เหตุใด "ไอรอนแมน 3" ถึงทำรายได้ถล่มทลาย!?!!
เพราะเหตุใด "ไอรอนแมน 3" เมื่ออยู่ในมือของ "วอลท์ ดิสนีย์" ถึงทำรายได้ถล่มทลาย?
สไปเดอร์แมน, เอ็กซ์-เมน, ไอรอนแมน, เดอะ ฮัลค์, ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า, กัปตันอเมริกา ไปจนถึง แฟนทาสติก โฟร์ นี่คือคาแรกเตอร์ซุปเปอร์ฮีโร่ ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันดีผ่านภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทางฝั่งฮอลลีวู๊ด โดยเฉพาะภาพยนตร์รวมดาวซุเปอร์ฮีโร่เรื่อง Marvel′s The Avengers ที่เข้าฉายเมื่อปีที่แล้ว สามารถทำรายได้ทั่วโลกประมาณ 45,000 ล้านบาท ซึ่งทำสถิติเป็น ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลกตลอดกาลเป็นอันดับสามรองจาก Avatar และ Titanic
สำหรับซุปเปอร์ฮีโร่คนแรกของค่ายมาร์เวล ที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนังก็คือ กัปตันอเมริกา ในปี ค.ศ.1944 หลังจากนั้นมา ซุปเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวลเริ่มเป็นที่รู้จักสำหรับคอหนังมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น ภาพยนตร์ภาคต่อฟอร์มยักษ์อย่าง สไปเดอร์แมน หรือเอ็กซ์เมน
และจุดเปลี่ยนที่สำคัญของค่ายมาร์เวล เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2009 ซึ่งวอลท์ดิสนีย์ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาร์เวลด้วยราคาสูงถึง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 120,000 ล้านบาท
โดยหลังจากการที่วอลท์ดิสนีย์ได้ชิมลาง ด้วยการจัดจำหน่าย The Avengers เมื่อปีที่แล้วแล้วประสบความสำเร็จในเชิงรายได้ ต่อด้วย Ironman ภาค 3 ที่กำลังเข้าฉายในขณะนี้ ก็กระแสแรงไม่แพ้กัน ทำให้เห็นว่าซุปเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวล คือขุมทรัพย์ที่มีค่ามหาศาล
ซึ่ง ดุจดาว พรหโมบล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย ได้เห็นความเห็นว่า ปัจจัยความสำเร็จมาจากการที่ฐานผู้ชมหนังซุปเปอร์ฮีโร่กว้างขึ้น เมื่ออยู่ภายใต้แบรนด์ของดิสนีย์ ดังความเห็นในคลิปข้างต้น
ต้องรอดูกันต่อไปว่า ในอนาคต ซุปเปอร์ฮีโร่ของค่ายมาร์เวลจะช่วงชิงพื้นที่ตลาดจากคู่แข่งสำคัญนั่นคือ ฮีโร่จากค่าย ดีซี คู่แข่ง ซึ่งมีทั้ง ซูเปอร์แมน และ แบทแมน ได้มากแค่ไหน ทีมข่าวบันเทิงมติชนทีวี รายงาน