วิจารณ์หนัง How To Train Your Dragon 2
วิจารณ์ How To Train Your Dragon 2
How To Train Your Dragon 2 สานต่อเรื่องราวจากเหตุการณ์ในภาคแรก เมื่อกาลเวลาผันผ่านไปฮิคคัพได้เติบโตขึ้นเป็นหนุ่ม จากเด็กเนิร์ดที่ดูไม่มีความสามารถใดๆ บัดนี้เขากลายเป็นนักขี่มังกรมาดเท่ในชื่อว่า Hiccup Horrendous Haddock III หลังจากเรื่องราวในภาคแรกทำให้ ฮิคคัพ (พากย์เสียงโดยเจย์ บารูเซล) กลายเป็นพระเอกแอนิเมชั่นตัวแรกที่พิการ ซึ่งบ่งชี้ได้ว่าโทนหนังของ How To Train Your Dragon แม้จะเป็นการ์ตูนเด็กสุดแฟนตาซีก็ตาม แต่ท้ายที่สุดตัวละครก็ต้องเติบโตขึ้นและเรียนรู้ถึงความโหดร้ายของชีวิตอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
การเล่าเรื่องราวของ How To Train Your Dragon 2 ตัวละครอย่างฮิคคัพก็ยังคงมีปมในชีวิต เมื่ออายุของเขาย่างเข้า 20 ขวบปี พ่อของเขาจึงเล็งเห็นว่าถึงเวลาอันสมควรแล้ว ในการที่ฮิคคัพจะต้องสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านเบิร์กเสียที แต่ด้วยความที่เขายังรักในอิสรภาพและการผจญภัยในการค้นหาดินแดนใหม่ๆอยู่ ฮิคคัพรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมในการรับภาระอันหนักอึ้งในครั้งนี้ และโลกกว้างก็ยังรอคอยเขาอยู่
How To Train Your Dragon 2 อาจจะเดินเรื่องตามสไตล์หนังผจญภัย วันรุ่นขี่มังกรและออกไปเจอภัยอันตรายมากมายตามสูตรสำเร็จตามแอนิเมชั่นทั่วไป เปล่าเลยหนังกลับแทรกสอดความรู้สึกของตัวละครที่บางครั้งพวกเขาก็เปราะบางและต้องการความเข้าอกเข้าใจ ฮิคคัพก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป พวกเขายังรู้สึกว่า “ความหนุ่มสาว” ของตัวเองนั้นยังต้องการความตื่นเต้น ท้าทายและพบเจอสิ่งใหม่ๆ เปรียบเปรยดังเช่นการค้นหาดินแดนใหม่และการทำแผนที่ที่ไกลออกไปจากหมู่บ้านเบิร์ก แทนที่จะต้องคอยมานั่งดูแลสารทุกข์สุขดิบของคนในหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตามปมปัญหาที่ทำให้หนังภาคนี้บอกเล่าถึงตัวละครของ ดราโก้ บลุควิสท์(พากย์เสียงโดยไจมอน ฮอนชู) นักรบผู้คลั่งไคล้ในการสะสมมังกร เขาจึงออกรุกรานหมู่บ้านต่างๆเพื่อรวบรวมมังกรมาไว้เป็นของตนเอง และตัวละครนี้เป็นตัวละครที่ทำให้ในอดีตนั้นครอบครัวของฮิคคัพนั้นต้องแตกซ่านกระเซ็นไปคนละทิศละทาง และทำให้ สโตอิค(พากย์เสียงโดยเจอราร์ด บัตเลอร์) หัวหน้าหมู่บ้านเบิร์กถึงกับใจสลายเพราะเข้าใจว่า วาลก้า(พากย์เสียงโดยเคต แบลนเช็ทท์) ภรรยาและแม่ของฮิคคัพถูกลักพาตัวไปและถูกเข้าใจว่าเสียชีวิตแล้ว
หลังจากที่ฮิคคัพได้หนีออกมาจากหมู่บ้าน เพื่อออกตามหาความจริงเกี่ยวกับดราโก้ บลุควิสท์ทำให้เขาและเจ้ามังกรคู่ใจอย่างเจ้าเขี้ยวกุดโดนจับตัวไป แต่แล้วฮิคคัพก็ได้พบว่าแท้ที่จริงแล้วบุคคลภายใต้หน้ากากอันน่ากลัวนั้น แท้ที่จริงเป็นแม่ของเขาเองอย่างวาลก้า เธอจึงได้พาฮิคคัพเข้าไปในหุบเขาที่เป็นที่อยู่อาศัยของมังกรนานาพันธุ์และมีเจ้าแห่งมังกรอย่างบีไวด์เดอร์บีสต์ที่สามารถพ่นไอน้ำแข็งได้คอยปกครองมังกรตัวอื่นๆในอาณาจักร
สโตอิคได้เดินทางมาถึงหุบเขามังกรและค้นพบความจริงว่าภรรยาของเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาทั้งสามคนจึงกลับมาพบหน้ากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง สโตอิคจึงขอร้องให้วาลก้าเดินทางกลับไปใช้ชีวิตกับเขาและลูกที่หมู่บ้านตามเดิม แต่ความสุขนั้นก็แสนสั้นเช่นกันเมื่อ ดราโก้ บลุควิสท์ บุกหุบเขาแห่งนี้และใช้มังกรที่เขามีอยู่สะกดจิตมังกรทุกตัวไปเป็นของตนเองและพยายามเดินทางกลับไปยึดหมู่บ้านเบิร์ก
เสน่ห์ประการสำคัญที่ทำให้ How To Train Your Dragon 2 ไม่อาจจะละสายตาไปจากหน้าจอได้เลยก็คือสีสันอันสดใสของตัวละคร ผนวกไปกับความน่ารักของบรรดามังกรมากมายหลายสายพันธุ์ ซึ่งตัวที่โดดเด่นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นมังกรคู่ใจของพระเอกอย่างเจ้าเขี้ยวกุดที่ดูยังไงก็เหมือนเป็นหมาผสมแมวมากกว่าจะเป็นมังกร ส่วนมังกรตัวอื่นๆอาทิ ข้ามเมฆา, ขี้บ่น, บีบกะโหลก, ซิปสองหัวจอมอัปลักษณ์ และตัวอื่นๆ เรียกได้ว่ามีเสน่ห์และน่าจดจำเอามากๆ
เหนือสิ่งอื่นใดคือหนังก็ยังวนเวียนอยู่ในโหมดของ “การสูญเสีย” ที่ฮิคคัพยังคงต้องเผชิญและเรียนรู้เพื่อจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวอีกครั้งหนึ่งเมื่อเขาต้องสูญเสียพ่อของตัวเองไปและทำให้หน้าที่ในการดูแลทุกชีวิตตกมาอยู่ที่เขา โดยปริยายสิ่งเดียวที่ฮิคคัพทำได้ก็คือการเรียนรู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำและรับผิดชอบในสิ่งที่จะสามารถช่วยเหลืออีกหลายชีวิตในหมู่บ้าน และถึงแม้ว่าเขาจะต้องแลกกับอิสรภาพอันหอมหวาน
ฮัคคัพก็ได้เรียนรู้ว่าบางครั้งการที่คนเราจะเติบโตขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งนั้น ล้วนต้องผ่านหยาดเหงื่อและรอยน้ำตา เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ว่าการจะปกครองคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องแบกรับความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงเอาไว้ แต่อย่างน้อยเพื่อความสุขของคนหมู่มาก การเสียสละก็เป็นเรื่องที่จำเป็นโดยไม่อาจจะเลี่ยง
ยกให้ 4.5 คะแนนจาก 5 คะแนน
@พริตตี้ปลาสลิด