วิจารณ์หนัง Captain America: The Winter Soldier

วิจารณ์หนัง

Captain America: The Winter Soldier  

 

ความสำเร็จของสตูดิโอย่อยอย่างมาร์เวล คอมมิกส์นั้นดูท่าจะต่อสายพานจักรวาลของซูเปอร์ฮีโร่ออกไปได้อีกไกล และสามารถเชื่อมโยงให้ซูเปอร์ฮีโร่แต่ละคนนั้นมีพื้นที่ของตัวเอง และสามารถแวะมาจอยกันได้ในหนังอย่าง The Avengers และด้วยกลวิธีการสร้างขอบเขตเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่แต่ละคนนั้นก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่พวกเขาจะต้องมีเอกลักษณ์และสไตล์ในตัวเอง รวมไปถึงเหล่าวายร้ายในหนังของพวกเขาด้วยที่จะมีโทนเรื่องไปในทิศทางเดียวกัน 

 

ใน Captain America: The First Avenger ที่ออกฉายไปเมื่อปี 2011 หนังเลือกจะพูดถึงเรื่องราวของ สตีฟ โรเจอร์(คริส อีแวนส์) หนุ่มร่างไม่ให้แต่ใจรักจะเป็นทหาร สุดท้ายเขาเลยเข้าโครงการเปลี่ยนแปลงร่างกายของตนเอง ให้กลายเป็นกัปตันอเมริกาเพื่อปกป้องประเทศในรอดพ้นจากองค์กรร้ายที่เรียกตัวเองว่า ไฮดร้า ฉากหลังของเหตุการณ์ในภาคแรกคือสมัยยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 บรรยากาศทางการเมืองที่คุกกรุ่นสะท้อนภาพสังคมที่ต้องใช้กองกำลังทหารในการ "สู้รบ" เพื่อพิทักษ์สันติสุขของอเมริกา แต่เมื่อกาลเวลาผันผ่านไป กัปตันอเมริกาที่ถูกแช่แข็งและข้ามยุคสมัยมาอยู่ในปัจจุบัน สิ่งต่างๆรอบตัวเปลี่ยนแปลงไปหมดสตีฟ โรเจอร์สจึงต้องทำการปรับตัวครั้งใหญ่เพราะนอกจากจะต้องพยายามทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคยแล้ว ดูเหมือนภัยคุกคามที่ถูกแอบแฝงมาในรูปแบบที่เขาคาดไม่ถึงด้วยเช่นกัน 

 

 

เหตุการณ์ในภาค The Winter Soldier  นั้นมีความน่าสนใจอยู่ตรงที่หน่วยงานอย่าง S.H.I.E.L.D นั้นกลายเป็นองค์กรที่ถูกจับตามองเรื่องความปลอดภัย ประกอบกันกับการที่ นิค ฟิวรี่ (แซมมวล แอล. แจ็คสัน) กลายเป็นเป้าสังหารของศัตรูนั้น ยิ่งทำให้สตีฟ ต้องเข้ามาติดวงล้อมเหตุการณ์ในครั้งนี้เข้าไปด้วย โชคยังดีที่ นาตาชา โรมานอฟ หรือ แบล็ค วิโดว์(สกาเลตต์ โจแฮนสัน) ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขา รวมไปถึงสหายใหม่อย่าง เดอะ ฟอลคอน(โคบี้ ชมัลเดอร์ส) มนุษย์ปีกเหล็ก ระหว่างที่พวกเขากำลังสืบสวนแผนสมรู้ร่วมคิดนั่นเอง เดอะ วินเทอร์ โซลด์เยอร์ (เซบาสเตียน สแตน) ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมโจมตีกัปตันอเมริกา 

 

ความน่าสนใจอีกประการหนึ่งของ Captain America: The Winter Soldier ก็คือการหยิบแนวคิดเรื่องการคุกคามทางการเมืองแบบทฤษฎีสมคบคิดเอามาใช้ในหนัง ซึ่งแก่นแท้ของหนังภาคนี้ก็คือการไม่ลงรอยกันระหว่างผู้มีอำนาจในองค์กร (ซึ่งก็เป็นเรื่องการเมืองในระดับย่อมนั่นเอง) อันนำไปสู่ความขัดแย้งในระดับนองเลือดและถึงกับต้อง "ล้างระบบเก่าทิ้ง" เพื่อ "สถาปนาระบบใหม่" ขึ้นมาทดแทน 

 

 

ความสัมพันธ์ของเพื่อนใน The Winter Soldier เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กับเรื่องการเมืองในหนัง ถ้าเรามองความสัมพันธ์ของตัวละครในภาคนี้ให้ดีก็จะพบว่า พวกเขาเกี่ยวโยงกับแบบพื้นๆ กัปตันอเมริกาก็ไม่ได้ลงรอยกับตัวนิค ฟิวรี่เท่าไหร่ แม้เขาจะเป็นพวกเดียวกันและมีวิสัยทัศน์ใกล้เคียงกัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันในฐานะมิตรสหาย, สตีฟ โรเจอร์กับบัคกี้ บานส์หรือ เดอะ วินเทอร์ โซลด์เยอร์เคยเป็นเพื่อนเก่าแก่ แต่เมื่อฝ่ายหลังโดนล้างสมองไปพวกเขาก็ลุกขึ้นมาต่อยตีกันเอง หรือแม้กระทั่งแบล็ควิโดว์ ฉากเข้าพระเข้านางก็ถูกสร้างขึ้นมาก็เพียงเพราะใช้เอาตัวรอด ทั้งคู่ไม่ได้ตกหลุมรักหรือชอบกันจริงๆ 

 

 

เหตุการณ์ใน  The Winter Soldier จึงพาเราไปสำรวจจักรวาลของมาร์เวลในแง่ของการเมืองและสงครามในยุคปัจจุบันที่เกิดขึ้นเพียงเพราะ "ผลประโยชน์" ไม่ลงตัวนั่นเอง

 

ยกให้ 4 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด