วิจารณ์หนัง วงจรปิด
คุณเป็นคนที่ กลัวผี หรือเปล่า ถ้าคุณเป็นคนที่กลัวผี และเจอผีข้างทางหรือเจอผีในที่โล่งๆ ก็พอจะหนีหรือเอาตัวรอดได้ไม่ยากนัก แต่ถ้าคุณกลัวผี และดันไปเจอผีในสถานที่แคบๆ ห้องปิดตาย อย่างในลิฟต์ อะไรประมาณนี้ คุณจะทำอย่างไรดี ครับ วันนี้เราจะมาคุยถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่ของผู้กำกับ ที่จะเรียกว่า กำกับภาพยนตร์ผีมากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ครับ เขาคนนั้นคือ คุณยุทธเลิศ สิปปภาค หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม ต้อม ยุทธเลิศ กับภาพยนตร์ผีล่าสุดของเขา วงจรปิด
แม้ว่าคุณต้อม ยุทธเลิศ จะโด่งดังมาจากการกำกับภาพยนตร์ผี อย่างเรื่อง บุปผาราตรี มาแล้วก็ตาม แต่ทว่าภาพยนตร์เรื่องต่อๆ มาของคุณต้อมนั้นกลับไม่สามารถเรียกคนเข้าไปดูได้ จึงทำให้รายได้ของภาพยนตร์เรื่องหลังๆ ไม่ว่าจะกี่เรื่องๆ ก็ดูทำท่าจะต่ำลงๆ ไปทุกที
แต่กระนั้นก็ยังมีผลงานที่แปะชื่อ คุณต้อม ออกมาอยู่เรื่อยๆ เหมือนเป็นนัยว่า ภาพยนตร์ของคุณต้อมทุกเรื่องนั้น แม้ว่าคนดูจะรู้สึกว่ารายได้ต่ำลงๆ ก็ตาม แต่ความเป็นจริงแล้ว ผลงานของคุณต้อม ก็ยังเป็นที่ยอมรับและไม่ได้ทำให้ นายทุนต้องขาดทุนแต่อย่างใด อาจจะกำไรน้อยลงก็แค่นั้นเอง เราจึงยังเห็นผลงานของคุณต้อมออกมาอยู่อย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่นภาพยนตร์ วงจรปิด เรื่องนี้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่คุณต้อมทำให้กับค่ายพระนครฟิลม์
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง วงจรปิด นั้นจะประกอบไปด้วย หนังสั้นที่เป็นหนังผี ทั้งหมด 3 เรื่อง คือเรื่อง มรดกผี เรื่องนี้จะเป็นหนังเงียบ ฉายอยู่ประมาณ 25 นาที โทนของเรื่องจะเป็นหนังแบบลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน ในเรื่องที่ 2 คือเรื่อง สวรรค์ชั้น 11 จะเป็นหนังผีดราม่าส่วนใหญ่ และเรื่องสุดท้าย นรกชั้น 8 จะเป็นหนังผีออกแนวตลกๆ
ซึ่งทั้งสามตอนสามเรื่อง จะอารมณ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ทั้งสามเรื่องก็มีจุดเชื่อโยงกันอยู่ ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นจะขอเล่าให้ฟังโดยคร่าวๆ สักหน่อยก็แล้วกัน
เรื่องแรก มรดกผี : สำหรับเรื่องนี้ ผมขอข้ามไปก็แล้วกัน เพราะเป็นการกำกับของคุณ ทิวา เมยไธสง ผู้กำกับที่เคยกำกับเรื่อง เชือดก่อนชิม มาเป็นผู้กำกับและดูแล และเรื่องนี้เป็นหนังใบ้ ต้องมีสมาธิในการดูอย่างมาก ไม่อย่างนั้นจะเข้าใจเรื่องยากสักหน่อย แต่ไม่เป็นไร จะย่อเรื่องสั้นๆให้อ่านก็แล้วกัน จันทร์ (เบลล์ ณัฎฐา) กับ จ้าว (โบว์ ณัฐธยาน์) สองสาวฝาแฝดตัวติดกันได้รับการติดต่อให้เป็นผู้รับสืบทอดมรดกของคุณปู่ แต่มีข้อแม้ว่าทั้งสองจะต้องอยู่บ้านหลังนี้ให้ครบ 3 วัน โดยที่ในบ้านยังมีศพของคุณปู่ตั้งอยู่กลางบ้าน ได้พบกับ ปรีชา (โจ๊ก อัครินทร์) นายตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบที่มาสืบคดีการตายของคุณปู่ และพฤติกรรมแปลกๆของคนในบ้านอย่าง นายใบ้ ป้าสา ทนายประจำตัวคุณปู่ และเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นนับแต่คืนแรกและขมวดปมไปสู่จุดสยองในคืนส่งท้าย
เรื่องสอง สวรรค์ชั้น 11 : เรื่องนี้บอกจริงๆว่า เสียงดนตรีเร้าอย่างมาก ตัวหนังเรื่องนี้ถ้าไม่มีดนตรีประกอบแบบในหนังนี้ จะลดความน่ากลัวหรือความหลอนลงไปกว่าครึ่งทีเดียว ช่วงกลางเรื่อง ตอนผีหลอก จิ๊ก (จอย พัชรี) หนักๆ ชอบตัด ฉากมืด ถี่ยิบเลยดูแล้วเหมือนหนังจอดับ มันไม่ได้ทำให้น่ากลัวแต่ประการใด แต่ผมว่า มันทำให้น่ารำคาญมากกว่า ส่วนผีในร้านสะดวกซื้อ เห็นแล้ว ให้นึกถึงเรื่อง 407 ที่มีผีแอร์ฮอสเตส แค่แต่งตัวตามชุดฟอร์มของทางร้าน และทาหน้าดำๆ ก็เป็นผีได้แล้ว ส่วนเนื้อเรื่องก็ยังมีบางจุดที่ดูแล้ว ยังต้องขมวดคิ้วอยู่บ้าง และคิดว่า ทำไม...ทำไม...ทำไม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็คิดว่า ตอนที่สองนี้แหละเป็นตอนที่สนุกที่สุดในบรรดา 3 ตอนของเรื่องนี้ ชอบประโยคตอนท้ายที่ว่า ความเจ็บปวดไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่า เราตายแล้วหรือยังไม่ตาย
เรื่องที่สาม นรกชั้น 8 : สำหรับในตอนนี้ ผู้กำกับพยายามสร้างให้ ฮา แต่ผมว่าดีกรีความฮาของตอนนี้ ยังไม่เต็มที่นัก หนังพยายามยัดเยียดฮามากกว่า ถ้าเที่ยบเรื่องนี้กับเรื่อง คนกลาง และ คนกอง ใน 4 แพร่ง กับ 5 แพร่ง ด้วยแล้ว ยิ่งสู้ไม่ได้ใหญ่ ในตอนนี้ผีมีเล่น จ๊ะเอ๋ หน้าลิฟท์กับคนดูด้วย ดูแล้วอยากจะร้องไห้ว่า คิดไปได้ไง และเพิ่งจะรู้ว่าผีสมัยใหม่ เขาไม่นิยมหลอกแบบแลบลิ้นปลิ้นตากันแล้ว เขาใช้มีดไล่แทงกัน จึกๆๆ ดูแล้วเหมือน ผีโรคจิต มากกว่า ตอนแรกเห็นบอกว่าเรื่องนี้ออกแนวตลก ก็คิดว่า เป็นพวกโรคจิตที่ชอบฆ่าคนในลิฟท์ แต่ที่ไหนได้ เป็นผีจริงๆ อุ๊บ ไม่เอาแล้วสปอยมากไป เดี๋ยวจะดูไม่สนุกเสีย
สรุปแล้ว วงจรปิด เป็นหนังผีที่พอจะทำให้คนที่กลัวผี กลัวและหลอนได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังอารมณ์ไม่ถึงขั้น บุปผาราตรี(ภาคแรก) ที่คุณต้อมเคยสร้างเอาไว้อย่างดี สำหรับคนที่กลัวผี หรือแบบกึ่งๆ กล้าๆ กลัวๆ ผมแนะนำให้ไปดูได้เลย จะสนุก แต่ถ้าคนที่ไม่กลัวผีเอาเสียเลย แนะนำว่าอย่าไปดูครับ เพราะนอกจากจะเสียอารมณ์กับผีแคชเชียร์ และ ผีโรคจิต แล้วยังจะเสียดายเงินอีกต่างหาก...
บทวิจารณ์โดย ทชากร
tck05@sanook.com