'RED 2' ใครว่าเรารีไทร์?
ด้วยตัวเลขรายได้ระดับ 90 ล้านดอลลาร์ในบ้าน และอีก 108 ล้านดอลลาร์ในตลาดต่างประเทศ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หนังแอ็คชั่นซึ่งดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนสามตอนจบของ วอร์เรน เอลลิส (เรื่อง) และ คัลลี่ แฮมเนอร์ (วาด) อย่าง "Red" ได้กลับมาระเบิดความมันชนิดลืมแก่กันอีกหนใน "Red 2"
ซึ่งถึงจะเปลี่ยนผู้กำกับจาก โรเบิร์ต ชเวนท์เก้อ (ที่เลือกไปทำ R.I.P.D.) มาเป็น ดีน พาริซอท (Galaxy Quest) แต่ จอน และ อีริช ฮูเบอร์ ยังกลับมาเขียนบทให้เหมือนเดิม หนำซ้ำทีมนักแสดงจากภาคแรกทั้ง บรูซ วิลลิส, จอห์น มัลโควิช, เฮเลน มีร์เรน, แมรี่-หลุยส์ พาร์คเกอร์ และ ไบรอัน ค็อกซ์ ก็รีเทิร์น
พร้อมหน้าพร้อมตา แถมยังได้นักแสดงดีกรีออสการ์อย่าง แคธรีน ซีต้า-โจนส์ กับ แอนโธนี่ ฮอปกินส์ มาร่วมวงเพิ่มอีกต่างหาก
โดยเรื่องราวในภาคนี้ แฟรงค์ โมเซส (วิลลิส) อดีตสุดยอดซีไอเอที่สาบานกับทุกคนแล้วว่าจะวางมือ แต่ก็มีเหตุให้กลับไปร่วมทีมกับเพื่อนเก่าอีกครั้งจนได้ ในภารกิจตามหาตัวจุดนิวเคลียร์แบบพกพา ที่กองทัพต่างชาติ ผู้ก่อการร้าย หรือแม้กระทั่งคนในรัฐบาลต้องการได้มาครอบครองเพื่อแสวงหาประโยชน์จากมัน งานนี้แฟรงค์และทีมของเขาจึงต้องเดินทางไปกรุงปารีส, ลอนดอน และมอสโก พร้อมงัดเอาความสามารถพิเศษกับประสบการณ์สุดเก๋าออกมาช่วยโลก
“ผมคิดว่า Red คือหนังแอ็คชั่นผสมหนังโร้ดทริป ที่เราจะได้เห็นตัวละครของบรูซ วิลลิส ออกเดินทางตามหาเพื่อนเก่าของเขาทั่วทั้งอเมริกา และเอาชีวิตรอดจากกลุ่มนักฆ่าไปด้วย ส่วน Red 2 เรายังต้องการทำมันออกมาในรูปแบบเดียวกัน แต่ให้เขาและเพื่อน ๆ ออกเดินทางไปไกลกว่าเดิม แล้วทำให้สถานการณ์ที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ามีความอันตรายมากขึ้น ดังนั้นตัวหนังเลยทวีความมันความตื่นเต้นขึ้นเป็นสองเท่าเช่นกัน”
ลอเรนโซ ดี โบนาเวนทูรา โปรดิวเซอร์ของหนังกล่าว
ส่วนวิลลิสปิดท้ายด้วยการพูดถึงตัวละครของเขาใน Red 2 ว่า “ผมคิดว่าเรื่องราวในภาคนี้น่าสนใจนะ เพราะแฟรงค์ โมเซส ไม่ใช่ผู้ชายตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขามี ซาร่าห์ (พาร์คเกอร์) แฟนสาวอาศัยอยู่ด้วย นั่นทำให้เขาต้องคิดถึงชีวิตหลังเกษียณมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามเขาก็เหมือนกับ จอห์น แม็คเคลน นั่นแหละ ที่เจอกับเรื่องเสี่ยงตายมาตลอดสมัยเป็นซีไอเอ เขาทนอยู่กับชีวิตคนทั่วไปไม่ได้นานนัก จนสุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะกลับไปสัมผัสกับชีวิตที่น่าตื่นเต้นอีกครั้ง”