วิจารณ์หนัง Byzantium
แวมไพร์ คือวัตถุดิบที่ถูกหยิบนำมาตีความและสร้างภาพยนตร์มาแล้วหลายครั้ง มีช่วงรุ่งเรืองและช่วงเสื่อมสลับกันไป แต่ดูเหมือนว่าหลายปีมานี้ จะเป็นยุครุ่งเรืองของหนังแวมไพร์อีกครั้ง ผลดีคือผู้ชมที่ชอบเรื่องราวแนวนี้ก็คงถูกใจเพราะมีอะไรให้ดูอยู่เรื่อยๆ แต่กระนั้นการที่หนังแนวเดียวกันออกมามากๆ ก็อาจจะทำให้เราเฉยชาไปกับหนังแนวนี้ เช่นเดียวกับ Byzantium ที่สิ่งที่ดีและน่าสนใจของมัน ไม่สามารถกระตุ้นผู้ชมได้อย่างเพียงพอ
Byzantium เล่าเรื่องราวของ เอลินอร์ (เซียร์ซ่า โรแนน) กับ คาร่า (เจมม่า อาร์เตอร์ตัน) 2 แม่ลูกแวมไพร์ที่หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่น แต่ว่าการดื่มเลือดเพื่อต่อชีวิตกลายเป็นเบาะแสให้พวกเธอถูกสืบสาว คาร่า ผู้เป็นแม่ที่ปรับตัวตามยุคสมัยพยายามทุกวิถีทางในการเอาตัวรอด แต่ เอลินอร์ ลูกผู้เงียบขรึมกลับปล่อยปละละเลยจนทำให้ความลับของทั้งสองถูกเปิดเผย นำมาสู่การตามล่าจากอดีตที่จะนำความตายมาสู่แม่ลูกทั้งสอง!
เรื่องราวในหนังถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน หนึ่งคืออดีตและสองคือปัจจุบัน ที่ตัดสลับเล่าไปมาที่บางอย่างก็สอดรับเป็นเหตุเป็นผลกัน บางอย่างก็ดูไม่เกี่ยวข้องกัน แต่มันก็เป็นการขยายความเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ชมเชื่อถือ ทั้งในตัวผู้ล่าและผู้หลบหนี ที่ทำได้ดีพอสมควร
จังหวะการดำเนินเรื่องนั้นถือว่าเป็นส่วนที่เป็นปัญหาที่สุด ผู้กำกับ นีล จอร์แดน พยายามจะใส่สไตล์มากไปจนดูอืดอาดชวนง่วง โดยเฉพาะในส่วนของเอลินอร์ ที่พยายามสื่อสารผ่านงานเขียนเรื่องราวชีวิตของเอลินอร์ ที่เต็มไปด้วยสำนวนและท่วงท่าลีลาที่ล้นเกิน ในขณะที่จังหวะเรื่องของคาร่า ดูจะเป็นอะไรที่บันเทิงมากกว่า ซึ่งน่าจะเป็นความตั้งใจที่จะเล่าเรื่องตามอุปนิสัยของตัวละคร
อย่างไรก็ตาม หนังก็ดูจะให้ความสนใจกับที่มาที่ไปของผู้ที่จะเป็นแวมไพร์ รวมถึงการดำรงชีวิต และเงื่อนไขจุกจิกของผู้ที่เป็นแวมไพร์ ซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งที่น่าติดตามและอาจจะเรียกได้ว่าคือความสนุกที่ Byzantium พอจะมีให้ได้
เซียร์ซ๋า โรแนน ยังคงเป็นนักแสดงมีฝีมือที่ได้รับการยอมรับตั้งแต่ Atonement (2007), The Lovely Bones (2009) ไลามาจนถึง Hanna (2011) แต่เธอก็ยังไม่มีหนังที่ส่งให้เธอโด่งดังอย่างแท้จริงเหมือนกับนักแสดงหญิงคนอื่นในช่วงอายุที่ใกล้เคียงกัน และแม้ใน Byzantium เธอจะทำหน้าที่ได้ดี แต่มันก็ยังไม่ใช่หนังที่จะส่งให้เธอเจิดจรัสอยู่ดี ในขณะที่ เจมม่า อาร์เตอร์ตัน ที่ส่วนตัวประทับใจกับบทสททบเล็กๆ ใน Quantum of Solace (2008) ดูจะได้บทที่สนุกกับบทคาร่า ที่ทำให้เราได้เห็นอีกมุมในการแสดงของเธอ ที่เรื่องนี้เธอเล่นได้เซ็กซี่มากจริงๆ
การใส่ประเด็นเรื่อง ความรักระหว่างแม่ลูกในเรื่องนี้ก็เป็นส่วนที่น่าประทับใจ ฉากสุดท้ายของหนังที่เป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของ เอลินอร์ และ คาร่า ค่อนข้างสะเทือนใจพอสมควรกับความผูกพันที่กินเวลามากกว่า 200 ปี ที่สุดท้ายหนังแสดงให้เห็นว่า เมื่อความต้องการของแต่ที่อยู่ร่วมกันต่างกัน เมื่อถึงจุดหนึ่งจะมีสถานการณ์เข้ามาทำให้เราต้องแยกกันเดิน...
รู้สึกเสียดาย Byzantium ที่พยายามจะขายสไตล์นำมากเกินไป ทั้งๆ ที่วัตถุดิบที่มีในหนังและฝีมือของนักแสดงเอื้อให้ทำอะไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ลงท้ายจึงกลายเป็นเพียงแค่หนังแวมไพร์ดาดๆ ที่ดูแล้วก็ลืมๆ กันไป!
Byzantium ผมให้ 2/5 คะแนน
@Chamanz13