จากนิยายขายดีสู่หนังที่มีกระแสปากต่อปากมากที่สุด Gone Girl – เล่นซ่อนหาย

Gone Girl – เล่นซ่อนหาย  เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจาก  นิยายเรื่อง  Gone Girl ของ กิลเลน ฟลินน์ ช่วงที่มีการตีพิมพ์ผลงานเมื่อปี 2012 ถือเป็นผลงานที่หาได้ยาก ได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นผลงานขายดีช่วงซัมเมอร์ที่น่าตื่นเต้น และเป็นที่กล่าวขานในโลกของวรรณกรรม  หนังสือไม่เพียงแค่ได้รับความนิยมจากการชวนตั้งข้อสงสัยของเรื่องแค่นั้น แต่ยังรวมถึงการเล่าเรื่องที่มีความสร้างสรรค์ ความตั้งใจเจาะลึกถึงความน่าเศร้าในพฤติกรรมมนุษย์ พร้อมด้วยเส้นกั้นระหว่างชีวิตคู่และความเป็นเจ้าของ ชีวิตส่วนรวมและชีวิตส่วนตัว เสน่ห์แห่งกลลวงและแสงประกายแห่งความจริง แม้ว่าในนิยายแนวอาชญากรรมจะมีจุดเด่นอยู่ที่ผู้เล่าเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างไม่น่าไว้วางใจ สองส่วนของเหตุการณ์ชีวิตสมรสที่พังทลาย ต่างฝ่ายต่างหวังผลประโยชน์ในกันและกัน ทำให้ผู้อ่านตกหลุมพรางตาของพวกเขา   

 

 

นวนิยายเป็นประสบการณ์ทางภาพยนตร์ที่ตื่นตะลึง แต่มีการแต่งเสริมกลอุบายเพื่อการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ฉะนั้นจุดเด่นอยู่ที่การเล่าเรื่องในหนังสือที่ดูเหมือนจะไม่มีใครดัดแปลงออกมาได้ดีเท่าตัวผู้แต่งเอง ซึ่งโชคดีที่ฟลินน์มารับหน้าที่อันน่ากลัวครั้งนี้ และยังสร้างบทภาพยนตร์ที่หล่อหลอม เรื่องราวที่ดูเหมือไม่มีอะไร แต่เนื้อหาของบทประพันธ์เจาะลึกถึงโครงสร้างของทุกสิ่งทุกอย่าง และการทำงานเกิดขึ้นระหว่างฟลินน์และเดวิด ฟินเชอร์ การจับคู่ของมุมมองภายในที่เย็นยะเยือกของฟลินน์ร่วมกับการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของฟลินเชอร์ ได้หล่อหลอมเป็นการทำงานที่มีอานุภาพสู่ตลกร้ายชวนเยือกเย็นของเรื่องนี้ และมีการเน้นถึงชีวิตสมรส การมีชื่อเสียง และหนทางที่เราเริ่มสร้างชีวิตของเรา

“เดวิดเข้าใจในสิ่งที่กิลเลนเขียนไว้ จากนั้นมีการตีความผ่านกิลเลนอีกครั้งสู่บทภาพยนตร์” เบน เอ็ฟเฟล็คกล่าว “และในช่วงนั้นก็มีการเสริมแต่งไหวพริบลงไป มีการเสียดสีมากขึ้น มีการเฝ้าสังเกตเงียบๆ หลายครั้ง มันลงตัวกับผลงานของเดวิดมากครับ และมีการผสมผสานระหว่างความสนุกสนานกับความร่าเริงได้อย่างโดดเด่นในเวลาเดียวกัน”  แม้ว่าเธอจะมีส่วนร่วมในการเรียงร้อยเรื่องราวอยู่แล้ว ฟลินน์ได้หยิบผลงานของเธอขึ้นมาอย่างงดงาม   “นิยายมีโครงเรื่องที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันมากกว่า และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะพัฒนาให้ออกมาดีขึ้น เพราะรายละเอียดต่างๆ เชื่อมโยงเข้ากันดีอยู่แล้ว ฉะนั้นสิ่งที่ฉันต้องให้ความสำคัญที่สุดคือการใส่ใจในพล็อตเรื่อง และขณะเดียวกันต้องมั่นใจได้ว่าภาพยนตร์จะไม่ดูทื่อไป” เธออธิบายถึงเรื่องการดัดแปลงว่า “ฉันอยากแน่ใจว่ามันมีจังหวะเห็นความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ เรื่องความสัมพันธ์ต่างๆ และตัวละครทั้งหลาย มุกตลกร้ายและช่วงเวลาที่ผิดปกติ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่คอยบาดและทำลายหัวใจของเรื่องที่อยู่ในหนังเรื่องนี้”

 

 

เธอมองว่าฟินเชอร์คือผู้ร่วมงานคนหนึ่งที่มีศักยภาพมาโดยตลอด “แม้ว่าฉันจะเป็นคนแต่งนิยาย แต่ก็มีบางฉากที่ฉันนึกภาพเขาถ่ายทำหนัง ฉันมองเห็นตัวละครผ่านเลนส์กล้องของเขาได้เลยค่ะ” ฟลินน์กล่าว “ฉันรู้ว่าเขาต้องถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ถูกจังหวะ และรู้ว่าเขาต้องถ่ายทอดความกังวลและความอึดอัดของเรื่องราวออกมาได้ ทุกคนรู้ว่าฟินเชอร์สร้างผลงานออกมาได้น่ากลัว แต่สิ่งที่ฉันรักในภาพยนตร์ของเขามาโดยตลอด คือการการถล่มมุกตลกร้ายของเขา เรื่องชวนรังเกียจทั้งหลายที่อยู่ในเรื่อง Gone Girl มีจังหวะที่ตลกด้วย ฉันรู้ว่าเขาต้องถ่ายทอดสู่หน้าจอได้แน่ และฉันรู้สึกว่าเขาจะไม่แปลง Gone Girl เป็นภาพยนตร์ที่เราจะถามว่าใครเป็นคนทำอย่างทื่อๆ แต่หาจังหวะสำรวจประเด็นที่แท้จริงของเรื่องราว ซึ่งนั่นคือเรื่องของชีวิตคู่”  “ผมชอบทำงานร่วมกับกิลเลนมากครับ” ฟินเชอร์กล่าว “เธอเป็นคนทำงานหนักและขยันมาก เธอไม่ใช่คนชอบเบี่ยงเบนความสนใจ ชอบแก้ตัว สร้างความยุ่งยากไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เธอจะทำร้ายจิตใจผู้อ่านของเธอ ผมไม่ได้เพียงแค่เคารพในหลักการทำงานของเธอเท่านั้นนะครับ แต่แนวการเขียนเรื่องของเธอด้วย… ในฐานะที่เป็นผู้ชมที่นั่งกินป๊อปคอร์นและจดจ่อกับเรื่องตลอดเวลา“  

ฟินเชอร์ใช้ความตลกที่ค่อยๆ เกิดขึ้นในเนื้อเรื่องเป็นด้านมืดที่ถ่ายทอดโดยใช้ภาพและการแสดง “ผู้คนจะหัวเราะไปกับหนังเวลาที่เห็นอะไรที่เป็นเรื่อจริง” ฟินเชอร์กล่าว “นี่เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาออกมาจากมุมมืดของที่หลบซ่อน ถ้าเราได้คนที่เหมาะสมมาส่งเรื่องดราม่า และคุณจะให้กำลังใจพวกเขาค้นหามนุษยธรรม นั่นคือสิ่งที่เราทำให้มันมีชีวิตขึ้นมาได้”  นับแต่นี้ฟินเชอร์เชื่อว่าการพูดถึงพล็อตเรื่องของหนังน้อยลงน่าจะดีกว่า “ผมว่าหนังเรื่องนี้เหมือนการเดินอยู่ในบรรยากาศที่เยือกเย็น” เขากล่าว “ทุกคนชอบดูหนังที่ตัวเองไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป พวกเขาจะดูหนังที่ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์กัน”  Gone Girl - เล่นซ่อนหาย  **เปิดรอบ Sneak Preview พิสูจน์ความสนุกของหนังอันดับ 1 US Box Office   **16-22 ตุลาคมนี้ รอบ 20.00 น. เป็นต้นไป ฉายจริงวันที่ 23 ตุลาคม นี้   **คำเตือน กรุณาอย่าสปอยล์, อย่าเปิดเผยตอนจบของหนังหลังจากดูจบ**

 

 

ขอบคุณข้อมูลและเนื้อหาจาก MMM Digital Asset Co.,Ltd.