วิจารณ์หนัง คนเห็นผี (The Eyes Diary) พรุ่งนี้ (ไม่) สายที่จะรักกัน
วิจารณ์คนเห็นผี (The Eyes Diary)
พรุ่งนี้ (ไม่) สายที่จะรักกัน
จะว่าไปแล้วตัวหนังของ “คนเห็นผี” ที่กำกับโดย มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ตั้งใจจะเล่าเรื่องราวในหนังเพื่อขายความบันเทิงเชิงพาณิชย์ ซึ่งแน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคาดหวังรายได้จากผู้ชม และอันที่จริงแล้วหนังผีก็มักจะมีสูตรสำเร็จตายตัวอยู่ไม่เพียงกี่พล็อตซึ่งมักจะถูกหยิบเอามาใช้ซ้ำซากจนคนที่ดูหนังสยองขวัญมาบ่อยครั้งมักจะสามารถจับทางและคาดเดาอยู่ได้เสมอว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์ต่อๆไปในภาพยนตร์
แม้ว่าตัวอย่างของคนเห็นผีนั้นจะบอกเล่าและตั้งใจขายเรื่องราวที่ว่าแฟนหนุ่มคนหนึ่งกำลังอาลัยอาวรณ์การจากไปของแฟนสาวผู้เป็นที่รัก เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนได้มีโอกาสกลับมามองเห็นหรือได้พบเจอกับคนรักของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง เขาจึงเริ่มผันตัวเองไปเป็นหน่วยกู้ชีพและเก็บเอาของคนตายเอามาไว้ที่บ้าน เพราะมีความเชื่อที่ว่าหากนำสิ่งของเหล่านั้นเอามาไว้ที่บ้านแล้วจะช่วยให้ตัวได้เห็นวิญญาณมากขึ้น
อันที่จริงตัวผู้กำกับอย่างมะเดี่ยวเองก็ถือได้ว่าเขาเคยทำหนังสยองขวัญเอาไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้วกับเรื่อง “คน ผี ปีศาจ” ซึ่งตัวเขาสามารถจัดการเอาเรื่องราวใน 2 แนวหนังเอาเข้ามาผสานกันได้อย่างลงตัวนั่นก็คืออารมณ์สยองขวัญและดราม่าเรื่องของสองพี่น้อง ในขณะที่คนเห็นผีก็ถูกผสมผสานอารมณ์ระทึกขวัญสยองขวัญกับอารมณ์รักโรแมนติคเข้าไว้ด้วยกัน
ความห่วงหาอาธรณ์ของตัวละคร น็อต(ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย) เป็นตัวเดินเรื่องเหตุการณ์ที่สำคัญ ความพยายามอยากจะเห็นแฟนเก่าของตัวเอง การจมจ่อมอยู่กับความปวดร้าวนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความ “ผิดพลาด” บางอย่างที่ได้ทำไว้กับปลา (โฟกัส จิระกุล) นั่นก็คือการทำให้แฟนสาวของตัวเองประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซด์คว่ำ ซึ่งตัวน็อตเป็นคนขับเอง และแน่นอนว่าการไม่สามารถก้าวต่อของเขาทำให้การค้นหาทางออกกับชีวิตตัวเองนั้นคือความพยายามในการทำให้ตัวเองได้พบกับปลาที่ตายไปแล้ว
การตัดสินใจของน็อตในการสมัครเข้าร่วมทีมเก็บศพและเริ่มเก็บเอาของเล็กๆน้อยๆจากคนที่ตายโหงเอากลับมาไว้ที่บ้าน เพราะเขาเชื่อว่าเมื่อได้เห็นผีแล้วเขาอาจจะได้เจอกับปลา ทว่าตัวน็อตเองกลับไม่เคยได้เห็นคนรัก ส่วนเพื่อนคนอื่นๆที่อยู่บ้านเดียวกับน็อตกลับได้เห็นบรรดาผีทุกวันจนท้ายที่สุดเพื่อนๆก็พากันย้ายออกจากบ้าน เหลือไว้ก็เพียงแต่มดตะ(เมโกะ-ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย) คนเดียวที่พอจะเข้าใจและยื่นมือเข้ามาช่วย ทว่า จอห์น (แจ๊ค-กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา) ได้พยายามเตือนน็อตว่าอย่าหาเรื่องใส่ตัวเนื่องจากการได้เห็นวิญญาณนั้นไม่ใช่เรื่องสนุกและมีอันตรายมาก และยิ่งเหมือนเหตุการณ์จะยิ่งบานปลายมากขึ้นเมื่อน็อตต้องการจะเผชิญหน้ากับวิญญาณร้ายในโรงพยาบาลที่ลือกันว่าเฮี้ยนที่สุด โดยที่น็อตไม่เคยรู้เลยว่าตลอดมาความพยายามของน็อตอยู่ในสายตาของปลาที่เป็นวิญญาณอยู่ตลอดเวลา
ตัวหนังน่าสนใจมากกว่าในตัวอย่างมากยิ่งขึ้นเมื่อหนังยังบอกเล่าอารมณ์ของวิญญาณอย่างตัวละครปลาที่ทำให้เราเห็นว่าเธอพยายามอยากจะให้น็อตหยุดการกระทำของเขามากแค่ไหน เพราะเธอรู้ดีว่าถึงเธอจะรักเขามากเพียงใด ตนก็ไม่ต้องการให้คนรักต้องเจ็บปวดอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นนี้
สีสันอีกอย่างของหนังคือการที่ผู้กำกับอย่างมะเดี่ยวเข้าใจ “แนวทาง” ของหนังสยองขวัญได้เป็นอย่างดี เขาจึงสามารถ “รู้จังหวะ” ในการทำให้คนตกใจกลัวและสามารถกลับมา “ตลก” กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันที ซึ่งคงจะบอกได้ว่าชั่วโมงบินในการทำงานนั้นก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน ที่ทำให้อารมณ์ของหนังขึ้นลงตลอดเวลา
ในเชิงภาพรวมของหนังอาจจะไม่ได้ดีเด่นมากนักเนื่องจากการแสดงของนักแสดงนำยังเรียกได้ว่ามีความ “ล้น” และ “ขาด” ในหลายๆครั้งแต่ อย่างน้อยการบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัวในเรื่อง ก็เรียกได้ว่ามีมิติและน่าสนใจ ไม่ได้เป็นตัวละครโง่ๆที่ไม่มีความสำคัญอะไรในหนังผีที่ถูกยัดเข้ามาเพื่อเป็นตัวแทนความกลัวของคนดูเท่านั้น ซึ่งแน่นอนมันมีความไม่ลงตัวแปร่งเปร่าอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ใช่หนังผีที่ไร้ชั้นเชิง....
@พริตตี้ปลาสลิด
ให้ 3.5 คะแนนจาก 5 คะแนน
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ