วิจารณ์ Riddick
เรื่องราวของ ริดดิค ดูดีมีอนาคตกับภาคแรก Pitch Black (2000) ก่อนหนังจะขยายร่างเป็นหนังฟอร์มใหญ่ทุนสูงกับ The Chronicles of Riddick (2004) ที่กลายเป็นหนังคว่ำสนิท! จนไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ดูการกลับมาของหนัง Riddick หรืออีกชื่อว่า Riddick: Rule The Dark อีกแล้ว
ครั้งนี้เป็นการกลับของ วิน ดีเซล ที่กลายเป็นดาราใหญ่ ผนึกกำลังกับผู้กำกับ เดวิด ทูอี้ ที่ต้องการให้ Riddick กลับมาสู่เส้นทางที่ทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จดังเช่นภาคแรก ซึ่งจากตัวอย่างที่ได้เห็นก็ดูมีแนวโน้มว่าอาจเป็นไปได้ เพราะหากหนัง Riddick: Rule The Dark ประสบความสำเร็จ มันอาจจะกลายหนังภาคต่อทรงคุณค่าและสามารถต่อยอดสร้างออกมาเรื่อยๆ ได้ในที่สุด!
Riddick: Rule The Dark เล่าเรื่องราวของ ริดดิค (วิน ดีเซล) เมื่อเขาถูกรอบทำร้ายและทิ้งไว้ที่ดาวร้างเพียงลำพัง เขาต้องดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายและหาทางออกไปจากดาวแห่งนี้ โดยส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ที่นั่นหมายถึงการเรียกนักล่าค่าหัวมาจัดการเขา เพราะเขากลายเป็นคนผู้มีค่าหัวสูงในระดับจักรวาล ที่ใครก็หมายจะจัดการเขาเพื่อเงินค่าหัวนี้ ซึ่งหนึ่งในทีมนักล่าค่าหัวที่ตามล่าเขา คือผู้ที่มีความแค้นฝังใจกับริดดิคโดยเฉพาะ!
ในช่วงแรกของหนังเรียกได้ว่ามันคือ หนังที่ว่าด้วยการเอาชีวิตรอดบนดวงดาวที่จับต้องเพียงผิวเผิน! มันเป็นการเสริมเติมแต่งให้เห็นถึงความลำบาก ว่างเปล่าบนดวงดาว และการโชว์เดี่ยวของ ริดดิค
หนังเสียเวลาครึ่งชั่วโมงแรกเพื่อให้ผู้ชมจะได้ตามติดชีวิตของตัวละครตัวนี้เพียงอย่างเดียว ซึ่งสุ่มเสี่ยงอย่างมาก หากว่าดารานำไม่แข็งแรงพอ แต่กระนั้น วิน ดีเซล ก็พอจะเอาตัวรอดได้ เพราะความแปลกกับการโม้ว่าเขาจะมีชีวิตรอดอย่างไรบนดาวดวงนี้!
Riddick: Rule The Dark ดูจะเป็นหนังที่เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวละครริดดิค และ นักแสดงวิน ดีเซล มากเป็นพิเศษ จนทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังที่ว่าด้วยการหาทางออกไปจากดาวปริศนาของริดดิค ที่ทุกอย่างที่เห็นในหนังถูกสร้างมาเพื่อการยกยอปอปั้นให้เรารู้สึกซูฮกว่าตัวละครริดดิคคือยอดคนที่สามารถแก้ไขสถานการณ์อันเลวร้ายต่างๆ ได้ จนกลายเป็นตัวละครมิติเดียวที่แสนน่าเบื่อ เพราะเราไม่รู้ว่าทำไมต้องเอาใจช่วยหรือลุ้นไปกับสถานการณ์ในเรื่องกับตัวละครที่อะไรก็เป็นไปได้!
แม้ Riddick: Rule The Dark จะเป็นการกลับไปสู่วิธีการที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จแบบ Pitch Black ที่เล่นกับความมืด ความกลัว ความลึกลับ ที่โดดเด่นทั้งวิธีการถ่ายทำ แต่กับ Riddick: Rule The Dark ก็เห็นถึงความตั้งใจที่จะกลับไป แต่ว่าวิธีการไม่แนบเนียน ดูยัดเยียด และจงใจ จนทำให้เสน่ห์ของตัวละครริดดิคที่สามารถมองเห็นในที่มืดนั้นมลายหายไป
ตัวหนังอดไม่ได้ที่จะมีการเชื่อมโยงบางอย่างเข้ากับ The Chronicles of Riddick เพื่อให้หนังเข้าชุดและกลายเป็นหนังไตรภาคอีกเรื่องหนึ่งในที่สุด! แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า กลายกลับมาอีกครั้งของริดดิคมันคือความสำเร็จ เพราะสิ่งที่ได้จาก Riddick: Rule The Dark มันก็เป็นเพียงแค่หนังแอ็คชั่นฮีโร่ไซไฟธรรมดา ที่ยืดยาวเกินจำเป็น ที่เมื่อดูจบก็จบกันไปไม่ได้รู้สึกว่าอยากให้หนังริดดิคมีภาคต่อออกมาอีก...
Riddick: Rule The Dark ผมให้ 2 / 5
@Chamanz13