วิจารณ์หนัง As Above, So Below
วิจารณ์ As Above, So Below
หน้าหนังของ As Above, So Below มีความคล้ายคลึงกับหนังประเภท Found Footage หรือหนังแนวกล้องสั่นสะเทือนไหวไปมาเพราะตัวละครถือกล้องเดินส่ายไปส่ายมาตลอดเวลา แต่อันที่จริงแล้วนอกเหนือจากงานกล้องที่น่าฉวัดเฉวียนชวนเวียนหัวนั้น หนังกลับมีความน่าสนใจเกินกว่าหนังผีธรรมดา แม้ว่าหลายต่อหลายเหตุการณ์ในหนังจะจัดอยู่ในสภาพเหนือคำอธิบายโดยใช้เหตุผลปกติเอามาเคลมก็ตามที
เหตุการณ์ใน As Above, So Below บอกเล่าเรื่องราวของ สการ์เล็ตต์ มาร์โลว์ (เพอร์ดิตา วีคส์) นักโบราณคดีที่ออกตามหาศิลาอาถรรพ์ของฟลาเมล สานต่อเจตนารมณ์ของพ่อเธอเองที่ได้ฆ่าตัวตายอย่างปริศนา หลังจากที่หนังเปิดเรื่องมาที่สการ์เล็ตต์ได้เดินทางไปยังดินแดนตะวันออกกลางและได้พบกับเบาะแสที่ว่าศิลาที่เธอตามหานั้นน่าจะอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
สการ์เล็ตต์ต้องการจะค้นหาศิลาอาถรรพ์ของฟลาเมล เธอจึงไปพบกับแฟนเก่าของตนอย่าง จอร์จ (เบน เฟลด์แมน) ระหว่างที่เขากำลังซ่อมแซมหอนาฬิกาในเมือง สการ์เล็ตต์ตัดสินใจเดินทางลงไปยังสุสานใต้นครกรุงปารีส เมื่อเธอและทีมงานเดินทางลงไปตอนแรกทุกอย่างก็เหมือนจะปกติดี แต่หลังจากที่อุโมงค์ของสุสานถล่มลงมาปิดทางเข้า ทำให้พวกเขาต้องยิ่งลงลึกไปเรื่อยๆจนพวกเขารู้สึกว่าบางอย่างเริ่มคืบคลานเข้ามา และยิ่งทุกครั้งดิ่งลงไปใต้สุสานลึกแค่ไหนความหวาดกลัวและอดีตในจิตใจของพวกเขาก็ตามมาหลอกหลอนหนักข้อขึ้นเท่านั้น
จริงอยู่ที่ช่วงแรกๆของหนังนั้นดูเหมือนจะเป็นการสับขาหลอกให้ผู้ชมเชื่อว่าตัวละครในเรื่องถูกตามหลอกหลอนจากอดีตที่พวกเขาไม่อยากจะจดจำเอาไว้ แต่ยิ่งหนังคืบหน้าไปเรื่อยๆ ผู้กำกับอย่างจอห์น อีริค ดาวเดิล ก็เล่นกับข้อจำกัดของพื้นที่ให้การบีบรัดให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัดเช่นเดียวกับตัวละครที่ต้องเดินไปตามผนังแคบๆที่ทอดยาวราวกับเขาวงกตดำมืดไร้จุดสิ้นสุด
บรรยากาศที่น่าหวาดผวาถูกเอามาทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่แน่ใจกับหลืบมุมอับต่างๆ ว่าจะมีอะไรโผล่ขึ้นมาโดยที่เราไม่ทันระวังตัวหรือเปล่า ในขณะเดียวกันยิ่งหนังดำเนินไปข้างหน้ามากแค่ไหน มันก็เริ่มทิ้งปริศนาคาใจให้ผู้ชมเริ่มตั้งคำถามกับเหตุการณ์กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ความสนุกของหนังก็มีมากกว่าการที่ภูตผีหรือสิ่งที่อธิบายไม่ได้จะโผล่มาช็อคคนดู การตามล่าหาศิลาอาถรรพ์ของฟลาเมลก็ให้อรรถรสกับผู้ชมเหมือนกับหนังในตระกูลอินเดียน่า โจนส์ และยิ่งในฉากที่ตัวละครได้พบกับห้องลับที่เก็บขุมสมบัติหนังก็บอกกับคนดูว่า “เบื้องบนเป็นเช่นไร เบื้องล่างก็เป็นเช่นนั้น” ความสะพรึงก็เริ่มจู่โจมผู้ชมแบบนอนสต๊อปยันจบเรื่อง
แน่นอนว่ายิ่งเหตุการณ์ดำเนินไปข้างหน้า ตัวละครก็เริ่มตายบ้างก็เพราะถูกผีสางทำร้ายและหลอนจนเสียสติ บ้างก็ถูกอดีตของตัวเองตามมาชำระแค้น ในขณะเดียวกันตัวละครที่เหลืออยู่ก็กระเสือกกระสนพยายามหาทางออกจากสุสานใต้ดินอย่างไม่คิดชีวิต
As Above, So Below อาจจะไม่ได้คลี่คลายปริศนาทุกอย่างที่ตัวหนังได้เกริ่นเอาไว้ แต่ท้ายที่สุดเมื่อหนังจบลงแล้ว เราก็จะได้พอมีเวลานึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ว่าปริศนาบางอย่างเมื่อมองตามแนวคิดของ “คริสต์ศิลป์” แล้ว มันก็มีความเชื่อมโยงกับความเชื่อแนวนรก-สวรรค์ ตามที่หนังทิ้งให้เราคิดไว้ว่า “ทางออกก็คือการลงสู่เบื้องล่าง” นั่นเอง
ให้ 3 ดาวจาก 5 ดาว
@พริตตี้ปลาสลิด