สมาคมชม อันธพาล (โคตรสปอยล์)
คมสัน - อดทนกว่าจะถึงวันพุธไม่ไหวแล้ว ยอมดูแพงๆ เลยละกัน เห็นคนคุยในเน็ตเยอะ ทั้งชมทั้งด่า อยากรู้มันยังไงกันแน่ เมื่อวานเลยจัดไป หนังอันธพาล รอบมิดไนท์
สกล - ข่อยว่ามันก็สมจริง ม่วนอยู่ แต่ 2499 อันธพาลครองเมือง ของอ้ายอุ๋ย นนทรีย์ ยังตราตรึงข่อยหลายกว่า
มานะศุกร์ - ไอ้กลใช้ศัพท์ตราตรึง หรูนะเนี่ย ข้าว่ามันก็แล้วแต่คนชอบนะ อย่างที่ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่าจะเล่าเรื่องราวไปในทิศทางไหน คือ อันธพาล คำนี้ดูกว้าง และหนังยังถ่ายทอดเรื่องราวที่กินพื้นที่กว้างด้วย พูดถึงการแย่งชิงความเป็นใหญ่ของแก๊งมาเฟีย ศักดิ์ศรี การหักหลัง ซึ่งไม่เจาะจงจำกัดเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในขอบเขตของพุทธศักราชอย่าง 2499 อันธพาลครองเมือง
สกล - บ่ฮู้ล่ะ ข่อยติดภาพแดง ไบเล่ ลุคพี่ติ๊ก "เป็นเมียเราต้องอดทน" วลีเด็ดเล้ย เท่ห์หลาย พอมาเบิ่งอันธพาล เหมือนโดนหลอก แดง ไบเล่ ตายตั้งแต่ต้นเรื่อง จ๊อดเป็นพระเอกเฉยเลย
คมสัน - เอ็งไปยึดติดการตลาดเกินไป จำเรื่อง เด็กหอ กับ รักแห่งสยาม ได้มั้ย กรณีเดียวกันแหละ โปรโมทหนังจนคนเข้าใจแนวหนังผิด สุดท้ายมันก็เป็นหนังดีที่ได้รางวัลเชียวนะ จริงๆ อันธพาลเขาเน้นเหตุการณ์หลังจากแดง ไบเล่ ตายแหละ ไปทำแบบเดิม มันจะน่าสนใจตรงไหนวะ
สกล - เออ ก็แม่นอยู่ แต่มันหนังแปลกๆ ตรงตัดสลับเหตุการณ์ไปมา แถมมีรูปแบบให้คนในยุคนั้นมาบอกเล่า มันเบิ่งสับสน บ่ปะติดปะต่อกัน
คมสัน - เอาอีกแล้ว เอ็งจะสับสนทำไม ดูไม่รู้เรื่องหรือไง
มานะศุกร์ - จริงๆ แล้ว มันไม่ได้ดูสับสนหรอก เพียงแต่หนังตัดต่อได้ไม่ลื่นไหล ขาดความต่อเนื่อง ดูแล้วอารมณ์สะดุดก็เท่านั้นเอง แต่ก็ขอชมที่กล้าจะนำเสนอการดำเนินเรื่องที่แปลกใหม่กับวงการหนังไทย วิธีเล่าเรื่องคือเอาอดีต หรืออนาคต(อันใกล้) มาตัดสลับกับเหตุการณ์ปัจจุบันของตัวละคร ในคราวเดียวกัน แม้จะทำได้ไม่ถึงขั้น แต่ก็อยู่ในเกณฑ์พอรับไหว ส่วนไอ้กลมันดูรู้เรื่องนะ ข้าคุยกับมันเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ก่อนแล้ว เพียงแต่มันใช้คำสื่อสารกับเอ็งไม่ถูก เอ็งนี่ก็ชอบไปดุไปว่ามัน
คมสัน - ตัดต่อไม่ลื่นเลยล่ะ ข้าสะดุดเป็นหมีแพนด้าตลอดเรื่อง ส่วนที่ทำเป็นรูปแบบสารคดี แหมทำเป็นว่าช่วยเพิ่มดีกรีความสมจริง น่าเชื่อถือ แต่ส่วนมากเหตุการณ์ที่ผู้ให้สัมภาษณ์อธิบายถึง มันไม่ได้มีส่วนในการดำเนินเรื่องเล้ยสักนิด ดูไม่มีความแข็งแรงของดราม่าเท่ากับที่เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์บรรยายไว้ใน 2499 ถึงมันจะดัดแปลงจากเรื่องจริงไปเยอะก็เถอะ
มานะศุกร์ - เอ็งพูดก็ถูก แต่ข้าขอเสริมหน่อย ที่จริงก็มีฉากหนึ่งนะที่คนให้สัมภาษณ์อธิบายถึงการมัดมือดวลมีด แม้จะไม่ให้ความรู้อะไรมากมาย แต่ก็พูดได้อารมณ์ไปเต็มๆ
สกล - อะไรวะ สะดุดเป็นหมีแพนด้า
มานะศุกร์ - ข้าอุตส่าห์ปล่อยผ่านไม่สนใจแล้วนะ เอ็งยังจะวกมาสงสัยอีก มันหมายถึง หมีแพนด้า เจ้า ช่วง ช่วง น่ะ นี่ข้าต้องมาอธิบายมุขกากๆ ด้วย อนาถแท้ เฮ้อออออออ
คมสัน - ไอ้กล เอ็งก็บอกไปสิ ว่ามาชงมุขให้ข้าตบไง ฮ่าๆๆ
สกล - เอ่อ ฉากไสที่พวกเจ้ามัก ข่อยว่าฉากตื่นเต้นสุดก็ตอน มัดมือดวลมีด วัดใจกันแบบสุดๆ นอกนั้นฉากบู๊หมดเรื่องธรรมดาหลาย และบางเถื่อก็บ่คือ
คมสัน - เพิ่งเห็นไอ้กลพูดโดนก็วันนี้แหละ ฉากแอ็คชั่นในเรื่อง โคตรไม่ตื่นเต้นเอาเสียเลย กำกับคิวบู๊ได้ไม่เนียน ตีกันบางครั้งไม่โดนก็มี แต่เจ็บซะ ยิ่งฉากดวลปืนของจ๊อดกับกำนันโต้ง โอ้ย ยิงกันเป็นละครไปได้ ใกล้แค่เนี๊ยะ ปืนอัดลมยังยิงโดนเลย อีกเรื่องที่หงุดหงิดไม่แพ้กัน คือ เคราของโอวตี่ รอยกาวจะชัดไปไหน เซ็ง ดีที่เสื้อผ้าและออกแบบฉากในเรื่องดูประณีตนะ ไม่งั้นอึดอัดแย่ เหมือนรู้ว่าเขาโกหก แต่ก็ยังยอมเชื่อคำโกหกนั้น
มานะศุกร์ - คงอัดอั้นมานานเนอะ บ่นซะยาวเฟื้อย ข้าเห็นด้วยกับพวกเอ็ง เอาน่า ถึงซีนบู๊จะง่อย แต่การแสดงจัดได้ว่าเนียนมากนะ โดยเฉพาะ พี่น้อย วงพรู ในบท จ๊อด เฮาดี้ ก็ถือนโยบายรัฐบาลว่า "เอาอยู่" ทั้งเรื่อง ทุกครั้งที่พี่น้อยเข้าฉากไหน เหมือนเราถูกสะกด ต้องหยุดดูไม่ละสายตา บท โอวตี่ (แฟรงค์ เดอะสตาร์) รายนี้ก็แสดงได้ร้ายสุดติ่ง ทำเอาตัวร้ายปุ๊ ระเบิดขวด กับ ดำ เอสโซ่ ในเรื่องเป็นแค่เด็กอนุบาลไปเลย อีกคนที่ลืมไม่ได้ น้าหำ (บุญส่ง นาคภู่) แกเล่นซะเราสนิทใจ เหมือนเป็นญาติที่รู้จักมานานก็ไม่ปาน เป็นธรรมชาติ ส่วนคนอื่นๆ ในเรื่องการแสดงก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ผ่าน
คมสัน - อืม โดยเฉพาะฉากอาบน้ำนะ น้าหำน้อยแกเล่นแบบปอกเปลือก เปลือยการแสดงจริงๆ สปิริตมั่กๆ
สกล - ข่อยว่าเจ้าเว่าออกนอกเรื่องแล้ว
มานะศุกร์ - ไอ้คมมันก็ลงใต้สะดือตลอดนั่นแหละ ถึงหนังจะมีภาพติดเรทเยอะพอควร แต่แง่คิดที่สอนถึงการให้ความเคารพนับถือผู้ใหญ่ เรื่องศักดิ์ศรี ความกล้าหาญ อย่างที่หนังพูดไว้ อันธพาล ไม่ใช่แค่นักเลงหัวไม้ แต่มันคือคำว่า ครอบครัว อย่าได้ไปตีความหมายแบบยุคปัจจุบันที่วัยรุ่นตีกัน ไม่แย่งคู่รัก ก็เขม่นกันแบบไร้สาระ ไร้สาเหตุ
คมสัน - มาๆ ลงคะแนนความเห็นต่อหนังกันดีกว่า ข้าจะได้ไปนั่งทำงานต่อ เปรียบเทียบกันไปเลยระหว่าง อันธพาล กับ 2499 อันธพาลครองเมือง ใครแน่กว่ากัน
มานะศุกร์ - 2499 อันธพาลครองเมือง เท่ห์ เก๋ ดูดี ทั้งโปรดักชั่น และหน้าตานักแสดงหลัก วลีเด็ดเต็มไปหมด แต่จับต้องยาก ส่วน อันธพาล เถื่อน ดิบ สมจริง เข้มข้น การแสดงแจ่ม พยายามถ่ายทอดความเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่ดูจับต้องได้ อบ่างช็อตที่เห็นภาพชัดๆ เช่น ให้จ๊อดกลัวจิ้งจก หรือเหยียบตะปู ทำให้เราไม่เห็นเขาเป็นฮีโร่หรือเก่งเหนือมนุษย์เกินไป ผ่านบุคลิกของคนขี้เกรงใจ รักครอบครัว ซึ่งในความกล้า เขาก็กลัวเป็น เจ็บเป็นเหมือนกัน ให้ 8.5/10
สกล - ข่อยว่า 2499 ยังตราตรึง ชนะใจกว่า ให้ อันธพาล 6/10
คมสัน - เอ็งจะตราตรึงอีกนานมั้ย หรูจรี๊งงงง ส่วนข้าให้ 7/10
บทวิพากษ์โดย
สมาคมชมหนัง