จะจัดยาว ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 2 ก.ย. 55 นี้ โดยจะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเลี้ยวลดสู่อดีตกาลไปพร้อมการเดินทางแห่งประวัติศาสตร์ที่โลกจะต้องจดจำไปอีกนานแสนนานกันดีกว่า...