Special Scoop - ย้อนรอย Step Up

Special Scoop - ย้อนรอย Step Up

 

เป็นการเดินทางอันแสนยาวนานของหนังเต้นอย่าง Step Up เมื่อในปี 2006 ท่ามกลางกระแสการเต้นแนวฮิปฮอปและเพลงแนวสตรีทกำลังเริ่มเป็นที่รู้จักกันของผู้คน หนังอย่าง Step Up ได้ออกฉายเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมหนังทำรายได้เปิดตัวไปที่ 20 ล้านเหรียญจากทุนสร้างเพียง 12 ล้านเหรียญเท่านั้น และเมื่อปิดการฉายหนังสามารถทำรายรับจากทั่วโลกไปถึง 114 ล้านเหรียญ เป็นหนังแจ้งเกิดให้กับพระเอกเท้าไฟอย่าง แชนนิ่ง ทาทั่ม ในทันที แม้ว่าบรรดานักวิจารณ์จะไม่ค่อยปลื้มกับตัวหนังสักเท่าไหร่นัก ว่ากันว่านอกจากฉากเต้นคู่ระหว่างพระเอกและนางเอก (เจนน่า เดวาน) แล้วการแสดงและบทภาพยนตร์คือความซ้ำซากที่น่าเบื่อ แต่เหตุผลนั้นคงใช้ไม่ได้กับบรรดาผู้ชมที่ตกหลุมรักหนังเรื่องนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น และความพิเศษของหนังเรื่องนี้ก็คือ มันทำให้ดอกรักระหว่างแชนนิ่งและเจนน่าเบ่งบานจนท้ายที่สุดทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน หนังภาคแรกยังได้รับรางวัล Choice Movie: Dance ยอดเยี่ยมบนเวที Teen Choice Awards 2007 อีกด้วย

 

 

ปี 2008 Step Up 2 the Streets ออกฉายเมื่อวันที่ 14 กุมพาพันธ์ทำรายได้เปิดตัวที่อเมริกาเหนือไป 18 ล้านเหรียญ กวาดรายได้สุทธิจากทั่วโลกเมื่อปิดการฉายปีที่ 150 ล้านเหรียญ ตัวหนังภาคนี้เล่าเรื่องราวการเต้นแนวสตรีท ซึ่งมีนางเอกสุดฮอตอย่าง บริอาน่า เอวิแกน มาประกบคู่กับ โรเบิร์ต ฮอฟต์แมน นอกจากนี้ยังตัวละครสุดขโมยซีนอย่างมูสรับบทบาทนี้โดย อดัม จี ซีวานี่(ซึ่งเขามักจะโผล่ไปแจมในหนังภาคอื่นๆอยู่บ่อยครั้ง) ฉากเต้นไฮไลท์ของหนังภาคนี้คือการที่นางเอกจอมซ่าส์เต้นอยู่กลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ และเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ฮิตถล่มทลายอย่างเพลง Low ของ Flo Rida ก็ถูกเปิดกรอกหูกันอยู่พักใหญ่ 

 

 

ปี 2010 Step Up 3D เป็นหนังภาคแรกในแฟรนชายส์ชุดนี้ที่กลายเป็นหนังสามมิติหนังใช้ทุนสร้าง 30 ล้านเหรียญ ทำรายได้เปิดตัวในอเมริกาเหนืออยู่ที่ 15 ล้านเหรียญ และโกยรายได้จากทั่วโลกไปทั้งสิ้น 159 ล้านเหรียญ หนังภาคนี้ยังคงตามรอยความสำเร็จของหนังภาคก่อน เรื่องราวในภาคนี้ความโดดเด่นตกไปอยู่ที่ฉากงานแข่งขันตอนท้ายเรื่องที่ใช้เทคนิคเสื้อเรืองแสงและการเต้นสุดขโมยซีนแบบโรบอทบอย 

 

 

ปี 2012 Step Up Revolution เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม หนังใช้ทุนสร้างทั้งสิ้น 33 ล้านเหรียญ เปิดตัวในอเมริกาเหนือไปแค่เพียง 11 ล้านเหรียญเท่านั้น และทำรายได้ทั่วโลกไปอยู่แค่เพียง 140 ล้านเหรียญ อย่างไรก็ตามหนังภาคนี้กลับได้รับการจดจำมากกว่าภาคที่ 3 มีฉากเต้นที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่ตอลดทั้งเรื่องอาทิฉากการเต้นเข้าคู่ที่ริมชายหาด, ฉากเต้นที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะและฉากที่ศาลากลาง นอกจากนี้พระเอกอย่างไรอัน กุซแมนก็เป็นตัวเรียกแขกชั้นดีจากรูปร่างสุดเซ็กซี่ ทรงสเสน่ห์ของเขา ตัวหนังในภาคนี้ใช้การเต้นแบบแฟลชม๊อบเป็นโครงเรื่องหลักที่ใช้เดินเรื่อง 

 

 

และล่าสุดปี 2014 Step Up: All In จะเป็นภาคล่าสุดซึ่งมีกำหนดฉายในอเมริกาวันที่ 8 สิงหาคม 2014 ส่วนบ้านเราได้ดูก่อนในวันที่ 14 กรกฎาคม  ซึ่งเป็นการรวมตัวละครสุดโดดเด่นจากหลายๆภาคเอามาไว้ด้วยกัน หนังภาคนี้บอกเล่าเรื่องราวของ“เดอะ ม็อบ” สลายตัวลงภายหลังจากความพ่ายแพ้ แต่ฌอน (ไรอัน กุซแมน) ผู้ก่อตั้งทีมกลับไม่ยอมหมดหวัง เขาตัดสินใจที่จะลงชิงชัยในการแดนซ์แบทเทิลครั้งตัดสินอนาคตชีวิตนักเต้นของพวกเขา โดยเขาได้ร่วมกับทีมนักเต้นที่เป็นระดับสุดยอดในนาม “LMNTRX” ซึ่งจะต้องมาดวลกับคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง Grim Knights (กริม ไนท์)