กว่าจะมาเป็น 'ขนมปัง' ของ แพรวา-ฮอร์โมน
กว่าจะมาเป็น "ขนมปัง" ของ "แพรวา-ฮอร์โมน"
ฮือฮาขึ้นมาทันทีที่ "ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น ซีซั่น 2" ตอน "ต้า" แพร่ภาพจบไม่ว่าจะเป็นเรื่องรักสามเส้าระหว่าง "ต้า", "เต้ย" และ "ขนมปัง" ที่งานนี้ใครผิด-ถูกเป็นเรื่องตอบยาก รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์ที่คนดูพากันคาดการณ์ว่าจะดำเนินไปอย่างไรต่อ
แต่หนักสุดก็เรื่อง "ความเหมาะสม" ในฉากสาวขนมปังหวัง "พลีกาย" ให้หนุ่มต้าในห้องเรียน เพียงเพื่อเขาจะไม่ทอดทิ้งเธอไป ดีที่อีกฝ่ายหักห้ามใจได้ เธอจึงได้แต่ฟูมฟายเสียใจซึ่ง แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ แสดงได้ดีจนหลายคนเสียน้ำตา
กระแสที่ได้รับมีทั้งที่ "ติ" และ "ชม" บางคนบอกว่าเรื่องไม่เหมาะสมสำหรับเด็กแต่ก็มีกระแสมาบ้างว่าในชีวิตจริงก็เป็นแบบนี้ ขณะที่ตัวแพรวามองว่า "ตัวละครนี้เหมือนเป็นตัวแทนของผู้หญิงหลายๆคนที่กำลังคิดว่าความรักเป็นทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งอยากให้เขารู้ว่ามันไม่ใช่ ถ้าอยากจะรักต้องเริ่มรักที่ตัวเราก่อน ทำให้เรามีค่า"
โดยที่ผ่านมา บทบาทของขนมปังนั้นถูกพูดถึงเยอะตั้งแต่ซีรีส์เรื่องนี้เริ่มออนแอร์ โดยถ้าในหมู่ผู้ชมชายจะชื่นชมในความน่ารัก สดใส ต่างจากในฝั่งผู้ชมเพศหญิงที่ยกข้อหาแรงๆ ให้
"เห็นในพันทิปมีฝากถึงขนมปังว่า จริงๆ สดใส ร่าเริง เฟรนด์ลี่หรือว่าแอบแรด ก็ตลกดี แพรว่าเขาเป็นตัวละครที่ค่อนข้างให้อิสระกับหัวใจตัวเองมาก อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ได้คิดว่าคนอื่นจะมองยังไง บางอย่างเขาอาจไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่ทำมันไม่ดี แต่เขาอยากทำเพื่อคนๆ นี้ ถ้าเกิดว่ามองตัวละครนี้ว่ามันร้าย มาอ่อยพี่ต้า ซึ่งถ้าเขาทำกับพี่ต้าคนเดียวก็โอเคค่ะ เขาชอบผู้ชายคนนี้ แต่ถ้าสมมุติเขาทำกับพี่ต้า ทำกับพี่ไผ่ ทำกับพี่วิน แพรว่าเริ่มไม่โอเคละ"
เช่นเดียวกับตอนล่าสุดที่เธอบอกตรงๆ ว่าไม่เห็นด้วย
"อย่างถอดเสื้อ เหมือนเป็นทางเดียวที่เขาคิดว่าสามารถยื้อผู้ชายคนนี้ได้ คือเขาทำมาทุกวิถีทางแล้ว เขารู้ว่าพี่ต้าพี่เต้ยไปเดินสยามกัน เขาไม่อยากถาม ไม่อยากทะเลาะ อยากให้ความสัมพันธ์นี้ดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะรักผู้ชายคนนี้มาก ก็เลยไปขอพี่เต้ย ซึ่งแพรว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะไปพูดกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งว่าอย่ามายุ่งกับผู้ชายคนนี้่นะ มันเป็นอะไรที่แบบลูเซอร์มาก เป็นอะไรที่เหมือนไม่มีศักดิ์ศรีเท่าไหร่สำหรับแพร เพราะถ้าเป็นแพร ตั้งแต่เขาไปเดินสยามด้วยกันคงแบบบาย เลิกคุยกันเถอะ เลิกเป็นแฟนกันเถอะ มันไม่ค่อยแฟร์กับตัวแพรเท่าไหร่ คบกันอยู่แล้วเขาไปกับผู้หญิงคนอื่น นั่นหมายความว่าเขาไม่ให้เกียรติแพร และแพรรู้สึกว่าเรามีค่ามากกว่านั้นที่จะไปแบบให้เขามาทำอย่างนี้"
แพรวาเล่าด้วยว่าความจริงเธอ "เป็นคนคิดมาก" ไม่ได้สดใสร่าเริงพูดเก่งตลอดเวลา ดังนั้นกว่าจะเป็นขนมปังได้จึง "ค่อนข้างสาหัส"
"เพราะแรกๆ ไม่ค่อยแน่ใจกับสิ่งที่ทำอยู่ ไม่มั่นใจ รู้สึกไม่สนุก ไม่เข้าใจ เลยกลายเป็นว่าผิดทาง เลยไม่โอเค ดีที่หลังๆ เริ่มเข้าใจมากขึ้น เพราะได้หลายคนช่วยสอน จึงออกมาได้อย่างที่เห็น ส่วนใหญ่จะบอกว่าเหมือนเราได้พิสูจน์ทักษะทางการแสดงให้เขาเห็น แล้วเหนือความคาดหมาย"
ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้ "บท" ที่ต้องเล่นเป็นแฟนของนักแสดงตัวหลักจึงได้เห็นหน้ากันบ่อย บวกกับมีรายละเอียดอะไรให้เล่นเยอะ ทั้งในแง่การแสดงและการร้องเพลงที่ชอบเป็นทุนเดิมเลยทำให้คนจดจำ
ฉะนั้น ที่หลายคนมองว่าเธอจะเป็น "ดาวรุ่ง" ที่แซงโค้งเพื่อนร่วมรุ่นใน "ฮอร์โมน เดอะ เน็กซ์เจน" จึง "ไม่น่าใช่นะคะ"
"แพรก็ได้พิสูจน์ตัวเองระดับหนึ่ง และตอนนี้พอใจกับสิ่งที่ออกมาว่าเราทำเต็มที่แล้วได้ขนาดนี้ ถ้าเกิดสมมุติเรายังเดินทางสายนี้แล้วได้เรียนรู้อะไรมากมาย ก็หวังว่าเราอาจจะทำได้ดีกว่านี้ค่ะ"