ย้อนรอย เส้นทางแจ้งเกิดของ 'ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต'

เจอเซอร์ไพรส์จากแฟนหนุ่ม "น็อต วิศรุต" คุกเข่าของแต่งงานท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกสาว "ชมพู่ อารยา" ถึงกับยิ้มไม่หุบ Sanook! Movie ขอแสดงความยินดีด้วยจริงๆ พอได้เห็นแบบนี้แล้ว วันนี้เรามาย้อนรอย เปิดเส้นทาง กว่าจะเป็นซุป'ตาร์ของนางเอกสาว ชมพู่ อารยา กันหน่อย กับเส้นทางละครจากจุดเริ่มต้นของเธอ มาจนถึงวันนี้ ละครเรื่องไหนบ้างที่สร้างชื่อให้คนได้รู้จักเธอในนาม... "ชมพู่ อารยา เอ ฮาเก็ต"

 

 

เริ่มจากการเข้าวงจากการประกวด "มิสมอเตอร์โชว์" เมื่อปี 2541 ด้วยอายุเพียง 17 ปี กับหน้าตาที่โดดเด่นทำให้เข้าตาทางช่อง 7 สี จับเซ็นสัญญาร่วมงานทำให้สาวชมพู่ได้ชิมงานละครเป็นนางเอกเรื่องแรกคือ "เพลงพราย" ประกบ "บี๋ สวิช เพชรวิเศษศิริ" และเริ่มมีงานละครตามมาเรื่อยๆ จนมาถึงบทบาทที่ทำให้คนรู้จักสาวชมพู่ขึ้นมาอีกนิดกับละครเรื่อง "หมอลำซำเมอร์" ประกบคู่พระเอก "ป๋อ ณัฐวุฒิ" จากบทบาทเรื่องนี้ ชื่อเสียงก็ยังทรงตัวเรื่อยๆ ไม่ขึ้นไม่ลง แต่ละครที่ทำให้สาวชมพู่แหวกทางดาราในช่อง จนเกือบได้เป็นตัวแม่แถวหน้าของดาราช่อง 7 มาจากละคร "ดาวเปื้อนดิน" กับการพลิกบทบาทมาเล่นบทร้ายครั้งแรก ที่แซบโดนใจจนเรียกได้ว่า เกิดสุดๆกับบทบาทนี้ 

 

 

 

เกือบ 10 ปีที่สาวชมพู่ได้ร่วมงานกับทางช่อง 7 สี แต่ความโด่งดังของชมพู่ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อชมพู่ได้ตัดสินใจย้ายช่อง เซ็นสัญญากับทางช่อง 3 ก็เป็นจุดเริ่มต้นการเป็นซุปตาร์ของชมพู่ ละครเรื่องแรกหลังการย้ายมาช่อง 3 คือเรื่่อง "เพลิงพราย" ประกบคู่กับพระเอก "ต่าย ณัฐพล" และได้มีผลงานออกมาเรื่อยๆแม้จะประกบกับพระเอกแถวหน้าดังๆของช่อง อย่าง "เคน ธีรเดช" ก็ยังไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร

จนได้มารับเล่นละครเรื่อง "ดอกส้มสีทอง" ในบท "เรยา" ก็ทำให้ชื่อ "ชมพู่ อารยา เอ ฮาเก็ต" โด่งดังแบบสุดๆ กวาดรางวัลการันตีฝีมือการแสดงแทบทุกเวทีจากบทนี้ เหมือนเป็นการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับทางช่อง 3 ทำให้นางเอกสาวชมพู่ กลายเป็นซุปตาร์แถวหน้าของประเทศได้อย่างทุกวันนี้ เพราะไม่ว่าสาวชมพู่จะหยิบจับอะไร ก็จะกลายเป็นที่สนใจของทุกคนเสมอ ยิ่งเรื่องแฟชั่นเข้าขั้นเป็นแฟชั่นนิสต้าของประเทศคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

 

 

กว่าจะเป็นแถวหน้าของวงการได้ช่างยาวนาน ทั้งสวยและมากฝีมือขนาดนี้ แฟนๆ ก็รอติดตามละครเรื่องใหม่ของสาวชมพู่ได้ เพราะในปีหน้าสาวชมพู่มีงานละครถึง 2 เรื่อง กลกิโมโนและบุพเพสันนิวาส ให้แฟนๆได้ติดตามกันจ้า

 

ขอบคุณรูปภาพจาก IG :chomismaterialgirl และ gettyimages