คู่กรรม
คู่กรรม
จากนิยายรักที่ครองใจคนไทยทุกสมัย โดย "ทมยันตี"
ภาพยนตร์ โดย "เรียว-กิตติกร เลียวศิริกุล"
"ณเดชน์ คูกิมิยะ" เป็น "โกโบริ"
"อรเณศ ดีคาบาเลส" เป็น "อังศุมาลิน"
ภาพแรกอันงดงาม
"คุณมีเหตุผลของคุณ ผมมีหัวใจของผม"
ฝ่ายหนึ่ง...มากไปด้วยทิฐิและความเกลียดชัง
อีกฝ่ายหนึ่ง...ในความเกลียด ในความชิงชัง เขาได้ใช้ความรักเป็นเครื่องหักล้างตลอดมา และทะนงตัวพอที่จะรับความผิดหวังแต่เพียงเงียบๆ
"ชั่วชีวิตของคนเรา หากจะเลือกรักใครได้สักคน ด้วยหัวใจทั้งหมด ผมก็ได้เลือกแล้ว และถ้าผมจะต้องได้รับความทรมานเพราะรักใครสักคนหนึ่ง ผมก็ยินดี ผมรักคุณ...ถึงยังไงๆ ก็ยังรักอยู่นั่นเอง รักทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกับผมเลย"
กว่าจะรู้ว่าชีวิตของคนเรานั้น ไม่ได้ยืดยาวนักเลย
กว่าจะเข้าใจว่าเวลาสำหรับความรัก มักผ่านไปเร็วเสมอ
และดวงไฟแห่งรัก แท้จริงแล้วอบอุ่นในหัวใจเหลือเกิน
เวลาก็เหลือเพียงน้อยนิด ให้เราได้กระซิบความรู้สึกที่อยากเอ่ยมานาน...
"อนาตะ โอ อาอิชิ มาสุ...ผมรักคุณเสมอ"
จากบทประพันธ์ คู่กรรม โดย ทมยันตี
คงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวความรักสักเรื่องผ่านตัวอักษรให้ออกมางดงาม และตราตรึงเข้าไปในใจของผู้อ่าน เฉกเช่นเดียวกับสิ่งที่ ทมยันตี นักเขียนเจ้าของผลงานที่ครองใจแฟนๆอย่างมากมาย และ ยาวนานได้ถ่ายทอดไว้ในบทประพันธ์เรื่อง คู่กรรม ที่ได้ฉายภาพความรักอันตราตรึงของหนุ่มสาวที่ต่างเกิดมาเพื่อกันและกัน แต่กลับต้องห่างเหินกันเพียงเพราะสงคราม ซึ่งนั่นคือเสน่ห์ของการร้อยเรียงตัวอักษรให้เกิดสุนทรียะของเรื่องเล่า
เมื่อมีการนำตัวอักษรเหล่านี้มาตีความและสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นภาพ ตามศาสตร์ศิลปะของภาพเคลื่อนไหว ก็จำเป็นต้องใช้สุนทรียะของภาพอีกแบบ คงจะได้เห็นกันผ่าน คู่กรรม ที่ถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ละครเวที และภาพยนตร์มานับครั้งไม่ถ้วน
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการตีความที่เหมือนหรือแตกต่างกันออกไปตามทัศนะของผู้กำกับแต่ละคน และที่สำคัญทุกครั้ง ก็เป็นการทำให้บทประพันธ์เรื่องนี้มีแต่จะทรงคุณค่ายิ่งขึ้นไป
ตัวอย่างภาพยนตร์ "คู่กรรม" ฉบับสมบูรณ์
MV อังศุมาลิน (คู่กรรม) - ณเดชน์
ฮิเดโกะ เพลงประกอบหนัง "คู่กรรม"
รักในความทรงจำ
ครั้งหนึ่ง...เหตุการณ์ต่อไปนี้ได้เคยเกิดขึ้นจริงๆ
ในปี พ.ศ. 2485 สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เริ่มต้นขึ้น กองทัพญี่ปุ่นได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อใช้เป็นฐานทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในเขตพระนครของกรุงเทพฯ เนื่องจากประเทศไทยได้เซ็นสัญญาร่วมรบกับกองทัพญี่ปุ่นในฐานะพันธมิตร และประชาชนทุกคนต้องให้ความร่วมมือกับกองทัพญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ หากผู้ใดฝ่าฝืนจำต้องได้รับโทษ ซึ่งแน่นอนว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับกฎหมายข้อบังคับของรัฐบาล
ก่อนที่ในปี พ.ศ. 2508 นักเขียนนามว่า ทมยันตี ได้เดินทางไปเยือน สุสานทหารสัมพันธมิตร ดอนรัก ตั้งอยู่ริมถนนแสงชูโต จังหวัดกาญจนบุรี สุสานแห่งนี้เป็นสุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ สุสานแห่งนี้บรรจุศพทหารเชลยศึกถึง 6,982 หลุม บรรยากาศความเงียบสงบบริเวณรอบๆ สู่สานได้ทำให้ทมยันตีจินตนาการไปถึงภาพความโหดร้ายของสงคราม ที่นำความทุกข์ใจมาสู่เหล่าทหาร ให้ต้องพลัดพรากจากบ้านเกิดเพื่อมาทำหน้าที่ในสนามรบ กระทั่งตอนที่สิ้นลมหายใจ ร่างกายของพวกเขาก็ยังไม่ได้กลับบ้านเลย
ประกอบกับทมยันตีได้เห็นโปสการ์ดใบหนึ่งที่ผูกติดมากับช่อดอกไม้ ซึ่งวางอยู่บนหลุมฝังศพและบันทึกบทกวีบทหนึ่งไว้ มีใจความว่า
"เธอคือ...แสงสว่างแห่งชีวิตที่อุบัติขึ้น
และบัดนี้ แสงสว่างนั้นได้ดับลงแล้ว
ฝากรอบจูบและหยดน้ำตา มากับกลีบกุหลาบทุกกลีบ"
ทมยันตีจึงได้นำแรงบันดาลใจนี้ มาเนรมิตเรื่องราวความรักให้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว ก่อเกิดเป็นนวนิยายเรื่องยาวที่ชื่อว่า คู่กรรม โดยมีเนื้อหาใจความสำคัญว่า เมื่อเกิด 'ความรัก' ขึ้นท่ามกลางสงคราม ระหว่างหญิงสาวชาวไทยนามว่า อังศุมาลิน และทหารญี่ปุ่นนามว่า โกโบริ ความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติและเหตุผลทางการเมือง ก็อาจผันเปลี่ยนเป็น 'รักต้องห้าม' ไปได้
ผลงานวรรณกรรมเรื่อง คู่กรรม ได้รับการตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารศรีสยาม โดยได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้อ่าน เนื้อหาว่าด้วยความรักต้องห้ามระหว่างอังศุมาลินและโกโบริ อีกทั้งยังมีฉากหลังเป็นภาพสงครามที่อิงมาจากประวัติศาสตร์จริงๆ จึงไม่แปลกที่จะชวนให้ผู้อ่านติดตามอย่างเหนียวแน่นตลอดเวลาที่พิมพ์ในนิตยสาร ก่อนที่ในปีพ.ศ. 2512 คู่กรรม ได้รับการนำมารวมเล่มเป็นครั้งแรกและได้รับความนิยมอย่างสูงเช่นกัน จนทมยันตีได้ประพันธ์ คู่กรรม 2 ซึ่งเป็นภาคต่อ ว่าด้วยเรื่องราวของลูกชายอังศุมาลินที่เติบโตขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ โดย คู่กรรม ทั้งสองภาคได้รับการตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ครั้งหนึ่งบทประพันธ์ คู่กรรม ก็ได้รับการตีความ เพื่อนำมาเล่าใหม่ในศาสตร์ภาพยนตร์ถึง 3 ครั้ง ในยุคสมัยที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละครั้งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง
และในปี พ.ศ. 2556 เริ่มมีกระแสข่าวเป็นที่จับตามองจากทุกๆ สื่อ หลังจากมีการประกาศจากค่าย M๓๙ ว่าจะมีการสร้าง คู่กรรม ใหม่อีกครั้ง โดยมีพระเอกละครที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุด ณ เวลานี้อย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ มารับบทเป็น โกโบริ สมทบกับนางเอกใหม่ อรเณศ ดีคาบาเลส สาวน้อยวัย 18 ปี เจ้าของแววตาใสซื่อ ที่มีดีกรีเป็นถึงนักกีฬาเหรียญทองแบดมินตันเยาวชนแห่งชาติ มารับบทเป็น อังศุมาลิน พร้อมด้วยการตีความจากบทประพันธ์ครั้งใหม่จากผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์ในการกำกับเฉพาะตัวอย่าง กิตติกร เลียวศิริกุล ส่งผลให้การสร้าง คู่กรรม ครั้งใหม่นี้อาจสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ให้ผู้ชมจดจำภาพตำนานรักข้ามชาติในรูปแบบที่ไม่เหมือนเดิม
หนัง : คู่กรรม
ประเภทหนัง : Drama, Romance
จัดจำหน่ายโดย : M-Thirtynine
ผู้กำกับ : กิตติกร เลียวศิริกุล
บทประพันธ์ : ทมยันตี
วันที่เข้าฉาย : 4 เมษายน 2556
นักแสดงนำ : ณเดชน์ คูกิมิยะ, อรเณศ ดีคาบาเลส