Lost in Thailand หนังที่ทำให้ชาวจีนแห่เที่ยวไทยกว่า 3ล้านคน
รู้ยัง! หนังเรื่องอะไร ดึงคนจีนแห่เที่ยวไทยทะลัก3ล้านคน ธุรกิจเหนือเฮรับเป๋าตุง (ชมคลิปหนังตัวอย่าง)
จากกรณีที่มีข่าวใหญ่สำหรับหนังฟอร์มเล็กจากจีนแผ่นดินใหญ่ เรื่อง ลอสต์ อิน ไทยแลนด์ (Lost in Thailand) เป็นหนังตลกแนวโรด มูฟวี่ (road movie) ที่มาถ่ายทำในเมืองไทย โดยใช้จังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ถ่ายทำหลัก ทำสถิติหนังที่เปิดตัวสูงสุดประจำเดือนธันวาคม และยังเป็นหนังที่ทำรายได้หนึ่งวันสูงสุดในประเทศ หลังจากเปิดตัวมา 8 วัน หนังทำรายได้ในประเทศไปถึง 450 ล้านหยวน หรือ 2,250 ล้านบาท จากทุนสร้างไม่ถึง 30 ล้านหยวน หรือ 150 ล้านบาท
และคาดการณ์ว่าหนังเรื่องนี้อาจสร้างรายได้ถึง 1 พันล้านหยวน หรือ 4,880 ล้านบาท เป็นผลดีต่อภาคการท่องเที่ยว ทำให้คนจีนรู้จักและสนใจมาเที่ยวไทย โดยเฉพาะพื้นที่เชียงใหม่
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม นายเกษียร วัฒนเชาวน์พิสุทธิ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน หรือ ทีซีทีเอ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีต่อการท่องเที่ยวของไทยอยู่แล้ว หากมีข่าวดีปรากฏสู่สาธารณชน และจีนถือเป็นประเทศเป้าหมายหลักของภาคการท่องเที่ยว เพราะจำนวนประชากรจีนสูงมาก
โดยมองว่าจากข่าวดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนสนใจไปเที่ยวทางภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ดังกล่าวมากขึ้น เป็นการกระจายพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว เพราะปกติคนจีนมักชอบมากรุงเทพฯ หรือเที่ยวแถบชายฝั่งทะลเป็นหลัก
"หลังจากนี้บริษัททัวร์หลายๆ แห่งจะเปิดเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวมากขึ้น โดยอาจใช้เชียงใหม่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก แนะนำแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรมที่สวยสดงดงาม แล้วอาจต่อไปทางเชียงราย แม่ฮ่องสอน หรือไม่ก็เที่ยวแถบจังหวัดลำปาง พะเยา แพร่ น่าน ซึ่งยังมีกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่น
แหล่งท่องเที่ยวที่ยังสมบูรณ์ปรากฏให้เห็นอยู่ โดยมองว่ากระแสภาพยนตร์ครั้งนี้น่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจีนได้มากขึ้น เพราะปัจจุบันสัดส่วนคนจีนที่มาเที่ยวไทย 2.5 ล้านคน เที่ยวอยู่กรุงเทพฯและพัทยากว่า 60% ภูเก็ตเกือบ 30% ที่เหลือเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงเชียงใหม่ที่คิดว่ามีคนจีนไปเที่ยวไม่เกิน 7% ของจำนวนดังกล่าว จึงมองว่ามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก" นายเกษียรกล่าว
นายเกษียรกล่าวว่า ปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน ถือว่าสูงมากไม่เคยมีนักท่องเที่ยวจากประเทศไหนเข้ามามากเท่านี้ จึงมองว่าภาครัฐควรเร่งประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ รองรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่า แหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างพัทยา ภูเก็ต ตอนนี้ค่อนข้างเต็ม แต่หากประชาสัมพันธ์ให้ไปเที่ยวที่อื่น เช่น เชียงใหม่ก็จะดีมาก เพราะยังมีศักยภาพรองรับได้อีกมาก เพียงแต่ต้องสร้างความพร้อมบุคลากรที่มีความสามารถด้านภาษาจีนไว้ให้เพียงพอ
นายพนม มีสุข ประธานสหกรณ์ท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์เชียงใหม่ในฐานะผู้บริหารเชียงใหม่ แอดเวนเจอร์ทัวร์ กล่าวว่า กระแสหนังจีน "ลอสต์ อิน ไทยแลนด์" มีส่วนกระตุ้นท่องเที่ยว แต่ปัจจัยหลักนักท่องเที่ยวจีน อยากเดินทางมาเที่ยวและพักผ่อนที่เชียงใหม่อยู่แล้ว เนื่องจากอยู่ใกล้มณฑลคุนหมิงที่มีเที่ยวบินตรงสู่เชียงใหม่ ปีนี้นักท่องเที่ยวจีนคึกคักเป็นพิเศษ คาดมี 50,000 คน หรือ 50% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ทำให้โรงแรมระดับ 3-5 ดาว ช่วงปีใหม่ถูกจองเต็มหมด
"นักท่องเที่ยวจีนนิยมเที่ยววัดวาอาราม เช่น วัดพระธาตุดอยสุเทพวรวิหาร วัดเจ็ดยอด วัดเจดีย์หลวง บางส่วนไปเที่ยวเวียงกุมกาม นครใต้พิภพ อ.สารภี และไปเที่ยวปางช้าง ชมการแสดง ขี่ช้างล่องแพลำน้ำแม่แตง เที่ยวฟาร์มกล้วยไม้ ฟาร์มงู สวนเสือ อ.แม่ริม และช็อปปิ้งถนนคนเดินเสาร์-อาทิตย์ ไนท์บาซาร์ ถ.ช้างคลาน บ้านบ่อสร้าง อ.สันกำแพง และบ้านถวาย อ.หางดง เฉลี่ยใช้จ่าย 3,500-4,000 บาท/คน/วัน คาดทำรายได้ 2,000-3,000 ล้านบาท/ปี" นายพนมกล่าว
นายพนมกล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนไม่นิยมท่องเที่ยวผจญภัยหรือเดินป่า ไม่เหมือนอเมริกาและยุโรปที่นิยมท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ แต่ชอบขี่จักรยานเขตตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อชมโบราณสถานรอบคูเมือง และชุมชนเก่า ย่านวัวลาย วัดเกตุ เพื่อชมวิถีชีวิตชุมชน หากอยากเพิ่มนักท่องเที่ยวจีน ควรเพิ่มเที่ยวบินปักกิ่ง-เชียงใหม่ และเซี่ยงไฮ้-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง หากบินตรงสู่เชียงใหม่ได้จะเพิ่มนักท่องเที่ยวจีน 1 เท่าตัว
นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่ตะมาน อ.แม่แตง กล่าวว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวจีนคึกคักเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่มากับกรุ๊ปทัวร์ ชมการแสดงช้าง นั่งเกวียนล้อ และขี่ช้างล่องแพลำน้ำแม่แตง ใช้เวลา 3 ชั่วโมง มีช้างบริการ 50 เชือก ค่าบริการ 1,500 บาท รวมอาหาร ช่วงปีใหม่คาดนักท่องเที่ยวจีนเพิ่ม 20%
นายวสันต์ เตชะกัน นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจสินค้าหัตถกรรมบ้านถวาย อ.หางดง กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนนิยมซื้อของฝากของที่ระลึกที่บ้านถวาย อาทิ ไม้แกะสลัก เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ช่วงปีใหม่จัดงานย่านการค้าพาณิชย์บ้านถวาย คาดมีนักท่องเที่ยว 50,000 คน ทำรายได้ 30 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากข้อมูลบ็อกซ์ออฟฟิศ ประเทศจีน รายงานว่า นับจากวันแรกที่ภาพยนตร์เรื่อง "Lost in Thailand" เข้าฉายในวันที่ 12 ธันวาคม จนถึงวันที่ 23 ธันวาคม ที่มีการรายงานครั้งล่าสุด ปรากฏว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ไปแล้ว 107 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3,300 ล้านบาท ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาพบว่าแค่ 5 วันแรกที่ฉายทำรายได้ไป 39 ล้านหยวน หรือราว 195 ล้านบาท
นอกจากความโด่งดังของภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่คนจีนอยากมาเที่ยวเป็นจำนวนมากแล้ว ยังส่งผลให้ "โรส ชาลิสา" สาวประเภทสองของไทย ที่รับบทเป็นสาวประเภทสองที่ 2 ดารานำในเรื่องได้พบในลิฟต์ได้รับการพูดถึงอย่างมาก โดยสำนักข่าวซินหัว http://www.xinhuanet.com มีการรวมรูปของเธอไว้ให้ดูใน Photos of pretty shemale in Lost In Thailand ด้วย
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ