หมอก้อง รู้ซึ้งถึงชีวิตรากหญ้า ทุ่มแสดงซีนตกชะตากรรมลำบากสุดขีด อยาก อยู่ อย่าง ใหญ่ !

 

หมอก้อง รู้ซึ้งถึงชีวิตรากหญ้า

 

ในหนังเรื่องแรก อยาก อยู่ อย่าง ใหญ่!

 

 

ถึงกับเอ่ยปากว่ารู้ซึ้งถึงชะตาชีวิตของกลุ่มคนระดับรากหญ้าแล้ว กับนักแสดงหนุ่มรูปหล่อดีกรีนายแพทย์ ผู้ที่มีอุดมการณ์แห่งการต่อสู้เพื่อความถูกต้องอย่าง "หมอก้อง - สรวิชญ์ สุบุญ" หลังตกปากรับคำแสดงบทพระเอกในภาพยนตร์ของคนไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาฟ้าลิขิต ! อย่างภาพยนตร์เรื่อง "อยาก อยู่ อย่าง ใหญ่" ซึ่งถือว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของนายแพทย์พระเอกหนุ่มผู้นี้อีกด้วย ! ก็ด้วยเพราะเจ้าตัวทุ่มเทในการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของตัวเองเรื่องนี้อย่างสุดตัวนั่นเอง ! ไม่ว่าจะเป็นฉากการรับจ้างทำไร่ ทำนา ทำสวน ฉากเก็บดอกไม้ผลไม้ไปขายในตลาดสด ฉากการรับจ้างทำงานที่ต้องข้องเกี่ยวกับขยะสิ่งปฏิกูลโดยตรงทุกอย่าง ฉากการโดนเจ้าหน้าที่จับเข้าห้องขัง ซึ่งก็เป็นการเข้าคุกครั้งแรกในชีวิตจริงๆ ของหมอก้อง ! หรือจะเป็นฉากการรับจ้างขับรถสิบล้อขนของขึ้นเหนือ ขนของลงใต้ !

 

 

ขนของขึ้น ขนของลง อยู่อย่างนั้นกันหลายเทคหลายคัทตลอดทั้งวันทั้งคืนกันเลยทีเดียว ฉากการทำงานในเหมืองพลอยที่ต้องมีการแบกหาม เช้าก็ต้องแบกหินลงเขา บ่ายก็ต้องแบกหินลงเขา เย็นก็ต้องแบกหินลงเขา ฝนจะตกแดดจะออก ก็ต้องแบกหินลงเขา ! ซึ่งตัวหมอก้องเป็นผู้แสดงเองทุกฉาก ไม่มีการขอใช้สแตนอินแต่อย่างใด รวมไปถึงฉากการเป็นพ่อค้าหาบเร่ขายขนมหวานตามหมู่บ้าน และย่านโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งหมอก้องเองก็แสดงได้อย่างสมบทบาท ทั้งหาบ ทั้งเร่ ทั้งร้องตะโกนขายขนมไปทั่วหมู่บ้าน และย่านโรงงานจริง ๆ รวมๆ แล้วเป็นสิบๆ กิโลที่หมอก้องต้องเดินหาบเร่ ! จนได้เป็นหนุ่มโรงงานที่เร่ขายขนมหวานนั้นในที่สุด ! งานนี้ หมอก้อง – สรวิชญ์ สุบุญ พระเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า.....

 

 

 

 

"หนังเรื่อง อยาก อยู่ อย่าง ใหญ่ เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตที่ผมแสดงครับ และเป็นหนังที่ทำให้ผมรู้ซึ้งถึงชีวิตความลำบากของกลุ่มคนในระดับรากหญ้าอย่างสุดๆ ครับ ทุกอาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำในชั้นกรรมาชีพ ผมได้แสดงหมดแล้วในหนังเรื่องนี้ครับ ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจรับแสดงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกก็คือ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีเนื้อหาที่ดีมีประโยชน์ต่อสังคมไทยเราครับ อย่างน้อยๆ ก็สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่กำลังเผชิญชะตาชีวิตที่ตกต่ำย่ำแย่ ลำเค็ญแร้นแค้น ลำบากยากจนได้มากทีเดียวครับ เพราะเป็นเรื่องราวนำเสนอประวัติชีวิตของผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งที่เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะลำบากยากจนสุดๆ แต่ผู้ชายคนนี้ คือผู้ที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อโชคชะตากรรมอันเลวร้าย ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขาปฏิบัติตามคติที่เขายึดถือมาโดยตลอดว่า คนแน่แน่วเท่านั้นคือผู้ชนะ ซึ่งมันก็เกิดขึ้นจริงตามที่เขาตั้งใจหวังไว้ครับ จากผู้ชายจนๆ คนหนึ่งที่แทบจะไม่มีตัวตนบทบาทสำคัญอะไรบนโลกนี้ สู่การเป็นเจ้าของไร่นา และสวนผลไม้ สวนยาง ที่มีเนื้อที่กว่า 200 กว่าไร่ และเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อีกมากมายทั่วประเทศ เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนระดับแถวหน้าของเมืองไทย จนในที่สุดกับการเป็นเจ้าของธุรกิจเองโดยตรง ! ผมว่าเขาเป็นคนที่น่านับถือ และน่าค้นหาในเรื่องแนวทางการดำเนินชีวิตมากๆ เลยทีเดียวครับ มันไม่มีใครจะทำกันได้ง่ายๆ นะครับ กับคำว่า "คนพเนจร หาเช้ากินค่ำ อดมื้อกินมื้อ ที่แทบจะไร้ซึ่งที่ซุกหัวนอน สู่คำว่า เจ้าสัว ! ที่มีคฤหาสน์ไว้พักผ่อนกายใจหลังละหลายสิบล้าน จำนวน 6 หลัง ! คุณว่าน่าค้นหาไหมล่ะครับ ชายผู้นี้ชื่อ คุณใหญ่ อนันตโชติ ชัยปรีชา ครับ และแน่นอนว่าทุกเรื่องราวชีวิตของเขา ได้ถูกถ่ายทอดผ่านการแสดงของผมในภาพยนตร์เรื่อง อยาก อยู่ อย่าง ใหญ่ เรื่องนี้แล้วครับ เร็วๆ นี้คงจะได้ชมกันครับ"