เปิดโผหนังไทยรายได้ต่ำสุด หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก ทำรายได้สุดช็อคแค่สองหมื่นกว่าบาท!

หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก

แม้จะยังพูดได้ไม่เต็มปากว่า ปี 2557 เป็นปีสุดซบเซาของวงการหนังไทยเพราะเพิ่งจะผ่านไตรมาสแรกมาหมาดๆ แถมความแรงระดับประวัติศาสตร์ของ พี่มาก...พระโขนง ที่ทำรายได้กว่าพันล้านบาทเป็นเรื่องแรก ก็กลายเป็นความกดดันเล็กๆ ของหนังไทยอีกมากมายที่จะตามออกมา แต่ก็คงปฏิสเธไม่ได้ว่า ไตรมาสแรกของปี 2557 แทบไม่มีความหวือหวาของหนังไทยเรื่องใดเข้าตาแบบจริงๆ จังๆ กระทั่งการมาถึงของ คิดถึงวิทยา ที่ยังคงรักษามาตรฐานหนังเอาใจผู้ชมตามสูตรสำเร็จของ GTH กับการลุ้นที่จะเป็นหนังทำเงินทะลุ 100 ล้านบาทอีกหนึ่งเรื่องของ GTH (ล่าสุดจนถึงวันที่ 27 มีนาคม รายได้ของหนังรวมกันทั่วประเทศน่าจะอยู่ที่ราว 80 ล้านบาท) ซึ่งก็พอจะทำให้วงการหนังไทยกลับมาคึกคักเป็นความหวังของไตรมาสต่อไปอย่างมีนัยสำคัญทีเดียว

ลองมาไล่เรียงรายได้หนังไทยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา วัดเฉพาะในส่วนของหนังทำเงินต่ำสุดแล้ว มีการรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจจาก ไทยพีบีเอส มาแจกแจงให้ทราบกัน ระหว่างศึกแย่งชิงสาวบริสุทธิ์หวังกินเลือดเพื่อความอมตะ ระหว่างแวมไพร์คู่อริ “วายุ” กับ “อัสนี” ในภาพยนตร์เรื่อง รักฝังเขี้ยว อาจดึงดูดคนดูด้วยนักแสดงตลกตระกูลหม่อม แต่กลับถูกถอดจากโรงภาพยนตร์หลังฉายได้เพียง 1 สัปดาห์ กับรายได้ 63,000 บาท เฉือนชนะ หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก ภาพยนตร์ที่มีคนดูไม่ถึง 200 คน และได้เงินกลับไปเพียง 29,000 บาท สร้างสถิติเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้ต่ำสุดในรอบหลายสิบปี

สะท้อนถึงรายได้ที่ล้มเหลวนอกจากจะเกิดจากการถูกโรงภาพยนตร์ตัดรอบฉาย ยังสะท้อนคุณภาพของภาพยนตร์ รวมถึงความผิดพลาดของค่ายหนังในการประชาสัมพันธ์อีกด้วย

สมานฉัน

ก่อนหน้านี้ เคยมีภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้เรื่อง สมานฉัน ที่ออกฉายเมื่อปี 2553 ที่ครองแชมป์หนังที่ทำรายได้ต่ำสุดเพียง 60,000 บาท มาก่อน จากนั้นในปี 2555 ภาพยนตร์เรื่อง เด็กสาว และ เก๋าเกรียน ก็ทำลายสถิติด้วยรายได้ไม่ถึง 60,000 บาท และในปีถัดมา หล่อลากไส้ ก็สร้างสถิติด้วยรายได้ 50,000 บาท ก่อนถูกโค่นแชมป์ไปในปีนี้ ภาพยนตร์ที่ขาดทุนส่วนใหญ่มักเป็นผลงานของนักลงทุนหน้าใหม่ที่ขาดประสบการณ์ และไร้ความเข้าใจในการนำหนังเข้าโรง

หากเปรียบเทียบกับหนังฟอร์มเล็กที่แม้เปิดฉายวันแรกเพียง 5 โรง แต่กระแสบอกต่อของหนังรักเพศเดียวกันอย่าง พี่ชาย My Bromance ก็ทำให้มีโรงฉายเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าในวันรุ่งขึ้น และกวาดรายได้กว่า 6 ล้านบาทตลอด 1 เดือนที่ยืนโรง สะท้อนให้เห็นพลังของค่ายหนังเล็กที่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากทำหนังให้แตกต่าง จับกลุ่มผู้ชมได้ถูกต้อง และต้องมีคุณภาพอย่างแท้จริง

เรียบเรียงข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส