วิจารณ์หนัง The Raid 2 Berandal

วิจารณ์หนัง The Raid 2 Berandal

วิจารณ์หนัง The Raid 2 Berandal
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วิจารณ์ The Raid 2 Berandal 

 


The Raid 2 Berandal เข้าฉายในช่วงเวลาที่หนังฟอร์มมหึมาอย่าง X-MEN DAYS OF FUTURE PAST และ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 5 ยุทธหัตถี กำลังครองโรงอยู่พอดี เป็นผลทำให้รอบฉายของหนังเรื่องนี้ "น้อย" อย่างน่าใจหาย 

 

ถ้าย้อนกลับไปมองความสำเร็จในระดับภูมิภาคและระดับโลกของ The Raid แล้ว มันถือเป็นส่วนผสมระหว่างหนังมาร์เชียลอาร์ตและหนังแอ็คชั่นตำรวจที่ลงตัวกลมกล่อม มีภาพการต่อสู้อันแสนตื่นตาตื่นใจ คิวสตันท์ฝาดโผนอันน่าจดจำ ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้พระเอก อิโก อูไวส์ ผู้รับบท รามา กลายเป็นแอ็คชั่นสตาร์คนใหม่ของโลก

 

 

The Raid 2 Berandal  ไม่ได้เดินตามรอยความสำเร็จของหนังภาคแรกแต่อย่างใด เหตุการณ์ในภาคแรกนั้นเป็นการเอาชีวิตรอดของกลุ่มนายตำรวจที่บุกเข้าไปในรังโจรซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์ซอมซ่อ ซึ่งเป็นแหล่งกบดานของเจ้าพ่อค้ายาเสพย์ติด และเมื่อถึงไคลแมกซ์ รามาและผู้รอดชีวิตคนอื่นก็ออกมาจากตึกนั้นอย่างปลอดภัย และได้เข้าใจความจริงที่ว่าสิ่งผิดกฎหมายที่ไม่สามารถตามจับผู้ร้ายตัวจริงได้ก็เพราะมี “ตำรวจคอรัปชั่น” คอยหนุนหลังอยู่

 

แต่ The Raid 2 Berandal เปิดเรื่องมาด้วยการเล่าเหตุการณ์ต่อเนื่องจากฉากจบของภาคแรกทันที เมื่อตัวละครอื่นที่รอดชีวิตจากภาคที่แล้วถูกฆ่าตายหมดทันที เหลือแต่เพียงรามา ที่ถูกยื่นข้อเสนอใหม่จากนายตำรวจที่ตามสืบคดีมาเฟียที่ชักใยการกระทำผิดกฎหมายในเมืองจาการ์ต้า และเพื่อการสืบสาวไปยังต้นตอทั้งหมดนั้น รามาต้องแลกอิสรภาพด้วยการโดนจับเข้าคุกเพื่อไปตีสนิทกับ ยูโค (อาริฟิน พูตรา) ลูกชายของหัวหน้ามาเฟียแก๊งบางุนซึ่งโดนจับข้อหากระทำความผิด 

 

 

เหตุการณ์ดำเนินไปข้างหน้าแต่รามากลับยิ่งรู้สึกว่าเขากำลังตกเป็นแค่หมากตัวหนึ่งในเกมการชักใยของกรมตำรวจ เมื่อข้อตกลงที่ว่าเขาจะเข้าไปอยู่ในคุกไปเพียงไม่กี่เดือน แต่กลายเป็นว่าเขาต้องติดอยู่ในนั้นถึง 3 ปี และเมื่อวันที่อิสรภาพจากการได้ออกจากคุกมาถึง รามาก็ยังเป็นเหมือนหนูติดจั่นที่ยังต้องแฝงตัวเข้าไปรับใช้มาเฟียอีกต่อหนึ่ง โดยที่เขาไม่มีโอกาสรู้เลยว่าวันไหนจะกลายเป็นวันสุดท้ายในชีวิตของเขาเอง 

 

การผันแปรตัวเองจากหนังแอ็คชั่นบุกตะลุยต่อกรกับเหล่าร้ายในภาคแรก ถูกพัฒนาให้กลายเป็นหนังแอ็คชั่นมาเฟียที่เดินเรื่องได้อย่างลุ้นระทึก ซึ่งน่าจะถูกคอบรรดาแฟนหนังจีนที่เติบโตมาในช่วงปี 80-90 น่าจะชื่นชอบพล็อตเรื่องสไตล์นี้ได้ไม่ยาก 

 

 

ผู้กำกับ แกเร็ธ อีแวนส์ ซึ่งยังคงสไตล์การทำหนังแอ็คชั่นที่ตอบโจทย์ทั้งความสนุกของเรื่องราวและหยิบเอาสไตล์ลีลามวยปันจักสีลัตของ อินโดนีเซียเข้าผสมผสานได้อย่างลงตัว ฉากที่น่าจดจำในหนังเรื่องนี้อาทิเช่น ฉากตะลุมบอนกลางโคลนในคุก, ฉากไล่ล่าบนท้องถนน, ฉากที่รามาไปบุกรังโจร, ฉากต่อสู้ในห้องครัว หรือแม้กระทั่งฉากคุกคามทางเพศในห้องคาราโอเกะที่น่าหวาดผวาไม่น้อย 

 

เหนืออื่นใด นอกจากฉากกาต่อสู้อันเป็นจุดขายของเรื่องแล้ว The Raid 2 Berandal ยังตั้งคำถามถึงกระบวนการยุติธรรมที่ไม่สามารถเอาผิดกับวงการมาเฟียได้ ก็เพราะมีการหนุนหลังจากผู้รักษาความยุติธรรมด้วยการจ่ายเงินใต้โต๊ะอย่างที่เราได้เห็นกันในเรื่อง ประกอบกับการคานอำนาจระหว่างมาเฟียอินโดนีเซียและมาเฟียญี่ปุ่นที่แบ่งพื้นที่การปกครองเพื่อดำเนินกิจวัตรของกลุ่มตัวเองต่อไป และไม่ว่ารามาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม ความยุติธรรมที่เขาพยายามจะพิทักษ์และกอบกู้เกียรติของตัวเองคืนมา เขาก็พบว่ามันช่าง "ไร้ค่า" สิ้นดีจนในฉาก...... สุดท้าย..... ของเรื่องเขาก็ได้แต่พูดเบาๆว่า "I'm Done"

 

ยกให้ 4 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด 

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง The Raid 2 Berandal

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook