The Fault in our Stars เปิดตัวมาแรงแซง Edge of Tomorrow ไม่เห็นฝุ่น
The Fault in our Stars เปิดตัวมาแรง
แซง Edge of Tomorrow ไม่เห็นฝุ่น
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญอีกครั้งของโลกภาพยนตร์เมื่อหนังรักชวนเสียน้ำตาอย่าง The Fault in our Stars เปิดตัวแรงพอสมควรเมื่อทำรายรับรวมในช่วงสุดสัปดาห์ไปที่ประมาณ 48 ล้านเหรียญในอเมริกาเหนือซึ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 บนตารางบ๊อกซ์ออฟฟิศ จากจำนวนโรงภาพยนตร์ที่เข้าฉายจำนวน 3173 โรง ซึ่งสตูดิโออย่างฟอกซ์ก็รับทรัพย์เข้ากระเป๋าไปแบบเหนาะๆ เพราะทุนในการสร้างหนังเรื่องนี้อยู่แค่เพียง 12 ล้านเหรียญเท่านั้น เท่ากับว่าตอนนี้กำไรไปแล้ว 36 ล้านเหรียญโดยที่ยังไม่รวมรายได้จากต่างประเทศและรายได้ในสัปดาห์ถัดไป
Edge of Tomorrow
ผิดกับหนังฟอร์มยักษ์ใหญ่มโหฬารว่าด้วยคอนเซปการย้อนวันเวลาเกิด ตาย วนเวียน ซ้ำซากอย่าง Edge of Tomorrow กลับทำรายได้รวมสุดสัปดาห์อยู่ที่ประมาณ 29 ล้านเหรียญเท่านั้น อยู่อันดับที่ 3 บนตารางหนังทำเงิน และด้วยจำนวนโรงฉาย 3490 โรงในอเมริกาเหนือ (มากกว่า The Fault in our Stars 317 โรง แต่กลับทำรายได้ได้น้อยกว่า) ซึ่งสตูดิโออย่างวอร์เนอร์ บราเธอร์ก็คงถึงกับกุมขมับเพราะทุนสร้างของหนังเรื่องนี้ก็สูงถึง 178 ล้านเหรียญ และโอกาสที่จะทำเงินมากขึ้นในสัปดาห์ต่อไปก็ดูริบหรี่เต็มที สาเหตุที่หนังไม่ค่อยจะทำเงินนั้นปัจจัยหนึ่งก็เพราะผู้ชมยี้ ทอม ครูซ และคอนเซปของเรื่องที่ดูยุ่งเหยิงวุ่นวาย แต่ตัวหนังได้รับคำวิจารณ์ค่อนข้างดี อาจจะต้องอาศัยกระแสปากต่อปากและการทำรายได้ในตลาดต่างประเทศ ซึ่งน่าจะไปได้สวยในโซนฝั่งเอเชีย
Maleficent
อย่างไรก็ตามอิทธิของแม่มด มาเลฟิเซนต์ ก็เริ่มอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัดในสัปดาห์ที่ 2 เมื่อ Maleficent ถูก The Fault in our Stars เบียดลงมาอยู่ที่อันดับที่ 2 เก็บรายได้ในสัปดาห์ที่ 2 ไปเพิ่มอีก 33 ล้านเหรียญรวมกับของเก่าเป็น 127 ล้านเหรียญจากทุนสร้าง 180 ล้านเหรียญ ซึ่งน่าจะคืนทุนและกำไรรวมอีกไม่น้อยเมื่อนับรวมกับตลาดต่างประเทศ
ความแรงของ The Fault in our Stars ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเนื่องจากบรรดาสาวๆที่เป็นแฟนนิยาย The Fault in our Stars อยู่แล้วคงจะแห่กันมาอุดหนุนเรื่องราวสุดโรแมนติกอันว่าด้วย ฮาเซล เกรซ แลนคาสเตอร์(เชอรีน วู๊ดลีย์) และ ออกุสตุส วอเตอร์(แอนเซล เอลกอร์ท) ทั้งสองได้พบกันที่งานรวมกลุ่มของผู้ป่วยมะเร็งก่อนจะตกหลุมรักกัน ท่ามกลางจุดจบที่ฝ่ายชายรู้ดีว่าในที่สุดแล้วเขาอาจจะต้องพรากจากคนรักไปในที่สุด
ไม่เพียงเท่านี้ The Fault in our Stars ยังได้ดาราสาวเลือดใหม่ที่กำลังจะโด่งดังตาม เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ไปติดๆอย่าง เชอรีน วู๊ดเลย์ ซึ่งเธอยังประกบกับหนุ่มหน้าใสอย่าง แอนเซล เอลกอร์ท (ทั้งคู่แสดงเป็นพี่น้องกันใน Divergent) ก็เรียกได้ว่าสามารถกวักมือเรียกแฟนหนังวัยรุ่นได้เป็นทิวแถว
The Fault in our Stars ทางสตูดิโอฟอกซ์ไทยแลนด์มีการเจรจาขอเอามาฉายโรงใหญ่ ซึ่งกำลังสรุปวันเข้าฉายอยู่ในขณะนี้หลังจากที่ทนกระแสเรียกร้องของแฟนๆหนังสือไม่ไหว เราจะได้ไม่ต้องรออีกหลายเดือนกว่าที่แผ่นลิขสิทธิ์จะวางจำหน่าย
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ